เปรียบเทียบ Toyota C-HR, Honda HR-V และ Mazda CX-3 รถอเนกประสงค์ รุ่นไหนน่าใช้กว่ากัน
รถยนต์อเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ยอดนิยมคู่กัดตลอดกาลที่มีขนาดและพิกัดเครื่องยนต์ที่อยู่ระดับเดียวหรือใกลเคียงกันในตลาดรถประเทศไทย นั่นคือ
Toyota C-HR,
Honda HR-V และ
Mazda CX-3 ซึ่งแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นและสมรรถนะรวมถึงคาเรคเตอร์แตกต่างกัน แล้วจะซื้อรุ่นไหนดี?
ก่อนอื่นต้องรู้คำตอบของตัวเองก่อนว่าจะซื้อรถประเภทนี้เพื่ออะไร? ใช้งานลักษณะใดเป็นประจำ หรือว่าชื่นชอบสมรรถนะในด้านใดมากกว่ากัน! ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนที่ต้องการซื้อรถยนต์ประเภทครอสโอเวอร์แบบรถครอบครัวคอมแพกต์ 5 ประตู ที่ทั้ง 3 รุ่นนี้มีความคล้ายกันคือ ยกสูงนิดๆ พอลุยข้ามอุปกรรคได้ดีกว่ารถเก๋ง และให้ความอเนกประสงค์พอตัว มาดูกันว่าจุดเด่นแต่ละรุ่นมีอะไรเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้บ้าง
สำหรับบทความนี้ขอยกตัวอย่างรถรุ่นท็อปสุดของทั้ง 3 รุ่นมาเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อให้เห็นถึงระบบต่างๆ และเทคโนโลยที่ดีที่สุดของรถ
Toyota C-HR HV HI ราคา 1,159,000 บาท
Toyota C-HR HV HI ราคา 1,159,000 บาท โตโยต้า ซี-เอชอาร์ รุ่นท็อปสุดไฮบริดนั้น ส่วนของรูปลักษณ์อาจเป็นเรื่องของความคิดเห็นแต่ละบุคคล ส่วนเรื่องความประหยัดน้ำมันนั้นนับว่ามากที่สุดใน 3 รุ่นนี้ ระบบความปลอดที่ล้ำสมัยก็นับว่าให้มาเยอะพอตัว ได้แก่ ความเตือนมุมอับสายตา BSM เตือนขณะถอยหลัง RCTA ระบบเตือนรถออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDA ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ VSW ระบบควบคุมความอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control และถุงลม 7 ใบ
จุดเด่นของรถรุ่นนี้ยังมีโครงส้างตัว TNGA ที่มีจุดศูนย์ต่ำ ทำให้การขับขี่เกาะถนนมากขึ้นและการควบคุมที่แม่นยำแม้ตัวรถจะยกสูง ขุมพลังไฮบริด 1.8 ลิตรผสานมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ใจเรื่องอัตราเร่งได้และความประหยัด
ภายในเบาะคู่หน้านั่งได้สบายมีพื้นที่เแบบพอดีตัว แต่อาจมีจุดด้อยจากหลังคาที่ลาดเอียงต่ำลงไปทางด้านหลังมากไปหน่อยคล้ายรถสปอร์ต จึงทำให้คนที่นั่งหลังอาจรู้สึกว่า "อึดอัด" จากกระจกด้านข้างที่เล็กแคบและสูงต้องชะเง้อมองจึงจะเห็นวิว แต่ตัวเบาะนั่งด้านหลังนั้นไม่แคบจนเกินไป คล้ายนั่งอยู่ในวีออสหรือยารีสนั่นเอง คล้ายๆ กับการนำเอายารีส 5 ประตูมาจับยกสูงและขยายให้อวบขึ้นเล็กน้อย และปรับหลังคาให้ลาดลง แต่ก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนของฟังก์ชั่นดีๆ เช่น ระบบ T-Connect TELEMATICS ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถได้ และงานประกอบนับว่ามีความเนียบที่ดีระดับกลางค่อนข้างไปทางบวก แต่วัสดุและดีไซน์ในบางชิ้นยังอาจต้องปรับปรุงให้สวยกว่านี้ตามราคารถ
สรุป
