Toyota Hilux Revo GRsport ช่วงล่างใหม่สปอร์ตหนึบกว่ารองรับ 204 ม้า

Toyota Hilux Revo GRsport รถกระบะรุ่นพิเศษตกแต่งภายนอกรอบคันด้วยการออกแบบกันชนกับกระจังหน้า สติ๊กเกอร์รอบคัน สัญลักษณ์ GR และ GR Sport บริเวณด้านข้างและประตูท้าย ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่แบบ GR Sport กุญแจรีโมท Smart key ดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น GR Sport กันชนหน้าพร้อมชุดตกแต่ง และกันชนหลังสีดาเมทัลลิก  

ภายในดีไซน์สปอร์ตโทนสีดำสลับแดง ตกแต่งด้วยสี Smoke silver พร้อมสัญลักษณ์ GR ให้ความรู้สึกสปอร์ตสไตล์รถแข่ง แถมด้วยเบาะนั่ง Suede แบบเจาะรู และหนังสังเคราะห์เดินด้ายตกแต่งสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR ปุ่มสตาร์ทสัญลักษณ์ GR พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต พร้อมหน้าปัด และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push start พร้อมสัญลักษณ์ GR แป้นคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต แต่ว่ากระจกมองหลังยังปรับหลบแสงด้วยมือ 

ระบบความปลอดภัยระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) และเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เป็นต้น

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.8 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสุดมัน 500 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift พร้อมระบบัขบเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือกใช้งานแบบ "ลุย" ได้ในคันเดียว ระบบช่วงล่างครั้งนี้ถูกปรับปรุงใหม่ โช้คแอพซอพเบอร์ใหม่แบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรกมีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์สีแดง และสัญลักษณ์ GR  

สมรรถนะของไฮลักษ์ รีโว่ จีอาร์สปอร์ตจัดเต็มทั้งกำลังเครื่องยนต์ระดับ 204 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร การออกตัว เร่งแซง ขึ้นทางชันหรือแม้จะบรรทุกหนักนั้นสบายมีพลังเกินพอใช้งาน แม้จะใช้โหมดการขับขี่แบบปกติ ก็ขับสนุกแล้วครับ เติมคันเร่งไม่ต้องลึกมากรอบเครื่องกวาดขึ้นไว้ และไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย ระบบเกียร์ 6 สปิดก็เพียงพอใช้การขับขี่แล้ว ช่วงเปลี่ยนเกียร์ราบรื่นไม่รอนาน และได้ทดลองอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ใช้เวลาราว ๆ 10 - 11 วินาที (ขึ้นกับสภาพถนนที่ทดสอบ) นับว่าให้กำลังมาเกินการใช้งานเลยทีเดียวครับ

ระบบช่วงล่างต้องยอมรับว่า "หนึบและแน่น" ขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงเข้าโค้ง เปลี่ยนช่องทางอย่างกระทันหัน มีอาการโยนหรือเหวี่ยนน้อยลงกว่ารุ่นที่เคยทดสอบ (Revo Rocco 2.8) เมื่อช่วงล่างกระชับส่งผลให้การควบคุมพวงมาลัยแม่นยำขึ้นอีกนิด แต่ก็ต้องแลกกับความกระด้างขึ้นเช่นกัน เมื่อช่วงล่างที่แข็งและหนืดขึ้น ในการขับขี่ความเร็วต่ำ ๆ ผ่านถนนคอนกรีตมีอาการดีดและเด้งอย่างชัดเจน ถ้าเป็นผู้ขับอาจรู้สึกถึงความดิบ ๆ สนุกและได้อารมณ์รถแข่ง แต่ถ้าเป็นผู้โดยสารอาจจะมีอาการจุกบ้างเวลาตกหลุดมหรือกระโดดคอสะพาน

นอกจากช่วงล่างจะช่วยให้การทรงตัวดีขึ้นแล้ว การเบรกหนัก ๆ ก็ช่วงทำให้อาการของรถโยนตัวไปทางด้านหน้าน้อยลง และขอเน้นว่าระบบเบรกนุ่มเท้ามากขึ้น (ไม่แน่ว่าถูกปรับอะไรบ้างนอกจากพ่นสีแดง) เมื่อใช้น้ำหนักในการเหยียบน้อยแต่นุ่มและเนียน โดยส่วนตัวนั้นให้ความรู้สึกคล้าย ๆ รถยุโรป แต่ในเรื่องของน้ำหนักพวงมาลัยที่ความเร็วต่ำนั้น หนัก-หนืด-และหน่วงเช่นเดิม ด้วยระบบผ่อนแรงแบบไฮดลอลิกส์ที่ไม่สามารถทำให้เบาได้แบบระบบไฟฟ้าแถมต้องโหนล้อโตขนาด 18 นิ้วอีกด้วย ทำให้เมื่อขับในระยะเวลานาน ๆ มีอาการเมื่อยหัวไหล่อยู่บ้าง แต่เมื่อขับความเร็วสูงขึ้นกลับมีน้ำหนักที่ดีไม่ไวเกินไปและไม่ต้องคอยเกร็งมือมากนัก

นอกจากความแรงของเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างที่แน่นกระชับขึ้นแล้ว ยังมีระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่แบบจัดเต็มสุดเริ่มที่ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเตือนมุมอับสายด้านข้าง ระบบเตือนออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ และระบบที่ช่วยในการขับขี่ทางไกลให้สบายขึ้นคือ ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามรถคันหน้า ที่เรียกว่าเกือบจะขับแบบอัตโนมัติแล้ว แค่ควบคุมพวงมาลัยเท่านั้น นับว่าให้ความปลอดภัยเกินมาตรฐาน และพร้อมด้วยความสะดวกสบายด้วยจอกลางแบบสัมผัสเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนรองรับ Apple Carplay/Android auto แอร์อัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา และช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง  

หากต้องการรถกระบะ 204 แรงม้าที่ขับสนุกทุกย่านความเร็ว มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน ช่วงล่างอัพเกรดใหม่ช่วงล่างปรับดีขึ้น เกาะถนนและหนึบขึ้น ระบบความปลอดภัยเต็มคัน แบบไม่กั๊ก ใช้งานได้ทุกสภาพถนนทั้ง "ทางเรียบ" และ "ทางลุย" ครบในคันเดียว และเป็นรุ่นพิเศษ GRsport ที่เน้นสมรรถนะมากขึ้น แม้จะไม่ใช่คันใหญ่ที่สุด ช่างล่างเทพที่สุดแต่ Toyota Hilux Revo GRsport ขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็มีสมรรถนะอยู่ในระดับหัวแถวค่าตัว 1,299,000 บาท นับว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ยังไม่สูงเกินไปนักครับ