รีวิว Mazda CX-5 ตอบโจทย์ได้ทุกจังหวะชีวิต
เพราะ
"ชีวิต" ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว ด้านนึงคือ
"ทำงาน" ที่ต้องเจอกันจันทร์-ศุกร์ อีกด้านคือ
"วันพักผ่อน" ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉะนั้นการจะหา "รถยนต์" สักคันไว้เป็นรถประจำบ้านเพื่อใช้งานอย่างตอบโจทย์ได้ในทุกจังหวะชีวิตนอกจากจะต้องเลือกจากแบรนด์ที่ชอบ, ดีไซน์ที่สวยงามแล้ว เรื่องของสมรรถนะการขับขี่, ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ทำให้ในปัจจุบันรถประเภทอเนกประสงค์หรือ SUV กำลังได้รับความนิยมเพราะสามารถตอบสนองการใช้งานได้ครอบคลุมตามต้องการ โดย
Mazda CX-5 เป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความสนใจ ในการรีวิวครั้งก่อนทีมงานเช็คราคา.คอม ได้นำ CX-5 ในรุ่น XDL เครื่องยนต์ SKYACTIV-D (ดีเซล) มารีวิวให้ชมกันไปแล้ว (
รีวิว Mazda CX-5 มีดียังไง? กับค่าตัว 1.7 ล้านบาท) ครั้งนี้เลยนำ
Mazda CX-5 2.0 SP ซึ่งถือเป็นรุ่นท็อปสำหรับเครื่องยนต์ SKYACTIV-G (เบนซิน) มาทำการรีวิวกันบ้าง ไปดูกัน
"Less is More" ออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ยังคงสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว
Mazda ฝากผลงานด้านการออกแบบที่โดดเด่นมาแล้วในยรถยนต์หลายๆ รุ่น รวมถึงเจ้าคันนี้
Mazda CX-5 รถยนต์อเนกประสงค์เอสยูวีที่ได้รับการพัฒนาด้านการออกแบบตามแนวคิด KODO DESIGN อันเลื่องชื่อของ Mazda ให้มีความโดดเด่นขึ้นกว่ารุ่นก่อนด้วยเส้นสายตัวถังที่เรียบง่ายแฝงด้วยความโฉบเฉี่ยว ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Less is More"
ไฟหน้าแบบ LED ที่มีระบบเปิด-ปิดพร้อมปรับระดับอัตโนมัติ ดีไซน์รับกับกระจังหน้าแบบใหม่ 5 เหลี่ยม ที่เป็น DNA ในการออกแบบของ Mazda ตรงกลางกระจังหน้าติดตั้ง Logo ขนาดใหญ่ ด้านล่างมีไฟตัดหมอกทรงกลมขนาดเล็กแบบ LED
ไฟท้ายแบบ LED ที่ใช้รูปทรงคล้ายเดิมแต่ปรับลวดลายใหม่ให้สวยงามมากขึ้น
กระจกมองข้างมาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ปรับและพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า มีระบบเตือนมุมอับสายตา
ฝากระโปรงท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ให้ความสะดวกสบายสั่งการได้ทั้งภายในรถ
(เมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง P) หรือจะสั่งการจากรีโมทคอนโทรลก็ได้
ล้อแม็กลวดลายใหม่ช่วยให้ดูหรูหราขึ้นด้วยขนาด 19 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารของ
Mazda CX-5 ได้รับการปรับเปลี่ยนให้โดดเด่นขึ้น พร้อมการเลือกใช้วัสดุพรีเมี่ยมเกรดเพื่อมอบความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตามแนวคิด "Hand-Crafted Design" ด้วยการเลือกใช้แต่วัสดุชั้นดี ให้ทุกสัมผัสเป็นแบบซอฟท์ทัช เปลี่ยนรถญี่ปุ่นให้มีกลิ่นอายสไตล์รถยุโรป พร้อมตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ Metal Wood และยังจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน
เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตสีดำโอบกระชับ ตกแต่งด้วยเส้นด้ายสีน้ำตาล เบาะคู่หน้ามีระบบปรับไฟฟ้า ในตำแหน่งผู้ขับขี่มีระบบจดจำตำแหน่ง เบาะนั่งแถวสองปรับได้หลายรูปแบบ และสามารถแยกพับได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 อิสระจากกัน หรือจะปรับให้แบนราบก็ได้
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังกว้างขวางสะดวกสบาย แต่ถ้าหากต้องการขนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบเบาะแถวสองเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาะได้
