10 รุ่นรถเหมาะทำฟู๊ดทรัคและขายของในยุคของแพงเศรษฐกิจพัง!!!

ในยุคที่เกิดโรคระบาดโควิดในยาวนานจนถึงซีซัน 5 งานหายากข้าวของแพงทั้งหมู ไข่ น้ำมัน ค่ารถไฟฟ้า ทางด่วน ฯลฯ ที่จะตามมาในไม่ช้า หลายคนคงมีแผนในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือมองหาอาชีพเสริมหรืออาจจะเป็นอาชีพหลักด้วยการเปิดร้านอาหาร แต่ก็ต้องหาทำเลดี ๆ และราคาเช้าที่ก็สูงตามไปด้วยอาจต้องลงทุนหลายด้าน 

แต่ว่ายังมีร้านค้าอีกรูปบบที่กำลังกระแสแรงและต้นทุนไม่สูงมากนัก ไม่ขายจุดใดก็ได้ถ้ามีเจ้าของพื้นที่อนุญาติ เสียค่าเช้าจุดจอดน้อยหรืออาจไม่เสียเลย มีเพียงต้นทุนคือ ค่าดาวน์ผ่อนส่งรถ ค่าน้ำมัน รวมกับต้นทุนของสิ้นค้าที่จะขายมาดูรุ่นรถยนต์ที่น่าจับมาทำฟู๊คทรัคว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

1.Suzuki carry 385,000 บาท 
รถกระบะหัวเดียวรุ่นใหม่จากซูซูกิ ที่เป็นรุ่นยอดนิยมในการนำมาดัดแปลงทำร้านขายของมากที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ จุดเด่นคือ ราคาถูก ดูแลง่ายไม่จุกจิก ทนทาน และกระบะบรรทุกแบบเรียบผลิตจากแผ่นเหล็กเสริมกัลวาไนซ์ที่มีคุณสมบัติป้องกันสนิมและการสึกกร่อน เพิ่มความกว้างและความยาวของพื้นที่บรรทุกอยู่ที่ 1,670 มม. และ 2,450 มม. สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้านรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ รับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 945 กิโลกรัม ติดตั้งระบบ Engine Drag Control ทำหน้าที่รักษาความเร็วของล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุลกัน ช่วยป้องกันรถไม่เกิดการลื่นไถล เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร เพียงพอใช้งานและประหยัดน้ำมันอีกด้วย

2.KIA K2500 699,000 บาท
Jumbo Pickup รถกระบะรุ่นใหญ่หัวใจดีเซลกว้างกว่า ยาวกว่า ความจุในการบรรทุก ใช้เครื่องยนต์ดีเซล A-II ขนาด 2.5 เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2,476 ซีซี ของ K2500 ให้แรงม้าสูงถึง 130 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 26.0 กก.-ม. ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 127 กม./ชม. นับเป็นอีกรุ่นที่นิยมนำมาดัดแปลงเป็นรถขายของ ได้เปรียบเรื่องความใหญ่และทนทานแข็งแรงจากเครื่องยนต์ดีเซลอีกด้วย

3.TATA Super ACE Mint 375,000 บาท
รถบรรทุกขนาดเล็กรุ่นใหม่ ไซต์กลางที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล DiCor รุ่นใหม่ แบบคอมมอนเรล ขนาด 1.4 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบไดเรคอินเจคชั่น พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตร ที่ 1,400-2,750 รอบ/นาที ยังเป็นรุ่นที่น่าสนใจจับมาทำร้ายอาหารดูแลง่ายระบบไม่ซับซ้อนและประหยัดด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุน้อยแต่ก็มีกำลังให้ใช้เพียงพออีกด้วย

4.Fonton Truck Mate TM iBlue45 799,000 บาท
หนึ่งเดียวที่เป็นรถบรรทุก 4 ล้อ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน มาพร้อมความอเนกประสงค์ ไม่ติดเวลา ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจ SME และผู้ประกอบการขนส่งขนาดเล็ก มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 44.9 กิโลวัตต์ วิ่งได้ไกลถึง 275 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงสุด 75 กิโลวัตต์ หรือ 100.5 แรงม้า ชาร์จเร็ว DC 20-80% เวลา 0.55 h. / 20-100% เวลา 1.5 h. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเชื้อเพลิงและมีระยะเดินทางไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก แม่ราคาจะสูงหน่อยแต่ไม่ต้องดูแลระบบเครื่องยนต์ ไม่ต้องเติมน้ำมันก็ทำให้ลดต้นทุนการขายไปได้เยอะแล้วครับ

