รีวิว - ทดลองขับ New Mazda2 สปอร์ต หรู เรียบ ฟังก์ชั่นเพียบ พร้อมระบบช่วยกันแหกโค้ง!
ลองแล้วรถยนต์
New Mazda2!!! ซิตี้ คาร์ รุ่นเล็กของค่าย "มาสด้า" และมาขับกันในสนามแข่งระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่แน่จริงมาสด้าไม่กล้าให้ลอง!!!
เปิดตัวมาหมาดๆ ในงาน
Motor Expo 2019 ที่ผ่านมา กวาดยอดจองได้พอสมควร กับการปรับโฉมเจ้าซิตี้คาร์ น้องเล็กของกลุ่ม ที่พัฒนากันมาหลายเวอร์ชั่น เรียกได้ว่าการปรับโฉมภายนอกในเวอร์ชั่นนี้ตามคอนเซปต์ Kodo Design ทำให้รถซิตี้ คาร์ เจนนี้ หล่อ สปอร์ต โดนใจใครหลายคน ซึ่งตามสไตล์รถยนต์มาสด้าที่ให้ไม่มีหมกเม็ด แถมฟังก์ชั่นภายในที่ให้มาเยอะเป็นทุนเดิม มาสด้าเลยกลายเป็นรถทางเลือกต้นๆ ของคนที่อยากจะมีรถคันแรก หรือกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการความสนุก และเร้าใจตลอดเวลา
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในการปรับดีไซน์ภายนอกของ
New Mazda 2 2019 คือกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้นแบบเดียวกับมาสด้า 3 เรียบๆ สะอาดตาแต่เล่นเส้นสาย แฝงความโฉบเฉี่ยว กันชนเสริมโครเมี่ยมให้มองที่มืดๆ ก็ยังเห็นเป็นเงาโชว์ความโดดเด่น แถมทำให้บอดี้ตัวรถดูกว้างขึ้น ไฟหน้าแน่นอนแบบ LED พร้อมไฟเดย์ไทม์ LED Signature ให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และไฟล้ออัลลอยให้มา 16 นิ้ว ในรุ่นท็อปลายใหม่ (ที่เหลือ 15 นิ้วสีล้อเฉดใหม่เป็นสีเงิน) ด้ายท้ายกันชนใหม่เพิ่มพื้นที่ของสีตัวรถให้มากขึ้น ลดทอนพื้นที่สีดำ แต่ไฟฟ้ายยังคงเดิม
ภายในหรูหราฟังก์ชั่นให้มาครบ มากกว่ารถซิตี้คาร์ ไซส์เล็ก!
แน่นอนว่า มาสด้า ได้ใจผู้บริโภคในเรื่องของงานดีไซน์ที่เนี๊ยบ และหรูหรา มีการออกแบบโครงสร้างตัวถัง SKYACTIVE-Vehicle Architecture เพื่อให้ผู้ขับขี่สนุก โดยปรับห้องโดยสารขยายฐานล้อหน้า เพิ่มพื้นที่ห้องคนขับ ปรับมุมมองคนขับด้านหน้าลดจุดอับสายตา อีกทั้งลดความเมื่อยล้า โดยใช้แป้นเบรคที่ใส่ในรถหรู Human Machine ที่แป้นคันเร่ง (จะยาวกว่ารถทั่วไป)
และที่เห็นได้ชัดเจน คือภายในห้องโดยสารตรงเบาะคู่หน้าที่ปรับใหม่ใช้สีเทาและสีน้ำเงินแบบ Grand Luxe Suede (หนังเทียมคล้ายหนังกลับ) และพัฒนาให้ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดีขึ้น มีหน้าจอกระจก Active Driving Display ที่ตรงกระจกหน้าแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี (Start รถจอก็เปิดขึ้น ดับเครื่องจอก็พับเก็บลง)
มีโหมด Sport และระบบ Paddle Shift หลังพวงมาลัย (มีในเฉพาะเครื่องดีเซล) และยังมี Cruise Control เพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับ (บอกแล้วของไม่มีกัก) และเครื่องเสียงระบบ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay จอสี แบบสัมผัส 7 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ ปุ่มกลมๆ ล่างเกียร์ จะเห็นในรถหรูลักชัวรี่ขึ้นไป แต่มาสด้า 2 ก็จัดมาเกินราคา
