รีวิว All-New Mazda CX-30 สัมผัสประสบการณ์ใหม่ กับยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี
All-New Mazda CX-30 ยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พิถีพิถันทุกรายละเอียด แนวคิดเน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม สปอร์ต ปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย ตอบสนองทุกการใช้งาน มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นเลิศ พร้อมสมรรถนะที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถ การสัมผัสและขับทดสอบในครั้งนี้ทีมงานคาร์กูรู ไทยแลนด์ โดย เช็คราคา.คอม ได้รับโอกาสเข้าร่วมขับทดสอบ บนเส้นทางไกลจากจังหวัดขอนแก่นสู่พิษณุโลก ผ่านเส้นทางลาดชันและคดเคี้ยวที่เป็นบทพิสูจน์สำคัญในครั้งนี้
All-New Mazda CX-30 ยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พิถีพิถันทุกรายละเอียด แนวคิดเน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม สปอร์ต ปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย ตอบสนองทุกการใช้งาน มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นเลิศ พร้อมสมรรถนะที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถ การสัมผัสและขับทดสอบในครั้งนี้ทีมงานคาร์กูรู ไทยแลนด์ โดย เช็คราคา.คอม ได้รับโอกาสเข้าร่วมขับทดสอบ บนเส้นทางไกลจากจังหวัดขอนแก่นสู่พิษณุโลก ผ่านเส้นทางลาดชันและคดเคี้ยวที่เป็นบทพิสูจน์สำคัญในครั้งนี้
การออกแบบด้านหน้าโดดเด่นและสง่างาม ซิกเนเจอร์วิงที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้ให้ความคมชัดและลึกกว่าเดิม ซุ้มล้อด้านหลังยื่นเด่นออกมาจากห้องโดยสาร รวมกับรูปทรงโค้งของประตูท้ายให้เสน่ห์และน่าดึงดูดเหมือนรถสปอร์ตที่ดูกว้างและเคลื่อนไหว แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของ KODO ดีไซน์อย่างชัดเจน โคมไฟหน้าและท้ายได้รับการออกแบบให้โฉบเฉี่ยวสุดๆ ด้านไฟเลี้ยวแอลอีดีที่พัฒนาขึ้นใหม่ของมาสด้าจะค่อยๆ หรี่ความสว่างลง
การตกแต่งภายในของ CX-30 สวยงามใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรวัสดุไปจนถึงความประณีตของการประกอบและการ เพื่อสร้างพื้นที่ภายในที่มีคุณภาพสูงสุดอย่างแท้จริง บริเวณที่นั่งคนขับนั้นมีความสมมาตรและมีศูนย์กลางอยู่ที่คนขับ มาตรวัดทั้งสามบนหน้าปัด และจอแสดงผลส่วนกลางทำมุมเอียงอย่างถูกต้องไปยังตำแหน่งการขับ ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับรถและควบคุมรถได้ง่าย
จอแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมควบคุมข้อมูลที่จอแสดงผล โดยใช้ปุ่มควบคุมอัจริยะ ใช้งานง่าย การจัดวางสวิตช์บนพวงมาลัยของ CX-30 เป็นการผสมผสานระหว่างสวิตช์แบบโยกสลับและสวิตช์แบบกด
CX-30 มีตำแหน่งที่นั่งค่อนข้างสูง เพื่อให้ได้ระดับสายตาที่เหมาะสม การออกแบบเสาเอให้ช่วยลดจุดบอดด้านหน้าซ้ายและขวา และช่วยให้ผู้ขับมองเห็นคนเดินถนนหรือสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายและยังคงรักษาท่าทางการขับให้เป็นธรรมชาติ
การใช้งานสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และการเชื่อมต่อการสื่อสาร ได้ใช้ระบบ Mazda Connect รุ่นเดียวกับ Mazda3 ใหม่ การปรับปรุงสมรรถนะการทำงานขั้นพื้นฐานทำให้ระบบทำงานได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน คุณภาพของภาพและเสียงได้รับการปรับปรุงโดยการแปลงสัญญาณทั้งหมดให้ส่งผ่านด้วยระบบดิจิทัล
Mazda CX-30 ในรุ่นท็อป ได้ลำโพง 12 ตัว ที่พัฒนาร่วมกับ Bose Corporation ด้วยรูปแบบการจัดวางลำโพงพื้นฐานของระบบ Mazda Harmonic Acoustics ลำโพง 12 ตัวของระบบเสียง Bose ประกอบด้วยลำโพงเสียงต่ำขนาด 3 ลิตร ที่ติดตั้งบริเวณด้านข้างของคอนโซลหน้า ลำโพงเสียงแหลมขนาด 2.5 เซนติเมตร ที่ด้านซ้ายและขวาของกระจกมองข้าง และลำโพงเสียงกลางขนาด 8 เซนติเมตร ในส่วนบนของแผงประตูหน้าและหลัง เพิ่มลำโพงกลาง 8 ซม.กลางคอนโซลหน้าด้านบน ลำโพงคู่หลังและซับวูฟเฟอร์ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเสียงได้เอง