Toyota C-HR เหมาะกับผู้ชื่นชอบความประหยัด แต่ก็พอตัว ลุกดูสปอร์ตปราดเปรียวสไตล์วัยรุ่น เน้นขับขี่ 1 หรือ 2 คนเป็นหลักนานทีจะมีคนนั่งด้านหลังแต่ก็อาจอึดอัดหน่อย ส่วนสมรรถนะการขับขี่นับว่าดีมาก ระบบช่วงล่างหนึบแน่น การเข้าโค้งคม พวงมาลัยควบคุมง่ายและแม่นยำ ที่สำคัญเป็นแบรนด์ "โตโยต้า" ซื้อง่ายอะไหล่เยอะ ขายต่อสบายใจ... จบนะ
Honda HR-V RS ราคา 1,119,000 บาท
Honda HR-V RS ราคา 1,119,000 บาท ฮอนด้า เอชอาร์-วี รุ่นอาร์เอส โดยพื้นฐานแล้วใช้เครื่องยนต์เดียวกันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นคือ 1.8 ลิตร 14 แรงม้า เกียร์ CVT แต่ในรุ่น RS เพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งรอบคันทำให้ดูสะดุดตามากขึ้น จุดเด่นที่ทำให้ใครหลายคนหลงรักคือ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ Full LED สว่างเวอร์กับรูปทรงที่เน้นความอเนกประสงค์และใช้ได้สะดวกสบายกว่าคู่แข่ง โดยในรุ่น RS นี้จะมาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มขึ้นคือ ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System) ระบบแสดงภาพมุมอับสายขณะเปลี่ยนเลน (Honda Lanewatch) และถุงลม 6 ใบ (ไม่มีตรงเข่าคนขับ)
ภายในที่ดูอวกาศสวยระยิบระยับหรูหรากว่าใคร การออกแบบจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ในรถค่อนข้างจะดีกว่า ทั้งใช้งานง่าย ช่องเก็บของเยอะ และที่วางขวดกับแก้วน้ำรอบตัวเต็มไปหมด เรียกว่าเกินจำนวนที่นั่งด้วยซ้ำไป! นอกจากนี้ห้องโดยสารทั้งหน้าและหลังก็กว้างที่สุดใน 3 รุ่นนี้ นั่งสบายจริงทุกตำแหน่งและหลังคาสูงโปร่งไม่อึดอัด และยังมีหลังคาพาโนรามิครูฟมาด้วย กับส่วนจอแสดงภาพด้านข้างเป็นฟีเจอร์ที่มีเจ้าเดียวในรถระดับนี้ และมีประโยชน์ตอนใช้งานได้จริงๆ แถมยังกดดูภาพด้านข้างขณะขับได้ตลอดอีกด้วย
ด้านงานการประกอบอยู่ระดับกลางๆ มีทั้งจุดที่เนียบและไม่เนียบบ้างในบางจุด แต่โดยรวมอยู่ในเกณฑ์รับได้เพราะดีไซน์สวยลงตัว ซึ่งน่าเสียดายที่หากย้อนไปซัก 5 - 6 ปี งานประกอบของรถยนต์ฮอนด้านับว่าดีเลิศอันดับต้นๆ ของค่ายรถญี่ปุ่นที่ประกอบในประเทศไทยเลยทีเดียว
ข้อด้อยก็มีนะ สำหรับ เอชอาร์-วี ในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจะเป็นเหมือนกับรถยนต์ 1.8 ลิตรทั่วไปอาจไม่ประหยัดได้ดั่งใจนัก จึงเลิกคาดหวังได้เลยในเรื่องนี้ แต่ให้อัตราเร่งสนุกไม่แพ้ใคร ส่วนระบบช่วงล่างหลังจากรุ่นปรับโฉมมาแล้วรู้สึกได้ถึงความ "กระชับ" มากขึ้น แต่ก็ยังมีอาการ "ย้วย" ให้รู้สึกอยู่บ้างตามประสารถตัวสูงๆ
สรุป
Honda HR-V เหมาะกับผู้ต้องการความโปร่งสะดวกสบาย สมรรถนะพอตัวไม่หวืดหวา ให้ความนุ่มนวล อุปกรณ์ภายในสะดวกสบายใช้งานง่าย ที่เก็บของเพียบ ได้ความอเนกประสงค์เต็มที่ และมีกล้องมองด้านข้างและหลังคาซันรูฟที่โดดเด่นกว่าใคร ถ้าต้องการความนุ่มนวลนั่งสบายแม่ยายไม่บ่นก็ต้อง HR-V นี่เลยครับ
Mazda CX-3 1.5 XDL/2.0 SP ราคา 1,083,000 บาท
Mazda CX-3 1.5 XDL/2.0 SP ราคา 1,083,000 บาท มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 นับเป็นรถครอสโอเวอร์ที่มีความอเนกประสงค์น้อยสุดใน 3 รุ่นนี้ เนื่องจากมีการใช้พื้นฐานที่ใกล้เคียงกับรุ่น มาสด้า 2 จึงทำให้ตัวรถมีขนาดเล็กกว่าใครและมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ "แคบ" แต่ว่ากลับขายดีไม่แพ้อีก 2 รุ่นเลย เพราะซีเอ็กซ์-3 ให้ของเล่นเยอะรวมถึงสมรรถนะโดยรวมของรถที่อาจเป็นรุ่นที่ "ดีสุด" ในคู่แข่งระดับเดียวนี้
