รีวิว Audi Q3 Sportback 35 TFSI S line รถยนต์ SUV เพื่อครอบครัวหัวใจสปอร์ต

Audi Q3  Sportback 35 TFSI S-Line รถยนต์อเนกประสงค์ SUV 5 ที่นั่งขนาดกลางเพื่อครอบครัว ในมาดสปอร์ตหลังคาช่วงท้ายลาดเอียง รูปทรงเข้มขึ้นด้วยการตกแต่งกระจังหน้าแปดเหลี่ยมแบบรังผึ้ง และมี air inlet ขนาดใหญ่ ไฟ LED ทรงลิ่ม ไฟหน้าเลี้ยวแบบ Dynamic ใส่ออปชั่นฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบ Hand-Free ภายในออกแบบผสานระหว่างความหรูหราและสปอร์ตได้แนบเนียน เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบ ฉีดตรง สุดประหยัดแต่กำลังเกินซีซี Q3 Sportback ใหม่ นับเป็นการปรับโฉมหมดทั้งคัน ออกแบบให้เป็นหนึ่งเเดียวกับรถรุ่นใหญ่อย่าง Q8 ราคาไม่โหดเกินไปในมาด Sportback เพียง 2.649 ล้านบาท

Audi Q3 Sportback 35 TFSI S line นับเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีขนาดกลางคร่อมระหว่าง Q2 และ Q5 โดยมีคู่แข่งในตลาดด้านราคาใกล้เคียงกันอย่าง MB GLA เกือบจะไปแตะกับรุ่น GLC ได้ในเรื่องของขนาดตัวรถแต่ราคาต่างกันอยู่มาก ซึ่งทางด้าน Q3 นั้นจะได้เปรียบเรื่องความกว้างขวางกว่า GLA กับราคาที่สูงกว่าไม่มากนัก 

Q3 Sportback 35 TFSI S-Line รูปทรงทีให้ความสปอร์ตปราดเปรียว หลังคาลาดเอียงแบบรถคูเป้ ในความพิเศษเฉพาะใน Sportback ที่แตกต่างจาก Q3 รุ่นปกติ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบรังผึ้งสไตล์เดียวกับ Audi A5 หรือ TT ไฟท้าย LED และมาพร้อมไฟเลี้ยวแบบเส้นเคลื่อนไหว Dynamic 

มีขนาดตัวรถยาว 4,500 มม. กว้าง 1,843 มม. สูง 1,567 มม. ระยะฐานล้อ 2,680 มม. เส้นสายด้านข้างดูบึกบึนแข็งแรง ล้อแม็ก 19 นิ้ว และระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบใช้เท้ากวาด (Hand Free)

ภายในกว้างกว่าที่เห็นแม้หลังคาด้านหลังจะลาดเอียงแต่ยังมีความกว้าง เบาะหนังแท้พร้อมสัญลักษณ์ S line คู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลัง และสามารถปรับระยะของแผ่นรองน่องได้ เบาะหลังสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และปรับพนักพิงได้ พื้นที่สัมภาระจุ 530 - 1,400 ลิตร

คอนโซลหน้าทรงเหลี่ยมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้ทหนังแท้ แบบท้ายตัด พร้อม Paddle Shift และ Cruse Control แผงหน้าปัดจอสีแบบ Virtual Cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว ที่สามารถเลือกการแสดงผลได้ 2 รูปแบบ      

ระบบความบันเทิงในห้องโดยสารควบคุมด้วยระบบ MMI Radio Plus ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส เชื่อมต่อ Smartphone Interface รองรับ Android และ Apple CarPlay พร้อมไฟสร้างบรรยากาศสีขาวในห้องโดยสาร (Lighting package)  

Audi Q3 Sportback ใช้เครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดตรงสู่ห้องเผาไหม้ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ความจุ 1,395 ซีซี เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ พร้อม Paddle Shift เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์บนพวงมาลัย ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 9.3 วินาที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความจุถังน้ำมัน 58 ลิตร 

นอกจากนี้สามารถเลือกโหมดการขับขี่ของระบบช่วงล่างและเครื่องยนต์ได้ 4 รูปแบบ คือ Offroad, Comfort, Auto, Dynamic และ Individual ซึ่งในโหมด Dynamic นั้นจะเป็นแบบ Sport โดยการลากรอบเครื่องยนต์สูง ๆ ให้เรียกกำลังใช้งานได้ฉับไว้  

ความสะดวกสบายใน Q3 Sportback สัมผัสได้ตั้งแต่กุญแจรีโมทแบบ กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ ปุ่ม Push start เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้าที่ปรับได้เยอะถึง 8 ทิศทาง และปรับยะระรองน่องได้ด้วย พวงมาลัยปรับระดับได้แต่ยังไม่ใช่ระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างกางออกอัตโนมัติพร้อมระบบไล่ฟ้า

