รีวิว All-new Nissan Almera ลองขับให้รู้ กับรถอีโค่คาร์เครื่องแค่พันซีซี จะไหวหรอ?
นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ (All-new Nissan Almera) รถยนต์ "อีโคคาร์" เฟส 2 หลังเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (2019) อัลเมร่าใหม่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยรูปทรงใหม่ทั้งคัน กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (kick-up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (floating roof)
หน้าปัดแบบใหม่ หน้าจออินโฟเทนเมนต์ Nissan Connect พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI ระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย พร้อมทุกการเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน
ขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ รหัส HRA0 ของ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ให้กำลังสูงสุด 100 พีเอส (Ps) ที่ 5,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 152 นิวตันเมตร (Nm) ที่ 2,400 - 4,000 รอบต่อนาที มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.3 กม. ต่อลิตร* มีอัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) สมรรถนะของอัลเมร่า ใหม่ จึงโดดเด่นในรถยนต์กลุ่มซิตี้คาร์
ในทริปนี้ทีมงานเช็คราคาได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อทดสอบสมรรถนะของ
นิสสัน อัลเมร่าใหม่ ด้วยเส้นทาง ภูเก็ต - พังงาประมาณ 250 กิโลเมตร ผ่านสภาพเส้นทางผ่านชุมชนในเมือง ชานเมืองและลัดเลาะไปตามหุบเขา ทั้งโค้งและเนินชันมากมายให้ได้ลอง "ขยี้" คันเร่งอัลเมร่าใหม่ กับสื่อมวลชนกว่า 20 คน และ
รถนิสสัน อัลเมร่า รุ่น VL อีก 10 คัน
ภายในคงความกว้างขวางสะดวกสบาย เบาะผ้าสีทูโทนนวมแน่นๆ กระชับมากกว่ารุ่นเดิม สุดล้ำกับหน้าปัดแบบใหม่ หน้าจออินโฟเทนเมนต์ Nissan Connect พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI ระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัยและอื่นๆ ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวด้วยการเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน
มาพร้อมระบบ นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) เช่น เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning - IFCW) เว้นรุ่น S,E เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB) เว้นรุ่น S,E เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW) เฉพาะรุ่น V,VL เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA) เฉพาะรุ่น V,VL เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor - IAVM) เฉพาะรุ่น V,VL เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection - MOD) ด้วยกล้องสี่ตัวที่ด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างรอบคัน เฉพาะรุ่น V,VL ส่วนระบบช่วยการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) และระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน (HSA)
สัมผัสแรกนิสสัน อัลเมร่าใหม่ รุ่น VL
สัมผัสแรกภายในห้องโดยสารที่ออกแบบได้สวยเกินราคา แม้ใช้วัสดุที่ประหยัดแต่ยังมีความสวยงามลงตัวและแนบเนียน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบเดียวกับ
นิสสัน ลีฟ เป๊ะ ต่างแค่ปุ่มควบคุมด้านขวาหายไปบ้าง เหลือเพียงปุ่มควบคุมระบบหน้าจอเครื่องเสียงและจอหน้าปัดแบบ TFT กับปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
มาตรวัดให้ความล้ำหน้าด้วยจอแสดงข้อมูลการทำงานของรถผ่านจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว (คล้ายกับในนิสสัน ลีฟ อีกแล้ว) แสดงข้อมูลต่างๆ เช่น ระยะทาง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย อุณหภูมิ ความเร็วเฉลี่ย และแจ้งเตือนมุมอับผ่านกราฟิกรูปรถอย่างชัดเจน คอนโซนหน้าด้านบนยังเป็นวัสดุผิวแข็งแต่ถัดลงมาเป็นวัสดุนุ่มมือ เล่นสีทูโทนดำ-ครีม นอกจากนี้ติดตั้ง Push Start ในตำแหน่งฐานเกียร์เพื่อใช้งานสะดวกขึ้น โดยรวมทำออกมาได้ดีลงตัวและสะดวกในการใช้งานจริงๆ
ระบบความบันเทิงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว Nissan Connect ที่มองง่ายชัดเจนราวกับเอาไอแพดมาวางไว้ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay (น่าเสียดายยังไม่มี Andriod Auto) แสดงภาพหน้าจอจาก IOS ได้ทันทีที่เชื่อมต่อ เช่น การดู Google Map ดูง่ายชัดเจน พร้อมการเชื่อมต่ออื่นๆ ทั้ง USB/AUX/Bluetooth ลำโพง 6 ตำแหน่ง ระบบเสียงฟังได้ดีไม่แพ้รถระดับสูงกว่า และยังแสดงภาพมุมกล้องรอบคันและด้านหลังใหญ่ชัดเจนกว่าใน "นิสสัน เทียน่า" ด้วยซ้ำ
เบาะคนขับนุ่มแต่มีทรงที่กระชับลำตัวไม่นิ่มเกินไป ระยะท่านั่งขับสบายเพราะพวงมาลัยสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง จึงไม่เป็นปัญหา มีเพียงการวางเท้ากับแป้นคันเร่งและเบรค ที่อาจชันไปบ้างหากคนขับสูงระดับ 175 ซม. ซึ่งก็ค่อยๆ ปรับระดับพวงมาลัยกับระยะเบาะชดเชยได้ระดับหนึ่ง ช่วยไม่ให้เมื่อยล้า
ในส่วนตำแหน่งเบาะหลังนั้น ให้ความนุ่มสบายตัวแต่คงรูปทรงที่กระชับเช่นเดียวกัน ทำให้เมื่อนั่งแล้วลำตัวไม่ขยับมากเกินไป และตัวเบาะก็ไม่นุ่มจนจมเกินไป พื้นที่วางขากว้างขวาง จากการทดลองนั่ง "ลืม" ปรับเลื่อนเบาะไปข้างหน้าเพราะใช้นั่งมาก่อนหน้านี้ จึงทำให้เหลือช่วงหัวเข่าไม่มากนัก ซึ่งตัวเบาะด้านหน้านั้นปรับถอยหลังมาอีกเพียง 3 ล็อคก็สุด และหากนั่งจริงๆ ก็ต้องเลื่อนไปด้านหน้ามากกว่านี้
ดังนั้น แม้เบาะหน้าจะเลื่อนมาเกือบสุด แต่ยังนั่งได้เข่าไม่ติดและไม่อึดอัด ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะก็มีช่องว่างประมาณ 1 ฝ่ามือเพียงพอสำหรับความสูงช่วงคนนั่ง 175 - 180 ซม. ได้สบายๆ ครับ
ขุมพลังของ
นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ (All-new Nissan Almera) แบบเบนซิน 3 สูบ 999 ซีซี. เท่านั้นเอง พ่วงเทอร์โบขนาดจิ๋วบูสต์เบาะๆ ประมาณ 2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ปั่นกำลังออกมาได้ 100 แรงม้า กับแรงบิด 152 นิวตันเมตร เกียร์ CVT แบบ D-Step Logic เมื่อมาดู OutPut นั้น กำลังระดับนี้เทียบเท่าเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตรเชียว! เช่น รถนิสสัน ซีลฟี ที่ใช้เครื่องยนต์ 1,598 ซีซี. มีกำลังสูงสุดที่ 116 แรงม้า แรงบิด 154 นิวตันเมตร นั่นหมายความว่า อัลเมร่า ใหม่ มีกำลังเหมือนกับว่าใช้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ย่อมต้องให้สมรรถนะที่ดีแน่ๆ จากการวิเคราะห์หรือจะสู้ลงมือขับ ต้องลองให้รู้ครับ!!
