มาสด้า (Mazda) เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสคันจริงหลังจากเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ SUV แท้ "มาสด้า
CX-5 และ
CX-8 ใหม่" ไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมทาง แต่ไม่ได้จัดงานเพราะว่าติดเรื่องของสถานการณ์โควิด-19 ในวันนี้ทีมงานเช็คราคาได้มาชมตัวจริงของทั้ง 2 รุ่น พร้อมการบรรยายรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจะมาสรุปรวมออปชั่นและรุ่นย่อยต่าง ๆ ว่ามีความแปลงอย่างไรกันบ้างครับ
รถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมเพิ่มออปชั่นครบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ลดรุ่นย่อยลงเหลือ 4 ตัวเลือก พร้อมปรับราคาต่ำลงบางรุ่นถูกลง 90,000 บาท เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นครอบครัวหรือครอบครัวขนาดกลาง ด้วยวัสดุพรีเมี่ยมสุด ๆ มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 คุ้มค่ามากที่สุด เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 เทอร์โบ ทรงพลังแรงมากที่สุด และเครื่องยนต์คลีนดีเซล 2.2 แรงและประหยัดน้ำมันมากที่สุด เติมเต็มความคุ้มค่ามากกว่าเดิมด้วยการปรับราคาจำหน่ายใหม่เริ่มต้นเพียง 1.3 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยต่ำสุด 0% หรือดอกเบี้ย 1.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี หรือฟรี Mazda Care 3 ปี หรือโปรแกรมบำรุงรักษา ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และผลิตภัณฑ์ของเหลวที่ต้องเปลี่ยนถ่ายตามระยะทาง กับการอับเกรทออปชั่นเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ได้รถ SUV แท้ ๆ ที่คุ้มค่ามากที่สุด เช่น
ระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay® และระบบ Android Auto™ ด้วยหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander วัสดุตกแต่งภายในแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม หรือเบาะหนัง Nappa* สีแดง Deep Red ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาลเข้ม ในรุ่น 2.5 Turbo SP
ทุกรุ่นยังพร้อมกับไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันและไฟท้ายแบบ LED Signature ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus กุญแจนิรภัย สัญญาณกันขโมย และระบบล็อกและปลดล็อกประตูอัตโนมัติ กล้องมองหลัง ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense ที่มาพร้อมกับ NEW MAZDA CX-5
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-Keep Assist System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ แบบ Advance หรือ Advance SCBS (Advanced Smart City Brake Support)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
ออปชั่นแต่ละรุ่นต่างกันอย่างไรบ้าง
เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิกไดเร็คอินเจ็คชั่น รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 13.9 กิโลเมตร/ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ระบบเบรกมือไฟฟ้าระบบ Auto Hold
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED เปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำ แบบอัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Signature เ
- บาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า
- มาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อค พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
- กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ช่อง USB สำหรับชาร์จไฟด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลังอีก 2 ช่อง
- หน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว
- ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
- ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
เสริมสร้างภาพลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
- ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว
- หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
- มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล พร้อมจอแสดงผลแบบสีขนาด 7 นิ้ว
- ระบบบันทึกตำแหน่งสำหรับเบาะนั่งคนขับและเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า
- ระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
- ระบบแสดงภาพ 360 ̊ รอบทิศทาง
- เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense เช่น ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S)
เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ให้กำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD รวมถึงระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 16.1 กิโลเมตร/ลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ออปชั่นเหมือนกับรุ่น 2.0 SP)
เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร เทอร์โบ ให้พละกำลังสูงถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบเทอร์โบ แบบ Dynamic Pressure ระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Skyactiv-Drive
- มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษขนาด 19 นิ้ว
- เบาะหนัง Nappa* สีแดง Deep Red ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาลเข้ม
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าแบบสีดำเปียโน และสีเงินซาตินโครม รวมถึงวัสดุตกแต่งสวิตซ์ปรับเบาะ และที่เปิดกล่องเก็บของด้านหน้าแบบสีเงินซาตินโครม เพดานหลังคาสีดำ
- ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า Seat Ventilation
- กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบ
- ไฟอ่านแผนที่ ไฟห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระแบบ LED
- ไฟสร้างบรรยากาศบริเวณคอนโซลกลางแบบ Down Light
- ไฟส่องสว่างบริเวณที่วางเท้าหน้า-หลัง
- ไฟส่องสว่างในกล่องเก็บของด้านหน้า (เพิ่มเติมจากรุ่น XDL)
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ประกอบด้วย สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray) สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal) สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue) สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black) สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snow Flake White Pearl) และ สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
สำหรับครอบครัวที่กำลังมองรถอเนกประสงค์นุ่มนวล ปลอดภัย ขับสะดวกสบายสบายเทคโนโลยีเพียบพร้อม หรือเจ้าของธุระกิจที่ต้องใช้ในการเดินทางไปทำธุระต่าง ๆ และมีไลฟ์สไตล์ชอบการเดินทางท่องกับครอบครัวที่มีขนาดกลาง ๆ ไม่เกิน 4 - 5 คน CX-5 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในขณะนี้ แม้ว่าคู่แข่งในช่วงราคา 1 - 1.8 ล้านบาทมีให้เลือกมากมาย ด้วยราคาเมื่อเทียบรุ่นต่อรุ่นแล้ว CX-5 ใหม่ให้ออปชั่นที่คุ้มค่ากว่า
รถอเนกประสงค์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยม แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว พร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้นกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 ที่นั่ง Exclusive เบาะนั่งแบบ Captain Seat ทุกรุ่นมาพร้อม หน้าจอ Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และเพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ครบยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดตัว กับดอกเบี้ยต่ำสุด 0%1 หรือ 1.99%2, ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี3 หรือ ฟรี Mazda Care 3 ปี4 กดราคาจำหน่ายเริ่มต้นลงเหลือ 1.4 ล้านบาท
โดยเพิ่มเติมมาในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 SP Exclusive แบบ 6 ที่นั่ง โดยมาพร้อมที่นั่งแถวที่สองแบบ Captain Seat แยกอิสระซ้าย-ขวา สามารถปรับเอน และเลื่อนหน้า-หลังได้ พร้อมคอนโซลกลาง เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light แบบ LED Signature ทุกรุ่น เพิ่มความสะดวกสบายด้วย ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ทุกรุ่น หน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) มีใน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.5 S (แบบ 7 ที่นั่ง) รุ่น 2.5 SP (แบบ 7 ที่นั่ง) และรุ่น 2.5 SP Exclusive (แบบ 6 ที่นั่ง) มาพร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ที่ถูกพัฒนาให้สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างดีเยี่ยม ให้พละกำลังสูงถึง 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ในรุ่น XDL (แบบ 7 ที่นั่ง) และ XDL Exclusive (แบบ 6 ที่นั่ง) มาพร้อมระบบวาร์ลไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองรวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว และในรุ่น XDL Exclusive ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD* ที่ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร4 และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ระบบความปลอดภัย
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane-keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่เหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Alert)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถเบี่ยงออกนอกเลน (Lane Departure Warning System)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Smart City Brake Support-Reverse)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive LED Headlamps)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง เพื่อมอบความปลอดภัยสูงสุด
- 2.5 S SKYACTIV-G 2.5 แบบ 7 ที่นั่ง ราคา 1,499,000 บาท
- 2.5 SP SKYACTIV-G 2.5 แบบ 7ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
- ใหม่ 2.5 SP EXCLUSIVE SKYACTIV-G 2.5 แบบ 6 ที่นั่ง ราคา 1,639,000 บาท
- XDL SKYACTIV-D 2.2 แบบ 7 ที่นั่ง ราคา 1,799,000 บาท
- XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D 2.2 แบบ 6 ที่นั่ง ราคา 2,069,000 บาท
มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)
สำหรับคู่แข่งของ CX-8 นั้นจะเป็นรถระดับ PPV และ MPV ขนาดใหญ่ เพทาอครอบครัวขยายที่ชอบเดินทางมากกว่า 4 คนขึ้นไปบ่อย ๆ โดยระดับราคาของรถแบบ SUV/PPV ระดับนี้อยู่ราว ๆ 1. 3 - 1.9 ล้านบาท ส่วนรถแบบ MPV ก็ตั้งแต่ 2.1 ล้านบาทขึ้นไป มาสด้าจึงวางตำแหน่งเอาไว้เพื่อคร่อมทั้ง 2 ประเภท และด้วยความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ SUV แท้ ๆ ทำให้สมารรถนะการขับขี่ที่ดีกว่า นุ่มนวลและปลอดภัยมากกว่ารถยนต์ในประเภท PPV หลายรุ่น หากชอบรถขนาดใหญ่ ขับดี ปลอดภัย ระบบช่วยการขับขี่เยอะ นั่งสบายมีให้รุ่นที่นั่งแบบ Captain Seat มาสด้า CX-8 น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลยครับ