รีวิว Toyota Hilux Revo Rocco 4X4 แรงนุ่มขึ้นออปชั่นเยอะเพิ่ม Lane Departure และ Radar Cruise Control

Toyota Hilux Revo Rocco ใหม่ (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นพิเศษ ร็อคโค่ ใหม่) รถกระบะรุ่นพิเศษที่ตกแต่งด้วยชุดแต่ง "Rocco" ด้วยกระจังหน้าเข้มดุ ซุ้มล้อดูแข็งแกร่ง ล้อแม็กลายใหม่ ไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ หร้อมด้วยไฟเลี้ยว LED ไฟท้ายลายใหม่แบบ LED เช่นกัน แต่ทั้งหมดนี้แค่เพียงภายนอกที่เห็น ใน "Rocco" ใหม่นี้ ยังมีจุดที่ปรับปรุงเพิ่มเติมอีกมากต้องลองขับถึงจะรู้ว่าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นจริงหรือไม่? 

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นพิเศษ Rocco ใหม่ นั้นมีการปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะทั้งที่มองเห็นและไม่เห็น อย่างเช่น เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที

ปรับปรุงระบบเทอร์โบแปรผันลูกใหญ่ขึ้นเป็นแบบลูกปืน (Ball bearing) ระบบจ่าบน้ำมันใหม่ I-ART เพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรังปรุงรอบเดินเบาให้ต่ำลง 680 รอบต่อนาที  ระบบช่วงล่างที่ ปรับปรุงใหม่ Super Flex Suspension แหนบหลัง 3 แผ่น แต่แผ่นกลางแข็งแรงขึ้น ทำให้นุ่มนวลกว่าเดิม และในส่วนฝาปิดท้ายมีสปริงช่วยผ่อนแรงมาให้ด้วย

ความปลอดภัยที่เพิ่มมา ได้แก่ ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)

แอปพลิเคชัน T-Connect by Toyota เพื่อติดตามสถานะการส่งมอบรถของท่านผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดตามสถานะการส่งมอบรถของท่านผ่านโทรศัพท์มือถือ และเพิ่มความอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลด้วย ระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) หรือ การติดตามการโจรกรรม การแสดงข้อมูลการขับขี่ Trip Report การเช็กตำแหน่งรถ (Find My Car) และยังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัว

ก่อนหน้านี้ทางบริษัท โตโยต้าฯ ได้เปิดโอกาสให้ลองขับแบบสั้น ๆ ในสนามทดสอบ Tdex บางนากม.3 มาบ้างแล้ว (คลิกอ่านบทความทดลองขับ Toyota Hilux Revo Rocco) แต่ก็ยังไม่จุใจ จึงต้องพิสูจน์อีกครั้งว่าสมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างและระบบความปลอดภัยที่ปรับปรุงใหม่นั้น ในรูปแบบการขับขี่ใช้งานจริงจะตอบโจทย์ชีวิตประจำวันได้หรือไม่

Toyota Hilux Revo Rocco 4X4 กำลังของเครื่องยนต์แรงตั้งแต่ออกตัว แม้มีกำลังสุงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร แต่กลับไม่มีอาการกระชากจากน่ากลัว มีความสมูทและต่อเนื่อง ควบคุมม้าทั้งฝูงง่าย ด้วยการปรับคันเร่งให้ตอบสนองระดับกลาง ๆ จึงทำให้รถไม่กระชาก และยังเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล และสามารถไต่ระดับความเร็วจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม.ในเวลาไม่กี่วินาที และยังไปต่อเนื่องเกินกว่า 140 กม./ชม.อย่างสบาย ๆ  

การตอบสนองของเครื่องยนต์ในช่างเร่งแซงนั้น เมื่อกดคันเร่งแบบคิกดาวน์ ยังมีอาการหน่วงเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งต่ำลงมา แต่ยังอยู่ในช่วงที่พอรับได้ จากน้ำหนักตัวของ Rocco 4X4 ราว ๆ 2 ตันเศษ ซึ่งมีทั้งชุดเฟืองท้ายและเกียร์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมถึงชุดแต่งรอบคัน ล้อและยางขนาดใหญ่ 265/60R18  

ในช่วงขับขี่ในเมืองอาจจะไม่คล่องตัวมากนักด้วยความใหญ่ยาวสูงและกว้างของตัวรถ จึงต้องมีระยะเผื่อรอบคันพอสมควร เป็นปกติของรถกระบะยกสูงล้อโต แต่ก็เป็นข้อดีเพราะสามารถขับขี่ผ่านสภาพถนนแย่ ๆ ได้อย่างสบายพร้อม "รูดและลุย" ในเส้นทางที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าได้อย่างไม่ต้องแตะเบรกหรือเมื่อลุยน้ำท่วม 

เมื่อทดลองใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในแบบ 4H สัมผัสได้ถึงพวงมาลัยที่ลดอาการ "ขัดขืน" เมื่อต้องเลี้ยวในวงแคบ การกลับรถมีอาการดิ้นของล้อหน้าน้อยลง แต่ก็ยังคงมีอยู่บ้าง แต่ในโหมด 4L ก็รู้สึกว่าเบาขึ้นและใช้ความเร็วได้สูงขึ้นโดยรอบเครื่องไม่สูงเกินไปนัก ในตำอหน่ง 4L ขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วต่ำ สามารถหักเลี้ยวได้มากโดยที่พวงมาลัยไม่หนัก นับว่าเบากว่ารถขับเคลื่อนทั่วไปสำหรับในตำแหน่ง 4L 

ในช่วงทดสอบขับตำแหน่ง 4H เมื่อออกเร่งออกตัวสัมผัสได้ถึงแรงบิดมหาศาล 500 นิวตันเมตร จากการคิกดาวน์ล้อทั้ง 4 ไม่มีอาการฟรีทิ้งมากนักจากระบบควบคุมล้อหมุนฟรี บวกกับกำลังเครื่องยนต์ที่แม้จะใส่ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ก็ยังมีกำลังเหลือเกินพอที่จะ "กระโจน" ออกตัวไปอย่างฉับไว แรงบิด 500 นิวตันเมตร มาเพื่อเพิ่มสมรรถนะให้กับการใช้งานขับเคลื่อน 4 ล้อนี่เอง 

เพิ่มเติมในวันที่ทดสอบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่สนามทกสอบโตโยต้า บางนากม.3 ได้ทดลองขับบนทางลาดชัน และทางเนินสลับไปมา ด้วยการใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำราว ๆ 680 รอบ/นาที ซึ่งผู้ขับไม่ต้องเติมคันเร่งมากนัก รถก็สามารถขับผ่านไปได้อย่างสบาย  

ระบบช่วงล่างและเบรกจากการปรับปรุงใหม่นั้น รู้สึกได้จริงถึงความนุ่มนวล โดยในการขับขี่ผ่านคอสะพานหรือเนินต่าง ๆ ช่วงที่โช้คยืดตัวขึ้นยังคงมีอาการ "ดีด" เล็กน้อยก็ไม่ถึงกับตัวลอยนัก แต่ในช่วงที่ยุบตัวนี้กลับนุ่มนวลมาก ลงแรงกระแทกลงไปอย่างรู้สึกได้ชัดเจน นับว่านุ่มนวลกว่ารุ่นก่อนหน้าและในรีโว่รุ่นที่ผ่านมา 

แต่ในความนุ่มนวลนั้นแลกกับอาการอ่อนโยนกว่าเดิม โดยเมื่อช่วงล่างนุ่มนวลมากขึ้นในการขับขี่ที่ความเร็วสูงในช่วงขึ้นลงสะพานหรือเปลี่ยนเลน มีอาการ "โยนหรือยวบ" กว่าเดิม ซึ่งตรงนี้เองอาจต้องประคองพวงมาลัยให้แม่นยำ แต่ว่าร็อคโค่ก็มีระบบช่วยเหลือในการควบคุมการทรงตัวมาให้ หาดเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็ยังพอไว้ใจได้ว่ารถจะสามารถช่วยควบคุมให้บังคับทิศทางได้อย่างปลอดภัย และอาการยวบนี้เป็นปกติของรถที่ยกสูง ใช้ยางแก้มหนา และน้ำหนักรถที่มาก จึงควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมด้วยครับ    

Toyota Hilux Revo Rocco 4X4 มีโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบคือ ปกติ, PWR และ ECO ซึ่งสำหรับการใช้งานทั่วไปที่เน้นขับขี่ในเมืองเป็นหลักและไม่ต้องการสมรรถนะมากนักแนะนำว่าให้ใช้โหมด "ECO" เพราะว่าจากการทดลองใช้จริงแล้วสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกพอสมควร โดยในโหมดปกตินั้นจากน้ำมันที่เต็มถังเมื่อวิ่งใช้งานไปประมาณ 90 กม. ระดับน้ำมันลดลงเกือบ 1 ช่องเต็ม แต่เมื่อลองใช้ "ECO" ปรากฎว่าระดับน้ำมันลดระดับลงช้ากว่าเดิม เมื่อวิ่งไปอีก 100 กว่ากม. จึงช่วยเพิ่มความประหยัดได้จริง 

ส่วนในโหมด POWER (PWR) แต่นอนว่าให้ทั้งแรงทั้งกำลังใช้งานด้วยการคงรอบเครื่องยนต์สูง ๆ เอาไว้ให้เรียกใช้งานอย่างเต็มที่ จึงซดพอสมควร ส่วนในโหมดปกติ (คือไม่กดปุ่มใด ๆ เลย) ก็จะมีอัตรากินน้ำมันน้อยกว่าแบบ PWR แต่ก็ยังกินจุกว่า ECO พอสมควรครับ สรุปว่าเลือกโหมดการใช้งานให้เหมาะสมกับความเป็นจริง ก็จะได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจากเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวคันเมตร! 

