รีวิว - ทดลองขับ All-New Nissan Navara กระบะ Off-Road Style ไต่เนินชันกว่า 40 องศา
All-New Nissan Navara รถกระบะปรับโฉมใหม่
"ไมเนอร์เชนจ์" ภายนอกดุแกร่งมากขึ้น ภายในปรับเล็กน้อย แต่เพิ่มความสะดวกสบสยมากขึ้น แต่ไฮไลท์อีกอย่างของนิสสัน นาวาร่าใหม่นี้ก็คือ เครื่องยนต์ใหม่ดีเซล
YS23DDTT เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร เกียร์ 7 จังหวะ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบดริฟล็อก และช่วยเหลือการขับในสภาพถนนแบบออฟโร้ด ซึ่งในครั้งนี้ทางนิสสัน ได้จัดให้มีการทดสอบแบบ เบา ๆ พอรับรู้ถึงกำลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ใช้งานง่าย แม้ไม่ใช่นักขับแนวออฟโร้ดก็สามารถลุยผ่านอุปสรรคได้อย่างชิว ๆ
ในสนามทดสอบแบบปิดพร้อมทีมงานผู้ควบคุมการขับขี่ให้เป็นไปด้วยความปลอดภัย จากสนามที่ถูกจำลองขึ้นมาเรียกว่าใกล้เคียงกับสภาพป่าเขาในธรรมชาติมาก ๆ โดยมีรถให้ทดสอบ 3 รุ่น คือ
Nissan Navara Pro 4X 4WD,
VL 4WD และรุ่นเล็ก
KingCab V 2WD ให้ได้ลองกัน และยังมีรุ่นอื่น ๆ จอดโชว์อีกมากมาย
ลองสั้น ๆ ในสนามออฟโร้ด กำลังดี ลุยน้ำสบาย
จากการทดสอบในสนามจำลองแบบออฟโร้ดเริ่มที่
King Cab V ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ นั้น ให้ความนุ่มนวลและพวงมาลัยที่ควบคุมง่ายและน้ำหนัก "เบา" ขึ้นกว่าเดิมเยอะ กำลังเครื่องยนต์เกินพอสำหรับตัวถังตอนครึ่ง ทั้งลุยน้ำลึกราว ๆ 70 ซม. ข้ามอุปสรรคขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ๆ แต่ในรุ่นนี้จะไม่ได้ทดสอบปีนเนินเอียงและไต่ขึ้นทางชันเพราะว่าเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ สรุปว่าได้ในเรื่องความนุ่มนวล พวงมาลัยเบา กำลังเครื่องยนต์เกินตัวและเบาะนั่งสบายมากขึ้น สำหรับในรุ่น King Cab นี้
มาที่
Navara Double Cab VL ยังให้ความนุ่มนวลในระดับกลาง ๆ เพราะล้อแม็กขนาดใหญ่ 18 นิ้ว จึงใส่ยางแก้มเตี้ยลง แต่ก็ยังคงความนุ่มนวลอยู่ ส่วนเครื่องกำลังเครื่องยนต์นับว่ามีให้เกินพอ และเมื่อขับผ่านเนินเอียง สามารถใช้กล้องมองรอบคัน เพื่อดูเส้นทางได้อย่างชัดเจน ทำให้ผ่านอุปสรรคไปได้สบายครับ
ในช่วงทดสอบขับผ่านทางเอียงเลี้ยวโค้งก็ไม่ยากนัก สามารถใช้มองจากกล้องรอบคันได้ และมาถึงในช่วงการไต่ทางลาดชันที่ประมาณ 30 - 42 องศา โดยใช้เร่งรอบเครื่องเพียง 1,500 - 2,000 รอบต่อนาที โดยแค่เติมคันเร่งเบา ๆ รถก็สามารถไต่ขึ้นไปได้อย่างง่ายดายครับ และในขณะลงทางชันระบบช่วยชะลอความเร็วทำงานเต็มที่ แต่ด้วยเนินจำลองที่ชันมากกว่าปกติ ผู้ขับจึงต้องคอยใช้เบรกช่วยเพื่อความปลอดภัยครับ นอกจากนี้ก็ยังได้ทดลองขับรุ่นพิเศษอย่าง
Pro 4X 4WD ซึ่งนับว่ามีระบบการขับเคลื่อนเหมือนกับรุ่น VL 4WD แตกต่างที่ขนาดล้อจะลดลงเหลือ 17 นิ้ว และยางแก้มสูงกว่าเล็กน้อย จึงทำให้ได้สมรรถนะอย่างเต้มที่สำหรับการลุยอย่างจริงจัง
กำลังเหลือล้น นุ่มนวล พวงมาลัยเบากว่าที่เคย!
สรุปแล้ว เรื่องพละกำลังในการไต่ทางชัน ขึ้น-ลงเนิน ปีกมุมเอียงต่าง ๆ นับว่าผ่านสบาย ๆ ครับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็ยังคงทำงานได้สมบูรณ์แบบ แต่ความแตกต่างที่เจอในรุ่นใหม่นี้ที่เด่นชัดคือ ความนุ่มนวล พวงมาลัยที่คมและเบามากขึ้น พร้อมกับรถบบความปลอดภัยที่มีมาให้เพียง แม้จะมีออปชั่นบางอย่างถูกดร็อบลงไปบ้างก็ตามครับ เรียกว่าได้อย่าง (ที่ดีกว่า) เสียอีกอย่าง (ที่อาจไม่จำเป็น) เพื่อให้ราคาเหมาะสมที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุดและเข้าถึงง่ายที่สุดครับ
สำหรับส่วนตัวมองว่า ต้องไปให้สุด จัดรุ่น
Pro 4X ราคา 1,149,000 บาท ไปเลยหรือถ้าใครคิดว่าขับในเมืองไม่ค่อยได้ใช้งานขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็จัดรุ่น
Pro 2X ราคาเบากว่าเพียง 999,000 บาท หล่อเหมือนกัน ต่างแค่ขับ 2 และ 4 ล้อเท่านั้น แต่ถ้าใครชอบความหรูหราพรีเมี่ยมไม่เน้นดุดันนักก็คงต้องไปที่รุ่น VL หรือรุ่น V ที่จะได้ความหรูหราสพดวกสบายมากขึ้นครับ
หากสนใจเน้นว่าต้องไปลองขับจับสัมผัสลูบคำดูว่าถูกใจ ตรงใจแค่ไหน แล้วค่อยตัดสินใจ แต่ที่แน่ ๆ ทั้งออปชั่น ราคา สมรรถนะนั้นนับว่ามาลำดับตัน ๆ ของรถกระบะในไทย!