รีวิว - ทดลองขับ Nissan KICKS รถยนต์ e-POWER ตัวแรง บนเส้นทางกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ผ่านโค้งสลับขึ้นลงเนิน 16 กม./ลิตร
All-New Nissan KICKS รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ผสานเทคโนโลยี e-POWER มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ใช้ปั่นไฟ
ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จ เดินทางใกล้หรือไกลจะไปไหนก็ได้ทั่วประเทศ กับสมรรถนะที่เกินตัวด้วยกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 129 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร ที่มากกว่ารถเบนซิน 4 สูบระดับ 2.4 ลิตร คิดดูว่าแรงบิดระดับนี้อยู่ในรถไซต์อีโค่คาร์ จะขับสนุกและประหยัดแค่ไหนกัน?
ทีมงานเช็คราคาได้มีโอกาสร่วมทดสอบ Nissan KICKS e-POWER ขับทั้งในเมืองและนอกเมืองเริ่มต้นจากโรงแรมอีสตินสาทร กรุงเทพฯ - จุดหมาย away dheva mantra resort & spa กาญจนบุรี รวมระยะทางไปกลับประมาณ 300 กม. กับ
นิสสัน คิกส์รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท
จุดเด่น Nissan KICKS มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
จุดเด่นน่าจะเป็นเรื่องของรถยนต์ที่ใช้พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ในการขับเคลื่อนล้วนๆ แต่ไม่ต้องคอยชาร์จไฟจากที่บ้านหรือแวะตามห้างหาแท่นชาร์จ เพราะได้ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 103 นิวตันเมตร ที่ 3,600 - 5,200 รอบ/นาที ความจุน้ำมัน 41 ลิตร ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator), พร้อมด้วยชุดอินเวอร์เตอร์ โดยเครื่องยนต์สันดาปภายในกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่แบบลิเธียม ไอออน (Lithium ion) มีขนาดกะทัดรัด และส่งผ่านไปยังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 129 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ตั้ง 500 - 3,008 รอบ/นาที เพื่อขับเคลื่อนล้อคู่หน้า และหากในภาวะต้องการกำลังเต็มที่ กระแสไฟที่ได้จากการปั่นก็จะสามารถจ่ายตรงสู่มอเตอร์ได้ทันทีอีกด้วย
อย่างที่บอกไปว่าไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอกเลยครับ ไม่ต้องติดตั้งเครื่องชาร์จไฟให้ยุ่งยากอีกต่อไป และผู้ขับยังได้สัมผัสถึงการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในแบบรถยนต์ไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
จุดเด่นต่อมาน่าจะเป็นเรื่องของความแรง อัตราเร่งต่างๆ หรือสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเทียบเท่ากับรถยนต์เบนซินระดับ 1.8 - 2.0 ลิตร จากตัวเลขของแรงบิดระดับ 260 นิวตันเมตร ที่เทียบเท่ารถเครื่องยนต์ใหญ่อย่างเช่น Nissan X-Trail รุ่น 2.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที!! ดังนั้น แม้นิสสัน คิกส์จะดูเป็นเหมือนรถที่อยู่ในคลาสเดียวกับอีโค่คาร์นั่นคือ มีความประหยัดน้ำมันใกล้เคียงหรือเทียบเท่ารถเครื่องยนต์เล็กๆ ขนาด 3 สูบ 1.2 ลิตร ที่อัตราเฉลี่ยน้ำมันกว่า 20 กม./ลิตรขึ้นไป