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิ ฝั่งซ้ายและขวา พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งตรงคอนโซลกลาง และช่องวางวิ่งของอเนกประสงค์ตรงฐานเกียร์ แผ่นบังแดดพร้อมกระจกและไฟส่องสว่างถูกใจคุณผู้หญิง 

ไฟหน้ามีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบล็อคประตูเมื่อรถยนต์เคลื่อนที่ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Audi hold assist ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฟ้า และกระจกมองหลังตัดแสง 

ความปลอดภัยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system) ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function) ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน (Hill descent control) เป็นต้น

การทดลองขับ Audi Q3 Sportback 35 TFSI S-Line บอกได้คำเดียวว่า "เกินคาด" เพราะด้วยขนาดตัวรถ Q3 ที่ใหญ่พอสมควร และในรุ่นก่อนหน้าใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ มาก่อน เมื่อเป็นเครื่องยนต์ใหม่แบบ "Down Size" เหลือเพียง 1.4 ลิตร จึงคิดว่าน่าจะไม่จีดจ๊าดเท่าไหร่ แต่กลับผิดคาด!

อัตราเร่งเครื่องยนต์ของเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า 250 นิวตันเมตร สร้างความตื่นเต้นได้ไม่น้อย ช่วงเริ่มเหยียบคันเร่งยังมีจังหวัหน่วงนิด ๆ เมื่อรอบเครื่องยนต์กวาดขึ้นไปตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที เทอร์โบเริ่มทำงาน ก็พุ่งทยานไปได้อย่างทันใจครับ 

การเปลี่ยนเกียร์แบบคลัตช์คู่เรียบเนียนไม่สดุดและต่อเนื่อง ทำงาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดนาน ยิ่งทำให้ตัวถังขนาดน้ำหนักตันครึ่งนิด ๆ ลอยลำได้อย่างง่ายดาย และจะไปหนืดในช่วงความเร็วประมาณ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งคงไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วสูง ๆ บ่อยนักเพราะเน้นการใช้งานแบบรถครอบครัว  

การเร่งแซงก็ทำได้ดีไม่แตกต่างกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร โหมดใช้งานของ Paddle Shift ก็เปลี่ยนเกียร์รวดเร็วดี นอกจากนี้ยังใช้โหมดการขับขี่แบบ Sport โดยโยกที่ลงคันเกียร์เพิ่มอีก 1 ครั้ง จนขึ้นตัว "S" บนหน้าจอ ก็ขับได้สนุกโดยไม่ต้องมาเปลี่ยนแป้นหลังพวงมาลัย และยิ่งกว่านั้นถ้าเลือกโหมดการขับขี่ "Dynamic" บนจอทัชสกรีนกลาง ก็ยิ่งรู้สึกถึงความแน่นหนึบเพิ่มขึ้นของระบบช่สวงล่างอีกด้วย 

ระบบช่วงล่างของ Q3 Sportback นับว่ามีความแข็งพอสมควร หากใครชอบแนวสปอร์ตก็อาจตรงใจ เพราะเน้นการทรงตัวที่มั่นใจ จึงทำให้ความนุ่มนวลน้อยลงไปบ้าง แต่ก็มีโหมด "Comfort" ให้เลือกใช้งานที่ยังพอรู้สึกถึงความนุ่มนวลของช่วงล่างได้บ้าง 

พวงมาลัยกระชักคม เบา เลี้ยวง่ายและไม่ต้องออกแรงหมุนมาก ส่วนที่ความเร็วสูง ๆ ก็ไม่เบาหวิวนักควยคุมได้มั่นใจ ตามสไตล์รถยุโรป ระบบเบรกดีเยี่ยมไม่ว่าจะมาแรงแค่ไหนก็แตะเพียงเบา ๆ ก็มั่นใจ ไม่ต้องออกแรงมากนักและยังนุ่มนวลอีกด้วย 

ท่านั่งการขับขี่แรก ๆ อาจต้องปรับบ่อยหน่อยเพราะยังไม่คุ้มเคย เนื่องจากสามารถปรับได้หลายทิศทาง ต้องปรับระดับสูง-ต่ำและระยะห่างจนกว่าจะเข้าที่ ในช่วงวันแรก ๆ ที่รับรถมาทดสอบรู้สึกเมื่อยล้า แต่เมื่อปรับบ่อยจนเข้าที่ก็ขับสบายมาขึ้น ระดับพวงมาลัยก็สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง ยิ่งทำให้ได้ความถนัดมากขึ้น 