ในการทดสอบขับทริปนี้จะถูกแบ่งกันขับรถนิสสัน อัลเมร่า 1 คัน ต่อ ผู้ทดสอบ 2 คน สลับกันขับตามจุดที่กำหนดให้ ทีมงานเช็คราคาได้ขับรวมระยะทางประมาณ 120 กม. ผ่านเส้นทางในเขตตัวเมืองเล็กน้อยและลัดเลาะไปตามเนินเขา ทางชันและโค้งมากมาย จึงได้รู้ถึงสมรรถนะหลายรูปแบบในครั้งนี้ เมื่อออกตัวแตะคันเร่งเครื่องยนต์ 3 สูบ ตอบสนองได้ไว้กว่าที่คิด และใช้คันเร่งเพียง 40 - 50 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาไม่นานนักก็ไต่ระดับความเร็วไปที่ 120++ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบบชิว ด้วยความที่รถมีน้ำหนักตัวเบาเพียง 1,076 กิโลกรัม ทำให้แรงบิด 152 นิวตันเมตร ลากตัวถังวิ่งทะลุ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบง่ายๆ เลย
อัตราเร่งนิสสัน อัลเมร่า ช่วงเร่งแซงจาก 80 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็นับว่าทำได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้ แม้ความเร็วสูงๆ ลอยลำไปแล้ว เมื่อเติมคันเร่งเพื่อแซงก็ใช้เวลาไม่นานแบบไม่ต้องลุ้น และถ้าอยากแซงแบบขาดก็เพียง "ขยี้" หรือคิกดาวน์เท่านั้นก็แซงขึ้นได้อย่างสบายๆ เมื่อเทียบกันรุ่นก่อนหน้านั้นทิ้งกันแบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว
ในความเร็วสูงนั้นกำลังของเครื่องยนต์มีดรอปลงมาบ้างเมื่อผ่านเลข 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งความเร็วย่านนี้นับว่าอันตรายสำหรับรถยนต์เซ็กเมนต์นี้ และไม่ใช้ความเร็วในการเดินทางจริงๆ แต่ก็ยังสามารถแช่ยาวๆ ต่อไปจนความเร็วไหลไปเรื่อยๆ และนับเป็นเรื่องที่ดีว่าทางนิสสันล็อคเอาไว้ที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่ออัลเมร่าถูกเน้นการใช้งานให้คล่องตัวสะดวกสบายในเมืองเป็นหลัก ออกต่างจังหวัดในความเร็วที่เหมาะสม ส่วนกำลังหรือความแรงที่เพิ่มมาให้เอาไว้ใช้ "ยามจำเป็น" เมื่อต้องการกำลังเร่งแซง เร่งขึ้นเนินทางชันหรือขึ้นเขา
นอกจากสมรรถนะที่ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าแล้ว การเก็บเสียงจากภายนอกนับว่าดีขึ้นเยอะ แม้ขณะขับขี่ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังไม่มีเสียงลมปะทะมากนัก แต่เมื่อเกิน 130 - 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป จึงเริ่มมีเสียงลมดังเขามา
ขับช้าดี-ขับเร็วมี "ร่อน"
นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) ใช้ช่วงล่างแบบด้านหน้า แม็คเฟอร์สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงและด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า เน้นความนุ่มนวลในการใช้งานที่นุ่มนวล แต่ในการทดลองขับความเร็วต่ำๆ มีอาการกระเด้งเล็กน้อย คล้ายรถที่ช่วงล่างแข็ง แต่ขับผ่านหลุมหรือเนินกระดกกลับนุ่มนวลไม่ดีดและไม่ยวบลงมากนัก
ส่วนในการขับความเร็วต่ำ ถึงระดับ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังตอบสนองการควบคุมได้ดีอยู่ พวงมาลัยอาจมีการปรับน้ำหนักตามความเร็ว แต่ก็ยังเบาไปสำหรับความเร็วสูงๆ นี้ ส่วนเมื่อขับเกินกว่านั้น ระบบช่วงล่างเริ่มจะออกอาการหวิว จากตัวรถที่เบาและช่วงล่างที่นุ่มนวล ทำให้มีอาการร่อนอยู่บ้าง ซึ่งอาจเกิดจากการใช้แรงดันลมสูงที่ล้อหน้า 38 และหลัง 35 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จากโรงงานเพื่อเน้นการใช้งานที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด ยางกลิ้งได้ดีขึ้น และด้วยหน้ายางที่ค่อนข้างตึงมากจึงอาจส่งผลบ้างในการเกาะถนนน้อยลงและเกิดอาการ "หน้าไว-หลังว่อน" ได้เช่นกันครับ
ส่วนเรื่องความประหยัดที่โรงงานเคลมเอาไว้ที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับในวันที่ทดสอบนั้นขับในลักษณะทั่วไป ทั้งออกตัวอย่างรวดเร็ว เร่งแซงในช่วงต่างๆ มีเส้นทางขึ้น-ลงเนินและโค้งมากมาย พร้อมกับรถยนต์ชาวบ้านในพื้นที่ จึงมีการเร่งและเบรคบ่อยครั้งตลอดการทดสอบ ตัวเลขที่ได้จึงอาจไม่ใกล้เคียงนัก เฉลี่ยนบนมาตรวัดอยู่ที่ 15 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ในทริปนี้มีรถที่ร่วมทดสอบด้วยกัน ทำตัวเลขได้ 20 กิโลเมตรต่อลิตรทีเดียว (ทำได้ไงเนี่ย!)
