ตะลุยสังขละ กินหมูกะทะ ไปกับรถปิคอัพ Isuzu D-max V-Cross 4X4
ตะลุยเมืองสังขละบุรี ด้วย
ISUZU D-MAX V-CROSS 4X4 3.0 Ddi M รถปิคอัพสุดล้ำที่ฮ็อตที่สุดในปี 2020 มาพร้อมความ
"อึด ทึก ทน" ขับเที่ยวด่านเจดีย์ 3 องค์ สักการะเจดีย์พุทธคยา ไหวสังขารหลวงพ่ออุตตมะวัดวังก์วิเวการาม พร้อมแวะร้านกาแฟเก๋ ๆ วิวสวย และเช็คอินร้าน "หมูกะทะ" สุดอร่อยเคล้าบรรยากาศเย็นสบายที่ใครมาต้องมาลองให้ได้..
กว่า 800 กิโลเมตร น้ำมัน 1 ถังนิด ๆ พร้อมกำลังขุมพลังแรงบิดล้น ๆ
มั่นใจทุกเส้นทางตลอดทริปกว่า 800 กม. ด้วยสมรรถนะที่ไว้ใจได้กับ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร เกียร์ 6 จังหวะ สุดยอดความแรงและประหยัด เฉลี่ยตลอดทริป 12 - 13 กม./ลิตร ด้วยการขับขี้นลงเนินเขาสูงชันได้อย่างสบายและปลอดภัยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้งานง่าย กำลังของเครื่องยนต์มีเกินพอสามารถไต่ขึ้นทางชันได้อย่างง่าย ๆ ไม่ต้องลากรอบสูง และเร่งแซงได้อย่างปลอดภัย
พร้อมความปลอดภัยไปกับระบบเตือนออกนอกเลน และเส้นทางขึ้น-ลงทางชัน ในช่วงขับลัดเลาะไปตามเส้นทางธรรมชาติ นอกจากกำลังที่แรงเหลือเฟือและระบบ 4X4 แล้ว ยังมีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน หรือระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ที่ช่วยให้ขับง่ายสะดวกสบาย แม้แต่ผู้หญิงก็ใช้งานได้ไม่ยุ่งยากและปลอดภัย
ใส่ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นกับ Bi-Beam LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ กล้องมองภาพถอยหลัง Isuzu Genius Entry พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท
Cruise Control ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
ภายในสีน้ำตาลสวยลงตัว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งสบายนุ่มกระชับลำตัว พร้อมที่ท้าวแขนคอนโซลกลางและที่วางแก้วน้ำ เบาะหลังขนาดใหญ่พร้อมที่ท้าวแขนและช่องวางแก้วน้ำ
ไม่มีหลง!!.. ด้วยเนวิเกเตอร์หรือจะเลือกเชื่อมต่อ Apple Carplay แสดงแผนที่ Google Map ง่ายดาย พร้อมยังเพลิดเพลินกับการเล่นเพลงจากสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
หรือจะใช้ระบบเนวิเกเตอร์ของอีซูซุก็ได้ แม่นยำและอัปเดตได้ทันสมัย แสดงภาพ 3 มิติ มองง่ายชัดเจน ส่วนความบันเทิงสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ เปิดเพลงฟังผ่านระบบบลูทูธได้อย่างเพลิดเพลิน รองรับระบบ Isuzu Connect World ลำโพง 8 ตำแหน่ง ลำโพง Roof Speaker ติดตั้งบนเพดาน และช่องต่อ HDMI
จอดตากแดดแค่ไหนก็ไม่กลัวร้อน เพราะมีระบบสตาร์ทเรื่องยนต์พร้อมเปิดแอร์ด้วยรีโมท ซึ่งระบบนี้ใช้ติดเครื่องยนต์พร้อมเปิดแอร์ได้ เพียงกดปุ่มล็อค 1 ครั้ง แล้วกดปุ่มสตาร์ท (รูปลูกศรวงกลม) และเมื่อต้องการขึ้นรถเพียงกดเปิดประตู ตรงนี้เองที่ระบบจะดับเครื่องยนต์ก่อน แล้วค่อยสตาร์ทใหม่อีกครั้ง
