บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนและเช็คราคา.คอม ร่วมเดินทางทดสอบสมรรถนะ
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ โดยขับจากกรุงเทพฯ สู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะทางกว่า 240 กิโลเมตร
นับเป็นการลองขับบนถนนจริงครั้งแรกกับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยฟูลไฮบริด e:HEV พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) แบบเดียวกับในรุ่น ซิตี้ อี:เอชอีวี ที่ออกมาก่อนหน้า แต่มีการปรับด้านความจุของแบตเตอรี่ให้มากขึ้นเพื่อรองรับตัวรถได้เหมาะสม สำหรับรุ่นขับทดสอบในครั้งนี่้เป็นตัวท๊อป RS ที่มีครบถ้วนทั้งฟังก์ชันและระบบช่วยเหลือ
การทดสอบ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ เป็นการกลับมาขับทดสอบกลุ่ม โดยรถ 1 คันต่อ 2 สื่อมวลชน ผู้เขียนที่เป็นตัวแทนจาก
คาร์กูรู ไทยแลนด์/เช็คราคา.คอม ได้ขับกับคุณบอย วรพล สิงห์เขียวพงษ์ สื่อรถยนต์ชั้นนำของวงการ ในรถหมายเลข 2 จากรถทั้งหมด 5 คันโดยสลับกันขับ รูปแบบการทดสอบเป็นแบบฟรีรันแต่นัดจุดเช็คอินเป็นช่วง โดยทยอยออกตัวกันที่ศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ช่วงเช้า 9.00 น. หลังจากผ่านการตรวจ ATK เรียบร้อย โดยใช้ทางพิเศษกาญจนภิเษก ต่อด้วยบูรพาวิถี มุ่งสู่พระราม 2 เพื่อไปเช็คอินจุดแรกที่ สตาร์บัคส์ สาขาพอร์โตโก้ ท่าจีน ตลอดเส้นทางส่วนใหญ่ต้องฝ่าการจราจรติดขัดของถนนพระราม 2 ผู้เขียนที่นั่งตำแหน่งผู้โดยสาร
ในช่วงแรกได้ลองเปิดบังแดดของหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof) ที่มีคนตั้งข้อสังเกตุเรื่องความร้อนไว้ แต่จากข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้นมีการเคลือบสารป้องกันความร้อนบนกระจกที่เป็นแบบ UV cut อยู่แล้ว ส่วนตัวที่ลองนั่งมาไม่ต่ำกว่า 1 ชม. ตัวรถรับแดดตลอดก็พบว่าไม่ได้มีไอความร้อนจากหลังคาเหมือนอย่างที่คิด แต่ถ้าป็นแดดช่วงเที่ยงลงโดยตรงแสงที่ทะลุมาก็อาจรบกวนจุดสะท้อนต่างๆ ภายในรถ จึงเลือกดึงม่านปิด อย่างไรก็ตามมีจุดสังเกตุที่ต้องเก็บไปถามทีมงานคือ ไม่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธระหว่างสมาร์ทโฟนกับเฮดยูนิตหน้าจอสัมผัส 8 นิ้วได้ แต่ถ้าใช้สายเพื่อต่อ Android Auto สามารถทำได้ จริงๆ รถยุคใหม่ก็มักเชื่อมต่อ Apple CarPlayและ Android Auto เป็นพื้นฐานเพราะสามารถใช้แอปพลิเคชั่นสำคัญอย่าง กูเกิ้ลแมพ, Spotify ฯลฯ หลากหลายและสะดวกกว่าบลูทูธแบบเดิมๆ
หลังจากเติมคาเฟอีนให้สดชื่นก็ทยอยออกเดินทางกันต่อเพื่อไปจุดเช็คอินที่ 2 ร้านชมวิวซีฟู๊ด หัวหิน พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน เสร็จสรรพกับมื้อกลางวันก็ได้เวลาสลับขับ ผู้เขียนย้ายมานั่งตำแหน่งคนขับการปรับตำแหน่งท่านั่งใหม่ ปรับสะดวกกับเบาะไฟฟ้า 8 ทิศทาง และวางโทรศัพท์ในช่องหน้าคันเกียร์ที่ระบบชาร์จไร้สายก็สมราคา 1,179,000 บาท
รุ่น e:HEV RS จุดเช็คอินต่อไปเป็นร้าน โฟว์ โฟว์ ไนน์ คาเฟ่ แอนด์บริสโท เพื่อถ่ายรูปก่อนเดินทางไปจบวันที่โรงแรมเดอะสแตนดาร์ด หัวหิน สำหรับการขับจริงอาจเป็นระยะทางไม่ไกลมาพออย่างที่ตั้งใจ และเป็นการใช้ความเร็วแบบต่อเนื่องเป็นส่วนใหญ่ มีจังหวะเร่งแซงและเข้าเมืองในช่วงท้ายบ้าง แต่ยังจับความรู้สึกเรื่องพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผัน (VGR - Variable Gear Ratio Steering) ไม่ได้ชัดเจนมากนัก แม้หลักการคือ เลี้ยวโค้งแคบเบามือ ทางตรงเลี้ยวโค้งยาวหน่วงมือขึ้น ส่วนมุมอื่นๆ อัตราเร่งทำได้น่าพอใจและดีสมตามสไตล์เครื่องยนต์พลังฟูลไฮบริด แต่ก็มีเสียงตอนเร่งเข้ามาให้ได้ยินจนรู้สึก จริงๆ การขับทดสอบก็มักไม่เล่นเพลงขณะขับเพื่อมีสมาธิในการจับความรู้สึกและฟังการทำงานต่างๆของระบบในรถได้ชัดเจนให้ได้มากที่สุด สำหรับสมรรถนะอัตราเร่งและการบังคับเลี้ยวทำได้น่าพอใจ และเบรกก็ยังหน่วงชะลอได้ระดับโอเคกับระดับความเร็วใช้งานทั่วไป
การใช้โหมดต่างๆ ECON-NORMAL-SPORT ให้การตอบสนองที่ต่างกันชัดเจนโดยเฉพาะระดับการหน่วงเวลายกคันเร่งเพื่อรีชาร์จระบบไฟ แน่นอนว่าการขับทางไกลบนถนนเปิดโล่งมากกว่าในเมืองเหมาะกับโหมดสปอร์ตที่ตอบสนองได้อย่างสนุกและเติมคันเร่งได้สมูธ การเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้นผู้เขียนที่เริ่มคุ้นเคยกับรถมากขึ้นขับได้อย่างเสมือนการใช้งานจริงมีเร่งทำควมเร็ว แวะเข้าถนนสายรองที่พื้นผิวไม่เรียบ ก็รู้สึกได้ว่าล้อขนาด 18 นิ้วกับยาง 225/50 ไม่ได้กระด้างอย่างที่คิด ตัวรถผ่านวิ่งผ่านถนนขรุขระได้สบายแบบไม่กระเทือนสะท้อนขึ้นมาเลย ต่างจากที่เรามักอัพใช้ล้อโอเวอร์ไซ้สกับรถทั่วไปเอง
สุดท้ายมาถึงที่ศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยตัวเลขสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนหน้าจอที่ 20.5 กม./ล. กับระยะทางรวมทั้งสิ้น 447 กม. นับเป็นจุดเด่นของรถยนต์ฮอนด้าที่ใช้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คือ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติขณะขับ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบ/นาที
การขับทดสอบของผู้เขียนอาจไม่ครอบคลุมทุกด้านอย่างที่ต้องการด้วยเวลาและเส้นทางที่จำกัด ไว้มีโอกาสนำมาทดสอบเองก็จะมารีพอร์ตให้ได้ทราบกันต่อไป อย่างไรก็ตามใครที่สนใจฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ก็ไปลองสัมผัสและขับรถทดสอบได้ที่โชว์รูมใกล้บ้านได้ การลองขับด้วยตนเองก่อนซื้อรถราคาเป็นล้านคือสิ่งสำคัญต่อการตัดสินใจจริงๆ ครับ
ถอย ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มีแคมเปญพิเศษด้านการบริการ
หลังการขาย** ได้แก่
• รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี
ไม่จำกัดระยะทาง
• ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 – 31 ธันวาคม 2564 รับดอกเบี้ย 2.59%** ฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมรับฟรีหน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCare Gen 2 สีขาว พร้อมสายรัดหน้ากากฟอกอากาศ มูลค่า 7,080 บาท