รีวิว Suzuki XL7 ใช้จริง! ขนจริง! นอนจริง!... คุ้ม! เกินราคาแค่ 7 แสน...

ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่หลายคนอาจต้องคิดหน้าคิดหลังกันซักเล็กน้อย จะซื้อของกินของใช้ต้องจัดมาแบบคุ้มๆ หรือไม่ก็ต้องใช้งานได้จริงให้คุ้มเงินที่เสียไป เช่นการซื้อของชิ้นใหญ่ๆ ยิ่งต้องคิดให้มากกว่าเดิมหลายเท่า จริงไหมละคะ? รีวิวครั้งนี้เรามีอีกตัวเลือกสำหรับคนงบน้อย แต่อยากได้รถครบครัวคันใหญ่ เลยขอจับ Suzuki XL7 รุ่น GLX มาลองขับกันแบบใช้งานจริง! ให้เห็นข้อดีของการมีรถยนต์ครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งกับราคาแค่ 779,000 บาท จะตอบโจทย์สายชิค สายเที่ยว สายบ้าหอบฝาง หรือสายแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์อย่างไร? เราจะพามา ใช้จริง! ขนจริง! นอนจริง! กับ Suzuki XL7 รุ่น GLX คันนี้...

สำหรับ Suzuki XL7 รุ่น GLX ซึ่งเขาก็มีอยู่รุ่นเดียวค่ะ ก็ไม่ต้องไปปวดหัวกับการเลือกรุ่นท๊อป หรือรองท๊อป เพราะคันนี้จัดมาครบครันแบบไม่ต้องพูดมาก โดยภายนอกให้อารมณ์แข็งแรงบึกบึน ถ้าเป็นสาวๆ ที่ชอบลุย ชอบรถเท่ๆ ก็ถือว่าไม่เลวสำหรับการดีไซน์ของพี่ซูรุ่นนี้ เพราะขนาดที่เขาปรับสูง กระจังหน้ารมดำรับกับกรอบแบบโครเมียม ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟเดย์ไทม์ ไฟตัดหมอกกรอบดำหุ้มแยกชิ้น มองดีๆ ก็หล่อ เท่ไม่เบา แถมเสริมชุดโป่งล้อรับกับล้ออลูมิเนียมทูโทน ขนาด 195/60 R16 เสริมบาร์ด้านบนหลังคา พร้อมชุดแต่งเท่ ไม่ต้องไปแต่งเติมมากมาย เพราะคันนี้เสริมหล่อมาให้รอบคัน มองด้านข้างดูเป็นรถคันใหญ่ มองท้ายอาจดูว่าภายในอาจจะเล็ก แต่สำหรับผู้เขียน "มัน ไม่ เล็ก นะจ๊ะ" ขับไปไหนก็ไม่ขี้เหร่ สวย สปอร์ต ทันสมัย และดูลุยๆ สำหรับสาวๆ หรือรถครอบครัวแค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ

เข้ามาภายในที่ผู้เขียนอยากขายของจริงๆ เพราะนี่คงเป็นโอกาสให้เราได้ออกแบบท้ายรถเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือแบบแคมปิ้งน่ารักๆ สายเที่ยวเดี่ยวๆ ในโหมด Stand Alone คงชอบเพราะมันได้ความเป็นส่วนตัวเพราะ "คุณลูกค้าขา คุณลูกค้าขา" เบาะหลังสุดเขาพับลงได้ 50:50 ค่ะ และเบาะที่นั่งตรงกลางอีก 60:40 ซึ่งเบาะกลางสามารถขยับเลื่อนขึ้นไปข้างหน้า แถมรถยังออกแบบมาให้รู้ใจ ในส่วนที่นั่งท้ายสุดทั้ง 2 ข้างจะมีที่วางแก้วน้ำตรงที่วางแขนพอพับเบาะแบบปรับนอนมันก็สามารถวางแก้วน้ำ วางไอแพด ได้สบายๆ แถมที่นั่งตอนหลังด้านบนเขามีพัดลมระบายอากาศที่สามารถปรับความแรงลมได้ถึง 4 ระดับ แต่อาจต้องสตาร์ทรถไว้เพื่อใช้ไฟนะจ๊ะ หรือถ้าใครมีอุปกรณ์ที่เพาเวอร์แบ้งค์ของคุณมีกำลังวัตต์สูงๆ ก็พกมาใช้เสียบสายไฟเพิ่มอรรถรสให้บรรยากาศห้องนอนท้ายรถของคุณได้แบบฟินๆ 

