Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+ รถยนต์เอสยูวีขนาดกลางกึ่งมหึมาที่ขับง่ายด้วยระบบช่วยเหลือการใช้งานและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายสำหรับครอบครัวเต็มคัน มาพร้อมขุมพลังไฮบริดระดับส่งสำนักแต่ง AMG ปรับปรุงให้แรงขึ้นกว่ารุ่นธรรมดา พารถ SUV ครอบครัวคันนี้ลอยไปในความเร็ว 0 - 100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที จากพลัง 435 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ สมกับราคา 6 ล้านเท่านั้น
บ้าน..
เอ้ย!..รถครอบครัวสปอร์ตเอสยูวีทรงพลังที่ใช้พื้นฐานจาก GLE มายัดใส้ในเพิ่มพลังโดย AMG จนออกมาเป็นรหัสร้อน
GLE 53 คันนี้ บอกได้คำเดียวว่า "สุดจริง" แค่ภายนอกก็โดดเด่นน่าเกรงข้ามแล้ว เมื่อขับไปในที่ต่าง ๆ และยิ่งเสียงท่อในโหมด Sport+ ยิ่งดุดันราวกับซูเปอร์คาร์
ไฟหน้า MULTIBEAM LED ปรับสูงต่ำและเปิด-ปิดและยังมีระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ ชุดแต่ง AMG Night Packge ล้ออัลลอย AMG 5 ก้านคู่ ขนาด 21 นิ้ว ระบบไฟส่องสว่างที่ข้างรถรูปดาวสามแฉก ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมแฮนด์ฟรีที่ใช้งานง่ายมากครั้งเดียวผ่าน ปล่อยท่อคู่สุดโหดจาก AMG และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟไฟฟ้า สุดท้ายกับระบบกันสะเทือนแบบ AMG RIDE CONTROL+ ปรับระดับสูง-ต่ำได้ด้วยปลายนิ้ว
ภายในยังใช้พื้นฐานเดียวกับ GLE ในรุ่นย่อยอื่น เพิ่มเติมจุดเด่นที่บ่งบอกว่า ข้าคือ AMG นั่นคือ เบาะหุ่มหนัง ARTICO ตัดสลับ DINAMICA Microfibre และเข็มขัดนิรภัยสีแดงสะดุดตา พวงมาลัย AMG Performance steering wheel หุ้มด้วย nappa หน้าจอเลือกแสดงผลมัลติมีเดียความละเอียดสูงแบบ Widescreen cockpit เลือกรูปแบบ AMG TRACK PACE เหมือนรถแข่ง GT ในสนาม และมีรูปแบบแสดงผลได้หลายแบบเช่น Classic, Sport หรือว่า Sport+
นอกจากนั้นก็จะเป็นออปชั่นจัดเต็มที่มีให้อย่างเช่น ระบบเครื่องเสียงจาก Burmester ไฟสร้างบรรยากาศปรับได้ 64 สี ปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ได้ถึง 5 รูปแบบ แค่เพียงกดปุ่ม ระบบช่วงล่างและเครื่องยนต์ก็จะถูกปรับให้เข้ากับสภาพถนนนั้น ๆ หรือจะตั้งค่าความชอบส่วนบุคคลไว้เลือกใช้งานเองก็ได้ สามารถเลือกได้หลากหลายรูปแบบคือ Comfort, Sport หรือ Sport+ หรือตั้งค่าช่วงล่างตามการใช้งานทั้ง "Trail" หรือ "Sand" และยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่และเข้าไปตั้งระบบช่วงล่างในโหมดนั้นเองก็ได้เช่นกันครับ ซึ่งตลอดที่ใช้งานชอบโหมด S+ มากที่สุดเพราะเสียงดุดันราวกับเครื่องวี 8 เลยทีเดียวเชียวซึ่งเป็นผลจากการออกแบบของ AMG นี่เอง
หน้าจอเลือกแสดงภาพได้หลายแบบ
หน้าจอสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ ทั้งคลาสสิส เรียบง่าย สปอร์ต ตรงจอกลางแสดงการทำงานและสั่งใช้งานระบบต่าง ๆ ได้ในจุดเดียว เช่น การปรับแต่งรูปแบบข้อมูลรถยนต์ การปรับเบาะ ปรับแสงสีในภายใน ตั้งค่าปรับเลื่อนเบาะตามส่วนสูง วิทยุ ระบบอินโฟเทนเม้นท์ต่าง ๆ ต้ังค่าระบบความปลอดภัย ฯลฯ อีกเพียบ!!!!
แสดงกำลังของเครื่องยนต์
ปรับตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์
เลือกแสดงค่าต่าง ๆ ที่ด้านล่างได้เลย
เชื่อมต่อ Android Auto
ใส่ส่วนสูงแล้วระบบจะปรับเบาะ, พวงมาลัย ให้เอง
จำกัดความเร็วได้อีกด้วย
นี่คือแผนที่นำทางที่ติดรถมาสวยและมองชัดเจนมาก
ระบบความปลอดภัยและช่วยขับขี่เพียบขาดแค่ Adeptive Cruise Control.....