มาถึงครึ่งทางแล้ว เด๊่ยวจะหาว่าแล้วรถประเภทกระบะไม่มีบ้างหรือ.....รถกระบะยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนให้ความอเนกประสงค์ในการบรรทุกดัดแปลงได้หลายรูปแบบ และสมรรถนะที่ดีด้วยเครื่องยนต์ดีเซล และช่วงล่างที่แข็ง สามารถจะถอดกระบะแล้วดัดแปลงเป็นรถขายของได้หลายรูปแบบ แม้กระทั่งเป็นรถสไลด์ หรือจะซื้อรุ่นทีเป็นโครงแชสซีสก็ย่อมได้ มาดูว่ารถกระบะรุ่นที่ราคาไม่แรงและเหมาะสมมีรุ่นไหนบ้าง 

5.Nissan Navara Single Cab S 6MT 559,000 บาท รถกระบะที่กล้า…ท้าทายทุกงานหนัก ยืนหนึ่งด้วยการบรรทุกหนัก และความแข็งแกร่งทนทานทางเลือกสำหรับธุรกิจ พื้นที่ท้ายกระบะที่กว้างขวาง สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 1,090 กิโลกรัม กว้างขวางสะดวกสบาย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGS ขนาด 2.5 ลิตร DOHC แบบ 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุดที่ 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที เกียร์ 6 สปีด รองรับน้ำมันดีเซลทุกประเภททั้ง B7, B10 และ B20 

6.Isuzu D-Max Spark 1.9 Ddi B M/T 552,000 บาท รถปิคอัพยอดนิยม ประหยัดทนทานสู้งาน อะไหล่ไม่แพง ดูแลถึงใจครบเลย มากับเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

7.Ford Ranger Standard Cab 2.2L XL 6 MT 562,000 บาท กระบะท้ายใหญ่ แกร่ง แรงขุมพลังเครื่องยนต์เครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตัน-เมตรพร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

8.Toyota Revo Standard Cab 2.4 Entry 584,000 บาท รถเจ้าตลาดยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเหมาะสำหรับใช้งานเชิงพานิชย์ทุกรูปแบบเครื่องยนต์ 2.4 ดีเซลเทอร์โบแรงและประหยัดน้ำมันมาพร้อม T-Connect และ Fleet Telematics Service ยิ่งทำเกี่ยวกับการขนส่งยิ่งเหมาะ ระบบนี้ช่วยให้การจัดการและการดำเนินธุรกิจขนส่ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านเวลา ต้นทุน และคุณภาพสินค้า 

9.MG Extender GC C MT 559,000 บาท กระบะพันธุ์ยักษ์ แม้จะเป็นรุ่นที่มีแค็ป แต่ราคาไม่สูงเลยนำมาร่วมเป็นตัวเลือกในรถกระขายของ ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ 

10.Mazda BT-50 Standard Cad 1.9E 553,000 บาท รถกระบะมาสด้าที่ใช้พื้นฐานเดียวกับอีซูซุ แต่ดีไซน์ภายนอกภายในมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้เครื่องยนต์ดีเซล RZ4E-TC DOHC 4สูบ 16 วาล์ว VGS เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ แรงม้าสูงสุดถึง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร 

สำหรับรถยนต์ที่นำมาเป็นตัวเลือกในการดัดแปลงเป็นรถค้าขายจะนั้นไม่ได้เรียงลำดับและไม่ได้ระบุว่ารุ่นไหนดีที่สุดนะครับ เน้นเพียงเรื่องความคุ้มค่าของตัวรถราคาไม่สูงเกินไปและสามารถนำใช้งานได้หลากหลายทั้งรถขายอาหารฟู๊ดทรัคหรือรถพุ่มพวงเร่ขายของได้หมด ขึ้นกับว่าผู้สนใจทำธุระกิจต้องการนำไปใช้ค้าขายอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่สุดท้ายแล้วก็เพื่อนำไปทำเป็นอาชีพได้ทุกรุ่นทุกแบบ แม้แต่รถเก๋งก็สามารถใช้ค้าขายได้เช่นกันครับ