โดยรวมแล้วนิสสัน อัลเมร่าใหม่ วางตำแหน่งเป็นอีโคคาร์ยอดนิยมเช่นเดิมแบบเต็มรูปแบบ แต่เพิ่มเติมด้านสมรรถนะมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว สิ่งอำนวยความสะดวกสบายและความกว้างขวางมีให้เหมือนเคย แต่เพิ่มความไฮเทคมากขึ้นด้วยฟังก์ชั่นทันสมัยและความปลอดภัยเต็มคัน ทำให้เจ้าของอัลเมร่าใหม่นี้สามารถยืดอกเทียบเคียงกับเซ็กเมนต์สูงกว่าได้อย่างภาคภูมิใจ
All-new Nissan Almera มาพร้อม 6 สี ได้แก่ สีแดง เรเดียนท์ เรด (Radiant Red) สีส้ม โมนาร์ช (Monarch Orange) สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White) สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star) สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic) และสีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver)
- ระบบช่วยการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) และระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน (HSA)
- ระบบช่วยการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) และระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน (HSA)
- สัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning - IFCW)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
- ระบบช่วยการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) และระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน (HSA)
- สัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning - IFCW)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
- เตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW)
- ตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA)
- กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor - IAVM)
- ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection - MOD)
All-new Nissan Almera รถยนต์อีโคคาร์ที่จะเปลี่ยนความต้องการรถเล็กประหยัดราคาเบาๆ ให้เร้าใจยิ่งกว่าเดิมด้วยสมรรถนะที่ใช้งานได้ดีในเมือง ให้อัตราเร่งแซงเทียบเท่ารถระดับ 1.6 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันกว่าหลายเท่าตัว แต่สิ่งที่โดดเก่นกว่าคือ ระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่าใครในรถระดับเดียวกัน สำหรับ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ คงต้องยกให้เป็นรถ "เครื่องเล็กสเปคจัดจ้านในย่านนี้" สนกับคำว่าคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ
แต่เดี๋ยวก่อน..!!!! หากใครชอบความสวยเท่ ดุดัน ต้องนี่เลย ชุดตกแต่งเสริมเพิ่มความสวยงามให้กับอัลเมร่าใหม่
อุปกรณ์ตกแต่งภายนอก
- ปลอกปลายท่อไอเสีย ราคา 500 บาท
- ล้อแม็กขอบ 16 นิ้ว ราคา 3,500 บาท
- คิ้วกันชนหน้า ลายคาร์บอน ราคา 3,500 บาท
- คิ้วข้างประตู ลายคาร์บอน ราคา 5,900 บาท
- คิ้วขอบฝาท้าย ลายคาร์บอน ราคา 2,200 บาท
- คิ้วกันสาดประตู ราคา 1,900 บาท
- กันรอยมือเปิดประตู ราคา 950 บาท
- ผ้าคลุมรถ ราคา 1,400 บาท
- ฝาครอบกระจกมองข้าง (สีดำ) ราคา 950 บาท
- สปอยเลอร์หลัง ราคา 3,900 บาท
อุปกรณ์ตกแต่งภายใน
- ตาข่ายเก็บสัมภาระ ราคา 550 บาท
- ถาดวางของท้ายรถ ราคา 1,100 บาท
- ชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้น (สีดำ) ราคา 1,800 บาท
- ชุดคิ้วบันไดสเตนเลส ราคา 1,500 บาท
- แป้นวางเท้าแบบสปอร์ต ราคา 1,000 บาท
เทคโนโลยี
- ชุดไฟส่องสว่างพื้นรถ (สีส้ม) ราคา 2,200 บาท
- ชุดสัญญาณเตือนถอยหลัง 2 จุด ราคา 2,200 บาท
- กล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถยนต์ ราคา 8,900 บาท
- กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ราคา 3,000 บาท