AMG GLE 53 มาพร้อมความปลอดภัยพื้นฐานมากมาย แต่มีระบบที่น่าสนใจได้แก่ ระบบช่วยเตือนรถออกนอกเลน ระบบเตือนการชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติ ระบบเปิด-ปิดไฟและไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเตือนมุมสายตา และระบบช่วยจอดอัตโนมัติ เป็นต้น ซึ่งนับว่าคุ้มค่าแล้ว แต่ว่าขาดไปแค่ระบบควบคุมเร็วแปรผัน มีเพียบล็อคความเร็วปกติ และระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วเท่านั้นครับ ซึ่งส่วนตัวมองว่า ไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่นัก เพราะว่าเวลาได้ขับรถสมรรถนะระดับนี้แล้วก็คงอยากใช้อัตราเร่งบ่อย ๆ เพราะมันแรงมากครับ
AMG Performance 435 แรงม้า 0-100 แค่ 5.3 วินาที
เครื่องยนต์ AMG แบบ 6 สูบแถวเรียง เสริมกำลังด้วยเทอร์โบคู่ที่มาพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) ที่ 5,500-6,100 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800 - 5,800 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G ระบบไอเสีย AMG exhaust system เสียงดุดันมันเร้าใจยิ่งในโหมด Sport+ มีเสียงตอนถอนคันเร่งเพิ่มความเป็น AMG เข้าไปอีกขั้น พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ AMG Performance 4MATIC+ และสามารถทำอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. จากโรงงานเคลมไว้ที่ 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 250 กม./ชม. หยุดม้าทั้งฝูงด้วยระบบเบรก AMG พร้อมเบรกคาลิเปอร์สีเงินและตัวอักษร "AMG" และยางหน้า 275/45R21 หลัง 315/40R21 และความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร เน้น 95 ขึ้นไปอีกด้วย
Comfort นุ่มสบายใช้งานทั่วไป
ระบบช่วงล่างถุงลมปรับขึ้น-ลงด้วยไฟฟ้า แค่โหมด Comfort ก็นุ่มหนึบกำลังนั่งสบายคนด้านหลังไม่บ่น ผู้สูงอายุไม่จุกมาก ใช้งานทั่วไปเดินทางหรือขับในเมืองยิ่งเหมาะเพราะสามารถรองรับพื้นผิวถนนพัง ๆ หรือขอบฝาท่อและแผ่นเหล็กได้เป็นอย่างดี ในโหมดนี้ช่วงล่างนุ่มนนวล เครื่องยนต์เน้นเปลี่ยนเกียร์เร็วรอบต่ำลงเพื่อความประหยัดมากที่สุด
Sport ขับสนุกขึ้นหนึบแต่ยังนุ่มนวลเสียงท่อเริ่มกระหึ่ม
แต่เมื่อต้องการความหนึบขึ้นในความเร็วสูงหรือเข้าโค้งยาว ๆ แต่ยังคงความนุ่มสบายอยู่เลือกโหมด Sport ก็นับว่าขับได้ตลอดการเดินทางแล้ว การควบคุมกระชับมากขึ้น ไม่โยนไม่ยวบออกไปทางแข็งกว่าโหมด Comfort มากขึ้น แต่ขับในความเร็วต่ำ ๆ ก็ยังพอให้ความนุ่มนวลสำหรับผู้โดยสารอยู่บ้าง ซึ่งโหมดนี้เครื่องยนต์จะถูกปรับให้สปอร์ตขึ้นโดยเปลี่ยนเกียร์ช้าลงลากรอบยาวนานขึ้น แต่ก็ยังขับง่ายคล้ายโหมด Comfort และเสียงของท่อไอเสียเริ่มดังหึ่ม ๆ เพิ่มความมันขึ้นอีกนิด
Sport+ แรงสุดเกาะหนึบเสียงดุดัน
มาถึงโหมดที่ชอบมากที่สุดคือ Sport+ สุดโหดที่มาพร้อมช่วงล่างแข็งและหนึบที่สุด ราวกับรถสปอร์ตจริง ๆ นอกจากนี้เครื่องยนต์และเกียร์ถูกปรับให้เป็นสไตล์เรซซิ่งพร้อมลงสนามได้เลย ด้วยการลากรอบรอเพื่อเรียกกำลังให้ตามเท้าและแน่นอนว่าเสียงจากท่อไอเสีย AMG ชุดนี้กระหึ่มดุดันราวซุเปอร์คาร์และยังมีเสียง "แบล็คฟาย" เวลาถอนคันเร่งอีกด้วย มันเร้าใจมาก ๆ เลยครับ
Individual เลือกปรับโหมดเองตามใจชอบ
โหมดนี้ให้ผู้ขับขี่เลือกตั้งค่าการทำงานเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ช่วงล่างได้เองตามใจชอบ ให้เหมาะสมกับความต้องได้เลย เหมือนเป็นรถที่เซ็ทมาให้เฉพาะบุคคล เช่น พ่อบ้านต้องการความแรงก็ตั้งเครื่องยนต์+ช่วงล่าง Sport+ แม่บ้านชอบนุ่มนวลแต่ขออัตราเร่งมัน ๆ ก็ไป เครื่องยนต์ Sport + ช่วงล่าง Comfort
ส่วนคนที่ขี้เกียจมานั่งเลือกตั้งค่าเอง (บบผม) ก็กดเลือกโหมดหลีกไปเลยแล้วมาเปลี่ยนระบบช่วงล่างก็ได้อย่างเช่น ชอบขับช่วงล่างแบบนุ่มนวลเพราะมีผู้โดยสารเดินทางไปด้วยแต่อยากได้เครื่องยนต์ Sort ขับสนุกหน่อยก็ไปที่โหมด Sport และเลือกปรับเฉพาะช่วงล่างเป็น Comfort ก็จะได้ความนุ่มแต่ขับสนุก หรือว่าขับในเมืองแต่ต้องการความหนึบมากขึ้นก็เลือก เครื่องยนต์ Comfort และช่วงล่าง Sport ก็ขับได้สบายในเมืองแล้วครับ
สมรรถนะในการทดลองขับ
ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 6 สูบ ทวินเทอร์โบ + พลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่เข้ามาเสริมทำให้มีความแรงระดับ 435 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตร นั่นคือ มันแรงมากเกินรถใช้งานแบบครัวด้วยซ้ำไป แต่ในคันนี้เป็นตระ AMG จึงเป็นข้อยกเว้นเพราะออกแบบมาเพื่อความสปอร์ตสมบูรณ์แบบสุด ๆ ทำให้อัตราเร่งทั้งหลายทั้งมาลนั้น ราวกับกำลังขับซูเปอร์คาร์ เพียงแต่อยู่ในร่างยักษ์ใหญ่เท่านั้น
เร่งแซงทันใจและกดเมื่อไหร่ก็มามีเพียงอาการรอเปลี่ยนเกียร์ในบางครั้งเท่านั้น เพราะมีเกียร์ 9 สปีด ที่แม้ว่าจะฉลาดในการข้ามตำแหน่งเกียร์ได้แต่ก้ยังมีการรอรอบของเครื่องยนต์และการสับเกียร์บ้าง แต่การเร่งทำความเร็วนั้น กลับสมูทและแนบเนียน จนไม่รู้ยึกถึงรอยต่อของเกีบยร์เลยครับ และถ้ายังในเกียร์สูง ๆ รอบเครื่องยนต์ต่ำ ๆ เพียงแค่เติมคันเร่งเบา ๆ รถก็ตอบสนองได้ทันทีแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องคิกส์ดาวน์หรือเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เลย เรียกว่าถึงจะมี Paddle shift มาให้ก็ไม่ค่อยได้ใช้เพราะระบบทำงานแม่นจำและสะดวกกว่าเยอะครับ
ช่วงล่างลงสนามได้เลย
สำหรับการเกาะถนนในรถสูงโย่งที่มากับช่วงล่าง AMG และระบบ AMG Performance 4MATIC+ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และยิ่งในโหมด SPORT หรือ Sport+ เกาะราวกับรถโหมดเตี้ย และพวงมาลัยที่ควบคุมได้กระชับมั่นใจมาก เหมือนไม่ได้ขับรถยกสูงด้วยซ้ำไปครับ ส่วนระบบเบรกก็มั่นใจได้เพราะใช้คาร์ลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบจาก AMG ทั้ง 4 ล้อ และจานเบรกโตพร้อมครีบระบายความร้อน จากความเร็วสูง ๆ หรือเร่งความเร็วและต้องรีบเบรกอย่างกระทันหัน แตะเพียบแผ่วเบาะ ก็หยุดได้สนิทง่าย ๆ สบายเลยครับ
สรุปความคุ้มค่ากับราคา
กล้าที่จะบอกว่า
Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+ เป็นรถยนต์ครอบครัวสมรรถนะสูง (มาก) เหมือนกับเอารถแข่งซูเปอร์จีทีมาใส่กระดอง SUV แล้วใช้งานในชีวิตประจำวัน จะเดินทางใกล้ไกลขับสบายไม่เมื่อยและยังเพลิดเพลิน สนุกทุกครั้งที่ได้ขับ ระบบความบันเทิงครบถ้วน นั่งสบายทุกตำแหน่ง และให้ความปลอดภัยแบบจัดเต็มตามแบบฉบับรถยุโรป ราคา
6,099,000 บาท คุ้มหรือไม่ไปสัมผัวด้วยตัวเองแล้วจะได้ตอบครับ!