ขุมพลังใน CX-30 เป็นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร รุ่นล่า มีการพัฒนาท่อไอดีและรูปทรงของลูกสูบที่เหมาะสม ระบบการฉีดน้ำมัน วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็น เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
CX-30 ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-Vehicle Architecture ทำให้นั่งเป็นธรรมชาติและรู้สึกสบาย ช่วยให้ผู้ขับสามารถขยับกระดูกเชิงกรานและกระดูกสันหลังเพื่อปรับสมดุลของจุดศูนย์ถ่วงร่างกายโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักเหมือนกับขณะเดิน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ขับรักษาสมดุลของศีรษะได้ตามธรรมชาติเพื่อตอบสนองต่อแรงที่ส่งมาจากพื้นถนน
ระบบช่วงล่างที่ส่งผ่านการสั่นสะเทือนจากถนนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยใช้แม็คเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Struts) ด้านหน้า และใช้แบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม (Torsion beam) ที่ด้านหลัง มุมของ ปีกนกล่างและความสูงของจุดศูนย์กลางของโครงถูกปรับให้เหมาะสมกับความสูงของรถ การสร้างระบบรองรับที่ให้การตอบสนองอย่างรวดเร็วและแม่นยำส่งผ่านการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน ทำให้คนขับมีสมดุลในการควบคุม และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
เรื่องระบบเบรก CX-30 ใช้การออกแบบคาลิปเปอร์เบรกแบบใหม่เพื่อให้แน่ใจว่ามีระยะห่างที่คงที่ระหว่างผ้าเบรกและจานเบรกตลอดเวลา หรือแม้หลังการเบรกอย่างแรง สิ่งนี้จะช่วยลดความต้านทานการหมุนและปรับปรุงการควบคุมเบรกได้อย่างมาก ทำให้ผู้โดยสารสามารถรักษาสมดุลอย่างไร้ความกังวล
เทคโนโลยีควบคุมรุ่นใหม่ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ใน CX-30 ใช้ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus หรือ G-Vectoring Control Plus ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเลี้ยวโดยการใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหันเหของรถ นอกเหนือจากการควบคุมเครื่องยนต์แบบเดิมด้วย GVC เมื่อผู้ขับสามารถนำรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus จะเพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยที่ล้อหน้าด้านนอก ทำให้เกิดเสถียรภาพซึ่งจะช่วยให้รถกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิมง่ายขึ้น ระบบสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของการหันเห (yaw) การโคลงของตัวรถ (roll) และการกระดกหน้า-หลัง (pitch) แม้อยู่ภายใต้แรงเข้าสู่ศูนย์กลางที่มาก นอกจากนี้ยังเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถในการหลบหลีกการชนปะทะแบบฉุกเฉิน GVC Plus ให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมรถเมื่อเปลี่ยนเลนบนทางหลวงและเมื่อขับบนหิมะหรือพื้นผิวถนนลื่นอื่นๆ
ปลอดภัยระดับสูงสุดด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุมากถึง 12 ระบบ
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
และปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
เส้นทางการทดสอบขับ
All-New Mazda CX-30 เริ่มจากโรงแรมอวานี่ในจังหวัดขอนแก่นสู่ ภัทธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดพิษณุโลก เส้นทางส่วนใหญ่เป็นถนนหลวงเส้นหลัก ในช่วงแรกผู้เขียนนั่งในตำแหน่งผู้โดยสารบนรถมาสด้า CX-30 รุ่น 2.0 SP ความรู้สึกที่ได้รับในช่วงกว่า 100 กม. แรกคือ นุ่มนวลกว่ามาสด้า 3 ที่ผู้เขียนเพิ่งขับทดสอบมาก่อนหน้านี้พอดี
