เสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย...ลองฟังสักนิด "ยางหุ้มเพลาขาด" ต้องเปลี่ยน!
การขับรถตกหลุมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าตกหลุมแล้ว รถมีอาการผิดปกติอย่างไร สามารถฟังได้จากเสียงผิดปกติ เรามีข้อแนะนําการสังเกตอาการของรถ รวมถึงจังหวะการขับว่าเกิดเสียงต่างๆ ดังนี้
1. มีเสียงดังเวลาเลี้ยวหรือตกหลุม เวลาขับรถด้วยความเร็วตต่ำ ในจังหวะหักเลี้ยวพวงมาลัย หรือในจังหวะล้อตกหลุม หากได้ยิน เสียงกึกๆ จากใต้ท้องด้านหน้าของรถ เป็นไปได้ว่าลูกหมากคันชัก คันส่ง หรือลูกหมากปลายแร็ค หรือที่เรียกกันว่าไม้ตีกลองอาจจะ หลวม และอีกจุดคือ เพลาขับ หากยางหุ้มเพลาขาดเป็นเวลานาน จะมีเสียงกุกกักๆ ได้
2. มีเสียงดังเวลาผ่านถนนขรุขระ หรือในจังหวะขับผ่านเนิน ชะลอความเร็ว อาจเป็นเนินเล็กแล้วได้ยินเสียงกึกกักใต้ท้องรถ ถ้าเสียงเกิดขึ้นจังหวะนี้เป็นไปได้ว่าเป็นเสียงจากความผิดปกติของบูชปีกนก
3. มีเสียงดังเวลาเบรก ดังเอี๊ยดๆ จี๊ดๆ เหมือนเหล็กสีกัน ส่วน ใหญ่เป็นเสียงเตือนผ้าเบรกอยู่ในระดับต่ำมาก ควรเปลี่ยนได้แล้ว แต่ถ้าเป็นเสียงดังครืดๆ อาจเป็นไปได้ว่าผ้าเบรกและจานเบรกสกปรก อาจเกิดจากฝุ่นจากผ้าเบรก แต่ถ้าดังหลังจากขับรถลุยน้ำมา เป็นเพราะผ้าเบรกเปียกน้ํา เมื่อขับไปสักพักเสียงจะหายไปเอง
4. มีเสียงดังเวลาเลี้ยวสุด ส่วนใหญ่จะพบในรถกระบะ สาเหตุ มาจากบูชกันเลี้ยวสึก ทําให้เวลาเลี้ยวสุดเกิดเสียดสีกันของช่วงล่าง บูชกันเลี้ยวตัวละไม่กี่บาท การเปลี่ยนทําได้ไม่ยากเลย ถ้าพบว่ามี ปัญหา ควรเปลี่ยนแต่เนิ่นๆ ดีกว่าทนฟังเสียงเหล็กสีกันให้รําคาญ
5. จุดที่น่ากังวลในส่วนของช่วงล่างในช่วงหน้าฝน หลีกเลี่ยงการลุยน้ำได้ยากก็คือเพลาขับกับแร็คพวงมาลัย ถ้าตรวจพบว่ายางหุ้ม พลาขับขาด ควรรีบเปลี่ยนเสียแต่เนิ่นๆ ถ้าตรวจพบและแก้ไขเร็ว จะเสียแค่ค่าจารบีกับค่ายางหุ้มเพลาเท่านั้น
แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ยิ่งถ้าไปลุยน้ำมาด้วยแล้วอาจจะต้อง เปลี่ยนยกเส้น ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าเป็นไหนๆ