เปิดตัวอลังการไปแล้วกับครอบครัว
New Next-GEN FORD EVEREST,
RANGER และ
RANGER RAPTOR ใหม่ โดนใจใครหลายคนโดยเฉพาะไดโนเสาร์ยุค 5G อย่างแร็พเตอร์ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเบนซินวี6 สูบ 3.0 ลิตร Ecoboost เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 397 แรงม้า แรงบิด 583 นิวตันเมตร เกียร์ 10 สปีด เพิ่มโหมดขับขี่เป็น 7 รูปแบบ กับค่าตัว 1,869,000 บาท และสวยขึ้นกับเอเวอร์เรสต์ เอเวอเรสต์ รุ่นสปอร์ต ราคา 1,464,000 บาท เอเวอเรสต์ รุ่นไทเทเนียม+ ราคา 1,854,000 บาท
ตามด้วยเรนเจอร์ใหม่ในแบบ 2 รุ่นเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง 2.0 Bi-Turbo ในไวลด์แทรค ราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท และ 2.0 Turbo เดี่ยว รุ่นสปอร์ต ราคาเริ่มต้นที่ 929,000 บาท
โดยหลังจากได้พูดคุยกับทางวิศวกรและดีไซน์เนอร์ของโปรเจคนี้ แอบรู้มาว่ากว่าจะออกแบบรถทั้ง 3 รุ่นนี้ได้ใช้เวลาพัฒนาร่วมกับวิศวกรเป็นเวลากว่า 5 ปี และในส่วนของการออกแบบนั้นมีการใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ กว่จะออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้ ผ่านอะไรมามากมาย และในเจนเนอร์เรชั่นใหม่ถูกปรับปรังโครงสร้างทั้งคัน เช่น โครงสร้างแชสซี ขนาดความกว้างและยาว วางบนฐานล้อที่มีความยาว และความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มิลลิเมตร เป็นต้น แต่ก็แอบบอุปกรณ์ที่ (ไม่) ลับซ่อนไว้อยู่บ้าง เฉพาะในเรนเจอร์ ไวลด์แทรค มาส่องดูไอเท็มลับที่ไม่ลับกันเลยครับ
ที่วางแก้วน้ำ
ไอเท็มแรกกับที่วางแก้วบริเวณคอนโซนหน้าฝั่งซ้ายและขวา ที่ซ่อนเรียบร้อยไม่เกะกะเพียงแค่กดออกมาที่วางแก้ววางแก้วกาแฟคุณได้และยังหยิบง่ายกว่าอยู่ตรงคอนโซลกลางอีกด้วย
USB Type-C
ช่องจ่ายไฟสำหรับสายโซเชียลขาดไม่ได้จริง ๆ ที่มีให้ใช้งานทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังมีแบบ USB ปกติให้เลือกอีกด้วย
โหมดแร็พเตอร์ก็มา
ในเรนเจอร์ใหม่โดยเฉพาะไวลด์แทรค ติดตั้งโหมดเลือกการขับขี่ถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง และบรรทุก โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย ซึ่งอยู่ในแร็พเตอร์รุ่นก่อนหน้านี้ รับรองว่าขับมันและไปได้ทุกทางอย่างแท้จริง
ช่องวางแฟรนด์ฟาย..!!
ตรงคอนโซลกลางระหว่างช่องวางแก้วน้ำจะมีเป็นช่องเล็ก ๆ ระหว่างที่วางแก้วน้ำตรงคอนโซลกลาง ควาจริงแล้วเป็นช่องสพหรับใส่ของอะไรก็ได้ แต่ทางดีไซน์เนอร์ของฟอร์ดพูดสนุก ๆ ว่าเป็นที่วาง "แพรนด์ฟราย" ที่เค้าชอบทานระหว่างเดินทางนั่นเองครับ
ฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร
ด้วยโครงสร้างและกันชนอันแข็งแกร่งและใหญ่โตขึ้นบนฐานล้อที่ยาวขึ้นอีก 50 มม. พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือตะลุยเส้นทางสุดสมบุกสมบัน
ดิกส์ 4 ล้อแล้วนะ
ในรุ่นไวลด์แทรคจัดเต็มระบบความปลอดภัยในหลายฟังก์ชั่นและที่เพิ่มมาใหม่ให้สมกับความเป็นเจ้าแห่งกระบะยุโรปก็คือ....ดิสก์เบรกหลัง เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นไปอี๊กกกก
กล่องบันไดท้ายรถ
กล่องหรือช่องสำหรับปีนขึ้นท้ายรถนับเป็นไอเท็มที่ถูกสำรวจพฤติกรรมการใช้งานรถกระบะจากหลากหลายประเทศ ซึ่งเจ้าของรถมักจะต้องปีนขึ้นไปบนกระบะท้ายด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ปีนบนล้อหรือยาง หรือต้องปีนจากกันชนท้าย ซึ่งการเพิ่มตัวกล่องบันไดนี่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายขึ้นและปลอดภัยขึ้น เพราะด้วยความเป็นรถ 4 ประตู จึงตำแหน่งติดตั้งจะอยู่ส่วนท้ายทำให้ไม่เปลืองพื้นที่
ฝาท้ายผ่อนแรง
ที่เปิดฝากระบะท้ายมีระบบช่วยผ่อนแรง "Easy Lift" เด็กและสุภาพสตรีใช้งานได้ง่าย ๆ ไม่ง้อหนุ่ม ๆ อีกต่อไป ยิ่งมาพร้อมไอเท็มต่อจากนี้ยิ่งเข้าชุดกันเลยทีเดียวครับ
ปลั๊กไฟท้ายกระบะ
ไวลด์แทรคติดตั้งช่องต่อจ่ายไฟแบบ AC รองรับกำลังไฟถึง 400 วัตต์ ที่ส่วยท้ายของกระบะ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง หม้อหุงข้าว หรือเตาอบขนาดเล็กได้ง่ายๆ เพียงเสียบปลั๊กกับตัวรถ
ความจริงแล้วทางดีไซน์เนอร์ของฟอร์ดเสริมว่าในรถฟอร์ดทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ "ฟีเจอร์ลับ" อีกเพียบ แต่เค้าไม่บอก ลูกค้าจะค่อย ๆ รับรู้เองว่ามีและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมาก ๆ คงต้องไปสัมผัสและหา "ช่องลับ" ด้วยตัวเองแล้วครับว่ามีอีกไหม
แถมอีกนิด
- ในกรอบไฟท้ายมีสกรีนลายน้ำระบบตรวจจับสัญญาณ์ด้านข้าว "ขออวดนิดนึง"
- ในท้องบริเวณเหนือเพลาท้ายมีตัววัดระดับความเอียงและสูงต่ำตามน้ำหนักบรรทุก เพื่อปรับสมดุลแรงดันน้ำมันเบรกล้อหลัง
- และอันสุดท้ายช่องหรือรูตรงกลางพาดแนวขวางแชสซีรถนี้เอาไว้ทำอะไรหนอ? ...ลืมถามวิศวกรไปเลยครับบบบ....
มร. เอียน ฟอสตัน หัวหน้าวิศวกร แพลตฟอร์ม T6 และหัวหน้าวิศวกร ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ (ซ้าย) มร. แม็กซ์ วูล์ฟ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ฟอร์ด ประเทศจีน และกลุ่มตลาดนานาชาติ (ขวา)