ระบบความปลอดภัยสุดล้ำ GVC Plus ระบบที่ช่วยลดอาการส่ายช่วงโค้ง
อีก 1 สิ่งที่รถคันนี้จัดมาให้เกินคุ้มนั่นคือ ระบบความปลอดภัย GVC และในตัว
มาสด้า 2 รุ่นล่าสุด เพิ่มความปลอดภัยให้เซฟตี้มากขึ้น GVC Plus หรือ G-Vectoring Control Plus ระบบที่มาสด้า ชูว่าเป็นจุดเด่นของ New Mazda 2 สำหรับรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ให้เทคโนยีความปลอดภัยจัดมาในขั้นสูง เดิมมีเพียงแต่ GVC รุ่นใหม่นี้เพิ่มความปลอดให้อีกเท่า โดยเพิ่มการจับเบรคล้อหน้า หลังจากออกโค้งเข้าทางตรง ลดอาการส่ายตอนเข้าโค้งขณะที่คุณยังใช้ความเร็วหรือเหยียบคันเร่ง อำนวยสำหรับมือใหม่ที่พลาดพลั้ง เผลอเข้าโค้งโดยไม่ทันระวังหรือตั้งตัว เป็นการลดแรงเหวี่ยงเข้าโค้งได้สมดุลและนุ่มนวล และข้อดีไม่ต้องมาคอยแตะเบรคบ่อยๆ ลดการโคลงตัวไปมาของผู้โดยสารอีกด้วย
2 เครื่องยนต์ ดีเซล เบนซิน ฟิลลิ่งที่แตกต่าง
เป็นที่ทราบกันดีว่า มาสด้า เป็นเจ้าแรกในไทยที่นำเครื่องยนต์ดีเซล มาใส่ให้กับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก และเครื่องยนต์แบบ SKYACTIV 2 ทางเลือกให้คนที่ชอบขับสนุกแฝงความประหยัดก็ต้องจัด SKYACTIV - G เครื่องยนต์เบนซิน 1300 ซีซี 93 แรงม้า ให้แรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร (อัตราการสิ้นเปลืองเคลมไว้ที่ 23.3 กม./ลิตร) และมีโหมด Sport ให้เลือกซิ่ง หรือเน้นประหยัดใช้งานนาน บวกกำลังเครื่องเหลือๆ ก็จัด SKYACTIV-D เครื่องยนต์ดีเซล 1500 ซีซี 105 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 250 นิวตัน-เมตร (อัตราการสิ้นเปลืองเคลมไว้ที่ 26.3 กม./ลิตร) แถมมาพร้อมเทอร์โบแปร์ผัน ให้การตอบสนองดีเยี่ยม พร้อมโจนทยาน และที่สำคัญ ทั้ง 2 เครื่องยนต์ได้รับมาตรฐานไอเสียยูโรระดับ 5 ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทดลองขับกันในสนามแข่งระดับโลก หนึบ! สมคำร่ำลือ
อย่างที่บอกกันในตอนต้นว่า ครั้งนี้ทางมาสด้า ได้พาสื่อมาทดลองขับเจ้าซิตี้ คาร์
New Mazda 2 กันในสนามแข่งระดับโลก หรือสนามช้าง จ.บุรีรัมย์ ในบ้านเรา หลายๆ คนอาจจะคิดว่ารถสแตนดาร์ดเดิมๆ จะเอามาขับ เข้าโค้งแบบรถแข่งในสนามแข่งจริงๆ ได้หรือเปล่า ซึ่งมันไม่ได้ง่าย! อย่างที่ตาเราเห็น เพราะตัวรูปแบบสนามถูกเซทให้เป็นสนามที่มาตรฐานระดับโลก มีพื้นที่สลับยากง่าย ต้องใช้รถที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกัน และการทำเวลาในการขับในสนามก็เป็นสิ่งสำคัญ เจ้ามาสด้า 2 เจนนี้ก็ทำได้แบบไม่มีข้อกังขา