ระบบเก็บไฟแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ที่มี 4 โมดูล เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ วัน-เพดัล (One-Pedal) ช่วยให้ผู้ขับ เร่ง ชะลอความเร็ว และเบรกจนรถหยุดนิ่งได้ด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว การใช้คันเร่งเดียวช่วยให้ การรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้า การชะลอความเร็ว และการหยุดเมื่อลงเขาหรือหยุดเมื่อเจอสัญญาณไฟจราจร สะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น
Nissan KICKS e-POWER มาพร้อม 4 โหมดการขับคือ ปกติ (Normal Mode) เอสหรือสมาร์ทโหมด (Smart Mode) อีโค (Eco Mode) และอีวี (EV Mode) ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ ให้ความเงียบและประหยัดสูงสุด
D - ใช้ขับขี่ทั่วไปโหมดนี้จะให้สมรรถนะจัดเต็มมากที่สุด เพราะจะทำงานแบบเต็มระบบนั่นคือ เมื่อต้องการใช้พลังงานสูงสุด เครื่องยนต์จะปั่นไฟเข้าที่มอเตอร์ไฟฟ้าโดยตรงในกรณีไฟในแบตเตอรี่พอหรือไม่ก็ตาม เมื่อไฟมาเต็มมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะมีกำลังเต็มที่ ขับสนุกแน่นอนครับ และเมื่อขับขี่ปกติระบบก็จะคำนวนตามสภาพการขับขี่อย่างแม่นยำและเตรียมพร้อมทุกอัตราเร่ง
D-S เน้นใช้งาน One-pedal ใช้คันเร่งควบคุมการเร่ง ชะลอ หรือหยุดได้ในคันเร่งเดียว โดยไม่ต้องแตะเบรกพร้อมกับไฟเบรกที่ติดขึ้นด้วย นั่นคือเมื่อต้องการเร่งเติมคันเร่งปกติ เมื่อปล่อยคันเร่งมอเตอร์ไฟฟ้าจะหน่วงความเร็วเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ คล้ายอาการหน่วงของเครื่องยนต์ (Engine Brake) ซึ่งเหมาะกับการจราจรในเมืองหรือเมื่อขับขึ้น-ลงทางลาดชันและเนินเขา
D-ECO ลดการใช้พลังงานให้ประหยัดสุดทั้งระบบไฟฟ้าขับเคลื่อน เครื่องยนต์ และระบบแอร์ ก็ในแบบประหยัดนั่นเอง การตอบสนองคันเร่งจะค่อยๆ มาแบบเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ แต่ถ้าต้องการกำลังเร่งแซงในโหมดนี้ ก็สามารถคิกส์ดาวน์ได้เช่นกัน
EV ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่โดยเครื่องยนต์จะไม่ติดขึ้น จนกว่าไฟในแบตเตอรี่จะชลอลงในระดับต่ำตามที่กำหนดไว้ เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นมาเอง โดยทางนิสสันแจ้งไว้คร่าวๆ ว่า ในโหมด EV นี้จะวิ่งได้ระยะทางประมาณ 4 - 5 กม. ขึ้นอยู่กับสภาวะการขับขี่ในขณะนั้นครับ
D-B จะเป็นการเน้นชาร์จไฟฟ้ากลับแบตเตอรี่เมื่อถอนคันเร่ง แต่ว่าความเร็วจะไม่ลดลงเร็วเท่ากับโหมด D-S และจะไม่สามารถหยุดรถจนจอดสนิทได้
ส่วนตัวชอบโหมด D มากที่สุด เหมือนรถยนต์ปกติที่สุด เพราะเมื่อปล่อยคันเร่งรถก็มีแรงเฉี่อยไหวลื่นไปได้ไกล ซึ่งไม่ว่าจะอยู่โหมดไหน เมื่อต้องการกำลังเร่งสูงสุดก็สามารถคิกส์ดาวน์ได้เลยทันที นอกจากนี้เมื่อถอนคันเร่งก็จะมีระบบชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่อีกทางหนึ่งด้วย
ภายนอกเป็นรถยนต์แบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู โดยในรุ่น VL เป็นสีทูโทน ส่วนภายในทูโทนแบบสีดำ-ส้ม มิติตัวรถยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,615 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. น้ำหนักประมาณ 1,340 - 1,350 กก.
