รีวิว All New Corolla Altis 2019 โฉมใหม่ นุ่ม เงียบ พรีเมี่ยม รุ่นไฮบริดที่สุดความประหยัด
ได้ฤกษ์มาทดสอบ
Corolla Altis เจนเนอเรชั่นล่าสุด รุ่นที่ 12 รถตลาดที่ทำรายได้อันดับต้นๆ และยังเป็นรถที่นำมาใช้เป็นรถสาธารณะในบ้านเรา แต่ปี 2019 นี้ ที่ "โคโรลา อัลติส" เจเนอร์ชั่นนี้ได้เปิดตัว ก็ทำให้เหล่าบรรดาผู้หลงไหลเก๋งที่เน่นใช้งาน แต่รูปทรงสปอร์ต ใจสั่นและพร้อมที่จะควักกระเป๋าซื้อโดยไม่ต้องลังเล เพราะเจเนอร์เรชั่นนี้พัฒนาเอามอเตอร์ไฟฟ้าจับมาสวมให้ควบคู่กับเครื่อง 1.8 เป็นรุ่นไฮบริด และมีให้เลือกถึง 3 รุ่นในราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้าน!! (รุ่น Hybrid)
ครั้งนี้ทีมงาน เช็คราคา.คอม ได้คิวมาทดสอบกันที่สนาม Toyota Driving บางนา และต่อด้วยกิจกรรมขับ (อ้อมโลก) ที่ทีมงานจัดขึ้นให้ขับยาวๆ เพื่อทดสอบอัตราเร่งกันอย่างจุใจไปจนถึงจุดหมายที่พัทยา ช่วงเช้าของกิจกรรมทีมงานจัดรถให้เราได้ทดสอบกันรุ่น Hybrid High ตัว Top สุด เพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ สมบูรณ์แบบ ลบภาพลักษณ์เก่าๆ ของโคโลล่า อัลติส ไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งพวงมาลัยที่เบาและนุ่มนวลขึ้น หรือจะเป็นระบบ TNGA ที่ช่วยทำให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถโดยรวมลดลง เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งการขับทางตรงและในขณะเข้าโค้ง
ช่วงล่างด้านหน้ามาแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone เพิ่มความนุ่มนวลในขณะโดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียงและการสั่นสะเทือนในตำแหน่งต่างๆ และที่สำคัญที่เราได้ทดลองคือระบบ Cruise Control ที่สามารถ Set ค่าให้ตามคันหน้าได้ในขณะที่จอดรถ แต่ออกตัวให้กดคันเร่งเบาๆ โดยรถจะขับเคลื่อนตามคันหน้าเองโดยที่เราไม่ต้องคุมพวงมัย กดคันเร่ง หรืเบรค (อันนี้อาจช่วยการขับขี่ที่จราจรติดขัด) แต่รถจะปลดระบบเองอัตโนมัติเมื่อเลี้ยวแบบหักศอก
ภายนอกภายในลุคใหม่ Corolla Altis 2019 ลุคนี้พรีเมี่ยมน่าใช้
ก่อนที่จะพาเดินทางอ้อมโลกกันไปไกลมาดูภายนอก - ภายในของ Corolla Altis 2019 เพราะออกแบบใหม่หมดทั้งคันทั้ง ไฟหน้า-ไฟท้าย LED Projecter ควบคู่กับไฟ Day time และ เปิด-ปิด อัตโนมัติ (สังเกตุว่าไฟหน้ารุ่นไฮบริดจะมีเส้นสีฟ้าในโคมไฟ เพิ่มลูกเล่นและความต่าง) ล้อให้มา 17 นิ้วแบบอัลลอยรูปทรง Sport และที่เก๋กู๊ดคือกุญแจแบบ Smart Entry ปล๊ดล๊อกอัตโนมัติเมื่อกุญแจอยู่ในระยะที่ใกล้พอสมควร
ภายในพรีเมี่ยมพร้อมออฟชั่นจัดเต็ม
นอกจากภายนอกออกแบบใหม่หมดภายในก็ได้รับการพัฒนาเช่นกันมาภายใต้แนวคิด "Clean & Wide" คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริง แต่หลายคนอาจจะบอกว่าโฉมเก่าจะกว้างกว่า แต่ Corolla Altis 2019 จะให้ระยะฐานล้อที่ยาวกว่า มีพื้นที่วางขามากขึ้น หรือปรับเบาะเอนได้กว้างขึ้น ที่สำคัญสำหรับรุ่น Top เบาะนั่งปรับอัตโนมัติคู่หน้า
อีกทั้งรุ่นโฉม 2019 เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับที่กระจกหน้า (จะเห็นว่าเราใช้ความเร็วเท่าไหร่โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน) ระบบ Push Start สีฟ้า สวยเด่นหลังพวงมาลัย มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ขนาด 7 นิ้ว ส่วนหน้าจอเครื่องเสียงให้แบบทัชสกรีน 8 นิ้ว แถมรองรับ Apple Carplay (Android ก็ได้นะ)
