รีวิวเจาะลึกน้ำมันเครื่อง Shell Helix HX7 Diesel คู่แกร่งของรถเครื่องยนต์ดีเซล
รถยนต์มีความจำเป็นต้องดูแลรักษาตามระยะทางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรถกระบะที่ใช้งานหนัก ๆ วิ่งรอกบรรทุกของหนัก เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ หรือในสภาพการจราจรติดขัด เครื่องยนต์ยิ่งต้องการตัวช่วยในการปกป้องให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหลายเท่า และในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจแบบนี้ จะมีวิธีการดูแลรถกระบะคู่ใจอย่างไรให้อยู่กับเราไปนานๆ และทำงานได้ดีเหมือนเดิม แต่ถ้าหากรถกระบะเริ่มมีอาการเร่งอืด ควันดำ กินน้ำมัน หรือไม่ไหลลื่น สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพหรือใช้เกรดที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานก็เป็นได้
รถกระบะลุยงานหนักสึกหรอสูงต้องดูแลดียิ่งขึ้น
รถกระบะที่ใช้งานมานานย่อมมีการเสื่อมและสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ เพราะว่าภายในเครื่องยนต์เป็นชิ้นส่วนโลหะกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะต้องมีการเสียดสีหรือสัมผัสกันตลอดเวลา โดยมีน้ำมันเครื่องทำหน้าที่เป็นฟิล์มบาง ๆ เคลื่อบผิวโลหะเพื่อให้ช่วยลดการเสียดสี ระบายความร้อนและเป็นตัวช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้การเลือกใช้น้ำมันเครื่องดี ๆ มีส่วนช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด กำลังอัตราเร่งดี แรงและประหยัด พร้อมช่วยลดมลพิษได้อีกด้วย
ปกติแล้วเราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ ระยะทางตามที่บริษัทรถยนต์กำหนดในคู่มือแต่ละรุ่น เช่น ทุก ๆ 5,000 กม. 8,000 กม. หรือ 10,000 กม. หรือทุก 6 เดือน เป็นต้น
สำหรับรถกระบะมีอายุเลขไมล์มาก ๆ หลายแสนกิโลเมตรหรือใช้งานแบบเชิงพานิชย์ ใช้เป็นกระบะไว้ลุยงานหนัก วิ่งรอกทำรอบ และรถตู้ที่วิ่งงานต่าง ๆ ถ้าอยากให้รถอยู่กับเรานาน ๆ ย่อมต้องการน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติพิเศษมากขึ้น อย่างน้ำมันเครื่อง " Shell Helix HX7 Diesel" คู่แกร่งของรถเครื่องยนต์ดีเซล" แล้วทำไมต้องเป็น Shell Helix HX7?
เพราะ Shell Helix HX7 ดีเซล มีสูตรให้เลือกครอบคลุมทุกการใช้งานรถดีเซล ไม่ว่าจะเป็นสายกระบะขับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือพาครอบครัวท่องเที่ยว ก็จะเหมาะกับ Shell Helix HX7 Diesel สูตร 10W-30 ส่วนกระบะสายลุยงานโหด ๆ วิ่งงานหนัก อย่างรถคอก รถส่งผัก ใช้กำลังในรอบสูงๆ บ่อย เช่น ขึ้น-ลงเขา ใช้รถวันละหลายกิโลเมตร บรรทุกของหนัก ต้องเจาะจง Shell Helix HX7 15W-40 สูตรใหม่ เพิ่มค่าความหนืดสูงกว่า ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีกว่าในสภาพเครื่องยนต์ที่ถูกใช้งานหนัก ๆ จนทำให้สึกหรอมากขึ้นกว่าปกติและมีความร้อนสูง เมื่อสึกหรอจากการเสียดสีมากก็ย่อมเกิดระยะห่างระหว่างชิ้นส่วนมากตามไปด้วย และเนื่องจากเหตุนี้เอง เจ้าค่าความหนืดนี้จะเป็นตัวช่วยกระสานช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอนี้ ให้แนบสนิททำให้กำลังอัดในกระบอกสูบดีขึ้น อัตราเร่ง ความแรงและประหยัดกลับมาอีกครั้ง เหมือนได้กลับมาเป็นรถใหม่อีกครั้ง
เจาะลึกคุณสมบัติของ Shell Helix HX7 ที่ว่ามันดี มีอะไรบ้าง?