ด้านของผู้โดยสารตอนหลังกว้างมาก แม้ดูด้านนอกหลังคาจะลาดเอียงลงมา แต่เมื่อเข้ามานั่งจริงกลับไม่รู้สึกอึดอัด ผู้ทดสอบสูง 176 เว็นติเมตร พื้นที่เหนือศีษระยังเหลือประมาณ 1 ฝ่ามือ ส่วนพื้นที่วางขาเหลือ 1 ฝ่ามือ (เบาะตอนหน้าที่ปรับขับเอาไว้ก่อนหน้านี้) นับว่ากว้างพอสมควร แถมยังปรับเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ แลฃะพนักพิงปรับเอนได้เล็กน้อย ซึ่งถ้าต้องนั่งทุกวันแนะนำว่าปรับถอยสุดและพนักพิงเอนสุดจะกำลังพอดีครับ

ความสะดวกสบายมีให้ทั้งระบบเครื่องเสียงเชื่อมต่อ Smartphone Interface รองรับ Android และ Apple CarPlay ด้วยช่อง USB ที่น่าเสียดายมีเพียง 1 ช่อง ส่วนอีกช่องเป็น USB Type c ซึ่งจะต้องเป็น Type c ทั้งสองฝั่ง และไม่มี USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง  

ความประหยัดเกินคาด (อีกแล้ว) หลังจากที่เดาว่าคันใหญ่แม้เครื่องยนต์เล็กก้น่าจะกินจุ แต่กลับกลายเป็นประหยัดตามขนาดเครื่องยนต์ โดยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนมาตรวัดที่ขับขี่ในและนอกเมืองรถติดขัดสลับหยุดนิ่ง และมีการขับใช้อัตราเร่งแซงและความเร็วสลับกันไป ตัวเลขออกมาที่ 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร และในช่วงน้ำมันยังเต็มถังขนาด 58 ลิตร สามารถวิ่งได้ 630 กิโลเมตร นับว่าเยอะมาก ในช่วงที่ขับได้ระยะทาง 500 กว่ากิโลเมตร ระดับน้ำมันลดลงไม่ถึงครึ่งถัง ยังใช้วิ่งได้อีก 370 กิโลเมตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอลไม่เกิน E10 ไม่ต้องหา 95 เพียว ๆ ให้ยุ่งยากอีกด้วย   

สำหรับ Audi Q3 Sportback 35 TFSI S line รุ่นนี้แม้จะดูสมบูรณ์แบบลงตัวในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่าจะเพิ่มเติมมาให้กับรถราคาระดับนี้ เช่น ระบบเตือนมุมอับสาย ระบบควบคุมความแปรผัน เนวิเกเตอร์ เป็นต้น เพราะนับเป็นรุ่นท็อปสุดใน Q3 ในไทยแล้ว นอกจากนี้ควรเพิ่มช่อง USB หรือว่าปลั๊กไฟ 12V ในผู้โดยสารตอนหลัง ในครบถ้วนความเป็น SUV เพื่อครอบครัวหัวใจสปอร์ต  

เมื่อเดินทางนาน ๆ เกินกว่า 1 ชั่วโมงขึ้น จะเริ่มรู้สึกเมื่อยหรือเจ็บผิวสัมผัสกับเบาะนั่ง ต้องเปลี่ยนท่านั่งบ่อย ๆ ซึ่งเบาะหนังแท้ควรเพิ่มเนื้อสัมผัสให้นุ่มกว่านี้  เพื่อให้รองรับสรีระได้ดีให้นั่งได้นานขึ้น (ความรู้สึกส่วนตัวของผู้ทดสอบ) และสุดท้ายขอปลายท่อไอเสียดุ ๆ อีกหน่อยครับ..! 

Audi Q3 Sportback 35 TFSI S line รถยนต์ครอบครัวที่ตอบสนองการใช้งานในเมืองได้สะดวกสบายคล่องตัว ผู้หญิงขับได้ผู้ชายขับมัน พร้อมเทคโนโลยีที่ครบถ้วน ดีไซน์สวยหรูผสานความสปอร์ตของหลังคาลาดเอียง เครื่องยนต์ที่แรงดีและประหยัดได้ใจ รถยนต์นำเข้าทั้งคันจากต่างประเทศ ราคา 2,649,000 บาท พร้อมกับ Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือ ฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี Q3 Sportback นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับรถระดับราคา 2 ล้านกลาง ๆ ที่ต้องลอง 

สนใจทดลองขับ Audi Q3  Sportback 35 TFSI S-Line ติดต่อได้ที่ Audi Centre Thailand 02 765 8888

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Audi Q3 ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Audi ทุกรุ่น