และที่สำคัญในรุ่นท็อปยังมี Wi-Fi ให้ใช้งานฟรี! (โปรโมชั่นใช้งานฟรี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางบริษัท) Wireless Charger แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย และรุ่นนี้มีม่านกันแดดด้านหลังเหมือนแคมรี่ด้วยนะ ที่สำคัญระบบแอร์ Nanoe เป็นระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารสร้างโมเลกุลน้ำล้อมรอบประจุลบเพื่อขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรคได้ด้วย ไฮโซจริงๆ
พร้อมเดินทางทดสอบช่วงล่างและห้องโดยสารที่เงียบกว่าเดิม
เมื่อการทดสอบในสนามเสร็จสิ้นก็ได้เวลาซิ่งไปพัทยา ทดสอบช่วงล่างและอัตราเร่ง รวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ ของรถไม่ว่าจะเป็นระบบ VSC ควบคุมการทรงตัวที่เวลาเข้าโค้งก็มั่นใจไม่เกิดอาการท้ายปัด และช่วงล่างแบบ Double Wishbone ที่นึ่มนวลจริงๆ ทุกหลุม ทุกโค้ง เกาะถนนเอาอยู่ พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาไม่หนักอย่างที่คิด (อาจจะเบาไปสำหรับคนที่ขับรถด้วยความเร็ว) ห้องโดยสารเก็บเสียงได้เงียบพอสมควร ที่กระจกยังมีระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา มีระบบเตือนลมยางผิดปกติให้ด้วยขึ้นที่หน้าจอด้วย
และที่มั่นใจสุดๆ คือเรื่องความประหยัดกับ Toyota Corolla Altis รุ่นนี้ที่ทำเครื่องยนต์มา 2 แบบคือ 1.6 และ 1.8 (รุ่น Hybrid และ GR) เครื่องยนต์ไฮบริด เจเนอร์เรชั่นที่ 4 นี้ ในรุ่น Top จัดเครื่อง 1.8 พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และเกียร์เป็นแบบ E-CVT 7 สปีด ที่เป็นระบบไฟฟ้าให้ความสมูทตอนเปลี่ยนเกียร์หรือเร่งแซง (มีเฉพาะรุ่นไฮบริด) ให้อัตราการประหยัดมากสุด 23.3 กม/ลิตร (ซึ่งนักข่าวกรุ๊ปนี้ก็ทำได้ใกล้เคียง) กับระยะทางในช่วงบ่ายที่ทางโตโยต้าจัดให้ขับกันอ้อมโลก (กรุงเทพฯ-พัทยา กว่า 400 กิโล เกือบข้ามไป อ.พนมสารคามแล้วจ้า 555)
ระบบความปลอดภัยที่ Corolla Altis 2019 มีเพิ่ม
- Back Guide Monitor กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ
- Hill-start Assist Control ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
- Back Sonar สัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ
- Tire Pressure Monitoring System ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ
- Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
- Vehicle Stability Control ระบบควบคุมการทรงตัว
ถ้ามองหารถใช้ในชีวิตประจำวัน แต่จะออกแนวผู้ใหญ่ใช้งาน หล่อหรูตามพรีเซนเตอร์ และประหยัดน้ำมันในเซกเม้นท์รถตลาดต้องบอกว่า Toyota Corolla Altis เป็น 1 ในรถที่ตอบโจทย์อันดับต้นๆ ด้วย
1. ปัจจัยด้านราคาที่ไม่เแพงและยังเกาะกลุ่มในคนวัยทำงาน
2. ด้านสมรรถนะที่ครอบคลุมและระบบความปลอดภัยที่มาเต็มและเอื้อต่อคนใช้รถจริงๆ ที่ครั้งนี้อัลติสจับเทคโนโลยีที่เกือบจะใกล้เคียงพรีเมี่ยมหรูพี่ใหญ่ Toyota camry รวมทั้งเทคโนโลยี TNGA ที่มาตรฐานยัดเข้าไปในรถเซกเม้นท์นี้ เรียกได้ว่าราคาดี คุ้ม แถมความปลอดภัยครบครัน
3. เรื่องความประหยัด ข้อนี้แน่นอนว่าเราจะประหยัดเงินในกระเป๋าเราได้เท่านึง! เพราะเป็น ไฮบริด (และมีราคาไม่ถึงล้าน!!) หรูหราลักชูรี่ในราคารถตลาดที่ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ แถมห้องโดยสารเงียบพร้อม เครื่อง 1.8 กำลังดีต่อการเดินทางไกล และใช้งานในเมือง ในเรื่องระบบต่างๆ ทั้งการออกตัว เร่งแซง หรือพวกมาลัยช่วงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ถือว่าทำได้ประทับใจ และพวงมาลัยที่เบา คุมง่าย แต่คงไม่เหมาะกับการซิ่ง! ตอนเร่งแซงอัตราเร่งมาแรงฉับไว ไม่อืดอาดอย่างที่ใครหลายคนคิด แต่ห้องโดยสารอาจติดว่ามันดูแคบไปสักนิด ถ้าเฉลี่ยกับออพชั่นที่ให้มามองเลยจุดนั้นไปดีกว่า เพราะถ้าเน้นใช้งานจริงๆ คันนี้ตอบโจทย์คุณที่สุดแล้ว
Toyota Corolla Altis มี 6 รุ่น ได้แก่