ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

NEW MITSUBISHI OUTLANDER PHEV รถยนต์ SUV ที่ไม่มีเกียร์แต่มี Paddle shift งงเด้..?

icon 18 เม.ย. 65 icon 4,103
NEW MITSUBISHI OUTLANDER PHEV รถยนต์ SUV ที่ไม่มีเกียร์แต่มี Paddle shift งงเด้..?

NEW MITSUBISHI OUTLANDER PHEV รถยนต์ SUV ที่ไม่มีเกียร์แต่มี Paddle shift งงเด้..?

NEW MITSUBISHI OUTLANDER PHEV รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูแบบ SUV แท้เป็นโครงสร้างตัวโนโนค็อคไม่ใช่เกาะบนแชสซีส เหมือนอย่างรถ PPV จึงมั่นใจได้ถึงความนุ่มนวล เกาะถนน และสมรรถนะที่ดีจริง แถมด้วยความทรงพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตรให้กำลังสูงสุดที่ 305 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่ดีที่สุดจาก 'มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน' เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของโลก และเป็นรถพีเอชอีวีที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก 
มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น เริ่มต้นที่รุ่น GT มีราคาจำหน่ายที่ 1,640,000 บาท และรุ่น GT-Premium มีราคาจำหน่ายที่ 1,749,000 บาท 
ด้วยความอลังการของระบบขับเคลื่อนขนาดนี้ รวมถึงกำลังมหาศาลจากแรงม้า 305 ตัว และแรงบิดสะท้านถนนที่ 531 นิวตันเมตร แต่มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 52.6 กม.ต่อลิตร หรือ 1.9 ลิตรต่อ 100 กม. ตามมาตรฐาน NEDC มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำที่ 43 กรัมต่อกม. และที่สำคัญเป็นรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนสุดแปลกแตกต่างกับชาวบ้านเค้านั่นคือ มี Paddle Shift แต่ไม่มีเกียร์!!!
ในบทความนี้อาจไม่เขียนถึงระบบต่าง ๆ ของรถมากนัก เพราะหลายคนคงรับรู้ข่าวสารถึงความสุดล้ำชองเจ้าเอาท์แลนด์เดอร์กันไปพอสมควรแล้ว แต่สิ่งที่น่าสงสัยชวนรำคาญใจหลังจากในวันเปิดตัวที่เมืองทองธานีพร้อมกับให้สื่อได้ทดสอบแบบสั้น ๆ ที่ลานริมทะเลสาบ ก็เลยมีความสงสัยกับเจ้า Paddle Shift นี้แหละครับว่า ทำมีไว้ทำไมในเมื่อไม่มีเกียร์!!

คำตอบคือ...ชุดคลัตช์ Clutch 

เอาท์แลนเดอร์ มีชุดขับเคลื่อนของเจ้าขุมพลังที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าชุดหน้า ถูกออกแบบให้เครื่องยนต์ส่งกำลังผ่านชุดคลัตช์ (Clutch) ทำหน้าที่ตัด-ต่อกำลัง พร้อมระบบควบคุมกำลังแปรผันการขับเคลื่อน ที่จะรับกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าชุดหน้าพร้อม ๆ กัน และมีมอเตอร์ไฟฟ้าชุดหลังอีกชุด โดยจะมีหน้าที่คำนวนการแปรผันกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้านี้ให้ทำงานตามสภาวะการขับขี่อย่างอัตโนมัติ ผ่านระบบสุดไฮเทคที่ชื่อว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) เช่น สภาวะปกติไม่เน้นอัตราเร่งนักก็จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเป็นหลักอาจจะ 60% และเครื่องยนต์ที่ 40% 
ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าชุดที่หมุนล้อหลังก็จะถูกคำนวนการออกแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อและล้อหลังรวมเป็น 4WD หรือ S-AWC (Super-All Wheel Control) อีกทีหนึ่งนั่นคือ แรงขับเคลื่อนจากล้อหน้า 60% และล้อหลัง 40% เป็นต้น (ตัวเลขเป็นเพียงการยกตัวอย่างง่าย ๆ) 
สรุปโดยรวมก็คือ เจ้าเอาท์แลนด์เดอร์แปรผันระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในสภาวะนี้ที่ด้านหน้า 60% หลัง 40% (ซึ่งในส่วนของกำลังด้านหน้าถูกแปรผัน 2 กำลังออกมาแล้ว) แต่ที่เป็นไฮไลท์คือ กำลังจากเครื่องยนต์ที่ส่งไปยังล้อโดยผ่านชุดคลัตช์ควบคุมกำลังนั้น ไม่มีอัตราทดหรือการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ใด ๆ เลย 
หลักการทำงานของขับเคลื่อนที่ถูกส่งจากเครื่องยนต์นั้นได้รับการยืนยันจากทีมมิตซูบิชิว่า "เป็นกำลังที่ลงล้อจริง ๆ ไม่ใช่แค่ปั่นไฟ" เพียงแต่ว่าผ่านชุดควบคุมตัวนี้และแม้ว่าจะเร่งรอบเครื่องยนต์สูงแค่ไหน เจ้าชุดระบบควบคุมกำลังด้านหน้านี้เอง จะคอยปล่อยให้เครื่องยนต์หมุนน้อยลง และเสริมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าชดเชยเข้าไป แม้จะไม่มีระบบเกียร์แต่รอบเครื่องยนต์ยังคงไม่สูงมากนัก 

Paddle Shift ใช้ในการ Regenerative Braking !!

สำหรับ Paddle shift นั้น ความหมายจริง ๆ ไม่ใช่เป็นสวิตช์สำหรับเปลี่ยนเกียร์อย่างเดียว มันคืออุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ใช้สั่งการทำงานฟังก์ชั่นที่กำหนดมาเท่านั้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "ก้านเปลี่ยน..." แต่จะเปลี่ยนอะไรนั้นขึ้นกับผู้ผลิตรถยนต์จะโปรแกรมเข้าไป ซึ่งส่วนมากแล้วในรถยนต์มักจะเป็นตัวสั่งการ "เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์" 
แต่สำหรับใน MITSUBISHI OUTLANDER PHEV แตกต่างกันออกไป เพราะเป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมอยู่ จึงออกแบบให้มีฟังก์ชั่นพิเศษขึ้นมานั่นคือ "Regenerative Braking" หรือการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ ซึ่งมีอยู่หลายตำแหน่งยิ่งเลขมากยิ่งเบรกหรือหน่วงความเร็วมากเท่านั้น เริ่มตั้งแต่ B0 - B5 ซึ่งยิ่งเลขมากก็ยิ่ง "รีเจนฯ" หรือชาร์จไฟมากตามไปด้วยครับ
เมื่อขับขี่ในตำแหน่งเกียร์หรือจอยสติ๊ก "D" แบบปกติหากถอดคันเร่งออกการ "รีเจนฯ" จะอยู่ตำแหน่ง B2 ซึ่งจะมีอาการหน่วงเบา ๆ เหมือนขับขี่รถยนต์ทั่วไป ซึ่งจอยสติ๊กสามารถขยับไปตำแหน่ง B3/B5 ได้ และถ้ายังหน่วงไม่ทันใจหรือต้องการชะลอแบบลดความเร็วลงอย่างรวดเร็วก็สามารถไปใช้ "Paddle shift" ได้โดยที่ "เมื่อต้องการลดความเร็วช้า ๆ ต้องเปลี่ยนให้เลขน้อย ๆ และถ้าต้องการลดความเร็วลงอย่างรวดเร็วต้องเปลี่ยนไปที่เลขมาก ๆ เป็นต้น ได้แก่ B0-B1-B2-B3-B4-B5 
สรุปง่าย ๆ (อีกครั้ง) คือ Paddle shift ของ Outlander PHEV ใช้เมื่อต้องการ "รีเจนฯ" หรือชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีสเต็ปความหนืดต่าง ๆ ให้เลือกตามต้องการนั่นเองครับ

