มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ กลับมาพร้อมกับการปรับโฉมและเติมสเปคใหม่ เพื่อความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความอเนกประสงค์ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ขับมั่นใจ ทนทาน ปลอดภัย สะดวกสบาย พร้อมการใช้งานหลากหลายและอเนกประสงค์ หลังเผยโฉมในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ล่าสุดทางบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมทริปทดสอบขับทางไกลเสมือนท่องเที่ยวจริงไปกลับกรุงเทพฯ - ปราณบุรี
ทริปทดสอบใช้รถยนต์
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ รุ่น GT ทั้งหมดโดยผู้เขียนได้ขับร่วมกับเพื่อนสื่อมวลชนด้วยกันคันละ 2 คน สัมภาระติดตัวแค่กระเป๋าเดินทางใบเดียวไม่หนักมาก การทดสอบทยอยปล่อยรถจากโรงแรมย่านถนนสาทรมุ่งหน้าขึ้นทางด่วนสู่ถนนพระราม 2 ช่วงแรกผู้เขียนเป็นผู้นั่งข้าง สัมผัสแรกจากการนั่งบนรถไปถึงจุดพัก Porto go และต่อด้วยพักรับทานมื้อกลางวันที่ร้านในเมืองเพชรบุรี
เบาะนุ่มนั่งสบาย งานประกอบภายในห้องโดยสารเรียบร้อยดูดี ช่องแอร์หลังคาทำเรียบร้อย โดยรวมให้ความรู้สึกที่ดี ช่องใส่ของรอบตัวมีมาก จอสัมผัสขนาดใหญ่รองรับระบบแอนดรอยด์ออโตกับแอปเปิ้ล คาร์เพลย์ได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและเล่นแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ดี ในเอ็กซ์แพนเดอร์จัดว่าเชื่อมต่อง่ายและเสถียรไม่มีหลุดเลย อย่างไรก็ตามมุมเสาเอด้านหน้าที่ค่อนข้างสโลปเอียงลาดลงทำให้รู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่กับรถอเนกประสงค์แบบนี้ ก็อาจทำให้ด้านนอกดูสปอร์ตสวย คุณภาพเสียงเพลงจากลำโพง 6 ตัวนับว่าน่าพอใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด ช่วงล่างซับแรงสะเทือนและให้การทรงตัวที่แน่นนิ่งไม่ย้วย ไม่โยนยามเข้าโค้งด้วยความเร็ว เสียงเครื่องยนต์จากการกดคิกดาวน์เร่งรอบความเร็วจัดว่าอยู่ในระดับที่รับได้ไม่ดังจนน่ารำคาญ จริงๆ ภายในห้องโดยสารจัดว่าเก็บเสียงได้ดีพอสมควร ช่วงจอดเปิดเอาของที่ฝาท้ายพบว่า
ตัวรถที่มีระยะเคลียร์แลนซ์จากพื้นสูง 220 มม. ทำให้การเปิดปิดฝาท้ายค่อนข้างลำบากสำหรับผู้เขียนที่สูง 171 ซม. นอกจากนี้ถ้าเข้าช่องจอดที่มีกำแพงและเพดานต่ำด้านหลังก็ต้องเผื่อระยะให้ฝาท้ายเปิดได้ด้วย รถสูง 1,750 มม. บวกระยะฝากระโปรงขึ้นไปอีก
เมื่อผู้เขียนสลับมาขับได้ลองบนถนนเปิดโล่งใช้ความเร็ว 80-120 กม./ชม. ซึ่งการเร่งจากจังหวะ 80 ไปถึง 120 จับเวลาแล้วได้ตัวเลขราว 10 วินาที ความเร็วที่ใช้ในการขับเดินทางทั้งเร่ง ยก และแช่ยาวๆ จัดว่าน่าพอใจสำหรับรถคลาสนี้ไม่อืดแต่ก็ไม่หวือหวา จังหวะเบรกกระทันหันจนหยุดนิ่งพบว่าระบบเบรกที่หน้าดิสก์หลังดรัมยังไว้ใจได้สามารถหน่วงให้รถหยุดได้สั้นกว่าที่คาด ซึ่งได้ระบบเซฟตี้ช่วยเบรกทำงานผสานกัน (ABS,BA,EBD) ช่วงติดรถไฟแดงได้กดระบบเบรก auto hold เพิ่มความสะดวกสบายและทำได้ตามมาตรฐานรถยุคใหม่ นอกจากนี้ช่วงทางโล่งยาวก็ได้ Cruise Control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการเหยียบคันเร่งได้ ก็นับว่ามีฟังก์ชันอำนวนความสะดวกไม่น้อย ลูกเล่นที่เหมือน easter egg ของรถที่น่าสนใจถ้าไม่สังเกตุจะไม่รู้เลยคือ ที่ใส่ทิชชู่ที่ซ่อนอยู่ใต้ที่วางแขนตรงกลาง สำหรับการขับทั่วไปในเมืองช่วงความเร็วต่ำตลอดจนบนเส้นทางออฟโร้ดเล็กก็ให้ความรู้สึกที่ดี ระบบแทร็คชันคอนโทรลทำหน้าที่ตอบกลับได้ดีในจังหวะลุยพื้นดินลื่น
ด้านอัตราสิ้นเปลืองหลังจากขับไปอยู่ที่ 14.3 กม./ล. และกลับรวมแล้วได้ตัวเลขบนหน้าจอแสดงข้อมูลที่ 12.4 กม./ล. ทั้งหมดเป็นการขับทดสอบบนถนนจริงเสมือนการเดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัว ยังขาดการขับขึ้นลงทางลาดชันเช่น เขาสูง พร้อมโหลดสัมภาระและควรมีผู้โดยสารครบทุกตำแหน่งดู ถ้ามีโอกาสก็อยากทดสอบภายใต้เงื่อนไขแบบนี้สักครั้งเพื่อลองศักยภาพรถให้มากกว่านี้ ด้วยราคา 895,000 บาท สำหรับรุ่นท็อป GT แพงกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกันอยู่ 2 หมื่นบาท นับว่าน่าคิด ถ้าชอบรูปลักษณ์ ไปลองขับแล้วใช่ ขับเข้าบ้านจอด มองแล้วมีความสุขก็จัดได้เลย