Mazda CX-3 ภายนอกสวยและเน้นไปทางสปอร์ตเต็มตัว เจาะกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังเริ่มต้นทำงานเป็นหลัก ด้วยความตัวเล็กขนาดเหมาะ ขับขี่ง่ายคล่วงตัวยกสูงนิดๆ ทำให้กลายเป็นรถที่น่าใช้ในเขตตัวเมืองมากที่สุดรุ่นหนึ่งเลย นอกจากนี้สมรรถนะของเครื่องยนต์ก็มีให้เลือกทั้งสายประหยัดและสายเงียบเรียบร้อยนั่นคือ ดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบที่แรงบิดกระชากใจ 270 นิวตันเมตร!!! ทำให้ขับสนุกและประหยัดน้ำมันมากๆ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร SkyActiv ก็ให้สมรรถนะไม่แพ้กันกับ 156 แรงม้า ที่ก็จะกินจุกว่ารุ่นดีเซลหลายขุม เพื่อแลกกับความเงียบและนุ่มนวลของการขับขี่ แต่กลับให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไม่ต่างกับรถขนาด 1.6 - 1.8 ลิตร!
ภายในออกแบบได้แบบสปอร์ตที่มาในสไตล์ยุโรปอย่างชัดเจน มาพร้อมจอแสดงผลอัจฉริยะกลางคอนโซลหน้าและมีปุ่มปรับกลมๆ ไว้ควบคุมจอที่สะดวกและใช้งานง่าย แถมให้ Head-up Display สะท้อนกระจกบานหน้าให้มุมมองที่สะดวกชัดเจนหนึ่งเดียวในรถกลุ่มนี้ แต่ต้องยอมรับว่าห้องโดยสารของมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 นั้น "เล็กสุด" ในกลุ่มนี้ โดยเบาะคู่หน้าจะค่อยข้างพอดีๆ ตัวแต่ถ้าคนตัวใหญ่ก็จะ "ฟิตๆ" หน่อย ยังดีที่เบาะกระชับนั่งสบายเลยพอรับได้ ส่วนพื้นที่ด้านหลังก็ยังเล็กเทียบเท่ากับมาสด้า 2 หากต้องโดยสารด้านหลังนั้น อาจต้องเลี่ยนเบาะหน้าเผื่อไว้บ้าง
ภายใต้ความเล็กแต่มีของเด็ดๆ เพียบด้วยศูนย์รวมแห่งเทคโนโลยี Skyactiv โดยเฉพาะระบบ G-Vectoring Control ที่ช่วยให้ขับสนุกปลอดภัยดุจรถที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยการบานลาซ์กำลังขับเคลื่อนล้อคู่หน้าที่ผสานระบบควบคุมการเบรคทั้ง 4 ล้อ ช่วยปรับให้เหมาะสมกับสภาพถนนเปียกลื่น หรือการเข้าโค้งได้ดี ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE เช่น ระบบแสดงภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS ระบบควบคุมความอัตโนมัติแบบแปรผัน เป็นต้น
สรุป
Mazda CX-3 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบตามความชอบแบบแรงดึงสะใจกับแบบนุ่มเรียบไหลลื่นสมรรถนะให้อารมย์เน้นแบบสปอร์ต ขับสนุกควบคุมได้ดั่งใจ ช่วงล่างที่เกาะหนึบสุดในกลุ่มนี้ และให้การทรงตัวที่ดีเยียม แต่หากต้องการความอเนกประสงค์ ความกว้างขวางในห้องโดยสารอาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่นัก เพราะดูเหมือนว่ารุ่นนี้จะเน้นการขับแบบคนโสดหรือพาแฟนเที่ยวเป็นหลัก
สุดท้ายนี้เลือกซื้อรถควรต้องดูความชอบ ลักษณะการใช้งานในชีวิตประจำวัน งบประมาณควบคู่กันไปด้วย และต้องไปทดลองนั่ง ขับ ใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ในรถว่าจำเป็นมาก-น้อยแค่ไหน เพื่อให้ได้รถยนต์ที่ดีที่สุดและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้มากที่สุด "ซื้อรถอย่าเชื่อใคร ให้ฟังเสียงของหัวใจคุณเอง"