การปรับเบาะแถวสองก็ทำได้ไม่ยากเพียงดึงคันโยกเปิดเบาะที่ติดตั้งอยู่ที่พื้นที่เก็บสัมภาระทั้งสองฝั่ง เท่านี้เบาะแถวสองก็จะปรับเอนไปเพื่อรองรับการใช้งานได้ตามต้องการ
บริเวณที่พักแขนของเบาะนั่งแถวสอง มีพอร์ท USB ให้ผู้โดยสารแถวหลังสามารถเสียบชาร์จสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ได้ เพราะมาสด้าให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น
เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร CX-5 มีการติดตั้งช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารเอาไว้เพื่อความสบายในห้องโดยสาร
เพื่อการเดินทางที่สุนทรีย์
Mazda CX-5 มีเครื่องเสียงแบบไฺฮเอนด์ด้วยระบบเสียง BOSE
? SOUND SYSTEM ที่มาพร้อมกับลำโพง 10 ตำแหน่ง พร้อมเทคโนโลยี AUDIOPILOTTM2 และ Centerpoint?2 ที่ช่วยชดเชย และปรับแต่งเสียงให้สมจริงมากยิ่งขึ้นในทุกๆ การเดินทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์สปอร์ต กระชับมือควบคุมการทำงานเครื่องเสียงและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติได้ด้วยปลายนิ้วที่พวงมาลัย
ขุมพลัง SKYACTIV-G พร้อมตอบสนองทุกการเดินทาง
อย่างที่ทราบกัน
Mazda CX-5 นั้นมี 5 รุ่นย่อย โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกกันอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร ให้กำลัง 175 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร 165 แรงม้า โดยรถที่นำมารีวิวครั้งนี้ เป็นรุ่นเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ที่สามารถประหยัดน้ำมันเชื้่อเพลิงได้สูงสุดถึง 13.9 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 จังหวะ พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ที่ตอบสนองได้แม่นยำให้อัตราเร่งต่อเนื่อง เปลี่ยนเกียร์ได้ราบรื่น และเพื่อความประหยัดยิ่งกว่า Mazda CX-5 ยังมีระบบ i-Stop (Idling Stop System) ที่จะควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ ให้หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถหยุดนิ่งชั่วขณะ แต่ภายในรถระบบต่างๆ ยังคงทำงานช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี และเครื่องยนต์ก็พร้อมทำงานทันทีเมื่อรถเคลื่อนตัว
ปรับโหมดการขับขี่ได้อย่างใจ ด้วยสวิตช์ Drive Selection ให้ผู้ขับสามารถเลือกปรับเป็นโหมด Sport ได้เมื่อต้องการพละกำลังจากเครื่องยนต์ ให้อัตราเร่งจากเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น ตอบสนองได้อย่างใจเหมือนกับการขับเกียร์ธรรมดา
Mazda CX-5 ไม่ว่าจะในหรือนอกเมืองก็ตอบโจทย์
ตามที่ได้เกริ่นในช่วงแรก ชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่ทำงาน ต้องมีหยุดพักท่องเที่ยวด้วย ตลอดช่วงทดลองขับ
Mazda CX-5 ในเวลา 3 วัน ก็ได้สัมผัสกับการใช้งานจริงทั้งในเมือง และนอกเมือง เปรียบเหมือนการใช้ชีวิตเดินทางไปทำงานและออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ตลอดเส้นทาง CX-5 ก็มีการตอบสนองการขับขี่ที่ดี รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง แก๊สโซฮอล์ E85
การควบคุม CX-5 ไม่ว่าจะเป็นช่วงความเร็วต่ำ หรือ ความเร็วสูง ก็สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ ด้วย SKYACTIV-CHASSIS ให้ความนุ่มนวลแก่ห้องโดยสาร พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้เข้าโค้งได้แม่นยํา และสัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ ที่ต่อยอดจากเทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่ช่วยผสานการทำงานของรถทั้งคัน ตั้งแต่เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง ไปจนถึงช่วงล่าง ให้ประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ที่มาพร้อมระบบ GVC (G-Vectoring Control) ที่จะประมวลผลการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นระบบจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และเกิดการถ่ายน้ำหนักที่เหมาะสมไปสู่แต่ละล้อ ทําให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยําในทุกสถานการณ์ เพื่อที่ผู้ขับขี่และรถจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นและสบายตลอดการเดินทาง
นอกจากนี้ Mazda CX-5 ได้ติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมกับระบบ Auto Hold ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
CX-5 สามารถควบคุมขับขี่ได้ง่ายในการใช้งานในเมืองแม้ผู้ขับจะเป็นผู้หญิงด้วยการให้ระบบความปลอดภัยมาแบบจัดเต็มทั้ง กล้องมองหลัง, ระบบเตือนเมื่อรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน และขณะถอยหลัง, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ และช่วยหยุดรถอัติโนมัติขณะถอยหลัง ในขณะที่เดินทางไกลๆ นอกเมืองก็มีระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ และ ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกมาช่วยเสริมความปลอดภัยให้ด้วย
จอทัชสกรีนดีไซน์ใหม่ขนาด 7 นิ้ว แสดงเมนูสั่งงานของระบบ MZD CONNECT ที่ช่วยให้ไม่พลาดทุกช่องทางการติดต่อสื่อสาร พร้อม Infotainment ที่มีให้เลือกมากมายในแอพพลิเคชั่น Aha by HARMANTH รวมถึงระบบนำทาง Navigator ด้วย
ระบบนำทางจะแสดงผลผ่านทางหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว และยังแสดงผลผ่าน Windshield Active Driving Display ช่วยแสดงข้อมูลสําคัญในการขับขี่บนกระจกหน้าด้วยรูปแบบสี ในระดับสายตาผู้ขับ สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้งความสูง ความสว่าง ฯลฯ ได้ด้วย
Mazda CX-5 ใหม่ เป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งการเดินทางกับครอบครัว หรือกับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในวันธรรมดากับการทำงาน หรือจะออกไปผจญภัยนอกบ้านในวันหยุด ให้การตอบสนองที่สนุกสนานทุกการขับขี่ โดยเฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ SKYACTIV-G (เบนซิน) มีโหมด Sport ให้ได้เลือกใช้ เพื่อการตอบสนองที่เร้าใจกว่าเดิม ช่วงล่างก็ให้การตอบสนองที่มั่นใจในทางโค้งหรือจะเป็นทางตรงที่ใช้ความเร็ว แม้หลายคนจะบอกว่าดีเซลน่าจะประหยัดกว่า แต่ถ้าควบคุมการใช้คันเร่งดีๆ เครื่องยนต์เบนซินก็ไม่ด้อยกว่าเท่าไหร่นัก ส่วนภายในถือว่าสะดวกสบาย แม้คันนี้จะมีราคาที่ 1.53 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับระบบต่างๆ ที่ทาง Mazda ให้มาแล้วล่ะก็ถือว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกเรื่องที่อยากจะฝากไว้ก็คือ เรื่องค่าใช้จ่ายต่อเนื่องหลังจากตัดสินใจซื้อรถคันไหนมาก็ตาม อย่าคำนึงถึงแค่ค่างวดที่คุณจะต้องผ่อนรายเดือนไปจนครบอายุสัญญา ถ้าคุณซื้อเงินสดรายจ่ายตรงนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าซื้อเงินผ่อนหล่ะก็ ... อยากให้คิดถึง ค่าประกันฯ, ค่ายาง และค่าอะไหล่ ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะตามมาประกอบการตัดสินใจด้วยก็จะดี
Mazda CX-5 มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย รายละเอียดราคาดังนี้
Mazda CX-5 2.0 C ราคา 1,290,000 บาท
Mazda CX-5 2.0 S ราคา 1,400,000 บาท
Mazda CX-5 2.0 SP ราคา 1,530,000 บาท
Mazda CX-5 2.2 XD ราคา 1,560,000 บาท
Mazda CX-5 2.2 XDL ราคา 1,770,000 บาท
หมายเหตุ : ราคาดังกล่าวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว - เฉพาะ Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
- เฉพาะ Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท
- เฉพาะ Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท