เมื่อโลกเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องปรับตัว เช่นเดียวที่ Suzuki เปิดตัวของรถยนต์อเนกประสงค์อย่าง
Suzuki Ertiga ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2018 ในกลุ่มรถครอบครัว 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ 1500 ซีซี และมีการปรับพิ่มลูกเล่นมาเรื่อยๆ ในปี 2019 และ 2020 จนล่าสุดในปี 2022 กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2022 ที่เพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มผู้บริโภคกับ
New Suzuki Ertiga Smart Hybrid ที่พัฒนาเครื่องยนต์แบบใหม่ พร้อมปรับดีไซน์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น และเน้นเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นเข้าไปให้เหมาะสมกับราคาและเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าแบบครอบครัวที่ต้องการความประหยัด ความคุ้มค่าในทุกๆ ด้าน ในราคาที่เข้าถึงได้
ภายนอกปรับใหม่ ดีไซน์ลงตัวมากขึ้น
ยังคงคอนเซปต์เป็นรถยนต์ครอบครัว 3 แถว 7 ที่นั่งเช่นเดิม ซึ่งถ้าหากมองผิวเผินอาจจะมองไม่เห็นถึงความแตกต่างระหว่างรุ่นเดิมกับรุ่นที่เป็นไฮบริด แต่จริงๆ แล้วทางซูซูกิมีการปรับลูกเล่นอย่างเช่นกระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมี่ยม สังเกตุที่ตัวตะแกรงจะแตกต่างจากรุ่นเดิม (เดิมเป็นเส้นขีด แต่ตัวใหม่จะมีลักษณะคล้ายตัว C) ท้ายเพิ่มสัญลักษณ์ Hybrid ใต้ชื่อรุ่น กระจกมาข้างในรุ่นนี้เป็นแบบ Auto Ratractable พับเก็บอัติโนมัติเวลาเรากดล๊อกรถและกางออกเมื่อเรากดสวิตช์เครื่องยนต์ ส่วนไฟส่องสว่างด้านหน้ายังไปโคมไฟแบบโปรเจคเตอร์ เปิด - ปิด อัติโนมัติ ไฟท้าย LED แบบ Light Guides และในรุ่นนี้ได้เพิ่มไฟส่องสว่างในที่มืด Guide Me Light ซึ่งมี 2 ฟังก์ชั่น คือ “To Home” และ “To Car” คือเมื่อเราดับเครื่องลงจากรถไฟหน้ารถยังส่องสว่างให้เราเป็นไฟนำทาง หรือ เมื่อเรากดปลดล๊อกเพื่อจะขึ้นรถไฟหน้ารถก็จะติด เป็นไฟส่องสว่างในที่มืดให้เราเช่นกัน


New Suzuki Ertiga Smart Hybrid มาพร้อมกับกระจกมองข้างพับออโต้ (Auto Retractable Outside Mirror) เสาอากาศแบบใหม่ ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทน ขนาด 15 นิ้ว ตัวรถยังคงใช้
โครงสร้างแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิคล่องตัว ปลอดภัย และ
โครงสร้างที่ลดเสียงรบกวนกับตัวถัง NVH
ภายในวัสดุลายไม้ใหม่เพิ่มความหรูหรา
ถึงจะไม่หวือหวา แต่ของก็ไม่เคยขาด เพราะทางซูซูกิเองก็เลือกจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกภายในมาให้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงการตกแต่งภายในที่ออกแบบให้หรูหราขึ้น ทั้งคอนโซลลายไม้ใหม่ เบาะสีทูโทน และหน้าปัดใหม่ขนาด 4.2 นิ้วแบบ TFT ที่เพิ่มการแสดงผลและประมวลผลของการทำงานไฮบริด (Multi Information Display) เข้าไปซึ่งก็จะแสดงทั้งอัตราการสิ้นเปลือง การทำงานของมอเตอร์ ให้ผู้ขับขี่เห็นภาพการทำงานระหว่างมอเตอร์กับแบตเตอรี่ ได้ชัดเจนมากขึ้น



ระบบเอ็นเตอร์เทรนด์ของ
New Suzuki Ertiga Smart Hybrid ยังเป็นจอทัชสกรีนเหมือนรุ่นก่อน (เฉพาะรุ่น GX) ที่มีขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play / Android Auto ได้ และการใช้งานตามมาตรฐานทั่วไป รับกับพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ให้ผู้ขับขี่กดรับ และวางสายเพียงคลิ๊กสัมผัสที่หลังพวงมาลัย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมาให้อีก 1 จุด แต่เพิ่มมาให้ก่อนหน้านี้ในช่วงปรับโฉม ก็คือระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สายที่อยู่ใต้คอนโซลก็สะดวกสำหรับเวลาเร่งรีบดีมากๆ กดปุ่มเปิด แล้ววาง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่นกุญแจ Keyless พร้อมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ป้องกันการโจรกรรม, ปุ่มกด Push Start , ช่องระบายอาการตอนหลังที่สามารถปรับความแรงลมของอากาศได้ที่มีมาให้ตั้งแต่รุ่นแรก เรียกว่าเป็นอีก 1 จุดเด่นของรถยนต์คันนี้เลยค่ะ อีกทั้งด้วยความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ห้องโดยสารเลยกว้าง และพับเบาะได้ซึ่งแถว 2 60:40 ส่วนแถว 3 50:50 จะสายขนแบบไหนก็ใส่ของได้สบาย





ในเรื่องระบบความปลอดภัยก็มีมาให้ไม่น้อยหน้า และก็จำเป็นสำหรับกรณีฉุกเฉินเช่น ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง module ยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control), จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether, กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลังได้อย่างแม่นยำ
ขุมพลังใหม่เครื่องยนต์แบบไฮบริด ประหยัดกว่าเดิม
ไม่มีก็ไม่ได้สำหรับขุมพลังไฮบริดที่ผู้บริโภคหลายคนคงรอคอยให้รถยนต์ทุกแบรนด์ปรับเปลี่ยนและสร้างทางเลือกเพิ่ม เพราะราคาน้ำมันโลกก็ขึ้นเอ๊าท ขึ้นเอา แต่มีรถที่ช่วย Save ค่าใช้จ่ายลงได้บ้างก็คงเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งใช้เป็นรถครอบครัวด้วยแบบนี้ยิ่งต้องการความคุ้มค่า
.JPG)
สำหรับ
New Suzuki Ertiga Smart Hybrid มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 1,462 ซีซี K15B 4 สูบ DOHC, VVT เกียร์ 4 สปีด ผสมผสานด้วยเทคโนโลยี SHVS เทคโลยีระบบสมาร์ทไฮบริดแบบใหม่ของซูซูกิ ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด (Integrated Starter Generator หรือ ISG) พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION ขนาด 6 Ah 12 V เพื่อช่วยเสริมกำลังการทำงานของเครื่องยนต์มีผลทำให้ลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งค่าจากโรงงานเดิมที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดเฉลี่ยอยู่ที่ 12.7 กม./ลิตร แต่เมื่อมาเป็น Ertiga Smart Hybrid จะเฉลี่ยอยู่ที่ 15.9 กม./ลิตร ซึ่งจะประหยัดได้มากถึง 25% สำหรับการขับขี่ในเมือง ส่วนนอกเมืองเดิมอยู่ที่ 18.5 กม./ลิตร ส่วน Ertiga Smart Hybrid จะเฉลี่ยอยู่ที่ 19.2 กม./ลิตร ซึ่งก็จะประหยัดมากขึ้น 4% สภาวะรวมของเดิม 15.9 กม./ลิตร Ertiga Smart Hybrid 17.9 กม./ลิตร เฉลี่ยที่ 13% เรียกว่าเป็นรถที่ราคาสมเหตุสมผล จับต้องได้ง่าย ใครที่ต้องการรถใช้งานคุ้มๆ แบบนี้ New Suzuki Ertiga Smart Hybrid ก็ถือว่าเป็นรถที่ไปกับคุณได้ทุกที่ สบายใจทั้งตอนซื้อ ตอนขับ จบๆ ไม่ปวดใจ
สรุปการขับขี่
สำหรับ
New Suzuki Ertiga Smart Hybrid แม้หน้าตารูปโฉมถ้าไม่สังเกตุอาจจะมองไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ถ้าไม่สังเกตุโลโก้ท้ายรถว่ามี Hybrid แต่ก็ยังเป็นรถอเนกประสงค์ที่คุ้มราคา ก็ถือว่าน่าเล่นในกลุ่มของคนที่ต้องการรถงบไม่แรง แต่พอแซงได้ และด้วยการเพิ่มการทำงานของไฮบริดเข้าไป ยิ่งทำให้ประหยัดจากเดิม แม้จะไม่หวือหวาเท่าคู่แข่ง แต่ก็ถือว่าเป็นจุดขายได้ไม่เลว ในเรื่องอัตราการเร่งหลังจากที่ได้ลองขับในระยะนึง ช่วงล่าง หรือระบบอัตราการเร่งยังรู้สึกเดิมๆ อาจไม่ต้องมาขุดกันเยอะเพราะเน้นปลอดภัยสายครอบครัว ช่วงออกตัวดีตามสไตล์ Suzuki แต่เร่งแซงก็มีบ้างรอรอบเล็กน้อย แต่ก็ขึ้นเขา ลงเขา ออกทริปได้สบาย ที่สำคัญจุของได้เยอะ เบาะนั่งกระชับ พวงมาลัยเบา ระบบระบายอากาศตอนหลังก็มีให้ พับเบาะเก็บของลงได้ (แต่อยากให้แถว 2 มีที่วางแขนตรงกลางหน่อยก็จะดี ) หน้าจอก็ทัชสกรีนในรุ่นท๊อป กับราคารุ่นที่ทดสอบ 8 แสน นิดๆ ตอบโจทย์พ่อบ้าน แม่บ้านได้ไม่เลวค่ะ ทั้งนี้หากใครสนใจก็สามารถไปลองได้แล้วที่โชว์รูม Suzuki ทั่วประเทศ


New Suzuki Ertiga Smart Hybrid มีทั้งหมด 2 รุ่น 4 สี คือ Mellow Deep Red (สีแดง), Metallic Magma Gray (สีเทา), Pearl Snow White (สีขาว), Cool Black Metallic (สีดำ)