สำหรับใครที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ไว้ใช้ในครอบครัว ภายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 หรือ The 38th Thailand International Motor Expo 2021 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี โดยในปีนี้มากับแนวคิด มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์ (TIME to ENJOY!) ภายในงานก็ได้รวมรถอเนกประสงค์ รุ่นเด่นๆ ที่น่าใช้ในงานเอาไว้ให้คุณได้เลือกตามความชื่นชอบ และ งบประมาณ เพื่อให้คุณได้ชม, สัมผัส, ลองขับ และเลือกซื้อ ตามความพอใจ สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์อยู่งานนี้ไม่ควรพลาด
HAVAL
หลังจาก
GWM เข้ามาทำตลาดรถยนต์ในเมืองไทย ก็ได้เปิดตัวแบรนด์
HAVAL เป็นแบรนด์แรกโดยเป็นรุ่น
All New HAVAL H6 Hybrid SUV โดยจะมีให้เลือกกันอยู่ 2 รุ่นย่อย นั่นคือ
PRO และ
ULTRA พร้อมแคมเปญ Premiere Deal สุดพิเศษช่วงเปิดตัวด้วยดอกเบี้ยพิเศษพร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง กับแพ็กเกจบำรุงรักษานาน 5 ปี ทั้งยังมีบริการส่งมอบรถทั่วประเทศฟรี และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถจองและทดลองขับได้ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์
WWW.GWM.CO.TH พร้อมประกาศความพร้อมในการส่งมอบประสบการณ์แบบ Online-To-Offline
All New HAVAL H6 Hybrid SUV มากับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 243 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ Dedicated Hybrid Transmission ทำให้ All New HAVAL H6 Hybrid SUV มีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงสูงที่สุด ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 19.2 กิโลเมตร/ลิตร และยังมีโหมดการขับขี่รองรับได้ถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น โหมดมาตรฐาน/ โหมดสปอร์ต/ โหมดประหยัด/ โหมดสภาพถนนลื่น
สำหรับราคารุ่น
PRO อยู่ที่ 1,149,000 บาท และรุ่น
ULTRA ราคาอยู่ที่ 1,249,000 บาท แพงกว่ารุ่น PRO อยู่ 1 แสนบาท แต่จะได้อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกเป็นกระจังหน้าสีโครเมียม, ล้ออัลลอยปรับเป็นขนาด 19 นิ้ว พร้อมชุดซ่อมยางฉุกเฉิน, ระบบไฟตัดหมอกหน้า LED, กระจกมองข้างปรับ และพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว พับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ, หลังคาซันรูฟแบบ Panoramic เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ราคา All New HAVAL H6 Hybrid SUV PRO 1,149,000 บาท
ULTRA 1,249,000 บาท
หลังจากประสบความสำเร็จจากการเดินสายการผลิตและส่งมอบ All New HAVAL H6 Hybrid SUV รถยนต์รุ่นแรกที่ GWM ทำตลาดในไทย จนสามารถขึ้นครองอันดับ 1 ยอดขายรถยนต์คอมแพคเอสยูวีสูงสุดติดต่อกัน 2 เดือนซ้อนในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุด GWM ก็ส่ง
All New HAVAL JOLION Hybrid SUV คันแรกจากสายการผลิตภายในประเทศ ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีจากแบรนด์ HAVAL รุ่นที่ 2 ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ โดยคณะสื่อมวลชนและซัพพลายเออร์ ได้เข้าเยี่ยมชมภายในโรงงานเพื่อรับชมสายการผลิตอย่างใกล้ชิดในส่วนของ Body Shop และ General Assembly (GA) Shop พร้อมสัมผัสรถยนต์ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV คันแรกที่ออกมาจากสายการผลิตจากโรงงานระยอง อย่างใกล้ชิด
โดย
All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะแบบเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างทรงพลังและประหยัดน้ำมัน การออกแบบภายในภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit”
กับห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ที่มาพร้อมการตกแต่งแบบ Two Tone ตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์, สีเงิน, สีดำ และสีโครม มาพร้อมกับหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3 รวมไปถึง JOOX และระบบนำทาง ที่สามารถบอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊ม และ ห้างสรรพสินค้า
ราคา All New HAVAL JOLION Hybrid SUV
TECH 879,000 บาท
PRO 939,000 บาท
ULTRA 999,000 บาท
HONDA
ในขณะที่หลายๆ ค่าย ทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมตัวแต่งพิเศษทาง บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ก็ไม่รอช้าส่ง
HONDA รุ่น
CR-V BLACK EDITION ลงสู่ตลาดเพื่อตอกย้ำกระแสความนิยมและตำแหน่งผู้นำในกลุ่มรถสปอร์ตอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ หรือ L-SUV ที่ CR-V ครองส่วนแบ่งการตลาดในเซกเมนต์นี้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 กว่า 60.1% ด้วยการยกระดับความสปอร์ตขึ้นอีกขั้นกับภายนอกโทนสีดำประกอบด้วย ราวหลังคา, กันชนหน้าแบบสปอร์ต, กระจังหน้าโครเมียมรมดำ, คิ้วตกแต่งโครเมียมรมดำ และกันชนหลังแบบสปอร์ต, กระจกมองข้างสีดำ
นอกจากชุดแต่งที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วยังมีสัญลักษณ์พิเศษ BLACK EDITION ที่จะบ่งบอกความพิเศษของ CR-V เติมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำแบบสปอร์ต ภายในเติมเต็มอารมณ์ความสปอร์ตเข้มด้วยดีไซน์โทนสีดำ กับฟังก์ชันระดับพรีเมียม
ราคา CR-V BLACK EDITION 1,467,000 บาท
Honda พร้อมยกระดับด้วนการเปิดตัว
New HR-V e:HEV ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 2 เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ) มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทั้งไลน์อัป ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียมโดดเด่นในทุกมุมมอง
ยกระดับความสปอร์ตอีกขั้นกับรุ่น RS ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย มาพร้อมดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานกับเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้หลากหลายรูป พร้อมเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ที่โชว์รูมฮอนด้า
ราคา New HR-V e:HEV e:HEV RS ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,179,000 บาท
e:HEV EL ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,079,000 บาท
e:HEV E ราคาประมาณการต่ำกว่า 979,000 บาท
ข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 – 31 ธันวาคม 2564 รับดอกเบี้ย 2.59%** ฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมรับฟรีหน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCare Gen 2 สีขาว พร้อมสายรัดหน้ากากฟอกอากาศ มูลค่า 7,080 บาท
HYUNDAI
สำหรับแบรนด์ HYUNDAI ก็ได้เปิดตัว STARIA ที่มีดีไซน์ล้ำสมัย ประกอบกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่ปรับการใช้งานได้หลากหลายเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ในเซ็กเมนต์นี้ โดยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่ได้เปิดตัว โดยได้รับการออกแบบจากภายในสู่ภายนอก ที่เน้นการใช้งานและการปรับใช้พื้นที่ของห้องโดยสารเป็นหลัก โดยชื่อรุ่นนั้นเป็นการนำคำว่า Star แปลว่า ดวงดาว กับคำว่า Ria ที่แปลว่า สาดลงมาเหมือนสายธาร มารวมกันเพื่อสะท้อนแนวคิด โดยได้รับแรงบันดาลใจของการออกแบบ ที่หมายถึงการล่องลอยของยานอวกาศในหมู่ดวงดาว ตึงส่งผลมาถึงการออกแบบภายนอกประหนึ่งว่ารับแรงบันดาลใจของแสงที่กำลังส่องสว่างสาดโค้งจากเส้นขอบฟ้าของโลกเมื่อมองลงมาจากอวกาศ
