พรีวิว MG HS รถยนต์ SUV สุดล้ำ! ก่อนเปิดตัวจริง 25 กันยายนนี้
หลังจากที่มีข่าวแว่วๆ ว่า MG จะปล่อย SUV ที่จะมาแทนรุ่น GS โดยมีเปิดตัวไปแล้วที่ประเทศจีน 2 รุ่นคือเครืองยนต์ 2.0 และ 1.5 แต่ทว่าครั้งนี้ที่ MG ประเทศไทยเชิญสื่อไปร่วมยลโฉม และทดสอบกันเล็กๆ กับ MG HS ในสนาม MG Driving Experience Center ถ.ศรีนคริทร์ ก็ยังไม่หลุดมาให้ทราบว่าบ้านเราจะนำเข้ามาทั้ง 2 รุ่น หรือเฉพาะเครื่องยนต์ 1.5 เพียงเท่านั้น ซึ่งทางบริษัท เอ็มจี ประเทศไทย จะเปิดตัว MG HS รถตระกูล C SUV กันอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กันยายน 2562
หลังจากที่เราได้ยลโฉมและสัมผัส First Drive กันเป็นกลุ่มแรก ก็ให้ความรู้สึกว่า ว่าที่ C SUV คันนี้เสมือนตัวแทนของ MG GS และ ZS เพราะมีทุกอย่างที่ 2 รุ่นนั้นอาจจะไม่มี ทั้งระบบความปลอดภัยในบางจุด ตัวเครื่องยนต์ที่ MG HS ใช้เป็นตัว Turbo และความหรูหรากับหลังคา พาโนรามิค ที่เปิดกันจากหน้าไปยังหลังสุดได้เต็มๆ
สำหรับ MG HS รถยนต์นั่งอเนกประสงค์แบบ C SUV มาพร้อม concept sporty premium SUV มีจุดเด่นๆ อยู่ 3 จุด ก็คือจุดแรกเรื่องดีไซน์ด้านหน้าลู่ลมแบบ aero dynamic character รูปทรงโค้งมนทั้งคัน กระจังหน้าเซร่าคล้ายกลุ่มดวงดาว ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์เปลี่ยนได้ 2 เฉดสี แสดงผลทีละดวง โดยมีทั้งหมด 9 ดวง ไฟท้ายยาวรับกับไฟเลี้ยวค่อยๆ ไล่ตามสเต็ปล้อแม็กขนาด 18 นิ้วทรงเฮอริเคน
ภายในวัสดุแบบซอฟท์ทัช ใช้โทนสีแดงดำ sport ภายในเปลี่ยนเฉดสีตามโหมดการขับขี่ สามารถเซ็ตเองได้ถึง 64 เฉด สี เบาะ sport bucket seat และที่พิเศษกับพาโนรามิคขนาด 1.19 เมตร
หน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้วสามารถแสดงข้อมูลทุกอย่างที่สั่งการ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น จอขนาด 10 นิ้วและมีระบบใน i-smart system ที่สั่งการด้วยภาษาไทย และมี Camera around วิวแสดงผลแบบ 3D ประตูท้ายไฟฟ้า และกระจกสามารถควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล
ในเรื่องของ Performance ครั้งนี้้ที่ได้ลองน่าจะเป็น เครื่องยนต์ 1.5 แต่เป็น turbo engine dual clucth 7 speed มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมดและมีปุ่ม Super Sport สีแดงตรงพวงมาลัย รองรับสำหรับคนที่ชอบความเร้าใจ สำหรับราคาและข้อมูลที่เจาะลึกติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 25 กันยายน
หลังทดลองขับ MG HS สั้นๆ ในสนาม
อาจจะเป็น 2 รอบสนามในช่วงสั้นๆ แต่ก็ยังพอจับอารมณ์ และเพอร์ฟอร์เม้นท์รถได้บ้าง ถึงจุดแตกต่าง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าของ MG สำหรับในสนามรอบแรกทดสอบกับโหมดการขับแบบ Normal ออกตัวครั้งแรกเหมือนเครื่องยนต์กำลังทำความรู้จักกับน้ำหนักเท้ามีรอรอบสักครู่ ก่อนจะเรียกเค้นพลังออกมาได้ตามน้ำหนักที่กดลงไป สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ รถมีความเกาะถนน และทรงตัวได้ดีไม่เหวี่ยงแม้จะมาด้วยความเร็ว เกือบร้อยกว่า
รอบที่ 2 กดปุ่มสีแดงลอง โหมด Super Sport กดปุ๊บเหมือนระบบเซ็ทรถให้เบา (หรือรู้สึกไปเองก็ไม่ทราบ) แตะคันเร่งเหมือนรถพร้อมโจนทะยาน สัมผัสได้ถึงความนิ่งและกำลังที่เค้นออกมาได้ทันใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะต้องไปสัมผัสกับเส้นทางไกลๆ หรือการขับขี่ในเมือง เพราะก็อยากลองใช้เครื่องเทอร์โบให้คุ้ม และโหมดการขับขี่สุดพิเศษให้รู้ถึงพละกำลังจริงๆ
โดยรวมรถคันนี้เหมือนว่าที่ SUV สุดหรูเฉกเช่นรถยุโรปดีๆ ได้มาสัมผัสเพียงน้ำจิ้มแต่ก็พอได้อรรถรสให้กลับมาโม้ว่า "จับตาดูรุ่นนี้ให้ดีๆ เพราะนี่จะเป็นรุ่นเรือธงของ MG แน่นอน" ทว่าราคาที่จะเปิดตัววันที่ 25 กันยายนนี้ จะว้าว! แค่ไหนคงต้องติดตามลุ้นกัน