มาตรวัด TFT 7 นิ้ว เครื่องเสียงจอสัมผัส 8 นิ้วใหญ่สุดในกลุ่ม แอร์อัตโนมัติ ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ กล้องมองรอบคัน กระจกมองหลังปรับเป็นกล้องมองหลังได้พร้อมตัดแสง พวงมาลัยหุ่มหนังแต่ผิวสัมผัสยังแข็ง ไม่ค่อยสบายมือนักสามารถ ปรับ 4 ทิศทาง
คอนโซลหน้าเป็นวัสดุพลาสติกแข็ง แต่ด้านหน้าตรงแผงเครื่องเสียงหุ้มด้วยวัสดุนุ่ม ภายในของรุ่น VL มีให้เลือก 2 สีคือ ทู-โทนและดำ เบาะผิวสัมผัสแผ่นรองนั่งจะออกแข็งหน่อย ส่วนปีกจะนิ่มกว่า กระชับตัวขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่เป็นไปตามตัวรถ ฝั่งคนขับปรับขึ้น-ลงได้
เบาะหลังส่วนพิงจะค่อนข้างตั้งตรง แต่เบาะรองนั่งสบายพอสมควร พื้นที่วางขาเล็กกว่าอัลเมร่าใหม่เล็กน้อย พื้นที่บนศีรษะเหลือเยอะ แต่ไม่ถึงกับโปร่งมากนัก ความสูงตัวรถกำลังดี ก้าวขึ้น-ลงสะดวก ไม่ต้องย่อตัวหรือโหนเมื่อเข้า-ออกรถ
Nissan Intelligent Mobility จัดให้เต็มคัน
นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ในรุ่น VL มีมาครบ เช่น เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control) เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning system) เทคโนโลยีเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror)
โดยจะมีให้ตามแต่ละรุ่นย่อยดังนี้
e-POWER S ราคา 889,000 บาท - ไฟหน้าแบบ LED Signature Light
- ไฟส่องเวลากลางวัน LED
- ล้ออัลลอยทูโทน 17 นิ้ว
- วิทยุจอสี TFT 7 นิ้ว ครุซคอนโทรล
e-POWER E ราคา 949,000 บาท เพิ่ม** - พวงมาลัยทรงสปอร์ตปรับ 4 ทิศทาง
- สัญญาณเตือนจอดด้านหลัง
- ระบบ Driver Attention Alert
- ระบบเตือนก่อนการชน Intelligent Forward Collision Warning
- ระบบเบรกฉุกเฉิน Emergency Braking
e-POWER V ราคา 999,000 บาท เพิ่ม** - เปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- เบาะหนัง Nissan Connect
- จอสัมผัส 8 นิ้ว Apple Carplay
- กล้องมองรอบคัน IAVM พร้อมตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหว MOD
e-POWER VL ราคา 1,049,000 บาท เพิ่ม** - สีภายนอกทูโทน
- เบาะหนังทูโทน ดำ-ส้ม
- แอร์แบ็ก 6 ใบ
- ครุซคอนโทรลแปรผัน Intelligent Cruise Control
- กระจกมองหลัง Intelligent Rear View Mirror
- ตรวจจับวัตถุขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
ลองขับจริง Nissan Kicks ePOWER กทม.- กาญจนบุรี กว่า 300 กม. ทั้งใน-นอกเมือง ทางโค้งคดเคี้ยว สลับขึ้นลงเนินเขา เร่งแซงบ่อยไม่มีการปั้นตัวเลขประหยัดได้ตัวเลขบนมาตรวัดอยู่ที่ 16 กม./ลิตร และใช้น้ำมัน 1 ถัง ตั้งแต่วันแรกออกสตาร์ทจากโรงแรมอีสติน สาทร ไป-กลับ โรงแรม Dheva Mantra Resort & Spa กาญจนบุรี โดยไม่ต้องเติมเลยอีกด้วยครับ
เวลานั่งขับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในมาร์ชผสมกับอัลเมร่า นั่นคือ ตัวโครงสร้างและขนาดรถนั้นทางนิสสันระบุไว้เลยว่าเป็น B-Segment จึงไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก แต่ก็มีพื้นที่แบบหลวมๆ นั่งไม่อึดอัด
การขับขี่ในตัวเมืองคล่องตัวมากน้ำหนักพวงมาลัยเบาควบคุมง่าย วงเลี้ยวแคบ 5.1 ม. กลับรถสบาย การเข้าโค้งเฉียบคมฉับไว ใช้องศาในการหมุนพวงมาลัยไม่มากนัก ก็สามารถเข้าโค้งขนาดเกือบหักศอกได้ และที่ความเร็วสูงอาจเบาขึ้นแต่ไม่ถึงกับหวิวจนต้องเกร็งมือมากนัก
ทัศนวิสัยนับว่าดีในแบบรถแฮทช์แบ็กทั่วไป หน้าไม่ยาวมาก ท้ายสั้น เสา A คู่หนาขนาดเล็กไม่บังสายตาเมื่อเข้าโค้งเท่าไหร่นัก กระจกมองหลังเห็นได้ชัดเจน และปรับให้เป็นกล้องมองหลัง เพื่อมองเวลามีคนนั่งบังและชัดเจนกว่ากล้องที่อยู่ในเทอร่าอีกด้วย
อัตราเร่งดีงามตามกำลังแรงบิด 260 นิวตันเมตร แม้แรงเพียง 129 ตัว แต่อย่าลืมว่านี่คือกำลังจาก มอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆ และในการใช้งานโดยทั่วไปนั้นมักจะเน้นแรงบิดเพื่อใช้ในการออกตัว เร่งแซง เมื่อแรงบิดเยอะระดับนี้ในรถขนาดไม่ใหญ่นัก ก็สามารถพุ่งทยานไปได้อย่างสบายทั้งออกตัว เร่งแซง มีแค่เพียงความเร็วปลายที่หมดที่ 160 ปลายๆ กม./ชม. ซึ่งรถครอบครัวแบบนี้ไม่ใช่รถสปอร์ตไม่จำเป็นต้องเร็วแตะ 180 กม./ชม. เน้นความปลอดภัยจริงไหมครับ
น้ำหนักรถเพียง 1.3 กก. นิดๆ กับแรงบิด 260 นิวตันเมตร ที่เทียบเท่าหรือาจจะมากกว่ารถเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 - 2.0 ลิตร ด้วยซ้ำไป รับรองว่าขับสนุกแน่นอน ไม่มีรอรอบ เหยียบติดเท้าทันใจ
ระบบช่วงล่างยังมีความกระด้างในบางจังหวะ แต่กลับนุ่มนวลเมื่อใช้ความเร็วกลางๆ และเมื่อกระโดดคอสะพานบางครั้งโช๊คด้านหลังจะยืดและยุบมากเกินไป อาจด้วยถังน้ำมันและชุดแบตเตอรี่ใต้ท้องจึงอาจเป็นตัวหน่วงทิ้งน้ำหนักเมื่อมีการเหิน
เบรกเพียงพอกับสมรรถนะ เอาอยู่มั่นใจได้ นุ่มเท้าไม่ต้องออกแรงเยอะมากนัก แต่ถ้ามีการเบรกในโค้งเยอะๆ จะมีอาการโยนในส่วนท้ายของรถอยู่บ้าง แต่ระบบช่วยเหลือการทรงตัวต่างๆ ก็พอช่วยให้ขับผ่านไปได้ไม่ยากนัก
เสียงเครื่องยนต์และภายนอกดังเข้าห้องโดยสารพอควร ดับเครื่องแล้วกระจกไฟฟ้าถูกตัวทันที วัสดุไฟเก๋งดูประหยัดไป เบาะหลังตั้งตรงมาก
Nissan KICKS นับเป็นรถยนต์ที่เน้นการใช้งาน สมรรถนะและความประหยัดในรูปแบบรถยนต์ EV แต่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานจริง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องไฟในแบตเตอรี่จะหมดเมื่อไหร่ ต้องค่อยวิ่งหาที่ชาร์จไฟ หรือต้องวางแผนการเดินทางให้วุ่นวายอีกต่อไป เพราะการใช้งานนั้นก็ไม่แตกต่างกับรถยนต์ทั่วไปเลย เพียงแต่ว่า คุณจะได้ประสบการณ์การขับที่ไม่สามารถหาได้จากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน นั่นคือจะได้ฟิลลิ่งรถยนต์พลังมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ในท้องตลาดนั้นมีราคาทะลุหนึ่งล้านบาทขึ้นไปแน่นอน แต่ใน นิสสัน คิกส์ เริ่มต้นที่แปดแสนกว่าๆ เท่านั้น
นอกจากนี้ยังได้ในเรื่องความประหยัดระดับอีโค่คาร์ แต่ได้อัตราเร่งและความแรงระดับรถยนต์เครื่องใหญ่จากแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 260 นิวตันเมตร จะทำให้การขับขี่สนุก ทันใจ และปลอดภัยมากขึ้น นี่ยังไม่นับพวกระบบความปลอดภัยที่ให้มาในแต่ละรุ่นย่อยอีกนะ คุ้มหรือไม่ถามใจดูครับ!
สุดท้ายแล้วคงต้องให้ไปทดลองขับด้วยตัวเองก่อน และต้องดูความต้องการว่าอยากนำมาใช้งานในลักษณะใด หากต้องการรถยนต์ที่ประหยัด อัตราเร่งดี ขนาดกำลังดี ราคาไม่สูงนัก นิสสัน คิกส์น่าจะเป็นคำตอบที่ใกล้เคียงมากที่สุด
พร้อมบำรุงรักษาต่ำพอกับอีโค่คาร์ ใน 5 ปีหรือ 100,000 กม. เพียง 19,560 บาท รับประกันรถ 3 ปี 100,000 กม. ระบบ e-POWER 5 ปี แบตเตอรี่ 10 ปี