และจากการออกแบบอย่างชาญฉลาดทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่เกิดจากการใช้ฐานล้อที่มีขนาดยาวที่สุดของรถยนต์ประเภทนี้ นั่นคือ 3,273 มม ทำให้มิติอยู่ที่ ยาว 5,253 มม กว้าง 1,997 มม สูง 1,990 มม. ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเมื่อต้องเข้าและออกจากรถ ด้านความปลอดภัย STARIA ยังให้ระบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมาแบบเต็มคัน สำหรับ STARIA มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย นั่นคือ S และ SEL
ราคา STARIA
S 1,729,000 บาท
SEL 1,999,000 บาท
ISUZU
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดตัว
ALL-NEW MU-X ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู ที่พร้อมขับเคลื่อนคุณไปสู่ความสำเร็จใหม่ได้ไม่สิ้นสุด เดินหน้าเพิ่มความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน
ล่าสุดเพิ่ม ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้าล่าสุด เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ในรถอีซูซุทุกรุ่นยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ “เตือนการรับบริการ” เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าในการเข้ารับบริการหลังการขายจากอีซูซุ
ราคา All-New MU-X 1,119,000-1,599,000บาท
LEXUS
เตรียมสัมผัส..ความรู้สึกแห่งอนาคตไปกับเจเนอเรชั่นใหม่ของยนตรกรรมสุดล้ำ
The ALL-New Lexus NX ครอสโอเวอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ครั้งแรกจากเลกซัส ที่มากับดีไซน์ใหม่หมดจดบนแพลตฟอร์มและขุมพลังเทอร์โบใหม่ที่จะยกระดับสุนทรียภาพการขับขี่ของคุณไปอีกขั้นด้วย Lexus Driving Signature
ติดตามความเคลื่อนไหวของการเปิดจองล่วงหน้า
ได้ที่นี่ MAZDA
Mazda บุกตลาด SUV ด้วยการเปิดตัว NEW CX-5 ที่มากับแนวคิดใหม่ พลังความสุข ที่เร้าใจทุกเส้นทาง พร้อมขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์ ด้วยเทคโนโลยีที่ใส่มาให้จนล้นคันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ผนวกกับดีไซน์ที่เรียบหรูสง่างามทุกมุมมอง ส่งมอบพลังแห่งความสุขที่เร้าใจไปทุกเส้นทาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วิถีชีวิตกับครอบครัว มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ นั่นคือ เบนซิน 2.0, เบนซิน 2.5 เทอร์โบ และ ดีเซล 2.2
ราคา New CX-5 1,320,000-1,830,000 บาท
โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน ตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เรียบง่ายแต่งดงาม ทั้งยังมากับระบบความปลอดภัยครบครัน กับระบบเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในสังคมยุคปัจจุบัน ในอดีต CX-5 ได้รับความนิยมจากลูกค้านับตั้งแต่ปรากฏโฉมเป็นครั้งแรก จนถึงปัจจุบันมียอดขายสะสมกว่า 8 ล้านคันทั่วโลก โดยในการเจนเนอเรชั่นนี้ CX-5 ยังคงมากับเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense เหมือนเช่นเคย
อีกรุ่นนึงคือ
NEW CX-8 ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่ง มากับแนวคิด
The Precious Moment for All ทุกช่วงเวลา...มีคุณค่าไม่สิ้นสุด ให้ความสะดวกสบายและตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว
โดยในทุกรุ่นมาพร้อม หน้าจอ Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และเพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ครบยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงมีความอเนกประสงค์ด้านการใช้งานตามที่คุณมองหา การปรับในครั้งนี้ เพื่อให้ CX-8 มีความครบครันตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย
การออกแบบภายนอกและภายใน ยังคงพิถีพิถันในทุกรายละเอียดดุจงานศิลปะชิ้นเอก ถ่ายทอดความงามที่อยู่เหนือกาลเวลา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรูหรา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม ใช้วัสดุแบบ Real Wood และตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม ผสานกับเบาะหนัง โดย New CX-8 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร กับเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร ที่อัดแน่นไปด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลกกับ i-Activsense ที่จะช่วยคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
ราคา New CX-8 1,499,000-2,069,000 บาท
New CX-3 คืออีกรุ่นที่
Mazda เปิดเกมส์บุกหนักตลาดครอสโอเวอร์เอสยูวี มาพร้อมสีใหม่
แพลตทินั่ม ควอตซ์ ให้ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลอิสระขึ้นอีกขั้น ด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หรือ Wireless Charger และรองรับระบบ Wireless Apple CarPlay ทุกรุ่น พร้อมความสะดวกสบายขั้นกว่า กับเบาะคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง ตอบรับชีวิตอีกระดับกับความพรีเมี่ยมของห้องโดยสารที่ออกแบบอย่างประณีต พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียด ขับสนุกคล่องตัวแบบเอสยูวี และแรงกว่าด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 156 แรงม้า ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน เพิ่มออฟชั่นเต็มคัน เพิ่มออฟชั่นใหม่ในทุกรุ่นย่อย ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่ 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Base, Base Plus และ Comfort แต่วางราคาจำหน่ายเท่าเดิม พร้อมสัมผัสและทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วงเปิดตัว กับดอกเบี้ย 1.33%1 และฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น
ราคา New CX-3 769,000-879,000 บาท
MITSUBISHI
Mitsubishi กลับมาสานต่อประวัติศาสตร์สายพันธุ์ตัวแข่ง RALLIART ด้วยการเปิดตัวรถ Pajero Sport ที่ได้เพิ่มรุ่น RALLIART เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของทีมแข่งแรลลี่ในอดีตอันโด่งดังและเป็นแชมป์มาหลายรายการ โดยจะเป็นการเพิ่มรุ่นย่อย ที่ได้รับการตกแต่งชุดพาร์ท RALLIART แท้จากญี่ปุ่นแบบทั้งคันจากโรงงาน และจำหน่ายพร้อมตัวรถ ไม่มีแยกขาย เพื่อต้องการให้เป็นรถรุ่นที่มีความพิเศษกว่าและเพิ่มเงินอีกประมาณ 4 หมื่นบาทเท่านั้น ในส่วน Mitsubishi Pajero Sport RALLIART ใช้พื้นฐานจากรุ่น GT-Plus มาพร้อมระบบขุมพลังครีนดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร เกียร์ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง
ความสะดวกสบายมีให้ครบครันทั้ง แอร์อัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้ายและขวา มาตรวัดขนาด 4.2 นิ้ว เมนูภาษาไทย พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมแพดเดิ้ลชิฟ กระจกขึ้น-ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา เป็นต้น
Mitsubishi Pajero Sport RALLIART ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง RALLIART ดังนี้ ชุดแต่งกันชนหน้าและหลัง, ชุดตกแต่งบังโคลนซุ้มล้อ, พรมปูพื้น, แผ่นกันโคลน, สติ๊กเกอร์ด้านข้างและโลโก้ RALLIART นอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมอีกได้แก่ กระจังหน้า ไฟหน้าพร้อมแถบสีดำ ล้ออัลลอยสีดำ หลังคา ราวหลังคา เสาอากาศครีบฉลาม และสปอยเลอร์สีดำ มีให้เลือก 2 สี คือ White Diamond/Black Roof และ Jet Black Mica
ราคาจำหน่าย Mitsubishi Pajero Sport RALLIART รอประกาศภายในงาน Motor Expo 2021