ความสะดวกสบายด้วยกุญแจสมาร์ทคีย์หรือเพียงกดปุ่มเปิด-ปิดล็อคที่จับมือประตูด้านนอก ปุ่มสตาร์เครื่องยนต์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทำให้สามารถปรับท่านั่งให้เหมาะสมกับระยะพวงมาลัย  

เทคโนโลยี่ระบบช่วยการขับขี่ - Rocco ใหม่ เพิ่มระบบช่วยเหลือต่าง ๆ เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งนับว่าให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้นได้แก่ 

ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน สามารถตั้งความเร็วได้ที่ก้านเล็ก ๆ ทางขวาของพวงมาลัย ด้วยการกดปุ่มที่ปลาย จนขึ้นรูปนาฬิกาบนหน้าปัด และดันก้านลงเพื่อ SET ตั้งความเร้วจากที่ใช้งานอยู่ขณะนั้น ตั้งความเร็วด้วยการโยกขึ้น (บวก+) หรือ ลง (ลบ-) ระบบเรดาร์จะทำการตรวจจับรถยนต์คันหน้าให้เว้นระยะโดยจะเร่งและลดความเร็วให้โดยอัตโนมัติ นับว่าสะดวกเมื่อต้องเดินทางไกลยาว ๆ และหากใช้ควบคู่กับระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) นับว่าเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นไปอีกขั้นครับ 

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) ช่วยเตือนเมื่อรถเอี่ยวออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจหรือไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบสามารถช่วยเตือนด้วยเสียงและหากยังไม่มีการตอบสนองระบบจะทำการดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลนเดิมและลดความเร็วโดยอัตโนมัติ ระบบนี้เหมาะกับชาวโซเชียลยิ่งนักและยังปลอดภัยเมื่อต้องเดินทางไกลที่อาจเกิดอาการใจลอยคิดใครคนัน้อยู่จนรถเอียงออกนอกเลน    

นอกจากนี้ความสะดวกสบายในการใช้งานเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Capacitive รองรับระบบ Apple CarPlay เชื่อมต่อ Bluetooth รองรับโทรศัพท์ และการเล่นเพลง ช่อง USB 1 ช่อง ลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า กระแสตรง DC 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง กระจกไฟฟ้าแบบขึ้น-ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน กุญแจรีโมทแบบ Smart Key ช่องแช่เย็นแบบ Cool Box บริเวณคอนโซลหน้า

อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยมาตรฐานที่ให้มาอีกเพียบคือ ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC, ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HAC, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VSC, ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC, ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential) 

และถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านด่านข้าง, หัวเข่าด้านคนขับและระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)

อย่างไรก็ตามแม้ว่า Toyota Hilux Revo Rocco 4X4 จะถูกปรับปรุงใหม่เกือบหมด แต่สิ่งที่ยังคง "คอนเซ็ปต์" ของรถกระบะนั่นคือ พวงมาลัยที่มีความหนักหน่วงที่ความเร็วต่ำ อาจเพราะมีระบบชุดเพลาขับเคลื่อนที่ล้อหน้าเข้ามาจึงมีน้ำหนักมาก แม้จะปลดระบบขับเคลื่อ 4 ล้ออกแต่ชุดเพลายังคงเกาะอยู่บนแกนล้อหน้า 

กระจกส่องหน้าฝั่งคนขับไม่มีมาให้ กระจกมองหลังไม่ตัดแสงอัตโนมัติต้องปรับโยกเอง ช่องต่อ USB ด้านหน้ามี 1 ช่อง ส่วนด้านหลังไม่มีให้ แต่ว่ามีช่อง 12V ด้านหน้า 2 จุดและในกล่องใต้ที่เท้าแขน 1 จุด     

Toyota Hilux Revo Rocco 4X4 รถกระบะรุ่นพิเศษที่ตอบสนองทั้งความสวยลงตัว ความแรงของเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ ระบบช่วงล่างแกร่งขึ้น นุ่มนวลขึ้นเหมาะกับการเดินทางที่สบายมากขึ้น ภายในเพิ่มความหรูหราด้วยไฟ Ambiant Light หน้าจอแสดงผลแบบกราฟฟิกดูดีขึ้น ราว ๆ กับฟอร์จูนเนอร์ในคราบรถกระบะ จ่ายเพียง 1,239,000 บาท เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าอีก 70,000 บาทเท่านั้น     

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Toyota Hilux Revo ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Toyota ทุกรุ่น

โชว์รูมแนะนำ