มาสังขละต้องสักการะหลวงพ่ออุตตมะ
เมื่อมาท่องเที่ยวอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สิ่งที่ต้องแวะไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ตามคือ วัดวังก์วิเวการาม สร้างโดยพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเชื้อสายมอญได้รวบรวมชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ รวมทั้งคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีช่วยกันสร้างขึ้น ปัจจุบันหลวงพ่ออุตตมะได้ละสังขารไปแล้ว (18 ตุลาคม 2549) แต่ศิษยานุศิษย์ยังเก็บสังขารของท่านไว้ให้คนทั่วไปเข้ามากราบสักการะบูชา
ความจริงวัดนี้อยู่ใต้น้ำ หรือเรียกว่า "เมืองบาดาล (วัดจมน้ำ)" ในอดีตเป็นวัดวังก์วิเวการามเดิมที่หลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและมอญได้ร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2496 ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำสามสายคือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน
แต่หลังการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) ทำให้เกิดน้ำท่วมอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดด้วยหลวงพ่ออุตตมะจึงได้ย้ายสถานที่ตั้งวัดมาอยู่บนเนินเขาส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำ ในช่วงน้ำมากน้ำจะท่วมสูงเกือบทั้งหมดเหลือเพียงยอดของโบสถ์ให้เห็น สามารถนั่งเรือชมวัดใต้น้ำแห่งนี้ได้
ขับวีครอสไปไม่ไกลกันนักก็จะเจอกับมหาเจดีย์พุทธคยาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นการจำลองแบบมาจากมหาเจดีย์พุทธคยา ที่ประเทศอินเดีย ส่วนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนที่เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่าเม็ดข้าวสาร ด้านหน้ามีบันไดทางขึ้นสู่ฐานของเจดีย์พุทธคยา ระหว่างเส้นทางมีรอยพระพุทธบาทจำลอง และรูปหล่อหลวงพ่ออุตตมะ ให้เคารพสักการะ
เจดีย์สามองค์ - หินสามกอง!?..
ขับอ้อมออกมาจากตัวเมืองสักขระอีก 20 กว่ากิโลเมตรก็จะถึงด่านเจดีย์สามองค์ (เขตแดนไทย-พม่า) พระเจดีย์สามองค์ เดิมเป็นเพียงก้อนหินวางซ้อนๆ กันสามกอง จึงเรียกที่แห่งนี้ว่าหินสามกอง เป็นที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไปก่อนที่จะเดินทางออกเขตแดนไทยเข้าสู่เขตแดนพม่าแต่ครั้งโบราณ ต่อมาในปี พ.ศ.2432 พระศรีสุวรรณคีรี (ทะเจียงโปรย เสตะพันธ์) เจ้าเมืองสังขละบุรี ร่วมกับราษฎรในพื้นที่ก่อสร้างองค์เจดีย์ขึ้นบนหินสามกอง เจดีย์แต่ละองค์สูงประมาณ 6 เมตร ตั้งห่างกันประมาณ 5 - 6 เมตร ซึ่งในปี พ.ศ.2546 กรมศิลปกรได้ดำเนินการขุดแต่งและพบฐานเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมที่ก่ออิฐอยู่ด้านใต้ซึ่งสันนิษฐานว่ามีการสร้างเจดีย์องค์เดิมมาแล้วในสมัยกรุงศรีอยุธยา ณ ที่แห่งนี้มีขนมและของฝากดี ๆ ราคาถูกเพียบครับ
สะพานมอญ - วิวสวยถ่ายรูปสุดฟิน..
สถานที่นับเป็นจุดเด่นและไฮไลท์ของสังขละบุรีก็คือ สะพานมอญหรือสะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ สะพานไม้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2529 - 2530 มีความยาวทั้งสิ้น 850 เมตร ข้ามแม่น้ำซองกาเลียระยะทางประมาณ 455 เมตร เกิดจากแรงแห่งศรัทธาการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะเป็นสะพานมิตรภาพ และยังแสดงถึงวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญ มีการใส่บาตรพระทุกเช้า นักท่องเที่ยวก็สามารถร่วมใส่บาตรได้ ซึ่งอีกฝั่งเป็นหมู่บ้านมอญ บนสะพานจะมีเด็ก ๆ ชาวมอญรับแต่งหน้าด้วยแป้งทานาคา
หมูจุ่มพม่า
แม้จะได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ที่ Unseen แค่ไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องหาของกินอร่อย ๆ ให้ได้ลองด้วย โดยในทริปนี้มีความตั้งใจว่าจะไปลองกินของพื้นบ้านของชาวพม่านั่นคือ "หมูจุ่มพม่า" ที่เป็นเครื่องใน หนังและเนื้อชิ้นเล็ก ๆ เสียบไม้วานเรียงรายอยู่ในถาด พร้อมน้ำซุปไว้จุ่ม แล้วจิ้มทานได้ทันทีแค่ไม้ละ 1 บาท เท่านั้น ยอมรับว่า "ไม่อิ่ม" แต่ได้ความแปลกไปอีกแบบครับ หมุจุ่มพม่าตั้งอยู่ถนนคนเดินในตลาดสังขละบุรี ใครมาต้องลอง
บารมี
ไปต่อกันที่ร้านที่ "บังเอิญเจอ" หลังจากขับเลยทางเลี้ยวเข้าตลาดสังขละบุรี จึงต้องกลับรถ ได้สังเหตุเห็นร้านอาหารที่มีคนเยอะมากมายนั่งกินอย่างมีความสุข จึงได้ลองจอดแวะและสั่งทานดู ปรากฏว่าอร่อยกว่าร้านดังใน กทม. บางร้านเสียอีก! ร้านหมูกระทะนี้ชื่อว่า "ร้านบารมี" อยู่ฝั่งตรงข้ามใกล้ ๆ กับทางเลี้ยวตลาดตัวเมืองสังขละบุรี ใช้เตาถ่าน เนื้อหมูอร่อยนุ่ม หอม เครื่องเคียงต่าง ๆ สดพอตัว และน้ำจิ้มรสเลิศมากและน้ำซุปกลมกล่อมอีกด้วย ใครได้ไปอย่าลืมแวะร้านนี้อร่อยมากกกกก...
กินข้าวริมลำธารจุดเล่นน้ำซองกาเรีย
อีกจุดหนึ่งที่นับเป็นไฮไลท์ของการกินเคล้าบรรยากาศธรรมชาติคือจุดแวะเล่นน้ำลำธารซองกาเรีย ซึ่งมีแพรสำหรับนั่งกินอาหารเหนือน้ำ บรรยากาศดี เย็นสบาย และได้ฟังเสียงน้ำไหล สามารถลงไปเล่นน้ำได้ด้วย อาหารก็อร่อยราคาไม่แพง นับเป็นอีกจุดที่น่าเช็คอิน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางไปด่านเจดีย์สามองค์
หมูกะทะชื่อดัง
CHER GRILL หมูกระทะสังขละบุรี ร้านที่มีรีวิวแนะนำเยอะในสังขละบุรี สะอาดบรรยากาศสบาย ๆ เนื้อหมูและเครื่องเคียงต่าง ๆ น่าทาน ใช้เตาแก๊ส น้ำจิ้มรสชาติกลาง ๆ ไม่จัดมากนัก มีนักท่องเที่ยวมารอคิวทานไม่ขาดสายเลยทีเดียวครับ แอบกระซิบว่าร้านข้างบนฟินกว่าครับ...
นอกจากนี้ระหว่างการเดินทางก็ขาดไม่ได้กับการแวะเช็คอินร้านกาแฟเพื่อเติมพลังตลอดทริปนี้ ซึ่งแต่ละร้านมีความแตกต่างทั้งบรรยากาศ รสชาติและเมนูที่มีความพิเศษต่างกันออกไป ตั้งอยู่รินถนนศรีสุวรรณคีรีเลยถนนคนเดินเข้ามาลึกหน่อยครับ
RainForest Cafe
Wangka Cafe (วังกะ คาเฟ่)
NICHE CAFE
ภิรมย์ ปาร์ค
ขับขี่ท่องเที่ยวสุดฟินกับ
ISUZU D-MAX V-CROSS 4X4 มั่นใจไปได้ทุกที่ตลุยกินสบายใจ ให้ความนุ่มนวลมากขึ้นและระบบความปลอกภัยที่เพิ่มมากขึ้น กำลังขับเคลื่อน 3.0 ลิตร ที่มีมากเกินตัวและมาพร้อมความประหยัดอย่างน่าประทับใจ กับราคาที่เหมาะสม 1,164,000 บาท