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เข้าใจดีถึงความต้องการดังกล่าวของเหล่าบรรดาคุณพ่อสมัยใหม่ จึงได้เปิดตัว Xpander Special Edition รถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับคุณพ่อสมัยใหม่ในแบบคูลๆ โดยล่าสุดได้มีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมและปรับแต่งดีไซน์ให้มีความเหนือระดับมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยความสปอร์ตแบบพรีเมียม ความแข็งแกร่ง และความโฉบเฉี่ยว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม สะกดทุกสายตาด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสีดำ อาทิ กระจังหน้า, ชายกันชนหน้าและหลัง, กระจกมองข้าง, คิ้วขอบกระจกประตู, คิ้วตกแต่งชายกันชนข้าง, และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถพร้อมกรอบรองที่จับประตู, ที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย, ระบบความบันเทิงรุ่นใหม่พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมติดตั้งสัญลักษณ์ Xpander บนฝากระโปรงหน้า ที่ช่วยยกระดับเอกลักษณ์การดีไซน์ Advanced Dynamic Shield ให้มีความโดดเด่นและหรูหรามากยิ่งขึ้น Xpander Special Edition มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Spirit Red, สี Jet Black Mica และสีQuartz White Pearl
สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์รุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัฤกษ์
NISSAN
Nissan เปิดตัว
TERRA ในไทยเมื่อปี 2018 ล่าสุดก็ถึงเวลาส่ง
NEW TERRA ลงสู่ตลาดโดยได้รับการปรับดีไซน์ให้ดูโมเดิร์นขึ้น และดูพรีเมียมขึ้นกว่าเดิม โดยระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์คุณภาพสูงรวมถึงระบบความปลอดภัยที่ถือว่ากว่ารถยนต์อเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน ในด้านดีไซน์มีการมีการปรับใหม่ตามแนวคิด Unbreakable Design ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา
ด้านหน้ามีการปรับให้กระจังมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เส้นโครเมียมแนวนอนบริเวณด้านในกระจังช่วยเสริมให้ดูหรูหรา รับกับเส้นสายที่ต่อเนื่องจากฝากระโปรงหน้าของรถ ด้านล่างของตัวรถมีการเสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่างที่เป็นสีเงิน ตามสไตล์ SUV ไฟหน้าเป็นดีไซน์ใหม่แบบ Quad LED 4 ดวง ที่ให้ความสว่างมากกว่าแบบเดิมถึง 34% ด้านท้ายได้รับการออกแบบใหม่หมด
ส่วนภายในนั้นใส่ใจทุกรายละเอียดของการใช้งาน โดยเน้นให้ความสะดวกสบาย จากการออกแบบแถวที่นั่งแบบ Theatre Style Seating ที่จะไม่บดบังทัศนวิสัยของผู้ขับ และทำให้ผู้โดยสารแถวที่ 2 รู้สึกโปร่งโล่งสบาย เบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับได้แบนราบ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่
อีกทั้งห้องโดยสารยังได้มีการเพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวนทุกจุดสำคัญของโครงสร้างของรถ ถือเป็นรถรุ่นเดียวในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ระดับเดียวกันที่มีการติดตั้งกระจกตอนหน้า และประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อให้ผู้โดยสารสัมผัสได้ถึงความเงียบสบายในห้องโดยสารอย่างแท้จริง โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย E 2WD, VL 2WD และ VL 4WD
ราคา New Terra 1,199,000-1,499,000 บาท
PEUGEOT
เปอโยต์ ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์
เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่
The All-New 2008 SUV ยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับคนพันธุ์ใหม่ หัวใจพรีเมียม ภายใต้คอนเซ็ปต์
UNCAGE THE LION IN YOU ปลดปล่อยตัวตนที่เป็นคุณ มากับดีไซน์โดดเด่น เข้มและเฉียบคมทุกมิติ ด้วยตัวถังกะทัดรัด เน้นรายละเอียดการดีไซน์ ตามสไตล์ยนตรกรรมจากฝรั่งเศส การันตีความเฉียบคมด้วยรางวัล Red Dot Design Awards ปี 2020 สะท้อนความเป็นสิงห์ผยองทุกมุมมองไฟหน้า-ไฟท้ายแบบฟูลแอลอีดี พร้อมเดย์ไทม์รันนิงไลท์แนวตั้ง คล้ายเขี้ยวสิงโต กระจกหน้าเอนลาด ทำให้รถดูสปอร์ต ตัวถังด้านข้างเน้นเหลี่ยมสัน เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยลูกเล่นบริเวณเส้นข้างประตู ดูบึกบึนและสะดุดตายิ่งขึ้น ขณะที่ไฟท้ายดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) ตัดกับคิ้วสีดำเงาอย่างลงตัว ปิดท้ายความเท่ด้วยชุดท่อไอเสียแบบคู่ พร้อมล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว
The All-New 2008 SUV เป็นรถยนต์รุ่นแรกและรุ่นเดียวในเซ็กเมนท์ ที่มีห้องโดยสารสุดไฮเทค i-Cockpit ที่ผ่านการปรับปรุงให้พิเศษเหนือระดับ กับเทคโนโลยี 3D i-Cockpit เป็นเฮด-อัพดิสเพลย์ 3 มิติ ลอยขึ้นมาอยู่ใกล้สายตาผู้ขับมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความฉับไวในการตอบสนองของผู้ขับ ยกระดับความปลอดภัยไปอีกขั้น ขณะที่พวงมาลัยขนาดกะทัดรัด Compact Steering Wheel ควบคุมง่ายและให้ความรู้สึกกระชับ ติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 7 นิ้ว กลางแดชบอร์ด แสดงผลได้หลากหลายและคมชัด เมื่อมองต่ำลงมาก็พบกับ 7 สวิตช์ทรงก้านเปียโน ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android Auto รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออันทันสมัย
The All-New 2008 SUV ราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว 1.189 ล้านบาท พร้อมรับ Peugeot Vale Care Package ฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร เปอโยต์ ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์
เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัว
5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ใหม่ ยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปรับโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวและดูทันสมัยยิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์
THE SPACE OF HAPPINESS โดย เปอโยต์ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ใหม่ ถูกปรับให้ดูชัดเจนและทันสมัยยิ่งขึ้น สะดุดตากับกระจังหน้าแบบไร้กรอบ (frameless grille) สวยงามล้ำสมัยและให้ความรู้สึกใหลลื่น เพิ่มความชัดเป็นเส้นครีบทอดยาวใต้ไฟหน้าแบบฟูลแอลอีดี ที่สามารถทำงานเป็นไฟตัดหมอกได้ในตัว (Foggy Mode) โดยเมื่อผู้ขับเปิดไฟตัดหมอกหลัง ไฟหน้าจะติดอัตโนมัติด้วยระดับความเข้มของแสงที่ต่ำกว่าปกติ ขนาบข้างด้วยเดย์ไทม์รันนิงไลท์แนวตั้งคล้ายเขี้ยวสิงโต เพิ่มความสปอร์ตด้วยช่องดักลมสีดำบนกันชนหน้า ขณะที่ปลายฝาประโปรงหน้า ติดตั้งตัวนูน ‘5008’ ระบุรุ่นชัดเจน พร้อมราวหลังคาดีไซน์ใหม่ ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น
ไฟท้ายแบบฟูลแอลอีดี (รวมไฟถอยหลัง) สะท้อนกรงเล็บสิงโต (lion claws) ได้อย่างทรงพลัง พร้อมไฟเลี้ยวแบบไล่ระดับ ครอบแผงไฟท้ายทั้งหมดด้วยกระจกรมดำ ยาวจรดตัวถัง 2 ฝั่ง ช่วยให้รถดูกว้างขึ้นเมื่อมองจากด้านหลัง