ผู้เขียนเลยอยากลองจักแจงเปลี่ยนบรรยากาศจัดที่นอน หมอนมุ้ง ตกแต่งให้ท้ายได้ฟิลลิ่งใหม่ เหมือนออกไปปิคนิค พร้อมด้านหลังมีช่องชาร์จไฟ 12v ที่ให้เราเสียบสายต่อกับอุปกรณ์ที่สามารถเสียบหัวเข้ากับตัวชาร์จในรถได้ อำนวยความสะดวกให้คุณได้เสียบโคมไฟ เหมือนอยู่ในห้องเล็กๆ แต่อบอวนด้วยความสบายและกลิ่นอายแคมป์ปิ้ง เนรมิตท้ายรถเจ๋งๆ เป็นที่นอนสุดคูลก็ไม่เลว ที่สำคัญเมื่อเป็นรถที่พับเบาะได้ ก็สามารถที่จะปรับ ยัด ขน ย้าย เท่าที่รถจะรับน้ำหนักไหว 

ในส่วนคอนโซล Suzuki XL7 ตกแต่งสไตล์สปอร์ตลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม สำหรับความ Entertain ก็มาพร้อมกับจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ใช้งานง่ายเพราะเป็นภาษาไทยตัวโต สามารถเชื่อมต่อสมาท์โฟน ผ่าน Bluetooth รองรับ Apple Car Play ของ iOS จะเชื่อมต่อง่ายอีกทั้งยังสามารถต่อ HDMI จากมือถือที่เป็น iOS เสียบสายเข้ากับจอภาพของรถเพราะเขามีช่องเสียบเอาไว้รองรับ ภาพจากมือถือก็จะไปปรากฎบอกจอของรถทันที  Android Auto ก็มีแต่ผู้เขียนลองใช้งานดูจะหลุดบ่อยไปนิด ลำโพงภายในมีทั้งหมด 6 ตัว ฟังเพลงได้สบายๆ อีกทั้งพวงมาลัยเป็นมัลติฟังก์ชั่น กดรับสาย เลือกต่อบลูธูทก็ทำได้ ไม่ต้องละสายตาหากใครโทรเข้า 

สำหรับหน้าจอแสดงผลหลังพวงมาลัยมีขนาด 7 นิ้ว แบบ LCD มาตรวัดยังเป็นแบบเข็ม แต่มีช่องแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบดิจิตอล ตรงกลาง เป็นการผสมผสานที่ไม่เลว และแสดงผลค่าต่างๆ ครบครัน พวงมาลัยเป็น D-Shape ปรับระดับขึ้น - ลง ได้ แต่สำหรับผู้หญิงตัวเล็กในท่านั่งอาจมีปัญหาเล็กน้อย เพราะตัวเบาะที่ถูกปรับให้ดันขึ้นเพื่อให้เราเห็นนอกรถนั้น ปลายเบาะดันช่วงหัวเข่า ทำให้นั่งไม่ค่อยสบายเท่าที่ควร การขับขี่ทางไกลอาจเมื่อย จำเป็นที่จะต้องแวะพักยืดเส้น ยืดสายบ้าง แต่ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าใจเราอยากไป 

สำหรับเครื่องยนต์และสมรรถนะ เป็นเครื่องยนต์ K15B 1500 ซีซี 4 สูบ 16 วาวล์ 105 แรงม้า เกียร์อัติโนมัติ 4 สปีด แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที สำหรับช่วงล่างกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ แม็กเฟอร์สัน สตรัท ส่วนด้านหลัง แบบทอร์ชั่นบีม ความสูงใต้ท้องรถ 200 มิลลิเมตร ก็อยู่ในระดับกลางที่เหมาะกับการใช้งานได้แบบชิล หรือจะใช้บรรทุกขนสินค้า ยัดๆ แบบสาวๆ ที่บ้าหอบฝาง หรือถ้าคุณเปิดร้านแล้วต้องส่งของจำนวนมากๆ Suzuki XL7 เขาก็ไม่อิดออดให้เราพับและยัด เข้าไปจุกๆ จนอิ่ม ด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองใช้งานขับขี่ในเมือง และลุยแบบออฟโรดนิดๆ ถือว่าค่อยเป็น ค่อยไป บวกทักษะผู้ขับขี่เข้าไปหน่อย Suzuki XL7 ก็ทำได้ดี

ในเรื่องการออกตัว สำหรับซูซูกิขึ้นชื่อว่าทำอัตราทด เกียร์ 1 มาได้ดีทุกรุ่น การออกตัวปรู๊ดปร๊าด ใครขี้ตกใจอาจต้องแตะเบาๆ แต่ในจังหวะที่ความเร็วลดลงและต้องการจะเรียกกำลังขึ้นมาใหม่ อาจจะไม่ได้ดั่งใจขาแซงเพราะตอนเร่งแซง รอรอบเยอะแบบจับอาการได้ชัด อาจต้องกดมิดถึงเค้นออกมา แต่ปลายก็วิ่งสบาย ขึ้นเขาถ้าไปเรื่อยๆ ไม่แซงใคร ชอบชมนกชมไม้เอื่อยๆ ก็ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับรถราคาเท่านี้ 

สำหรับหมิวมองว่า Suzuki XL7 ถ้าเทียบกับราคาแค่ 779,000 บาท มันคุ้ม! มากกกก เครื่องเสียงจอใหญ่ ที่นั่งพับได้ อาจจะไม่ได้สบายที่สุดแต่คนขายาวๆ อาจจนั่งสบาย ช่องเก็บของ สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ตอบโจทย์หลายๆ จุด ที่พักแขนหรือช่องเก็บของตรงกลางขยับเลื่อนได้ ด้ายท้ายมีช่องเก็บอุปกรณ์ มีระบบปรับอากาศที่นั่งด้านหลัง ใครที่งบน้อยถือว่าตอบโจทย์ ถึงจะไม่ได้ดีที่สุดสำหรับบางคน แต่มันมีครบครันเพียงพอต่อการใช้งานในราคาไม่ถึง 8 แสน 

และรูปลักษณ์ภายนอกก็ไม่ขี้เหร่ เหมาะกับการเดินทางได้ทุกรูปแบบ แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปลุยปีนหิน ขึ้นเขา แบบออฟโรดจ๋าก็ดูจะหนักเกินไป ก็ยังเป็นครอสโอเวอร์เท่ๆ จุๆ คุ้มๆ สำหรับใครที่กำลังมองรถครอบครัวราคาประหยัด ไว้พิจารณาเป็นทางเลือกสำหรับรถประจำตัวก็ถือว่าไม่เลวนะคะ ในเรื่องอัตราการประหยัด สำหรับ SUZUKI XL7 คันนี้ เฉลี่ยแล้วได้ราวๆ 11.3 กม./ลิตร (อาจมีเร่งแซง เร่งความเร็วขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่) ถ้าเทียบกับราคาที่ให้มา ขอให้ 8.5/10 เพราะมันคุ้มจริงๆ คุ้มกันชนิดที่ว่าจำหน่ายเกินเป้าที่ทาง ซูซูกิตั้งเป้าไว้เลยค่ะ ใครสนใจอยากลองหรือกำลังเปรียบเทียบกับรุ่นๆ อื่นๆ ลองมองงบ และปัจจัยในการใช้งานของคุณว่าเหมาะสมจะไปค่ายไหน ที่สำคัญมองแต่ตาไม่ได้ อาจจะต้องลองไปสัมผัสกันที่โชว์รูม Suzuki XL7 มีทั้งหมด 4 สี ส้ม, ดำ, เทา, และขาว (เพิ่มเงิน 5,000 บาท) เห็นของจริงก็น่าจะฟินได้มากกว่า จริงไหมละค่ะ