Shell Helix HX7 นับเป็นน้ำมันเครื่องเทคโนโลยีสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันพื้นฐาน 2 ชนิดคือน้ำมันสังเคราะห์และน้ำมันแร่ จึงให้ประสิทธิภาพการทำงานได้สูงกว่าน้ำมันเครื่องที่ผลิตจากน้ำมันแร่พื้นฐานเพียงอย่างเดียว ป้องกันคราบสกปรกที่เป็นตัวบ่อนทำลายสมรรถนะเครื่องยนต์ และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์โดยการป้องกันการสึกหรอ แม้เผชิญกับสภาพการจราจรในแต่ละวัน ทำให้เครื่องยนต์สะอาดขึ้นตอบสนองทุกอัตราเร่งและประหยัดมากขึ้น โดยเฉพาะรถที่ใช้งานหนัก ๆ จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องที่ปกป้องได้ทันทีที่สตาร์ทเครื่องยนต์
สำหรับ Shell Helix HX7 มีให้เลือก 2 สูตร ได้แก่ 10W-30 และสูตรใหม่ 15W-40
สำหรับข้อแตกต่างของค่าความหนืด 10W-30 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไปจนถึงหนักมาก และสูตรใหม่ 15W-40 ที่นับว่าเพิ่มคุณสมบัติความหนืดมากขึ้นเพื่อรถที่เน้นใช้งานมานานหลายกิโลเมตร ซึ่งโดยปกติรถยนต์ที่ใช้งานหนักเป็นเวลานานหรือใช้งานผ่านมาหลายแสนกิโลเมตร ชิ้นส่วนต่าง ๆ เริ่มมีการสึกหรอสูงและมีระยะห่างของช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนที่สัมผัสกันมากขึ้น การเลือกค่าความหนืดที่สูงขึ้น จะช่วยอุดช่องว่างให้น้อยลง ส่งผลให้ช่องว่างของแหวนลูกสูบและกระบอกสูบน้อยลง กำลังอัดดีขึ้นและสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีขึ้นตามไปด้วย
เลขตัวหน้า 10W หรือ 15W เป็นอุณหภูมิต่ำที่น้ำมันจะยังสามารถไหลเวียนในระบบได้ ซึ่งในประเทศเขตร้อนอาจไม่ค่อยส่งผลมากนัก ส่วนเลขตัวหลัง 30 หรือ 40 เป็นค่าความหนืดของน้ำมัน นั่นคือ ยิ่งเลขมากยิ่งหนืด และเลขน้อยยิ่งหนืดน้อยหรือเรียกว่าใส หากให้เห็นภาพชัด ๆ ก็คือ เครื่องยนต์ที่ใหม่ ๆ ยิ่งต้องใช้ความหนืดน้อย เพราะชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ยัง "ฟิต" กว่า ส่วนเครื่องยนต์ที่ผ่านการใช้งานมานาน ๆ ย่อมเกิดอาการที่มักเรียกว่า "หลวม" กว่า จึงจำเป็นต้องใช้ค่าความหนืดสูงกว่าครับ
สรุปได้ว่า Shell Helix HX7 Diesel ถูกออบแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ที่ทำงานหนัก มีเฟล็กซี่โมเลกุล โมเลกุลตัวแกร่ง ขยายตัวปกป้องเครื่องยนต์ขั้นสุด ช่วยลดการสึกหรอเหนือค่ามาตรฐานถึง 30% ยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้นไปอีกขั้น และแอ๊คทีฟ คลีนซิ่ง เทคโนโลยี ช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์แม้ในขณะขับขี่ ช่วยขจัดคราบสกปรกและคราบตะกอนยางเหนียว แล้วเมื่อเครื่องยนต์สะอาด ก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ลองเปลี่ยน Shell Helix HX7 Diesel จริงใช้จริง
จากการศึกษาข้อมูลของ Shell Helix HX7 ดีเซลมีคุณสมบัติดี แต่ถ้าจะให้แน่ใจต้องลองครับ รถกระบะคันที่นำมาทดลองเปลี่ยนนี้ เป็นรถที่วิ่งลุยงานหนักอยู่ตลอดเวลา ผ่านการใช้งานมากว่า 170,000 กิโลเมตรแล้ว ดังนั้นควรต้องใช้ Shell Helix HX7 15W-40 สูตรใหม่ และไปลองขับกันจริงหลังเปลี่ยนกันเลย
หลังจากที่ได้เปลี่ยนมาใช้ Shell Helix HX7 สูตรใหม่ รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง รอบเครื่องยนต์สมูทเนียนขึ้น ลดเขม่าควันดำ และช่วงต้องเค้นกำลังก็นับว่าไหลลื่นกว่าเดิม นับว่า Shell Helix HX7 ดีเซล ให้ผลที่น่าพอใจมาก รับรองการใช้งานแบบโหด ๆ ได้สบายแน่นอนครับ
สรุปได้ว่าหากเป็นรถกระบะที่เน้นขับทั่วไปในชีวิตประจำวัน ท่องเที่ยววันหยุด เหมาะกับ Shell Helix HX7 ดีเซล 10W-30 ส่วนรถกระบะที่ใช้ในงานเชิงพาณิชย์ บรรทุกหนัก เดินทางระยะไกลบ่อยๆ วิ่งรอกวันละหลายกิโลเมตร ต้องเป็น Shell Helix HX7 ดีเซล 15W-40 นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อความมั่นใจในการใช้งานต่อไป