รีวิว - ทดลองขับ Mercedes-Benz E300e AMG Dynamic ปลั๊กอินไฮบริด ในราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class  3 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ E 300 e Avantgarde, E 220 d AMG Sport และ E 300 e AMG Dynamic ซึ่งขุมพลังมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี แบบปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชันที่ 3 และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลพลังแรง มาตรฐาน EURO6 เพื่อสัมผัสถึงสมรรถนะ ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ฯ จึงจัดทดสอบขับแบบอิสระเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา โดยครั้งนี้ทีมงานคาร์กูรูไทยแลนด์ / เช็คราคา.คอม ได้เข้าร่วมพร้อมขับรุ่น E 300 e AMG Dynamic

การทดสอบขับเน้นการขับแบบฟรีรันเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา ซึ่งเพียงพอต่อกาพิสูจน์สมรรถนะเครื่องยนต์ทั้งการขับในและนอกเมือง ท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่นและถนนเปิดโล่งของมอเตอร์เวย์ เริ่มจากการเข้าไปปรับท่านั่งและสำรวจตำแหน่งการใช้งานปุ่มต่างๆ รวมถึงการเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับระบบอินโฟเทนเม้นต์ ซึ่งคุ้นเคยจากการทดสอบในรุ่นต่างๆ และปรับแต่งได้ง่ายตามแบบฉบับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยเฉพาะทัชแพดที่ให้ความคล่องตัวในการใช้งานกับหน้าจอหลัก จะมีเพียงแค่การสั่งงานด้วยเสียงที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษล้วน และต้องสำเนียงได้ด้วย 

อย่างไรก็ตามผู้เขียนไปรับรถที่ถนนสาทรช่วงเช้า ช่วงแรกเป็นการขับในเมืองฝ่าการจราจรยามเช้าของถนนสาทร การขับเน้นจังหวะออกตัวสลับเบาเบรก และหยุดนิ่ง โหมดการขับปรับแบบ comfort หลังจากผ่านสาทรกลับรถขึ้นทางด่วนต่อไปยังทางด่วนยกระดับ จนถึงจุดแยกไปออกทางด่วนมอเตอร์เวย์ขับยาวไปสิ้นสุดที่สยามคันทรีคลับ พัทยา เพื่อพักและบันทึกภาพ ด้วยระยะทางไป-กลับกว่า 300 กม. พอสรุปได้ว่า การขับในเมืองช่วงความเร็วต่อสลับหยุดนิ่ง ควบคุมน้ำหนักง่ายทั้งคันเร่งและเบรก เกียร์ไฟฟ้าที่ตำแหน่งคอพวงมาลัย (สามก้านตูดตัด) ให้ความสะดวกมาก ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เขียนชอบในรถเมอร์เซเดส-เบนซ์มาโดยตลอดในยุคหลัง การหักเลี้ยวเปลี่ยนเลนไปมา เบามือและคล่องตัว มุมมองด้านหน้าสะดุดตากับฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ที่มีลอนพาวเวอร์โดมเหมือนในรุ่นประตูปีกนกที่เป็นไอคอนิคของแบรนด์ หน้าจอแสดงผลแบบต่อเนื่องชิ้นเดียวเสมือนแทบเล็ตรุ่นยาวพิเศษให้สีและรายละเอียดคมชัดมองและเข้าใจค่าต่างๆ ได้ง่าย ด้านอัตราเร่งออกตัว หรือลอยตัวจนถึงการเร่งแซง จากตัวเลชที่เคลมไว้ว่า 0-100 กม./ชม. ไม่ถึง 6 วินาทีนั้น ผู้เขียนสัมผัสได้ถึงแรงบิดที่ดึงดีตั้งแต่รอบต่ำและเป็นแรงบิดที่กว้าง ดึงได้ต่อเนื่องความเร็วขึ้นแบบทันใจและลื่นไหลไม่มีท่าว่าจะหมดง่ายๆ ทางตรงยาวบนทางมอเตอร์เวย์ที่บางจังหวะเผลอไผลกดคันเร่งไปตามอารมณ์พบว่าเข็มความเร็วแบบดิจิตอลกวาดเกิน 180 กม./ชม. แบบง่ายๆ สะท้อนให้เห็นถึงสมรรถนะรถโรงงานระดับพรีเมียมยุคใหม่ที่มีกำลังเกินหน้ารถสปอร์ตแบบเดิมๆ ไปไกล ในช่วงที่รถทะยานบนความเร็วสูง การทรงตัวของรถให้ความมั่นคง การควบคุมจึงไม่เครียด 

