รีวิว Subaru XV 2.0i-P AWD รถยนต์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ สมรรถนะยุโรปราคารถญี่ปุ่น
เมื่อนึกถึงรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางแบบ "Crossover" ที่ขับสนุกในยุคนี้ชื่อของ
Subaru XV ก็ลอยมาในหัวทันทีเนื่องจากได้มีการกล่าวเอาไว้ว่า เป็นรถที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร ให้สมรรถนะที่เป็นเลิศพร้อมความประหยัด! ทีมงานเช็คราคาได้เคยทดลองขับเจ้า XV ในรุ่นแรกมาแล้ว ยอมรับว่าสมรรถนะด้านการทรงตัวดีจริง แต่เรื่องความประหยัดน้ำมันยังไม่ประทับใจเท่าไหร่นัก จึงต้องขอลองนำมาทดลองใช้งานในชีวิตประจำวันดูสักครั้งหนึ่งว่ารถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time เครื่อง 2.0 ลิตร มันจะให้ความประหยัดได้จริงหรือ?
Subaru XV 2.0i-P AWD ที่ได้นำมาลองขับมีราคาอยู่ที่ 1,259,000 บาท นับว่าเป็นรุ่นสูงแต่ยังไม่สุดเพราะมีรุ่นพิเศษใส่ชุดแต่ง GT Edition ดุดันขึ้นด้วยสเกิร์ตรอบคัน ล้อแม็กลายเท่ ภายในตกแต่งพิเศษกับราคาเพิ่มเป็น 1,358,000 บาท เพิ่มอีก 99,000 บาท
แต่ว่าเรื่องของสมรรถนะนั้นเหมือนกัน มาเริ่มกันที่ความโดดเด่นของรุ่นนี้ที่มีความพิเศษขึ้นมาคือ ไฟหน้า Full LED ที่สามารถขยับซ้าย-ขวาตามองศาการเลี้ยวได้ พร้อมระบบ AUTO และ Daytime running light แถมด้วยระบบฉีดล้างไฟหน้า ไฟท้ายแบบ LED ล้อแม็กลายใหม่
ภายในเปลี่ยนไปเยอะด้วยคอนโซลหน้าที่ดูทันสมัยมากขึ้นผสมผสานความคลาสสิกของเรื่องไมล์จอกลม 2 วงแบบ "อนาล็อค" ตรงกลางให้จอสี LCD แสดงข้อมูลการขับขี่แบบคร่าวๆ มาให้ เพราะจอแสดงผลที่ละเอียดกว่าอยู่ตรงกลางคอนโซลเหนือวิทยุแทน เครื่องเสียงจอขนาดใหญ่ 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อหลากหลายทั้ง USB, AUX หรือ Bluetooth
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน ควบคุมได้ทั้งเครื่องเสียง รับ-วางสายโทรศัพท์และหน้าจอแสดงผลต่าง ๆ พร้อมปุ่มครูสคอนโทรล กับ Paddle shift เพิ่มความมันในการขับขี่ ซึ่งมองคอนโซลหน้ารวมๆ แล้วแทบไม่แตกต่างกับที่อยู่ใน Subaru Forester นัก
ที่ฐานเกียร์เป็นแบบโยกขึ้น-ลงปลดล็อคด้วยปุ่ม มีฟังก์ชั่น "M" ให้ขับสนุกขึ้น สวิตช์เบรกมือไฟฟ้า แต่ยังไม่มีระบบ Brake Hold มาให้ นอกจากนี้ยังมีสวิตช์ X-MODE และระบบช่วยขับขี่บนทางลาดชันอีกด้วย ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติสามารถแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาได้ น่าเสียดายที่ไม่มีช่องแอร์หลัง แต่พลังลมและทิศทางของแอร์ที่เป่าออกมาจากด้านหน้าก็แรงเกินพอทำให้คนนั่งหลังไม่หงุดหงิดมากนักเพราะทำความเย็นในห้องโดยสารได้รวดเร็วทันใจ
ความสบายที่แตกต่างของภายใน XV นั้นคือ เบาะแบบ "ลูกผสม" ระหว่างหนังและผ้า ที่ออกแบบให้ดูกลมกลืนลงตัว และนั่งสบายรองรับสรีระได้อย่างดีแถมมีลาดลายเก๋ไก๋สปอร์ตได้ใจอีกด้วย เบาะตอนหลังก็ทรงสปอร์ตและนั่งสบายเช่นกันมาพร้อมที่ท้าวแขนและช่องวางแก้วน้ำ นอกจากนี้การก้าวขึ้นหรือลงของผู้โดยสารตอนหลังก็สะดวกเพราะความกว้างมากและเปิดได้เกือบ 90 องศา ที่สำคัญตัวรถมความสูงอยู่แล้วจึงไม่ต้องย่อตัวเข้าไปนั่งหรือแม้แต่ตอนออกจากรถก็เพียงก้าวลงมาได้เลยไม่ต้องโหนขอบประตู ในจุดนี้ให้ความสะดวกสบายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เดียว
ส่วนที่เก็บของท้ายก็กว้างและลึกพอสมควร แม้หลังคาช่วงท้ายจะลาดลงมาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากเวลาขนสิ่งของ เพราะโดยรวมแล้วได้มิติกว้างและลึกเพียงพอในการบรรทุกสัมภาระ นอกจากนี้ประตูท้ายแม้จะไม่ใช่ระบบไฟฟ้า แต่ก็เปิดง่ายมีน้ำหนักเบามาก เวลาดึงลงมาปิดต้องระวังเพราะจะออกแรงมากเกินไป ต่างจากรถระดับเดียวกันในหลายรุ่นที่ต้องออกแรงโหนถึงจะปิดได้
ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
ความสะดวกสบายมีให้ครบครันทั้งระบบกุญแจสมาร์ทเอนทรีเพียงแค่จับมือเปิดประตูก็ปลดล็อคหรือเมื่อต้องการล็อครถก็เพียงสัมผัสที่แถบริ้วตรงมือจับเท่านั้น ปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ เบรกมือไฟฟ้าที่ปลดอัตโนมัติเมื่อใส่เกียร์ตำแหน่ง "D" แต่คนขับต้องคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนนะครับ
กล่องใส่ของตรงคอนโซลกลางมีจุดชาร์จไฟทั้งแบบ USB และ 12V สวิตช์กระจกไฟฟ้าคู่หน้าขึ้น-ลงแบบอัตโนมัติ แต่เสียดายที่ไม่มีระบบล็อคประตูอัตโนมัติให้ ต้องกดปุ่มเอาเอง
ส่วนความปลอดภัยมีให้ตามมาตรฐาน เช่น ถุงลมนิรภัย 7 ใบ ระบบควบคุมการทรงตัว เซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมกล้องมองหลัง ระบบควบคุมความเร็วเมื่อลงทางลาดชัน เป็นต้น
Subaru XV 2.0i-P AWD เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่ารถยนต์ซูบารุโดกเด่นเรื่องเครื่องยนต์จุดศูนย์ถ่วงต่ำจากการใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอนยัน BOXER รหัส FE20 (ลักษณะเดียวกับในซูเปอร์คาร์ค่ายหนึ่งเลยนะ) ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (ไดเรคอินเจคชัน)
ความจุขนาด 2.0 ลิตร DOHC ระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS: ACTIVE VALVE CONTROL SYSTEM) ทั้งไอดีและไอเสีย กำลังอัดเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 12.5:1 (เดิม 10.5:1) กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที (จากรุ่นเดิม 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที) แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่เร็วขึ้น 4,000 รอบต่อนาที (จากรุ่นเดิม 4,200 รอบต่อนาที)
ระบบเกียร์ CVT ใหม่ แบบ 7 สปีด และสุดยอดแห่งการควบคุม เอกสิทธิ์เฉพาะของ SUBARU กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา (SYMMETRICAL AWD) นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบ X-MODE เป็นตัวช่วยในการควบคุมเครื่องยนต์ ระบบส่งถ่ายกำลังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร เบรค และ อุปกรณ์อื่น ๆ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สมรรถนะโดยรวมนั้นเอ็กซ์วีไม่ได้มีความแรงแบบออกตัวแล้วกระชากดึงหน้าหงายแต่ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า "เปลี่ยนไปเยอะมาก" ความรู้สึกเมื่อลองสัมผัสคันเร่งในรุ่นใหม่นี้ทั้ง เบา สบาย เร่งง่าย มาเร็วกว่าเดิมเห็นได้ชัด แม้จะมีอาการ "หน่วง" ในช่วงแรก ๆ ของการเร่งออกตัวจากการที่ต้องส่งกำลังไปขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ไม่นานอัตราเร่งก้มาไหลลื่นขึ้นเรื่อย ๆ แบบน่าประทับใจมาก
ความกระฉับกระเฉิงดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน อัตราเร่งแซงก็ไม่แพ้ใครจาก 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นแสนง่ายดาย แม้ว่าความรู้สึกในการเร่งออกตัวหรือเร่งแซงจะไม่มากนักเพราะเป็นเกียร์แปรผัน CVT แต่ระดับความเร็วนั้นกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมความนุ่ม แน่น หนึบของช่วงล่างที่ต้องแอบงงว่า "ซูบารุทำได้ไง" ให้ช่วงล่างนุ่มนวลขณะขับขี่ความเร็วต่ำ แต่กลับหนึบในทุกโค้งที่ความเร็วสูง ยิ่งบวกกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าไปด้วยยิ่งมั่นใจในทุกๆ สถานการณ์
เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่มี "แคมกระดิก" AVCS ทั้งไอดีและไอเสีย
สำหรับในรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นนั้น มีไม่กี่แบรนด์ที่สามารถทำระบบช่วงล่างและสมรรถนะการขับขี่ที่ดีได้ระดับนี้ และส่วนมากก็จะมีค่าตัวสูง ๆ อาจเกิน 2 ล้านบาทด้วยซ้ำไป แต่ในซูบารุ เอ็กซ์วี สามารถตอบสนองได้
การขับเข้าทางโค้งแบบหักศอกหรือว่าทางลงทางด่วนที่วนเป็นวงกลม เอ็กซ์วีสามารถใช้ความเร็วระดับ 80 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้แบบเนียน ๆ เลยครับ บางทีก็ทดลองแอบเติมคันเร่งเพิ่มเข้าไปอีกนิด (แต่ข้าวของในรถก็อาจไปกองรวมกัน) และเป็นที่รู้กันว่าในกรุงเทพฯ ที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้านั้นพื้นผิวถนนมักจะชำรุด เละ พัง มีหลุมบ่อและฝาเหล็กแบบกระเดิดขึ้นมาเพียบ! เหมาะแก่การลองช่วงล่างอย่างแท้จริง เจ้าเอ็กซ์วีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถขับรูดผ่านไปได้แบบสบาย ระบบกันสะเทือนที่นุ่มนวลและไม่กระด้างเท่าไหร่นัก และขนาดยาง 225/60 R17 ที่ให้มานั้น มีแก้มยางสูงยิ่งช่วยซับแรงกระแทกได้ดีขึ้นอีก โดยรวมแล้วดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเจนเช่นกัน
Subaru XV 2.0i-P AWD มีสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กับสมรรถนะการขับเคลื่อน 4 ล้อ นั่นคือ เครื่อง 2.0 ลิตร ขับ 4 ล้อ
จะกินน้ำมันไหม? ตอบแบบง่ายๆ ก่อนเลยว่า
"ประหยัดกว่าที่คิดไว้" ในการทดลองใช้งานทั้งขับขี่ในตัวเมืองและนอกเมืองกับสถานการณ์จริงๆ รถติดจริง ขับในตรอกซอกซอย ออกถนนใหญ่ ไปเที่ยวห้าง และขับขี่ออกต่างจังหวัดจากตัวเลขบนมาตรวัดในเมืองเฉลี่ย 8.9 - 7.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ราวๆ 11 - 12 กิโลเมตรต่อลิตร
ส่วนเมื่อเดินทางชานเมืองหรือต่างจังหวัดอยู่ที่ 7.0 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตรเท่ากับ 14.2 กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้นเอง โดยที่ขับแบบปกติมีการใช้อัตราเร่งออกตัวและเร่งแซงทั่วไป นับว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แถมมีระบบจับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ให้อัตราการสิ้นเปลืองระดับนี้เมื่อเทียบแล้วไม่แตกต่างกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้า แม้ว่าน้ำหนักตัวของเอ็กซ์วีรุ่น 2.0 i-P จะอยู่ที่ 1,439 กิโกกรัม
สำหรับ 2.0 ลิตรขับ 4 ล้อ ของ เอ็กซ์วีใหม่นั้น ประหยัดกว่าที่คิดเอาไว้มากเลยครับ แต่ก็มีข้อด้วยกว่าชาวบ้านเค้าก็ตรงที่ใช้น้ำมันได้สูงสุดแค่ E10 หรือแก๊สโซฮอล 91 และ 95 เท่านั้น นอกจากนี้ความจุถังน้ำมันที่ค่อนข้างเยอะถึง 63 ลิตร อาจต้องเติมครั้งหนึ่งราว 900 - 1,000 กว่าบาทขึ้นไปจึงเต็มถัง แต่ก็เป็นปกติของรถยนต์ระดับนี้อยู่แล้ว
ความคุ้มค่าสมรรถนะกับราคา
Subaru XV 2.0i-P AWD ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางที่ให้ความคล่องตัว ขับขี่สะดวกสบายในเมืองและให้สมรรถนะที่ดีเมื่อขับขี่นอกเมืองหรือเดินทางไกล พร้อมความปลอดภัยและขับสนุกมั่นใจกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ SYMMETRICAL สมรรถนะเทียบเท่ายุโรปราคารถญี่ปุ่นค่าตัว 1,259,000 บาท นับเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับครอบครัวนักเดินทางที่ยังต้องการความสนุกเร้าใจในการขับขี่และความปลอดภัยแบบจัดเต็ม อย่าเชื่อผมต้องไปลองเองแล้วมาดูว่าจริงไหม?..