พรีวิวก่อนวันเปิดตัวจริง NEW MG VS HEV รถยนต์อเนกประสงค์ขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร ไฮบริด เน้นความประหยัด เติมเต็มเซ็กเมนต์ระหว่าง MG ZS 1.5 ลิตร เบนซินล้วนและ MG ZS EV เพิ่มทางเลือก มาพร้อมดีไซน์สวยสะดุดตา ฟังก์ชั่นภายในล้ำอนาคต และอุปกรณืความปลอดภัยครบถ้วน ราคา...??? ต้องรอวันเปิดตัวเป็นทางก่อน 8 ส.ค.นี้
NEW MG VS HEV ยนตรกรรม สปอร์ตตี้ ไฮบริด เอสยูวี รุ่นแรกของเอ็มจี โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC มอบความสมบูรณ์แบบทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) สู่ประสบการณ์การขับขี่ในแบบฉบับไฮบริดที่สนุกและเร้าใจมากยิ่งขึ้น
ภายนอก - ทะลายกรอบการออกแบบเดิม ๆ พลิกโฉมเอสยูวีสู่ภาพจำครั้งใหม่
กระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design หน้ามองผ่าน ๆ เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าล้วน แต่เมื่อเข้ามาส่องใกล้ กระจังหน้าถูกเจาะรูระบายอากาศเพราะ MG VS HEV ถือว่าเป็นรถยนต์ไฮบริดยังมีเครื่องยนต์สันดาปและใช้ระบบหม้อน้ำในการระบายความร้อนอยู่ แต่โดยรวมแล้วเก๋และดูทันสมัยมาก ๆ เลยครับ
แม้ว่า
MG VS HEV จะใช้พื้นฐานเดียวกับ
ZS และ
ZS EV แต่ในรายละเอียดแตก่างกันพอสมควรเลยครับ เริ่มที่ไฟหน้า LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติที่มาพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) ไปจนถึงไฟท้ายแบบ LED ราวหลังคา หลังคาพาดนรามิก ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อม AERO WHEEL COVER ที่จะช่วยลดแรงต้านลม เพื่อ AERODYNAMIC ให้ดียิ่งขึ้นและมีสีภายนอกแบบหลังทูโทนให้เลือกเพิ่มความสปอร์ต ส่วนด้านท้ายนั้นจะไม่แตกต่างกัน เพิ่มเพียงสัญลักษณ์
"VS HEV" เท่านั้น
ภายใน - นิยามบทใหม่ของการออกแบบภายในที่ก้าวล้ำกว่าที่เคย
NEW MG VS HEV ออกแบบภายในใหม่โดยเฉพาะคอนโซลหน้านับครั้งแรกของรถกลุ่ม B-SUV ที่มาพร้อมกับ Dual Widescreen Cockpit จอคู่ HD ขนาดใหญ่ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงานผ่าน Illuminated Touch Panel ล้ำกว่าที่เคยด้วยดีไซน์คอนโซลแบบ Double Layer ที่คอนโซลกลางเพิ่มแท่นชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger และ ช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C และ TYPE A รวมถึงช่องปรับอากาศตอนหลัง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปรับสูง-ต่ำได้ แต่ยังปรับใกล้-ไกลไม่ได้ สวิตช์กระจกไฟฟ้าเป็นระบบลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน แต่จะขึ้นอัตโนมัติเฉพาะฝั่งคนขับ เบาะมี 2 สไตล์คือ สีทูโทน (ดำ-ขาว) และสีดำ ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะตอนหลังปรับพับเก็บได้ "เกือบ" แบนราบ แต่ก็เพียงพอต่อการขนสัมภาระ และยังมีความโปร่งด้วยหลังคาราโนรามิก พร้อมกับระบบ i-SMART คำสั่งเสียงเช่นเดิมครับ กระจกมองหลังปรับลดแสงด้วยมือ แผ่นบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าทั้ง 2 ฝั่งแต่ไม่มีไฟ ซึ่งก็สามารถใช้ไฟส่องแยกซ้าย-ขวาจากตรงกลางเพดานแทนได้เช่นกันครับ
สำหรับคันเกียร์เป็นแบบจอยสติ๊กไฟฟ้า นั่นคือ โยกขึ้น-ลง 3 สเตป R-N-D และเมื่อต้องการจอดก็กดปุ่ม P ที่หัวเกียร์ใช้งานง่ายโดยไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ แต่ต้องเหยียบเบรกก่อนเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ทุกครั้งเสมอ หากไม่มีการเหยียบเบรกจะไม่สามารถเข้าเกียร์ได้ นับว่ายังมีความปลอดภัยให้ระดับดีอยู่ครับ
ระบบเครื่องเสียงจอสัมผัสรองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ลำโพง 6 จุด ซึ่งหน้าจอกลางของเครื่องเสียงนี้จะสามารถใช้งานร่วมกับการแสดงผลอื่น ๆ ของรถยนต์ได้ด้วย เช่น ระบบนำทาง การปรับอุณหภูมิระบบปรับอากาศ ตั้งค่าต่าง ๆ ของรถ ส่วนของจอฝั่งคนขับมีหน้าตาและดิสเพลย์คล้ายกับในรุ่น MG HS PHEV เช่น มีแสดงผลการใช้พลังงานไฮบริด ระดับแบตเตอรี่ เป็นต้น
ขุมพลัง- ไฮบริดทรงประสิทธิภาพครั้งใหม่ที่ขับสนุกและเร้าใจ
NEW MG VS HEV มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร VTi-TECH ผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ NEW MG VS HEV มีพละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport และมาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) หน่วงและชาร์จไฟฟ้ากลับแบตเตอรี่ได้ 3 ระดับ โดยในวันที่พรีวิวนั้น (25 ก.ค.65) ยังไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างละเอียดนัก จึงไม่มีข้อมูลของกำลังเครื่องยนต์ หรือ มอเตอร์ไฟฟ้า และแรงบิดสูงสุด รวมไม่ทราบความจุของแบตเตอรี่ Lithium-Ion ระบบช่วงล่างด้านหน้ายังเป็นแบบเดียวกับรุ่น ZS และ ZS EV คือ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชั่นบีม ดิสก์เบรก 4 ล้อ
SAFETY: ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจได้ทุกการเดินทาง
NEW MG VS HEV มาพร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition และระบบความปลอดภัยอย่างเต็มขั้น มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 12 ระบบ ได้แก่
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
- ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit)
CONNECTION: เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ได้ไม่สิ้นสุดด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART
NEW MG VS HEV เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลเข้ากับฟังก์ชันอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เอ็มจีด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART มาพร้อมกับ Digital Key Technology รับ – ส่งกุญแจดิจิทัลผ่าน สมาร์ทโฟนได้
ทั้งหมดนี้ยังเป็นการให้ชมภายนอกและภายในกับจุดเด่นแบบไม่ได้เจาะลึกมากนัก เพราะ NEW MG VS HEV สปอร์ตตี้ ไฮบริด เอสยูวี เหนือระดับด้วยดีไซน์ ส่งมอบการขับขี่ที่สนุกและเร้าใจจากขุมพลังไฮบริด พร้อมพบกับการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ในวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมนี้ และจะมีการให้ทดสอบขับจริงแล้วจะมาเล่าให้ฟังว่าสมรรถนะและการขับขี่จะเป็นอย่างไรครับ