Pre-Test NEW MITSUBISHI OUTLANDER PHEV

จากที่ได้ทดลองขับ NEW MITSUBISHI OUTLANDER PHEV ในเทร็คสั้น ๆ เครื่อง 2.4 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว หน้าและหลังกำลัง 305 แรงม้า 531 นิวตันเมตร โดยมีช่วงขับทดสอบอัตราเร่ง และเบรกอย่างกระทันหัน การขับเข้าวงกลมหรรษาใข้ความเร็ว 20 กกม./ชม.ขึ้นไป ทดสอบการทำระบบการควบคุม S-AWC ที่พื้นลาดน้ำและลงซันไลให้ลื่นกว่าเดิม ต่อจากนั้นก็สลาลอม เป็นอันจบ 
ต้องบอกว่าตัวรถดูหรูหราพรีเมี่ยม ผู้ดีเรียบร้อย แต่สมรรถนะโดยเฉพาะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและการควบคุมการทรงตัว DNA จากตัวแข่ง ทำให้กลายเป็นรถสปอร์ต SUV ที่ควบคุมง่าย แม่นย้ำ พวงมาลัยคม เบาแต่ยังให้ความนุ่มนวล อัตราเร่งออกตัวอาจไม่ได้พุ่งปรู้ดมากนัก เพราะยังคงเป็นรถที่เน้นการขับขี่อย่างนุ่มนวล 
เมื่อลองเปลี่ยนตำแหน่งจาก Paddle shift ครั้งแรก งงสิครับ!.. อย่างที่เขียนไว้ด้านบนว่า Paddle shift มีไว้รีเจนฯ เมื่อลองเร่งเครื่องสุด แล้วเปลี่ยนตำแหน่ง "ลบ" ที่แป้นปรากฏว่า รถยังคงไหลลื่นเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด!!
แต่เมื่อลองทดสอบอีกครั้งเร่งเครื่องแล้วเปลี่ยนตำแหน่ง "บวก" เพื่อเพิ่มไล่ตัวเลขเป็น B3-B4 และ B5 ปรากฏว่ารถหน่วงความเร็วลงอย่างชัดเจน ดังนั้นหากจะใช้งานเจ้า Paddle shift นี้ต้องเล่นให้คุ้นเคยมาก ๆ เพราะมันจะทำงานตรงข้ามกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ เลยครับ
สรุป Outlander รถ SUV พรีเมื่ยม นุ่มนวล ให้สมรรถนะการควบคุมแบบรถสปอร์ต..และนับเป็นรถ PHEV หนึ่งเดียวในตลาดที่ให้อัตราสื้นเปลืองต่ำมากเพียง 52.6 กม./ลิตรและคาย Co2 แค่ 43 กรัม/กม.
สำหรับ Mitsubishi Outlander PHEV ไม่ควรมองแต่ภายนอก ต้องลองขับก่อนแล้วค่อยมาดูรายละเอียดว่ามีออปชั่นและเทคโนโลยีอะไรบ้าง..!!!!

ข้อมูลระบบไฟฟ้าใน Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi Outlander PHEV รถยนต์ที่ใช้ได้ทั้ง 2 ระบบคือ น้ำมันและไฟฟ้า เมื่อชาร์จไฟรถยนต์จนเต็มสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้า 100% ได้ไกลถึง 55 กม. ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 13.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง
นอกจากมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability Control (ASC) ยังมีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและล้อขวา Active-Yaw Control (AYC) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ติดตั้งที่เพลาหน้า-หลัง ควบคุมแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ พร้อมเสถียรภาพ เพิ่มสมรรถนะและการควบคุม มั่นใจทุกการเข้าโค้ง     
ระบบซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล ยังทำงานร่วมกับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ประกอบด้วย โหมดล็อค (มอบสมรรถนะเต็มรูปแบบของระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ) โหมดสโนว์ (ให้การควบคุม การยึดเกาะ และการควบคุมที่ดีเยี่ยม เมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น) โหมดนอร์มอล (ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อให้เหมาะกับสภาพการขับขี่) และโหมดสปอร์ต (เพิ่มความแม่นยำของคันเร่ง การควบคุม และการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้ดีมากขึ้น) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะและลุยผ่านทุกสภาพถนน พร้อมช่วยรักษาเสถียรภาพ และเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
และโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดอีวี (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) โหมดซีรีย์ ไฮบริด (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และ โหมดพาราเรล ไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน) 
การชาร์จรูปแบบปกติ AC ให้กำลังไฟ 100% ในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และการชาร์จไฟแบบเร็ว DC ให้กำลังไฟ 80% ในเวลาประมาณ 25 นาทีด้วยหัวชาร์จ CHAdeMO
รับประกันแบตเตอรี่นาน 10 ปี 
ระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน*
แท็กที่เกี่ยวข้อง รถยนต์มิตซูบิชิ รีวิวมิตซูบิชิ mitsubishi outlander phev mitsubishi 2021
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)