ตำแหน่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถแทบไม่ต่างจากมาสด้า 3 มีแค่คอนโซลกลางปรับระดับให้ตำแหน่งลง ขณะที่ตำแหน่งเบาะก็สูงขึ้นตามประเภทของรถที่เป็นครอสโอเวอร์เอสยูวี จริงๆ จากการสอบถามทีมงานมาสด้า ว่าทำไมราคาของ CX-30 ถึงเพิ่มต่างจาก 3 กันในแต่ละรุ่นย่อยไม่เท่ากัน ถ้าต้องเพิ่มกันแบบรุ่นต่อรุ่น ก็เพราะการใช้วัสดุการประกอบ ชิ้นงานเหล็กต่างๆ ก็ไม่เหมือน 3 ทำให้ต้นทุนไม่เหมือนกันแม้จะใช้ทุกอย่างที่เห็นเหมือนกันเกือบทั้งหมด ช่วงที่นั่งในตำแหน่งผู้โดยสารผู้เขียนยังได้ทดลองระบบมาสด้าคอนเนค โดยใช้สาย USB เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อลองระบบ Android auto ที่แม้ไม่ได้มีการยืนยันเหมือน Apple car play ก็ตามแต่ก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการใช้ google map นำทาง จริงๆ ผู้เขียนก็ได้ลองมาก่อนหน้านี้ในมาสด้า 3 แล้ว
ในช่วงที่ผู้เขียนสลับมาขับ เป็นจังหวะที่ใช้เส้นทางเข้าสู่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ถนนส่วนใหญ่เป็นทางขึ้น-ลงเขา และโค้งซ้าย-ขวา อันคดเคี้ยว การขับช่วงทางตรงก่อนหน้านี้ ให้ความสะดวกสบาย เร่งแซงรถช้าและควบคุมพวงมาลัยได้อย่างสบายมือ การใช้เบรกชะลอหยุดให้ฟิลลิ่งตอบกลับที่แตกต่างไปจากมาสด้า 3 แต่ก็นับว่ายังให้ความมั่นใจที่ดี การปรับโหมด Sport ก็ทำให้แต่ละเกียร์ทำงานได้นานขึ้น มีรอบให้ได้ใช้กว้างขึ้น
จนมาถึงช่วงขึ้น-ลงเขา และเข้าโค้งที่ต้องใช้การควบคุมมากขึ้นทั้งการบังคับเลี้ยว การเร่ง และเบรกที่ต้องทำงานหนักและสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้เขียนในสถานการณ์แบบนี้ถ้าปรับเป็นการชิฟต์เกียร์เองจะให้การควบคุมที่แม่นยำและเหมาะสมกว่าการคิกดาวน์ การเข้าโค้งยังให้การตอบสนองที่ดี พวงมาลัยคงความแม่นยำ อาการโรลของตัวถังมีบ้าง ตามแรงเหวี่ยงในโค้งที่ไปตามความเร็ว การเบรกชะลอหยุดอาจรู้สึกต่างจาก 3 ที่ให้ความมั่นใจกว่า แต่ก็จัดว่าดีพอ ด้วยความเป็นครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มีจุดศูนย์ถ่วงตัวรถอยู่สูงกว่าปกติ ทำให้การเบรกเกิดการถ่ายน้ำหนักตัวถังมากกว่ารถซีดานทั่วไปเป็นปกติ ถือเป็นธรรมชาติของเบรกในรถกลุ่มนี้ โดยรวมแล้วผู้เขียนพึงพอใจกับสมรรถนะและการใช้งานต่างๆ ของ CX-30 แม้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สกายแอคทีฟ-จี เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้งานติดตั้งมาตั้งแต่มาสด้า 3 เจนเนอเนชั่นก่อนก็ตาม แต่ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ในหลายจุด ยังคงให้พลังที่ดีเยี่ยมในการใช้งานทั่วไป และเชื่อใจได้เพราะผ่านการพัฒนาและพิสูจน์มาจากรุ่นต่อรุ่น เสียดายที่อัตราสิ้นเปลืองในทริปทดสอบนี้ได้ตัวเลขไม่สวยนัก ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นการขับที่เน้นการใช้สมรรถนะของเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ และเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางลาดชัน
All-New Mazda CX-30 มี 3 รุ่นย่อย 2.0 C, 2.0 S และ 2.0 SP ด้วยราคาที่แตกต่างกัน ราคา 989,000 บาท / 1,099,000 บาท / 1,199,000 บาท ระหว่างรุ่นต่างกันอยู่แสน ความสมบูรณ์แบบด้านความปลอดภัยอยู่ที่รุ่น 2.0 SP ซึ่งมีอย่างครบครันรวมทั้งหลังคาซันรูฟที่บาง คนอาจไม่ต้องการ แต่ด้วยงบประมาณไม่เกินล้านสองแสนบาท ซึ่งใกล้เคียงรุ่นท็อปของ ครอสโอเวอร์เอสยูวีในกลุ่มเดียวกันอย่าง HR-V และ C-HR นับเป็นการตัดสินใจที่ยากไม่น้อย เว้นแต่เป็นรุ่นเริ่มต้นผู้เขียนกลับชอบ 2.0 C ที่น่าตอบโจทย์ความคุ้มค่าได้มากกว่า ยิ่งถ้าวางงบไม่เกินล้านด้วยแล้ว สามารถได้ครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่ใช้งานในเมืองคล่องตัว เดินทางมั่นใจ สนุกกับการขับ แต่ถ้างบประมาณไม่ใช่ตัวกำหนดและต้องการใช้เอสยูวีคลาสนี้ การไปลองขับ สัมผัสด้วยตนเอง ใช้ความรู้สึกชอบตัดสินก็สามารถเลือกได้เลย