ห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 2 สามารถพับได้อิสระและแบนราบ เช่นเดียวกับเบาะแถว 3 ที่มาพร้อมความพิเศษยิ่งขึ้น โดยสามารถยกเบาะออกได้เมื่อไม่ใช้งาน เพื่อเพิ่มความจุในการบรรทุกสัมภาระ ที่สามารถปรับได้ตั้งแต่ 780 ลิตร ถึงสูงสุด 1,940 ลิตร และหากขยับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าไปให้สุด ก็สามารถจุสัมภาระที่มีความยาวสูงสุดถึง 3.20 เมตร ขับเคลื่อนเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร ทวินสกรอลล์เทอร์โบ 167 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,000 รอบ/นาที สูงสุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ช่วยให้มีอัตราเร่งดีและใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า ส่งกำลังอย่างนุ่มนวลและฉับไว ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Electric Impulse พร้อม Advanced Grip Control กับ 5 โหมดการขับ (Normal-Snow-Mud-Sand-ESP Off) ผสานหลายระบบช่วยเหลือผู้ขับ
เปอโยต์ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ใหม่ ราคาพิเศษแนะนำ 1.869 ล้านบาท
SUBARU
New XV EyeSight เตรียมพร้อมเผยโฉมรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กของ
Subaru ที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย EyeSight ดวงตาที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความท้าทายและรักการผจญภัย มีกำหนดเปิดตัว และพร้อมให้ทดลองขับในงาน ในงาน Motor Expo 2021 นี้
TOYOTA
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งรถ Sub-Compact SUV อย่าง
C-HR รุ่นรุ่นปรับปรุงใหม่ โดดเด่นด้วย สีภายนอกใหม่ โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นกับ 2 ทางเลือกสีหลังคาใหม่ Black roof หรือ Silver roof กับราคาสุดคุ้ม อีกทั้งยังมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก และ T-Connect ทำให้รถทุกรุ่นคุ้มค่าแก่การเป็นเจ้าของยิ่งขึ้น
โดย C-HR เป็นรถที่ประสบความสำเร็จ และได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี นับตั้งแต่เปิดตัว โดยในรุ่นปรับปรุงใหม่นี้จะได้รับการติดตั้ง ระบบ All-speed Dynamic Radar Cruise Control ที่จะควบคุมและปรับลดระดับความเร็วได้ถึง 0 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า พร้อมระบบ Lane Tracing Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน กับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple Car Play โดย C-HR มากับระบบ 4th Generation Hybrid ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ กับเกียร์ E-CVT
ราคา C-HR HV Premium Safety 1,139,000
อีกรุ่นก็คือ
FORTUNER ก็ส่ง
LEGENDER และ
GR SPORT จากการเป็นรถอเนกประสงค์ที่เป็นที่นิยมในตลาดยาวนานถึง 9 ปี ติดต่อกันและด้วยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นจะช่วยให้ FORTUNER ครองความเป็นผู้นำเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นความปลอดภัยอันล้ำสมัย
และยังมีรุ่น
FORTUNER GR SPORT ที่ถูกปรับให้โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงช่วงล่างก็ปรับให้เหมาะสมกับการขับขี่ทั้งในเมือง และการขับแบบออฟโรด กับโช้คอัพแบบโมโนทูบ ที่ปรับจูนเป็นพิเศษ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความรู้ทางเทคนิคจากการพัฒนารถแข่ง WRC จากทีม TOYOTA GAZOO RACING ทำให้ GR SPORT ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดในรุ่น ภายนอกสะท้อนความเป็น Sport Premium PPV พร้อมสัญลักษณ์ GR กับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีพิเศษเฉพาะรุ่น GR SPORT ภายในโดดเด่นในทุกมุมมองด้วยการใช้โทนสีดำสลับแดง
ราคา Fortuner 1,351,000-1,636,000 บาท
ราคา Fortuner GR Sport 1,879,000 บาท
พบกับรถอเนกประสงค์ รุ่นเด่นที่น่าใช้ภายในงาน Motor Expo 2021 นี้ พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย ถ้าสนใจก็แวะเวียนไปดู และทดลองขับ รวมถึงขอรายละเอียดและโปรโมชั่นได้ตามบูธของบริษัทรถแบรนด์ต่างๆ ที่จัดแสดง ภายในงาน Motor Expo 2021 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2564