รีวิวฟังก์ชั่นดีความปลอดภัยเด่น Isuzu MU-X 4X4 เพียงราคา 1.599 ล้านบาท

ถ้าคุณกำลังมองหารถครอบครัวขนาดใหญ่อย่าง PPV คันใหญ่แต่อยากได้การขับขี่ที่แสนง่าย สบายไม่หนักไม่ต้องใช้พลังในการควบคุมรถเยอะ แม่บ้านหรือผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็ขับได้สบาย ภายในกว้างขวาง เบาะนั่งนุ่มรองรับสรีระได้ดี สิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบเมนูใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เครื่องแรงและประหยัดไปพร้อม ๆ กัน แถมด้วยระบบความปลอดภัยต้องให้มาแบบไม่อายใคร แม้จะมีให้เลือกหลายรุ่นแต่ MU-X ใหม่ ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากและได้รับความนิยมสูงเพราะอะไรเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ 

Isuzu MU-X 3.0 Ddi Ultimate 4WD ที่นำมารีวิวคือรุ่นท็อปสุดราคา 1,599,000 บาท ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยจะเล่าถึงการขับขี่ใช้งานจริง ๆ มาดูกันว่าระบบและฟังก์ชั่นแต่ละอย่างใน MU-X นี่จะมีความน่าใช้งานและสะดวกสบายเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันแค่ไหน

เริ่มแรก...เมื่อจะขึ้นรถต้องกดปุ่มที่มือจับเสมอ ยังไม่ใช่ระบบสัมผัส แต่ก็ยังสะดวกกว่าต้องกดปุ่มที่รีโมท เหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทปกติ มาตรวัดจะหมุนกวาดคอยต้อนรับ เบาะนั่งที่นุ่มสบายตัว และปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ทำให้จัดท่านั่งได้อย่างพอดีบวกกับพวงมาลัยที่ปรับได้อีก 4 ทิศทาง เจ้าเบาะหนังที่ใช้วัสดุ Coolmax ที่โฆษณาว่ากันร้อนได้ช่วยให้เย็นเวลานั่ง หลังจากได้มีโอกาสจอดดับเครื่องนั่งในรถอยู่ 1 - 2 ชั่วโมง หลังดับเครื่องยังพอจะมีความเย็นตกค้างสักครึ่งชั่วโมงและหลังจากนั้นความเย็นก็หมดไป แต่เบาะนั่งก็ยังไม่ร้อนจนอึดอัด นั่งสบายไม่เหนียวอีกด้วย นับว่าเป็นจริงตามที่โฆษณาไว้จริง แต่หลังจากนั้นอีกราว ๆ  1 ชั่วโมงก็จะค่อย ๆ เริ่มร้อนขึ้น สรุปว่าเบาะระบบ Coolmax ใน MU-X นั่งแบบดับเครื่องได้จริง และจะค่อย ๆ ร้อนหรือเริ่มอุ่นขึ้นหลัง 1 ชั่วโมงขึ้นไป  

ในส่วนของเบาะนั่งแถวที่ 3 น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลว่าจะนั่งได้จริงหรือไม่ ต้องบอกว่าในมิว-เอ็กซ์ในตัวถังช่วงท้ายยาวขึ้นตั้งแต่ส่วนของประตูคู่หล้ง จึงทำให้พื้นที่ทั้งแถวที่ 2 และ 3 ถูกยืดเพิ่มขึ้น จึงนั่งได้สบายขึ้น แต่ด้วยตำแหน่งนั่งอยู้ท้ายของรถ จึงมีโอกาสทำให้คนนั่งเวียนหัวหรือเมารถเมื่อขับขึ้นลงเขา 

เครื่องยนต์แรงดี + ประหยัดจัง...ด้วยพลัง 3.0 ดีเซล 190 แรงม้า 450 นิวตันเมตร เกียร์ 6 จังหวะ อัตราเร่งทันใจ เกียร์เปลี่ยนดีฉับไวไม่คิดเยอะ ตอบสนองเร็วและยังนุ่มนวลอีกด้วย สำหรับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองใช้งานแต่ในเมืองอยู่ที่ 10 - 11 กิโลเมตรต่อลิตร นับว่าใช้ได้เมื่อเทียบกับขนาดความจุเครื่องยนต์ 3,000 ซีซี  และมี Padle Shift บนพวงมาลัยใช้งานสะดวกกว่าเปลี่ยนที่คันโยกเกียร์  