ด้วยระบบที่มาสด้าเองอยากให้ลองนั่นคือ GVC Plus ในช่วงที่เข้าโค้งและยังมีการเร่งอยู่ สนามที่กว้าง และโค้งอันตรายมันเลยกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับ New Mazda 2 คันนี้ พวงมาลัยไม่ต้องแต่งเติม ทำจังหวะ ปล่อยไปตามธรรมชาติ ให้รถควบคุมสถาณการณ์ ไม่ส่าย! ไม่หลุด เข้าโค้งได้สมูทและนุ่มนวล
ในเรื่องอัตราการเร่งที่ตอบสนองได้ดีทั้ง 2 เครื่องยนต์ ดีเซลจะมีน้ำหนักเยอะกว่าเบนซินเล็กน้อย แต่บวกกับการเสริมเทอร์โบมาควบคู่ ทั้งแรงบิดและเกียร์ 6 สปีดที่ทำงานควบคู่กันได้ดี มีระบบ Paddle Shift ปรับให้ตัวดีเซลขับสนุกขึ้น มาแรงเท่าไหร่ใช้ Paddle Shift ควบคุมปรับลดเกียร์ได้ทันใจ เรื่องการเบรค กับช่วงล่างที่หนึบพอสมควร ใครว่าดีเซลรถเล็กอืด! ตรงนี้อยากให้คุณได้รู้ อยากให้คุณลองว่ามันไม่จริง ขับไล่ตาม MX5 ได้สบายๆ
สำหรับตัวเบนซินแม้จะมีพละกำลังและเครื่องยนต์น้อยกว่า แต่ให้โหมด Sport มาเป็นตัวช่วยเร่งแซง ทำให้ขับสนุกไม่แพ้กัน ในทั้ง 2 รูปแบบ อัตราเร่ง การเบรคที่ควบคุมลดเกียร์ลงได้ทันใจ และเร่งตัวขึ้นเนิน ทำได้ไหลลื่น ด้วยตัวรถที่เบา หลายคนอาจจะกังวลกลัวรถจะเสียอาการ แต่ด้วยระบบ GVC Plus มาเป็นตัวเสริม เลยทำให้หมดห่วงในการใช้ความเร็วช่วงตอนเข้าโค้ง อีกทั้งในตัวเครื่องยนต์เบนซินยังทำงานควบคู่ไปกับระบบ i-Eloop (ไอ-อีลูป) ระบบที่เปลี่ยนพลังงานที่เราสูญเสียความเร็วผันตัวให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บไว้เพื่อนำไปใช้กับระบบไฟฟ้าในรถ ช่วยประหยัดน้ำมันไป 10% และยังมีระบบ i-Stop (Idling Stop System) ที่สั่งให้เครื่องหยุดเมื่อรถจอดนิ่ง หรือติดไฟแดง ก็ช่วยให้ประหยักน้ำมันได้อีกส่วนหนึ่ง
จากที่ได้มาลองขับ
New Mazda 2 2019 ทั้งตัวดีเซล 1500 ซีซี 105 แรงม้า และเบนซิน 1300 ซีซี 93 แรงม้า เกียร์ 6 สปีด ทั้งสองเครื่องยนต์ที่มีระบบความปลอดภัย Skyactiv GVC ( Plus ) มาเพิ่ม ระบบนี้จะจับเบรคหน้าและดึงท้ายไว้ให้เอาอยู่ ทำให้ไม่หลุดโค้งบานปลายแม้เท่ายังดันคันเร่ง ตัวดีเซลขับสนุกเพราะมี Paddle shift หลังพวงมาลัย
ตัวเบนซินก็มีโหมด Sport ให้ใช้ตอนเร่งแซง เรื่องสมรรถนะและอัตราเร่งไม่หนืดจนเสียอาการ เรื่องดีไซน์ กับความสปอร์ต ไม่ต้องพูดถึงเจ้านี้เขาจัดเต็ม หรูทั้งนอกทั้งใน เรียบๆ แต่ฟังก์ชั่นมาเพียบ!! ที่แน่ๆ ช่วงล่างหนึบสมคำร่ำลือจริงๆ ส่วนสี แบบ 5 ประตู แฮชแบคจะมีทั้งหมด 8 สี (สีใหม่ 3 สี คือ สีเทา โพลี เมทัล เกรย์, เซรามิก เมทัลลิค และ สีเทา แมชชีนเกรย์) 4 ประตูหรือซีดาน มี 7 สี จะไม่มีสี โพลีเมทัล ส่วนล้อตัวท็อปจะ 16 นิ้ว พร้อมอัลลอยใหม่ นอกนั้น 15 นิ้ว ลายใหม่เช่นกัน โดยรวมแล้วเป็น รถซิตี้คาร์ที่น่าใช้ มากล้นเรื่องระบบความปลอดภัย และยังขับสนุก ตามสไตล์เครื่องยนต์ SKYACTIV ที่สำคัญ ได้ความสปอร์ต หรูหรา ใครๆ ก็มอง
ราคาNew Mazda2 เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 แบบ 4 ประตู และ 5 ประตู
ราคาเครื่องดีเซล 1.5 แบบ 4 ประตู และ 5 ประตู