เที่ยวสุพรรณแบบ No-plan ขับรถเพลินเกินไป 600 โลฯ กับ Isuzu MU-X THE ONYX 1.9 Ddi
ทริปขับรถเที่ยวแบบ One Day Trip หนีความร้อนระอุและความวุ่นวายในเมืองหลวงที่ไม่ไกลนัก โดยครั้งนี้เลือกไปจังหวัดเมืองรองใกล้ๆ กรุงเทพฯ นั่นคือ สุพรรณบุรี ระยะทางไปกลับราวๆ 300 กว่ากิโลเมตร พร้อมขับชมธรรมชาติใน "อุทยานแห่งชาติพุเตย" ด้วยรถ SUV รุ่นใหม่
Isuzu MU-X THE ONYX 1.9 Ddi คันนี้
ขับเที่ยวแบบไม่มีแพลน - หนีความวุ่นวาย
การเดินทางครั้งนี้ได้รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดคือ "มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิค" 1.9 ดีดีไอ ยิ่งอุ่นใจทั้งเรื่องความประหยัดและความสะดวกสบาย
ดูพรีเมี่ยมดีไซน์เฉียบสวยหรูขึ้นเยอะ
เบาะหนังลายใหม่เฉพาะ ONYX
ด้านหลังกว้างขวางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน
ออกจากรุงเทพฯ ขับมุ่งหน้าจังหวัดสุพรรณบุรีด้วยทริปแบบไม่คิดมากขอเพียงได้ออกไปชมธรรมชาติ และหนีความวุ่นวายในเมือง ก่อนอื่นแวะเติมน้ำมันให้เต็มก่อนเดินทาง
ฝ่าการจราจรในตัวเมืองที่แสนวุ่นวายจนออกสู่จังหวัดสุพรรณบุรีโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ตลอดเส้นทางที่ผ่านนั้น สภาพถนนเรียบสวยงามและดูสะอาดตา แตกต่างกับการเดินทางไปฝั่งเหนือและใต้ราวฟ้ากับเหวเลย
เปลี่ยนแผนเที่ยวนอกเมืองดีกว่า
เมื่อถึงจุดหมายที่ตั้งใจว่าจะแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองที่โด่งดังทั้ง บึงฉวาก, อุทยานมังกรสวรรค์, ตลาดสามชุก, หอคอยบรรหาร-แจ่มใส แต่สุดท้ายแล้วรู้สึกว่าที่เที่ยวเหล่านี้ก็มีผู้คนมากมายไม่แพ้ในเมืองเช่นกัน จึงอยากลองขับรถออกไปในที่แบบธรรมชาติมากกว่า และนึกได้ว่า "อุทยานแห่งชาติพุเตย" ที่เป็นจุดชมวิวสวยๆ ของธรรมชาติจึงมุ่งหน้าไปทันที
เส้นทางแบบธรรมชาติสุดๆ
มีให้ขึ้น-ลงเค้าด้วย
การเดินทางไป "พุเตย" นั้นไม่ได้ศึกษาเส้นทางมากนักเพียงถาม "อากู๋ (Google)" และตั้งจุดหมายปลายทางที่ใกล้ตัวเมืองสุพรรณมากที่สุดนั่นคือ หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 1 อุทยานแห่งชาติพุเตย
วิวธรรมชาติตลอดสองข้างทาง
ตลอดระยะทางทั้ง 2 ฝั่งส่วนมากเป็นหุบเขา สลับทุ่งนาและไร่สวนของชาวบ้าน จึงทำให้เพลินเพลินกับธรรมชาติ รวมถึงเส้นทางที่ยิ่งขับยิ่งสนุก ทั้งทางตรง ทางโค้ง ขึ้นเนินเขา ทำให้ได้ทั้งการสัมผัสธรรมชาติ และได้ปลดปล่อยความอึดอัดจากการจราจรในกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี
ทางปิดอดเข้า
ขับตามทางมาเรื่อยๆ กว่าร้อยกิโลเมตรในที่สุดก็มาถึง แต่!..ไม่สามารถขับรถเข้าในด่านนี้ได้ เนื่องจากว่าเส้นทางไม่ปลอดภัย เพราะเพิ่งถูกฝนตกหนักลมพัดจนต้นไม้ล้มและสภาพพื้นถนนไม่สามารถขับผ่านไปได้หรือ "เส้นทางปิดชั่วคราว" ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงแนะนำให้อ้อมไปเข้าอีกทางหนึ่งเพื่อจะไปที่ทำการอุทยานฯพุเตย (พุเตย-ห้วยหินดำ) ด้วยการขับอ้อมกว่า 64.7 กิโลเมตร จากเดิมที่ขับผ่านด้านในอุทยานเพียง 11 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ก็เป็นเส้นทางที่ไม่รู้จักเลยครับ ดูแผนที่ล้วนๆ เอาล่ะมาลุ้นกันว่าจะไปถูกหรือไม่..
ทางในอุทยานถูกปิดต้องขับอ้อมไปกว่า 64.7 กิโลเมตร ระยะทางจริงในเส้นสีฟ้าเพียง 11 กิโลเมตรเท่านั้น
ด่านที่จะต้องไปนั้นชือว่า "ที่ทำการอุทยานฯพุเตย (พุเตย-ห้วยหินดำ)" โดยในจุดนี้จะเป็นที่บริการนักท่องเที่ยวมีทั้งลานกางเต้นท์, จัดกิจกรรต่างๆ สามารถขับรถขึ้นไปชมวิวที่ยอดเขาสนและจุดที่เครื่องบินโดยสารเลาดาแอร์เคยตกและถูกตั้งเป็นศาลขึ้นมา
แต่เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็แจ้งว่าเส้นทางขับรถชมธรรมชาตินั้นยังอยู่ในสภาพต้นไม้ล้มจากฝนตกหนักอยู่ จึงไม่สามารถขับรถเข้าไปได้ (ช่วงเดินทางในต้นเดือนพฤษภาคม 2562) เพราะกลัวกิ่งไม้และต้นไม้ที่ล้มจะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถ จึงแนะนำว่าหากต้องการขับรถขึ้นชมจริงๆ ก็ให้ไปที่ "ตะเพินคี่" หรือว่าจุดเดินทางไปชมวิว "ยอดเขาเทวดา" นี่เอง
ทางปิดอีกแล้ว
ถ้าขับเข้าไปได้มีจุดท่องเที่ยวเยอะเชียวรวมถึงจุดที่เครื่องบินเลาดาแอร์เคยตกด้วย
ยอดเขาเทวดานับเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติพุเตย และเป็นหนึ่งในสถานที่ธรรมชาติที่สวยและอยู่บนเทือกเขาสูงจากน้ำทะเล 1,123 เมตร ซึ่งเหมาะกับการกางเต้นท์นอนเล่นดูดาว ตื่นเช้าดูหมอก แถมได้เดินป่าใช้ชีวิตอย่างสุดฟินอีกด้วย
ดูแผนที่จากอุทยานแห่งชาติพุเตยไปตะเพินคี่นั้นไกลอยู่เวลาไม่เพียงพอ
ระยะทางจากตัวเมืองสุพรรณฯ ไปพุเตยราว 140 กิโลเมตร
แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้มาแบบวันเดียวกลับคำนวนเวลาแล้วกว่าจะถึงที่ทำการอุทยานฯพุเตย (พุเตย-ห้วยหินดำ) จุดเริ่มต้นก่อนขับรถขึ้นสู่ทางไปชมยอดเขาเทวดาก็น่าจะค่ำ จึงเปลี่ยนแผนรีบขับรถกลับไปดูพระอาทิยต์ตกที่ "เขื่อนกระเสียวแทน"
ส่วนหากใครที่ต้องการมาเที่ยวพักค้างแรม ณ อุทยานแห่งชาติพุเตยก็ไม่แพงครับ อัตราค่าเข้าชม คนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท/ ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ ราคา ราคา 600 - 1,500 บาท
ชมพระอาทิตย์ตก บนเขื่อนกระเสียว
เขื่อนกระเสียว มีความยาว 4,250 เมตร สูง 32.5 เมตร ความจุ 240 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นเขื่อนดินที่ยาวเป็นอันดับสองของประเทศไทย กั้นลำห้วยกระเสียวตั้งอยู่ที่ บ้านนาตาปิ่น หมู่ที่ 3 ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว กรมชลประทาน
ความสวยงามของที่นี่มาจากตัวเขื่อนที่ทอดยาวและมองเห็นวิวของอ่างเก็บน้ำพร้อมๆ กับทิวเขาเล็กๆ จึงทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นิยมาพักผ่อนกัน
การบริการของเขื่อนกระเสียวแห่งนี้มีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม จุดนั่งพัก และด้วยความยาวกว่า 4 กิโลเมตรที่นี่จึงมีบริการจักรยานเช่าเพื่อปั่นชมวิวได้สะดวกสบายมากขึ้น
การมาเที่ยวชมเขื่อนกระเสียวนั้น หากช่วงที่มีคนเยอะๆ ที่จอดรถจะไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องจอดกันตามมีตามเกิดแบบริมข้างทาง ซึ่งจะแคบๆ หน่อย และเดินไปยังสันเขื่อนซึ่งไม่ไกลมากนัก
การขับรถเที่ยวเมืองสุพรรณฯ ครั้งนี้แม้จะไม่ได้ขึ้นอุทยานฯ พุเตย แต่ก็ยังทันได้ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบนสันเขื่อนกระเสียวที่สวยงามไม่แพ้กัน
จบทริปการขับรถเที่ยวเมืองรองใกล้กรุงเทพฯ ในแบบวันเดียว โดยใช้ระยะทางรวมทั้งหมดตลอดวันนี้มากถึง 700 กว่ากิโลเมตร โอ้วแม่เจ้า!! ไหนบอกว่าสุพรรณใกล้นิดเดียว
เที่ยวสุพรรณบุรีในครั้งนี้นับเป็นประสบการณ์ขับรถเที่ยวที่ตื่นเต้นทั้งการไม่วางแผนเอาไว้ อยากไปไหนก็ตามใจ ทำให้ในบางช่วงที่ไปนั้น "หลงทาง" ขับรถอ้อมไปหลายร้อยกิโลเมตร แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลย ต้องขอบคุณรถยนต์อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิกส์ ใหม่ที่มอบประสบการณ์ขับขี่ที่สะดวกสบายและประหยัดถังเดียวเอาอยู่จริงๆ ครับ
ก่อนกลับกรุงเทพฯ แวะเติมพลังหลังจากขับรถมาทั้งวันด้วยร้านที่ขึ้นชื่อ (ในอากู๋อีกแล้ว) ร้านอาหาร "ขนาบน้ำ" ริมคลองส่งน้ำแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี ที่มีบรรยากาศสวยๆ และอาหารรสชาติเยี่ยมสมคำลำลือจริงๆ ครับ ส่วนเมนูที่ลองคือ ยำมะเขือยาว สลัดกุ้งทอด แกงส้มชะอมกุ้ง และค่าเสียหายก็ไม่แพงอย่างที่คิด
ราคาประมาณนี้
ของหวานก็มีนะครับ
ร้านของหวาน Mello
ยำมะเขือยาว
สลัดกุ้งทอด
แกงส้มชะอมกุ้ง
จบทริปเที่ยวหนีความวุ่นวาย 1 วันกับ MU-X ONYX กับภาพบรรยากาศอันสวยงามของเขื่อนกระเสียวและลิ้มรสอาหารร้านดังของสุพรรณบุรีอย่างสุดชิค แม้จะไปไม่ถึง "ยอดเขาเทวดา" แต่ทริปหน้าจะนำภาพสวยๆ มากฝากให้ได้อย่างแน่นอนครับ
"ขับรถชมธรรมชาติสองข้างทางก็เป็นการพักผ่อนสนุกที่สุดเลยเว้ยแก"
ขอขอบคุณรถยนต์ Isuzu MU-X รุ่น ONYX 1.9 Ddi Blue Power สำหรับการเดินทางสุดชิค