ยิ่งในรุ่น 4X4 ใช้งานง่ายเมื่อต้องการลุยเพียงหมุนสวิตช์ Terrain Command บวกกับระบบ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานเครื่องยนต์กับเบรกให้เหมาะสมในการขับผ่านอุปสรรค ทำงานได้ทั้งแบบ 2H /4H และ 4L นอกจากเครื่องยนต์ที่ขับได้สนุกและประหยัดแล้ว ระบบช่วงล่าง ให้ความนุ่มนวลและที่ความเร็วควบคุมมั่นใจในระดับหนึ่ง แม้จะใส่ล้อขนาด 20 นิ้ว   

ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) และเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) 1 ในความปลอดภัยที่ขยันเตือนบ่อยและตอบสนองรวดเร็ว พร้อมจะช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติเมื่อความเร็วรถยนต์คันหน้าช้ากว่าคันที่เราขับ และระยะที่เตือนก็ห่างพอสมควรไม่กระชั้นชิดเกินไปเหมือนอย่างในรถบางรุ่นที่ใกล้สุด ๆ จึงค่อยเบรกให้ นับเป็นข้อดีหากคนขับเผลอหรือมีการเบรกอย่างกระทันหัน ระบบนี้ช่วยให้ปลอดภัยได้มากขึ้น แต่ว่า..ถ้าเป็นคนขับสายมุด ๆ หน่อยหรือว่ามีจังหวะต้องแซงรถคันหน้าอย่างกระชั้นชิด ก็อาจจะต้องระวังเพราะระบบทำงานไว้มาก บางครั้งอาจจะเบรกให้เองทำให้เสียจังหวะในการเร่งแซงไปเลยก็เป็นได้ครับ

Cruse Control All Speed ระบบควบคุมความเร็วแปรตามรถคันหน้าในแบบทุกย่านความเร็วนั่นคือ สามารถชะลอความเร็วลงจนถึงจุดหยุดนิ่ง และเคลื่อนออกตัวตามคันหน้าได้ (หากจอดนิ่งไม่เกิน 3 วินาที) ระบบนี้ช่วยในการขับขี่เวลาเจอรถเยอะขับไหลตาม ๆ กันไปเรื่อยเป็นเวลานานสะดวกสบายปลอดภัยมาก และในส่วนระบบเตือนอื่น ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ที่มีกันอยู่เช่น เตือนรถออกนอกเลน, เตือนมุมอับสายตา เป็นต้น 

คันใหญ่แต่คล่องตัว วงเลี้ยวแคบเวอร์...หลายคนอาจคิดว่ารถยนต์ไซต์ใหญ่ขนาดนี้ใช้ขับในเมือง เข้าตรอกซอกซอยจะไหวหรือ ลำบากไหม เลี้ยวยากแค่ไหน ขอตอบเลยว่าอันดับแรกน้ำหนักพวงมาลัยในมิว-เอ็กซ์ เบาและกระชับมาก ถูกปรับปรุงใหม่ทั้งน้ำหนักของระบบเพาเวอร์ อัตราทดของชุดบังคับเลี้ยว ทำให้เบามือแม้จะจอดนิ่ง วงของพวงมาลัยขนาดกำลังดี หมุนเลี้ยวง่าย และรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.6 เมตรที่แคบเกือบเท่ารถเก๋งขนาดใหญ่

ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศใช้งานง่าย อย่างเช่น ปุ่มเพิ่ม-ลดแรงลม จะใช้เป็นสวิตช์เดียวเพียงแค่โยกขึ้น-เพิ่ม และโยกลง-ลด แรงลมไม่ต้องควานหา เหมาะกับการใช้งานจริงโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน พร้อมระบบแยกปรับอุณหภูมิฝั่งซ้ายและขวา รวมถึงแยกสวิตช์เปิด-ปิดแอร์ตอนหลังเป็นอสระ และยังมีระบบฟอกอากาศ PM 2.5 อีกด้วยครับ โดยตัวเลขอุณหภูมิบนจอดิจิทัลนั้นสอดคล้องกับความจริง ซึ่งตอนขับช่วงฝนตกแอร์เย็นฉ่ำ ๆ เมื่อปรับเพิ่มเป็น 25 จะรู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที แต่ถ้าขับในช่วงอากศร้อน ๆ ก็ปรับที่ 23 องศาก็นับว่าเพียงพอแล้ว ต้องบอกก่อนว่าในรถบางรุ่นนั้นตัวเลขจะไม่สอดคล้องกับอุณหภูมิจริงเท่าไหร่นักอย่างบางครั้งอากาศหนาวมาก ๆ เมื่อปรับตัวเลข 26 - 27 ก็ยังเย็นอยู่

การเก็บเสียงในห้องโดยสารถือว่าผ่านแต่...เรื่องความเงียบในห้องโดยสารการกั้นเสียงภายนอกเข้ามาทำได้ดีมาก เสียงรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือแม้แต่คนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์คุยกันแล้วขับผ่านก็ได้ยินน้อยมาก เสียงยางกับพื้นถนนก็ไม่ดังมาก โดยรวมถือว่าผ่านครับ แต่กลายเป็นว่าเสียงของเครื่องยนต์เมื่อเร่งแค่เบา ๆ ก็ชัดเจนขึ้นมาซะอย่างนั้น ยิ่งเร่งเครื่องรอบสูง ๆ ยิ่งชัดเจนมาก โดยเสียงจะเข้ามาจากแผงด้านหน้าห้องเครื่องและบริเวณซุ้มอุโมงค์เกียร์ อาจเป็นเพราะต้องการใช้ได้ยินการทำงานของเครื่องยนต์ว่าเร่งอยู่ในระดับไหนก็เป็นได้ (มั้ง) ครับ 

ความบันเทิงโดดเด่นแบบไร้สาย...ระบบความบันเทิงจอสัมผัส 9 นิ้ว  ติดตั้งกล่อง DVD ซ่อนในเกะใส่ของด้านบนฝั่งข้างคนขับ พร้อมเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย! นับว่าเป็นระบบที่มีอยู่ในรถซีดานหรูระดับพรีเมียม และมาพร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และช่อง USB ด้านหน้าและด้านหลังคอนโซลกลางอีก 2 ตำแหน่ง

มาถึงสิ่งที่อยากให้เพิ่มเข้ามากันบ้างสำหรับใน MU-X รุ่นท็อปก็คือ...... 
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา เพราะความใหญ่โตและน่าจะเป็นรถครอบครัวที่ใช้งานในเมืองบ่อย ๆ บางครั้งการกะระยะจอดในที่แคบ ๆ ที่มีเพียงเซ็นเซอร์อาจไม่พอ โดยเฉพาะเมื่อต้องกะช่วงด้นหน้ารถหรือว่าจอดชิดกับขอบถนนก็ยิ่งดูง่ายและปลอดภัยมากขึ้น

สตาร์ทรีโมทเมื่อปลดล็อคเปิดประตูเครื่องจะดับ ต้องสาร์ทใหม่อีกครั้ง ซึ่งน่าจะสามารถเปิดประตูและเพียงแค่เหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทซ้ำก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่อาจเป็นเพราะต้องการความปลอดภัยในเรื่องการถูกโจรกรรม หรือความปลอดภัยอื่น ๆ จึงตั้งให้เครื่องยนต์ดับและสตาร์ทใหม่ทุกครั้ง

ในระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนนั้นไม่ได้มีระบบช่วยหน่วงหรือดึงพวงมาลัยกลับมาให้ ซึ่งถ้ามองว่ารุ่นนี้เป็นตัวท็อปสุดแล้วไหน ๆ ก็ใส่ระบบช่วยเหลืออื่น ๆ มาเพียบแล้วก็ขอเพิ่มอีกระบบเพื่อให้ยิ่งปลอดภัยมากขึ้น

สิ่งที่อาจขัดตาในบางคนอย่างเช่นมาตรวัดแสดงการทำงานของรถนั้นยังดูเป็นแบบเก่าและขนาดเล็กมองยากและยังไม่ทันสมัยมากนัก หากปรับเป็นแบบจอขนาดใหญ่ขึ้นก็ยิ่งดูง่ายไม่ต้องมองเพิ่งมาก และไม่ต้องละสายตาออกจากถนนอีกด้วย

นอกเหนือจากนี้น่าจะเป็นเรื่องเสียงของเครื่องยนต์ที่เข้ามาพอสมควรและระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้าที่ทำงานรวดเร็วมาก ทั้งที่รถคันหน้านังมีระยะห่างอยู่มาก และถ้าให้ระบบเปิดท้ายแบบ Hand Free ก็นับว่ายิ่งดึงดูดให้น่าเป็นเจ้าของขึ้นอีก

ขอสรุปรวมว่า Isuzu MU-X 3.0 Ddi Ultimate 4WD ในราคา 1,599,000 บาทนี้ เหมาะสมกับเทคโนโลยีที่ได้มา พร้อมกับงานด้านบริการหลังการขายที่โดดเด่นอัยดับต้น ๆ ของรถยนต์ที่ขายในประเทศไทย นอกจากนี้เครื่องยนต์ดีเซลในรหัส 4JJ3-TCX  ทั้งแรงทั้งประหยัดขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานอึดและบำรุงรักษาง่ายอีกด้วย All-NEW MU-X ขับสบายคล่องตัว นุ่มนวลและปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมเยอะ