รีวิว Mazda CX 8 Exclusive รถยนต์ SUV คันหรู กับน้ำมัน 1 ถัง 700 กิโล เหลือไหม?

กิจกรรมดีๆ ในปีนี้กับแบรนด์มาสด้าที่ชวนสื่อมวงชนทำภารกิจ..ปันสุข ให้กับทุกภาคในประเทศไทย สำหรับทริปของผู้เขียนเป็นจังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือ โดยปันสุขให้น้องที่ จ.เชียงใหม่ และที่สำคัญ มาสด้าให้สื่อมวลชนขับรถทุกรุ่นของมาสด้า จากรุงเทพฯ - จ.เชียงใหม่ โดยผู้เขียนเองโชคดีได้ SUV คันหรู นั่นก็คือ Mazda CX-8 2.2 XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D AWD ที่มีวางจำหน่ายทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่งกับ 2 เครื่องยนต์ เบนซิน และ ดีเซล แต่ทว่าการขับไปปันสุขครั้งนี้ขับไปอย่างเดียวคงไม่ท้าทาย เลยอยากวัดใจกับเจ้า SUV คันหรู ว่าขับจากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่ จะเติมน้ำมันกี่ลิตร และหมดกี่ถัง เพราะรถมันก็คันใหญ่ แต่นั่งสบายนะ

รถคันโตกับพละกำลังดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า ซึ่งเราก็แอบทำภารกิจลับๆ ของตัวเองไปด้วย นั่นคือ ... จากน้ำมันเต็มถังที่รับรถมาจากอโศก จะขับไปเชียงใหม่ใช้น้ำมันไปเท่าไหร่? เดินทางกับผู้โดยสาร 4 คน และขนสัมภาระมาด้านท้าย โดยใช้ความเร็ว ไม่เกิน 120  กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับ รถยนต์ Mazda Cx8 วงเล็บไว้ด้วยว่า Exclusive พรีเมี่ยมมากๆ โดยถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งจากคอนเซ็ปต์ "Less is More" ห้องโดยสาร 6 ที่นั่ง เพื่อไม่ให้แออัดกันเกินไป สวยหรูตั้งแต่ภายนอก ดีไซน์กันชนหน้าหรูหราเส้นสายสปอร์ต กระจังหน้าโครเมียมทรง Signature Wing ติดโลโก้ มาสด้าตรงกลาง พร้อมกรอบไฟหน้า Projector แบบ LED ใหม่

ในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและการขับขี่ ด้วยเอกลักษณ์ของมาสด้าที่ดีไซน์ ทั้งนอกทั้งในหรูหราหมาเห่า ให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุดในราคาเอื้อมได้ ก็ถือว่าเหมาะแล้วที่ครองใจผู้บริโภค และยอดขายที่เติบโต ในห้องโดยสารถือว่า "เอ็กซ์คลูซีฟ" สมชื่อ เพราะให้เบาะหนังนั่งสบาย ที่นั่งกว้างใหญ่ ขาขยับขึ้นลงง่าย มีที่พักแขนให้เป็นกล่องใส่ของและช่องใส่น้ำ ที่เสียบ USB แยก นั่งแบบส่วนตัวสบายๆ แต่รุ่นนี้กว้างไม่ติดขานะ

เครื่องเสียง จอทัช 7 นิ้ว ลำโพง BOSE 10 ตำแหน่ง เสียงดัง ฟังเพราะ สังเกตุความสบายอีกจุดนึงนั่งคือที่นั่งโซนแถว 2 ที่มีตำแหน่งตายตัวคือ 2 ที่นั่ง และมีที่พักแขนตรงกลาง อำนวยความสะดวกเฉกเช่นผู้บริหารเลยทีเดียว แต่กระจกมองข้างจะพับต้องหมุนปิด (กดรีโมทไม่พับให้) มีแอร์แยกส่วนตัว ที่นั่งตอนหลังขาสั้นๆ แอบเมื่อยเพราะเบาะสูงกดลงไม่ได้ แต่ที่นั่งแถว 2 ตรงกระจกมีม่านบังแสงให้ด้วยนะ

ในเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำของมาสด้า CX8 i-Activsense ที่ให้มานั้นก็จะมี ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert) ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control), ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support) และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support)

สำหรับสมรรถนะในการขับขี่ รถนิ่ม เกาะถนน พวงมาลัยคม แม่นยำ  และจากการทำชาเลนจ์พบว่าน้ำมันเต็มถัง มาถึงกำแพงเพชร แวะทานอาหารในเมือง ก่อนวนไปเติมน้ำมันให้เต็มถัง (ขณะนั้น น้ำมันเหลือยังเหลืออยู่ราวๆ ครึ่งถัง ตีระยะทางราวๆ ไม่ถึง 400 กิโล) ขับต่อมายัง จ.เชียงใหม่ ซึ่งช่วงเย็นก็มีขับออกมาทานอาหาร แวะนู้นนี่ จนเช้ามาดูมาตรวัดเพื่อวัดผล เท่ากับ น้ำมันเหลือๆ อีกครึ่งถัง เท่ากับ 726 กม./ น้ำมัน 1 ถัง ถือว่า รถคันนี้เท่ากับ ไป-กลับ 2 ถัง สบายๆ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ซึ่งใครที่ชื่นชอบแบรนด์นี้ และกำลังหารถครอบครัวที่ไม่เกิน 7 และกำลังเงินเหลือเฟือ Mazda CX8 Exclusive ดีเซลก็เป็นตัวเลือกไม่เลว กับราคาแค่!!! 2,069,000 บาท เอ๊งงง จ๊ะ 

และสำหรับกิจกรรม "Mazda Caravan ปันสุข" เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในรูปแบบคาราวานรถยนต์มาสด้า สีแดง โซล เรด คริสตัล เจเนอเรชั่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่น ได้แก่ Mazda MX-5, Mazda2, Mazda3, Mazda CX-3, Mazda CX-30, Mazda CX-5 และ Mazda CX-8 เดินทางไปทำกิจกรรมจิตอาสาด้วยการส่งมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน ทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬา และสิ่งของที่จำเป็นต่อการพัฒนาทักษะไปสู่การประกอบอาชีพ รวมถึงเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่น้องๆ เยาวชนที่ขาดแคลนใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ 

ซึ่งคณะได้เดินทางไปส่งมอบที่โรงเรียนวัดหมูดุด จังหวัดจันทบุรี เป็นที่แรก ตามด้วยโรงเรียนบ้านโคกนางามปลาเซียมอัมพวัน จังหวัดขอนแก่น โรงเรียนบ้านสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนบ้านบึงพิชัย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตามลำดับ พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์พิเศษผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าในจังหวัดต่างๆ ถึงแนวคิดดีๆ ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย ซึ่งขบวนคาราวานได้เริ่มเดินทางส่งมอบความสุขมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม จนถึง 25 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา