NEW MG EXTENDER กระบะพันธุ์ยักษ์ เสริมเกราะใหม่ เหนือกว่าด้วยดีไซน์

NEW MG EXTENDER โฉมใหม่ รถกระบะที่มีขนาดตัวถังใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน พร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม ลุคดุดันผสานความหรูหรามากขึ้นราคาเริ่มต้น 559,000 บาท สำหรับ GIANT CAB และ ราคา 769,000 บาท สำหรับ DOUBLE CAB 

NEW MG EXTENDER มาด้วยมิติตัวถังขนาดใหญ่ ทั้งในรูปแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และกระบะแบบ 4 ประตู (Double Cab) โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารูปแบบใหม่ ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมช่องระบายอากาศ (Front Grille) ขนาดใหญ่ และคิ้วกระจังหน้าวัสดุโครเมียม    

ไฟคู่หน้าแบบ LED Projector พร้อม Dual LED Daytime Running Light มีระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ ด้านข้างปรับบันไดข้างดีไซน์ใหม่ พร้อมแถบโครเมียมตกแต่งที่ประตูข้าง ด้านบนเสริมแร็คหลังคา  

ส่วนด้านท้ายปรับดีไซน์ไฟท้ายแบบ LED C Shape เน้น Seamless design ที่ผสานรวมเส้นสายไฟท้ายลากยาวเชื่อมต่อเข้ากับฝาท้ายได้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมฝาครอบบริเวณขอบกระบะท้าย ช่วยเพิ่มความดุดันและให้ลุคที่ดูเท่มากยิ่งขึ้น รวมถึงล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว แบบ Bi-Colour ให้ความรู้สึกถึงความพร้อมที่จะทะยานสู่ทุกเส้นทาง 

ภายในห้องโดยสารของ NEW MG EXTENDER โฉมใหม่ มีความเป็นพรีเมียม สปอร์ต แฝงไปด้วยความดุดัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบคัน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความกว้างขวาง พื้นที่ห้องโดยสาร และคอนโซลขนาดใหญ่ พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต 

ตกแต่งภายในด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสนุ่ม (Soft Touch) เบาะหนังแบบ 2-Tone สีน้ำตาลตัดกับสีดำ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า เอนไฟฟ้าได้ถึง 150 องศา   

ในด้านของสิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้อย่างครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay 

ภายในรถติดตั้งช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง และลำโพง จำนวน 6 จุด สำหรับรุ่น Double Cab จะมาพร้อมเบาะหลังที่สามารถพับได้ 2 รูปแบบ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

NEW MG EXTENDER ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร ที่ 1,500 - 2,400 รอบต่อนาที ช่วยให้ประหยัดมากขึ้น พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ และแบบธรรมดา 6 จังหวะ

มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ 3 โหมด ไม่ว่าจะเป็น โหมดมาตรฐาน (NORMAL MODE) โหมดประหยัด (ECO MODE) และโหมดกำลังสูง (POWER MODE)

โดยในรุ่น Double Cab มีให้เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L เสริมด้วยระบบล็อกเฟืองท้าย (Rear Axile Differential Lock) และช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในการขับขี่ในรูปแบบออนโรด (On Road) และการขับขี่ในรูปแบบออฟโรด (Off Road) 

NEW MG EXTENDER มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART  ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการ หรือ SMART Command ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ 

นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก

รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันบนหน้าจอในรถ และการตรวจเช็กรถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

ในด้านของความปลอดภัย NEW MG EXTENDER มีการติดตั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเสริมความมั่นคงในการขับขี่   

และมาพร้อมความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ รวมถึงระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย

• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Braking System)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning System)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ สัญญาณเตือนกะระยะด้านหลัง ที่ทำงานร่วมกับกล้องมองภาพรอบทิศทาง และกล้องมองหลัง 

นอกเหนือจากดีไซน์ใหม่ที่ดุดัน ทรงพลัง จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยครบครันแล้ว NEW MG EXTENDER โฉมใหม่ ยังให้ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า ด้วยค่าบำรุงรักษาต่ำที่สุด โดยระยะทาง 100,000 กิโลเมตรแรก มีค่าบำรุงรักษาไม่ถึง  20,000 บาท นอกจากนี้ยังให้การรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมฟรีค่าแรง เช็คระยะ ตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร

* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น

NEW MG EXTENDER รุ่น GIANT CAB (กระบะตอนครึ่ง) 

• NEW MG EXTENDER GC C MT 559,000 บาท
• NEW MG EXTENDER GC D MT 629,000 บาท
• NEW MG EXTENDER GC GRAND D MT 669,000 บาท 
• NEW MG EXTENDER GC GRAND D AT 729,000 บาท
• NEW MG EXTENDER GC GRAND X MT 739,000 บาท 

NEW MG EXTENDER รุ่น DOUBLE CAB (4 ประตู) 

• NEW MG EXTENDER DC D GRAND MT 769,000 บาท
• NEW MG EXTENDER DC X GRAND AT 889,000 บาท
• NEW MG EXTENDER DC X GRAND AT 4WD 1,039,000 บาท