เที่ยวลำปาง ชมพุทธคยาอินเดีย ลุยถนนแคลิฟอเนีย สัมผัสลมหนาว กับ Isuzu Mu-X

หลังจากเจ้าพิษโควิด ทำแพลนเราล่มมา 2 ปี ตอนนี้หลายๆ คนก็ต้องรีบจัดแพลนใหม่ออกเที่ยวพักผ่อนหลังจากสถานการณ์มันดีขึ้น เช่นเดียวกับผู้เขียน แต่ทำไมต้องลำปาง? ก็เพราะลำปางเป็นบ้านเกิดผู้เขียนยังไงละเจ้าคะ...

ผู้เขียนเริ่มจัดเตรียมของเพื่อที่ขนกลับบ้าน มีของเยอะแยะมากมายที่อยากจะขนกลับไปฝาก โชคดีที่การเดินทางครั้งนี้ได้ All New ISUZU MU-X เครื่องยนต์ 3.0 และเป็นรถยนต์ PPV 7 ที่นั่งที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ให้เราขนของได้มากมาย โดยเฉพาะเบาะที่นั่งแถว 3 ที่พับเบาะได้เกือบเรียบ เราเลยสามารถขนของชิ้นใหญ่ๆ และยัดสิ่งของไปแบบเต็มลำ 

และพิเศษไปกว่านั้น การเดินทางของเราไม่ได้มีเพียงแค่เรา 2 คน แต่เรายังมีอีก 1 สมาชิกตัวน้อยๆ ที่เราไม่สามารถทิ้งเขาได้ นั่นก็คือ  เจ้า "สาธุ" แมวเหมียวที่เราเก็บมาเลี้ยง ที่เราต้องหอบตุเลงไปด้วยกันแทบทุกที่ ซึ่งการเดินทางที่ต้องมีสัตว์เลี้ยงไปด้วยเราจะต้องเตรียมสัมภาระ มากขึ้นกว่าเดิม แต่ทำยังไงได้ละคะ ในเมื่อเรามีเขา และเขาก็มีแค่เราจะเหนื่อยขึ้นมาอีกหน่อยจะเป็นไรไป....ซึ่งสิ่งที่เราเตรียมไปให้น้องก็จะเป็น อาหารเม็ด น้ำดื่ม ผ้าเปียก ขนมของน้อง กระบะทราย และที่นอนหรือผ้านุ่มๆ ให้น้องได้นอนขณะเดินทาง...เตรียมของจนครบก็ได้เวลาออกเดินทางไปกับรถยนต์อเนกประสงค์ All New ISUZU MU-X สัมผัสอากาศหนาวที่...ลำปาง กันเถอะ.....

ระหว่างการเดินทางขึ้นภาคเหนือในเส้นทางถนนสายหลักที่มีการจำกัดความเร็ว คือไม่เกิน 120 กม/ ชม. โชคดีที่ All New ISUZU Mu-X มีตัวช่วยให้การขับของเราง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะเจ้า ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ตัวช่วยในเรื่องระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ชอบที่สุดคือความฉลาดของ Adaptive cruise control เมื่อเราตั้งระยะห่างจากรถคันหน้าเรียบร้อยแล้ว เราก็ทำการ Set ความเร็วเบื้องต้นหรือตั้งไว้ไม่ให้เกิน 120 กม./ชม. (กันพี่จ่าแถวพุ่มไม้ยิงแฟลชใส่อะนะ) หลังจากนั้นก็ปล่อยให้รถขับเคลื่อนไปเองอัติโนมัติ ที่สำคัญแม้ไม่มีรถวิ่งอยู่ข้างหน้า รถก็ยังไม่หลุดจากระบบ หรือหากคันนหน้าชะลอ ขับช้า รถก็จะผ่อนคันเร่งลง และเบรคให้อัตโนมัติหากมีรถเข้ามาแทรก แต่รถก็ยังอยู่ตามระยะเว้นห่างที่เราตั้งค่าไว้เช่นเดิม แต่เจ้า  Adaptive cruise จะถูกปลดออกก็ตอนเมื่อเราแตะเบรคเท่านั้น  ในเรื่องเตือนก่อนชน ตัวนี้ดีมากๆ ยิ่งวิ่งต่างจังหวัดหากใครขับเที่ยวบ่อยๆ จะรู้เลยว่า บางทีก็เจอตัดหน้าบ้าง ปาดเข้ามาบ้าง แบบที่เราไม่ทันระวัง รถก็ทำการเบรคให้ทันที รวมไปถึงระบบอื่นๆ ที่มีสร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับได้จากหลังพวงมาลัย รวมไปถึงคนนั่งและเจ้าสาธุตัวน้อย หลับสบายไปตลอดทาง 

มาถึง จ.ลำปางในเวลาที่กำหนด ก็เตรียมแพลน 108 แต่ไม่ว่าไปจังหวัดไหน สิ่งที่ควรจะแวะในแพลนเราก็คือ "วัด" ครั้งนี้คุณพ่อขอเป็นไกด์พาเราไปวัดที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน และสวยงามมากๆ นั่นคือ "วัดจองคำ พระอารามหลวง"  เจดีย์พุทธคยา จำลองใหญ่เท่าของจริง หนึ่งเดียวในประเทศไทย

"วัดจองคำ พระอารามหลวง"  เจดีย์พุทธคยา ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านหวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง หรือเส้นทางไปพะเยา โดยประวัติ เจดีย์พุทธคยา นั้นเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นหนึ่งในสี่สังเวชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา สถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อกว่าสองพันห้าร้อยปีมาแล้ว (ข้อมูลจาก: @Bodhgaya.Watchongkham)

โดยเจดีย์พุทธคยาองค์นี้เป็นองค์จำลองที่มีขนาดเท่ากับ เจดีย์พุทธคยาองค์จริงที่ประเทศอินเดีย มีขนาดความสูงถึง 51 เมตร มีเจดีย์องค์เล็กอยู่รอบๆ ทั้ง 4 ทิศ ตกแต่งอย่างสวยงามทั้งด้านนอกและด้านใน โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 3 ปี ภายนอกมีการออกแบบลวดลายศิลปะรอบๆ องค์เจดีย์แบบอินเดีย และการฉลุลวดลายปราณีตงดงามลงบนองค์เจดีย์ จนเกิดเป็นผลงานศิลปะขนาดใหญ่ที่ดูแปลกตาหาชมได้ยากในเมืองไทย ภายในมีการตกแต่งให้ดูวิจิตรตระการตา และร่มเย็น มีพระพุทธรูปมากมาย และบางองค์ก็หาชมได้ยากตั้งอยู่ภายในตู้กระจกที่สร้างขึ้นมาอย่างแน่นหนา 

 

เสร็จจากศักการะและเดินชมรอบๆ วัด ก่อนกลับเราก็จะผ่าน "พระอุโบสถศาสโนทัย" ที่มีหลังคาสีทองเหลืองอร่าม สะท้อนแสงระยิบระยับสู้ความร้อนแรงของแสงแดดในช่วงบ่าย สวยงามตระการตามากๆ ค่ะ

สถานที่ต่อไปเรียกว่าเป็นอีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากความบังเอิญหรือไม่? เพราะจริงๆ แล้วสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นชุมชน ที่มีผู้อยู่อาศัยจริงๆ ในอนาคต และปัจจุบันมันได้รับการขานนามว่า "แคลิฟอร์เนีย ลำปาง"

 

"แคลิฟอร์เนีย ลำปาง" ถนนสุดชิคคล้าย Route 66 สายนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงไฟฟ้าแม่เมาะ และไม่ไกลจากตัวเมือง อยู่ในเขต ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ซึ่งพื้นที่โดยรวมถือว่ากว้างใหญ่ มีซอยให้ทะลุ ได้เกือบทุกซอย และมีมุมให้ถ่ายรูป เก๋ ชิคๆ หลายจุด หรือจะเฟี้ยวๆ แบบผู้เขียนเอา เซิร์ฟ สเก็ต ไปไถเล่นซะเลย (แต่ก็ต้องระมัดระวังรถที่ขับเข้าออกด้วยนะจ๊ะ)  ตัวถนนเส้นนี้มีความยาวหลายกิโล เป็นคลื่น สลับเล็กใหญ่ ซึ่งมันมีลักษณะคล้ายถนนแคลิฟอร์เนีย  บวกกับช่วงแรกๆ ที่ต้นหญ้ายังไม่ขึ้น 2 ข้างถนน จะเป็นเพียงพื้นหิน ดิน กรวด มีต้นหญ้าขึ้นแซมมาบ้าง เลยทำให้มันถูกขนานนามว่าเป็น ถนนแคลิฟอร์เนีย นั่นเอง (อยากรู้จริงๆ ว่าใครมาเจอคนแรก)

 

และสถานที่สุดพิเศษสุดท้าย ที่ที่ทำให้ฉันเติบโตมาได้ขนาดนี้ ก็คือแนวธรรมชาติ "บ้านฉันเอง" หน้าเขา หลังเขา กับวิวยามเช้าพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมแสงแดดรำไร วิถีชีวิตเกษตรกรของคนที่นี่ ยังคงดำเนินไปตามวิถีชีวิตแบบพอเพียง แกะข้าวโพดแลกเปลือกให้วัว แบ่งปันอาหารซึ่งกัน ยังมีให้เห็นอยู่ตลอดที่กลับมา มันเป็นความสุขที่อบอุ่น แม้ร่างกายจะสัมผัสความหนาวในอุณหภูมิ 15 องศา แต่พอ ได้เห็นแสงแดดสาดส่องกระทบดอกหญ้า การใช้ชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบ ทำให้รู้สึกว่านี่แหละคือความสงบ ความสุขที่ถวิลหาเลยจริงๆ ค่ะ  

ขอบขอบคุณ  All New ISUZU MU-X 3.0  การเดินทางที่ทำให้เราในครอบครัวสะดวกสบาย และได้ทำกิจกรรมร่วมกันในทริปครั้งนี้