- ชุดสายไฟติดตั้งสำหรับ EC MIRROR ราคา 500 บาท
SPORT PACKAGE ราคาพิเศษ 12,900 บาท คิ้วกันชนหน้า ลายคาร์บอน คิ้วข้างประตู ลายคาร์บอน คิ้วขอบฝาท้าย ลายคาร์บอน สปอยเลอร์หลัง
UTILITY A ราคาพิเศษ 2,500 บาท ชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้น (สีดำ) ถาดวางของท้ายรถ
UTILITY B ราคาพิเศษ 3,500 บาท ชุดคิ้วบันไดสเตนเลส ปลอกปลายท่อไอเสียโครเมียม คิ้วกันสาดประตู
หมายเหตุ
- ราคาขายไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- ราคาขายไม่รวมค่าติดตั้ง
- ล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว เป็นราคาขายต่อ 1 วง (ขนาดยางแนะนำ 205/50 R16)
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
การดูแลรักษานิสสัน อัลเมร่า เทอร์โบ
รถยนต์นิสสัน อัลเมร่า เทอร์โบ มีอัตราค่าบำรุงรักษาตามระยะทางที่ไม่แพงเลย แถมมีฟรีค่าแรงบริการ จนถึงระยะ 66 เดือน หรือรอบเช็ก 77,000 กม. เพิ่มมาเท่านั้น นับว่าคุ้มค่ามาก โดยราคาเช็คระยะที่นับว่าสูงสุดในช่วง 1 แสนกิโลเมตรแรกที่ 72 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 84,000 กม. ค่าบริการ 1,725 บาท ค่าแรง 650 บาท รวมเป็น 2,375 บาทเท่านั้น (*,**)
*หมายเหตุ โปรดสอบถามราคาอีกครั้งที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน)
**ข้อมูลจากเว็บไซต์ นิสสัน ประเทศไทย
6 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 7,000 กม. ค่าบริการ 1,525 บาท ฟรีค่าแรง
รายการที่ต้องเปลี่ยน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 0W20-SN
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
รายการตรวจสอบ
- น้ำมันเกียร์ (สำหรับระบบเกียร์ 7AT)
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา
- น้ำมันระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ตรวจสอบการรั่วซึม)
- น้ำมันเฟืองท้าย (ตรวจสอบระดับ และการรั่วซึม)
- น้ำมันชุดเกียร์ทรานส์เฟอร์ (ตรวจสอบระดับและการรั่วซึม)
- ผ้าเบรก จานเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ระบบเบรก และคลัทช์ (สำหรับการรั่วซึม และระดับน้ำมัน)
- เบรก คลัทช์และระบบท่อไอเสีย
- แป้นเบรกและเบรกจอด (ดูจังหวะการเหยียบ การใช้งาน และความลื่นไหล)
12 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 14,000 กม. 1,525 บาท ฟรีค่าแรง
รายการที่ต้องเปลี่ยน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 0W20-SN
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
รายการตรวจสอบ
- ระบบหล่อเย็น
- ระบบหล่อเย็นสำหรับเครื่องอินเวิร์ตเตอร์ (สำหรับรถยนต์ไฮบริด)
- น้ำมันเกียร์ (สำหรับระบบเกียร์ 7AT)
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา
- น้ำมันระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ตรวจสอบการรั่วซึม)
- น้ำมันเฟืองท้าย (ตรวจสอบระดับ และการรั่วซึม)
- น้ำมันชุดเกียร์ทรานส์เฟอร์ (ตรวจสอบระดับและการรั่วซึม)
- ท่อสุญญากาศสำหรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่นที่มีการติดตั้ง)
- ผ้าเบรก ดรัมเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ผ้าเบรก จานเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ระบบเบรก และคลัทช์ (สำหรับการรั่วซึม และระดับน้ำมัน)
- เบรก คลัทช์และระบบท่อไอเสีย
- แป้นเบรก เบรกจอดและคลัทช์ (ตรวจสอบจังหวะการเหยียบ การใช้งาน และความลื่นไหล)
- เข็มขัดนิรภัย และส่วนควบที่เกี่ยวข้อง
- ชุดเฟืองบังคับเลี้ยวและจุดยึดเชื่อมต่อเพลาขับ ชิ้นส่วนล่าง เพลากลางและเพลาหน้า
- การตั้งค่าศูนย์ล้อ (หากจำเป็น ให้ทำการตรวจสอบการถ่วงล้อด้วย)
24 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 28,000 กม. ค่าบริการ 1,969 บาท ฟรีค่าแรง
รายการที่ต้องเปลี่ยน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 0W20-SN
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
- น้ำมันเบรก DOT3
- กรองปรับอากาศ
รายการตรวจสอบ
- ระบบหล่อเย็น
- ระบบหล่อเย็นสำหรับเครื่องอินเวิร์ตเตอร์ (สำหรับรถยนต์ไฮบริด)
- สายพานหน้าเครื่อง
- น้ำหล่อเย็น (ตรวจระดับน้ำ)
- น้ำหล่อเย็นสำหรับระบบอินเวิร์ตเตอร์ (สำหรับไฮบริด)
- ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง
- สายไฟระบบจุดระเบิด
- น้ำมันเกียร์ (สำหรับระบบเกียร์ 7AT)
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา
- น้ำมันระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ตรวจสอบการรั่วซึม)
- น้ำมันเฟืองท้าย (ตรวจสอบระดับ และการรั่วซึม)
- น้ำมันชุดเกียร์ทรานส์เฟอร์ (ตรวจสอบระดับและการรั่วซึม)
- ท่อสุญญากาศสำหรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่นที่มีการติดตั้ง)
- ท่อระบบสุญญากาศ ข้อต่อ และวาล์ว สำหรับปั้มลมเบรก
- ผ้าเบรก ดรัมเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ผ้าเบรก จานเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ระบบเบรก และคลัทช์ (สำหรับการรั่วซึม และระดับน้ำมัน)
- เบรก คลัทช์และระบบท่อไอเสีย
- แป้นเบรก เบรกจอดและคลัทช์ (ตรวจสอบจังหวะการเหยียบ การใช้งาน และความลื่นไหล)
- เข็มขัดนิรภัย และส่วนควบที่เกี่ยวข้อง
- ชุดเฟืองบังคับเลี้ยวและจุดยึดเชื่อมต่อ เพลาขับ ชิ้นส่วนล่าง เพลากลางและเพลาหน้า
- การตั้งค่าศูนย์ล้อ (หากจำเป็นให้ทำการตรวจสอบการถ่วงล้อด้วย)
60 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 70,000 กม ค่าบริการ 1,725 บาท ฟรีค่าแรง
รายการที่ต้องเปลี่ยน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 0W20-SN
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
- กรองอากาศ
รายการตรวจสอบ
- ระบบหล่อเย็น
- ระบบหล่อเย็นสำหรับเครื่องอินเวิร์ตเตอร์ (สำหรับรถยนต์ไฮบริด)
- น้ำมันเกียร์ (สำหรับระบบเกียร์ 7AT)
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา
- น้ำมันระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ตรวจสอบการรั่วซึม)
- น้ำมันเฟืองท้าย (ตรวจสอบระดับ และการรั่วซึม)
- น้ำมันชุดเกียร์ทรานส์เฟอร์ (ตรวจสอบระดับและการรั่วซึม)
- ท่อสุญญากาศสำหรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่นที่มีการติดตั้ง)
- ผ้าเบรก ดรัมเบรกและอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ผ้าเบรก จานเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ระบบเบรก และคลัทช์ (สำหรับการรั่วซึม และระดับน้ำมัน)
- เบรก คลัทช์และระบบท่อไอเสีย
- แป้นเบรก เบรกจอดและคลัทช์ (ตรวจสอบจังหวะการเหยียบ การใช้งาน และความลื่นไหล)
- เข็มขัดนิรภัย และส่วนควบที่เกี่ยวข้อง
- ชุดเฟืองบังคับเลี้ยวและจุดยึดเชื่อมต่อ เพลาขับ ชิ้นส่วนล่าง เพลากลางและเพลาหน้า
- การตั้งค่าศูนย์ล้อ (หากจำเป็นให้ทำการตรวจสอบการถ่วงล้อด้วย)
66 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 77,000 กม. ค่าบริการ 1,525 บาท ค่าแรง 400 บาท
รายการที่ต้องเปลี่ยน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 0W20-SN
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
รายการตรวจสอบ
- น้ำมันเกียร์ (สำหรับระบบเกียร์ 7AT)
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา
- น้ำมันระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ตรวจสอบการรั่วซึม)
- น้ำมันเฟืองท้าย (ตรวจสอบระดับ และการรั่วซึม)
- น้ำมันชุดเกียร์ทรานส์เฟอร์ (ตรวจสอบระดับและการรั่วซึม)