อย่างไรก็ตามก็เป็นความประทับใจแม้ได้ลองแค่ช่วงสั้นๆ ก็ต้องกลับมาใช้ความเร็วปกติไม่เกิน 120 กม./ชม. สำหรับระบบสำคัญที่ขาดหายไปและควรมีคือ อะแดปทีฟครูซคอนโทรล สอบถามจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับการชี้แจงว่าเป็นที่การใช้ป้ายทะเบียนแบบกว้างสั้นกับกันชนที่ออกแบบไว้สำหรับทะเบียนเรียวยาว ซึ่งทางผู้ผลิตจะนำข้อมูลไปปรับแก้ต่อ แต่ก็มีระบบช่วยเบรกอัตโนมัติที่ตั้งระยะห่างใกล้-ไกลให้ใช้แทน เอาเป็นว่าการปรับเฟซลิฟต์ให้กับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class เพื่อให้หน้าตาเข้ากับพี่น้องในคลาสใหม่ๆ ให้อารมณ์ออกไปทางดุดันสปอร์ตมากขึ้น น่าจะโดนใจคนรุ่นใหม่ที่โตมาพร้อมกับ A-Class และถึงวัยที่อยากใช้ซีดานใหญ่ระดับคลาส E ด้วยราคาเริ่มต้น 3,190,000 บาท ในรุ่น E 300 e Avantgarde นับเป็นความคุ้มค่าต่อการครอบครองยนตกรรมพรีเมียมแบบที่เด่นทั้งสมรรถนะและภาพลักษณ์จริงๆ 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ทางเลือก คือ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบขนาด 1,991 ซีซี ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีแบบปลั๊กอินไฮบริด เจเนอเรชันที่ 3 ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 5.7 วินาที ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 1,950 ซีซีพร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐาน EURO6 ให้พละกำลัง 194 แรงม้า พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 7.3 วินาที ถ่ายทอดพลังด้วยระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 6.5% 

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยชุดแต่ง AMG ที่ปรับดีไซน์ใหม่ให้ล้ำสมัย ด้วยแรงบันดาลใจจาก AMG Performance models กระจังหน้า diamond radiator grille ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และไฟท้ายแบบ Full-LED ออกแบบให้เข้ากับกันชนท้ายและฝากระโปรงท้ายใหม่ ล้ออัลลอย  AMG ใหม่ขนาด 19 นิ้วจาก ผสานความหรูหราและสปอร์ตอย่างลงตัว ยังโปร่งสบายด้วยหลังคาแก้วแบบ Panoramic Sunroof ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสารโดดเด่น หรูหรา และสะดวกสบาย เติมเต็มความสปอร์ตกับชุดตกแต่งภายในแบบ AMG Interior package พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตใหม่แบบ 3 ก้านท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch control เพื่อให้การควบคุมเป็นไปตามธรรมชาติภายใต้หลักสรีรศาสตร์ เบาะนั่งแบบสปอร์ตเพิ่มความกระชับในทุกรูปแบบการขับ คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนัง ARTICO ไฟล้อมรอบห้องโดยสารแบบ Premium Ambient light เลือกปรับได้มากถึง 64 เฉดสี พร้อม Animation เปลี่ยนสีอัตโนมัติแบบเคลื่อนไหวให้เลือกได้มากถึง 10 แบบ เพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester surround sound system พร้อมลำโพงจำนวน 13 ตำแหน่ง

เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class มีระบบความปลอดภัยล้ำหน้าครบครัน เช่น ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนช่องจราจรแบบ Blind Spot Assist พร้อมระบบแจ้งเตือนก่อนเปิดประตูแบบ Exit Warning ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบ Active Brake Assist ระบบช่วยเหลือก่อนเกิดอุบัติเหตุ PRE-SAFE เซ็นเซอร์รอบคันจำนวน 12 จุด แบบ PARKTRONIC พร้อมระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบ Active Parking Assist และกล้องแสดงภาพรอบคันแบบ 360 องศา ฯลฯ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class ผสานทุกการควบคุมเข้าด้วยกันผ่านระบบ MBUX รุ่นล่าสุดแสดงผลผ่านหน้าจอแบบ Digital Widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว 2 หน้าจอ รวมถึงฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถยนต์ E-Class ทุกรุ่น โดยเฉพาะฟังก์ชันการติดต่อสื่อสารกับศูนย์บริการได้โดยตรงทั้งการสั่งงานผ่านหน้าจอรถยนต์ หรือผ่านแอปพลิเคชัน Mercedes me ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถสามารถควบคุมรถยนต์จากระยะไกลผ่านโทรศัพท์มือถือได้