รีวิวรถ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ กับการทดสอบสมรรถนะ บนเส้นทางใหม่สุดเฟี้ยวเชียงราย-เชียงของ

ทีมงานคาร์กูรูไทยแลนด์ โดย เช็คราคาดอทคอม ได้รับโอกาสจากทาง บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เชิญร่วมทดสอบสมรรถนะ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ (All-New Honda City Turbo 2019) อีกขั้นแห่งยนตรกรรมซิตี้คาร์ที่พร้อมขับเคลื่อนพาคุณไปไกลเกินกว่า ทุกความคาดหมายและเปิดทุกความเป็นไปได้ ท้าทายกับเส้นทาง เชียงราย-เชียงของ 196 กม. ด้วยขุมพลังเทอร์โบเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยครบครัน

การทดสอบ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ ใช้เส้นทางวิ่งจากอำเภอเมือง มุ่งหน้าสู่อำเภอจังหวัดเชียงราย รวมระยะทางไป-กลับกว่า 196 กิโลเมตร แต่ก่อนเริ่มการทดสอบสมรรถนะ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ผู้เขียนและเพื่อนสื่อมวลชนได้ฟังและรายละเอียดของการพัฒนาฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ จาก มร.ซาโตรุ อะซุมิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับรายละเอียดเส้นทางการขับทดสอบ

ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ไฟส่องสว่างขับกลางวัน LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบ ครีบและล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและหรูหราเกินคลาส ด้วยเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่-ดำ (เฉพาะรุ่น SV) ส่วนรุ่น RS เน้นความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยชุดแต่งสปอร์ต RS รอบคัน ไฟหน้าดีไซน์ และล้อแม็กลายสปอร์ต 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารก็ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับเดินด้ายสีแดง ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ใช้เทอร์โบเพื่อช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้รวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เชื้อเพลิงรองรับน้ำมัน E20

เส้นทางการทดสอบขับ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ บนเส้นทางจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย หน้าสู่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ขับแบบไป-กลับ รวมระยะทางราว 196 กม. ได้ขับ ซิตี้ เทอร์โบ รุ่น RS สีแดง โดยสลับขับกับเพื่อนสื่อมวลชนอีกท่าน แรกจากตำแหน่งที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า การขับโดยรวมใช้ถนนหลวงจากในสู่เชียงของ ถนนส่วนใหญ่ใหม่ และเป็นทางเปิดโล่งทำความเร็วได้หลากหลาย ซ้าย-ขวา สสับขึ้นลงเนิน ให้ได้ทดลองการควบคุมตัวรถ เบรก ในช่วงความเร็วปานกลาง-สูง 

จากตำแหน่งเบาะนั่งข้างผู้ขับ สังเกตุได้ว่าระบบเก็บเสียงภายในโดยสารทำได้ดี  ตำแหน่งการมองเห็นทัศนวิสัยด้านหน้านับว่าชัดเจน ช่วงล่างอาการต่างๆ จากขุมพลังเทอร์โบ 122 แรงม้า ได้ดีและยังให้ความสบายอย่างลงตัวเบาะสไตล์สปอร์ตก็ให้ความสบายกับการนั่งทางไกลได้ดี การเชื่อมต่อนบลูทูธกับสมาร์ทโฟน บังคับทำให้ตำแหน่งเกียร์ P เพื่อความปลอดภัย เสียงที่เล่นผ่านแอปฯ Spotify จากสมาร์ทโฟนผ่านลำโพง 8 ตัว ให้คุณภาพที่โอเค และ RS เป็นรุ่นย่อยเดียวที่ได้ลำโพงมากถึง 8 ตัว รวมทั้งมี ฮอนด้า คอนเนค

ด้วยขบวนรถทดสอบฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ มาถึงเชียงของ พร้อมพักทานอาหารและผู้ทดสอบขับกลับ ซึ่งผู้เขียนได้โอกาสลองในครึ่งทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองปลายทางเป็นโรงแรมเมอริเดียน ถนนเส้นใหม่จากเชียงของนับว่ากว้างโล่งมาก ทำให้การขับเน้นไปที่สมรรถนะได้สะดวก ผู้เขียนจึงขอใช้ความเร็วที่พิกัดไปบ้างเพื่อดูการตอบสนองของขุมพลังเทอร์โบใหม่ การทำความเร็ว-สูงจัดว่ากวาดได้อย่างสมูธ การเข้าโค้งความเร็วสูงตัวรถแทบไม่มีอาการเสียให้เห็นเลย และยางติดรถจัดว่าทำหน้าที่ได้ดีไม่น้อย 

ในส่วนของความเร็วสูงผู้เขียนลองไปถึง 170 กม./ชม. ก็ผ่อนลงแม้มีระยะทางเหลือให้ไปต่อ แต่มีเพื่อนหลายท่านสามารถทำได้แตะ 200 กม./ชม. ซึ่งในความเป็นจริงแทบไม่มีจำเป็นและโอกาสได้ใช้ความเร็วระดับนี้ (ไม่น่ารอดกล้องจับความเร็วในสายหลักทั่วไทย) โดยเฉพาะซิตี้คาร์ที่เน้นไว้ใช้งานในชีวิตประจำวันและต้องความประหยัด แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ฮอนด้า ระบบเบรกที่ผู้เขียนติดใจกับดรัมเบรกหลังดูไม่สอดรับกับการเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบเท่าไหร่ แต่ก็พบว่าการชะลอเบาเบรกสามารถตอบสนองต่อมั่นใจได้แน่นอนสำหรับการใช้งานทั่วไป และได้สอบถามกับทางทีมงานญี่ปุ่นซึ่งให้คำตอบว่าเป็นเรื่องของน้ำหนักตัวรถที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ในมุมมองผู้เขียนก็อาจเป็นเพราะต้องการให้ต้นทุนอยู่ในกรอบที่สามารถทำราคาแข่งในตลาดได้ง่าย โดยเฉพาะการที่เป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ และใช้เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด

ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ นับเป็นซิตี้คาร์ที่ดีในลำดับต้น พร้อมเป็นรถประจำบ้านตอบสนองการใช้งานแบบคันเดียวทั้งครอบครัวในงบประมาณไม่เกิน 7 แสนบาท รุ่น RS อาจเกินไปบ้าง แต่เมื่อเช่าซื้อแบบผ่อนชำระค่างวดก็แทบไม่ต่างกับรุ่น SV ที่มีราคาอยู่ 665,000 บาท เท่าไหร่ แต่สำหรับผู้เขียนถ้าเลือกซื้อคงเป็น รุ่น V ที่ประหยัดจากรุ่น SV ไปได้อีกเกินครึ่งแสน แลกกับจุดต่างหลักๆ อย่าง เบาะผ้าไม่ใช่เบาะหนัง เครื่องเสียงธรรมดาไม่ใช่หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว ซึ่งล้วนแต่นำไปติดตั้งเองภายหลังพร้อมเลือกให้ตรงความชอบได้มากกว่าในราคาเพิ่มที่ต่ำกว่าด้วย ผู้เขียนขอยกให้ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ V เป็นซิตี้คาร์สุดคุ้มอันโดดเด่นของปีนี้