- ผ้าเบรก จานเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ระบบเบรก และคลัทช์ (สำหรับการรั่วซึม และระดับน้ำมัน)
- เบรก คลัทช์และระบบท่อไอเสีย
- แป้นเบรกและเบรกจอด (ดูจังหวะการเหยียบ การใช้งาน และความลื่นไหล)
72 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 84,000 กม. ค่าบริการ 1,725 บาท ค่าแรง 650 บาท
รายการที่ต้องเปลี่ยน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 0W20-SN
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
- น้ำมันเบรก DOT3
- กรองปรับอากาศ
รายการตรวจสอบ
- ระบบหล่อเย็น
- ระบบหล่อเย็นสำหรับเครื่องอินเวิร์ตเตอร์ (สำหรับรถยนต์ไฮบริด)
- สายพานหน้าเครื่อง
- น้ำหล่อเย็น (ตรวจระดับน้ำ)
- น้ำหล่อเย็นสำหรับระบบอินเวิร์ตเตอร์ (สำหรับไฮบริด)
- ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง
- สายไฟระบบจุดระเบิด
- น้ำมันเกียร์ (สำหรับระบบเกียร์ 7AT)
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา
- น้ำมันระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ตรวจสอบการรั่วซึม)
- น้ำมันเฟืองท้าย (ตรวจสอบระดับ และการรั่วซึม)
- น้ำมันชุดเกียร์ทรานส์เฟอร์ (ตรวจสอบระดับและการรั่วซึม)
- ท่อสุญญากาศสำหรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่นที่มีการติดตั้ง)
- ท่อระบบสุญญากาศ ข้อต่อ และวาล์ว สำหรับปั้มลมเบรก
- ผ้าเบรก ดรัมเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ผ้าเบรก จานเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ระบบเบรก และคลัทช์ (สำหรับการรั่วซึม และระดับน้ำมัน)
- เบรก คลัทช์และระบบท่อไอเสีย
- แป้นเบรก เบรกจอดและคลัทช์ (ตรวจสอบจังหวะการเหยียบ การใช้งาน และความลื่นไหล)
- เข็มขัดนิรภัย และส่วนควบที่เกี่ยวข้อง
- ชุดเฟืองบังคับเลี้ยวและจุดยึดเชื่อมต่อ เพลาขับ ชิ้นส่วนล่าง เพลากลางและเพลาหน้า
- การตั้งค่าศูนย์ล้อ (หากจำเป็นให้ทำการตรวจสอบการถ่วงล้อด้วย)
84 เดือน หรือ รอบเช็กระยะที่ 98,000 กม. ค่าบริการ 1,525 บาท ค่าแรง 400 บาท
รายการที่ต้องเปลี่ยน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 0W20-SN
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
รายการตรวจสอบ
- ระบบหล่อเย็น
- ระบบหล่อเย็นสำหรับเครื่องอินเวิร์ตเตอร์ (สำหรับรถยนต์ไฮบริด)
- น้ำมันเกียร์ (สำหรับระบบเกียร์ 7AT)
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา
- น้ำมันระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ตรวจสอบการรั่วซึม)
- น้ำมันเฟืองท้าย (ตรวจสอบระดับ และการรั่วซึม)
- น้ำมันชุดเกียร์ทรานส์เฟอร์ (ตรวจสอบระดับและการรั่วซึม)
- ท่อสุญญากาศสำหรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่นที่มีการติดตั้ง)
- ผ้าเบรก ดรัมเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ผ้าเบรก จานเบรก และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ
- ระบบเบรก และคลัทช์ (สำหรับการรั่วซึม และระดับน้ำมัน)
- เบรก คลัทช์และระบบท่อไอเสีย
- แป้นเบรก เบรกจอดและคลัทช์ (ตรวจสอบจังหวะการเหยียบ การใช้งาน และความลื่นไหล)
- เข็มขัดนิรภัย และส่วนควบที่เกี่ยวข้อง
- ชุดเฟืองบังคับเลี้ยวและจุดยึดเชื่อมต่อ เพลาขับ ชิ้นส่วนล่าง เพลากลางและเพลาหน้า
- การตั้งค่าศูนย์ล้อ (หากจำเป็นให้ทำการตรวจสอบการถ่วงล้อด้วย)
**หมายเหตุตัวโตว่า... - โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการอีกครั้ง
- ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- เป็นอัตราค่าแรงมาตรฐาน (อัตราค่าแรงอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่)
- ราคาและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า