รวม 10 ฟีเจอร์เด็ดยอดฮิตของรถยนต์ใหม่
รถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบัน ถูกคิดค้นและพัฒนาให้มีระบบช่วยเหลือในการขับขี่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยต่างๆ มีรถยนต์หลายค่ายต่างเริ่มให้ความสำคัญและติดตั้งเข้าไปในรถยนต์รุ่นใหม่มากขึ้น ไปดูกันว่า 10 ฟีเจอร์เด็ดที่ฮอตฮิต ในบรรดารถรุ่นใหม่ชอบมีกันนั้นมีอะไรบ้าง
1. ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน
ระบบควมคุมความเร็วหรือครูซคอนโทรล (Cruise Control) อันที่จริงก็มีใช้มานานในรถหลายรุ่นแล้ว แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบ Adaptive Cruse Control ซึ่งนอกจากจะล็อคความเร็วตามที่ผู้ขับตั้งเอาไว้แล้ว ยังสามารถควบคุมความเร็วได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย เมื่อรถยนต์คันหน้าชะลอความเร็ว ระบบนี้ก็จะควบคุมความเร็วให้สัมพันธ์กับรถยนต์คันหน้าได้อย่างเหมาะสม โดยที่ผู้ขับไม่ต้องแตะเบรก หรือปลดระบบครูซคอนโทรลออกเลย และเมื่อรถด้านหน้าเพิ่มความเร็วขึ้นไป ระบบก็จะเพิ่มความเร็วให้ถึงระดับเดิมที่ได้ตั้งเอาไว้ นับว่าสะดวกสะบายและปลอดภัยสุดๆ โดยรถยนต์บ้างรุ่นสามารถควบคุมความเร็วให้ลดลงจนถึงหยุดสนิทได้ และก็เพิ่มความเร็วขึ้นไปให้เท่ากับที่ตั้งเอาไว้เมื่อรถด้านหน้าโล่งอีกด้วย
2. ไฟหน้าอัจฉริยะ
ระบบไฟหน้าอัจฉริยะนี้ เป็นการช่วยเสริมความปลอดภัยให้แก่รถที่ขับสวนทางมา และในขณะเลี้ยวรถ โดยเมื่อผู้ขับเปิดไฟสูง เมื่อมีรถที่สวนทางมานั้น ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับรถยนต์ที่สวนทางมาได้ ก็จะปรับให้เป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ และเมื่อไม่มีรถสวนทางมาแล้วก็จะปรับเป็นไฟสูงเช่นเดิม ซึ่งระบบนี้ในรถยนต์บางรุ่นผู้ขับเพียงแค่ปรับสวิตช์ไฟเอาไว้ในตำแหน่ง "AUTO" เมื่อขับขี่เวลากลางคืนไฟต่ำจะติดขึ้นเอง และเมื่อขับผ่านที่มีแสงน้อยมากๆ ระบบนี้ก็จะปรับเป็นไฟสูงให้ทันที นับว่าฉลาดไม่เบากับระบบไฟหน้าอัจฉริยะ และมักอยู่ในรถระดับพรีเมียมขึ้นไป
3. ระบบเตือนรถออกนอกเลน
ระบบเตือนรถออกนอกเลนนี้เป็นการช่วยเตือนให้ผู้ขับรู้ตัวว่ารถได้เอียงออกนอกเลนแล้ว ด้วยการใช้เสียงเตือน หรือบางรุ่นมีเสียงพร้อมกับการสั่นที่พวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้ว่ารถออกนอกช่องทางแล้ว และในบางรุ่นสามารถดึงพวงมาลัยหรือบังคับทิศทางให้กลับสู่ช่องทางได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย ระบบนี้เหมาะกับการเดินทางไกลและขับทางตรงยาวๆ หลังกินข้าวมาอิ่มๆ จริงๆ
4. ระบบฟอกอากาศ
ระบบฟอกอากาศเหมือนจะเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่มีใครสนใจและอาจจะมองว่าไม่จำเป็น แต่ในการขับขี่รถยนต์ทั้งเขตตัวเมืองหรือนอกเมืองในปัจจุบัน พบว่าฝุ่นละอองที่กระจายในอากาศก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจต่างๆ รถยนต์บางรุ่นจึงเห็นความสำคัญว่าเมื่อเข้ามาในรถแล้วก็ควรมีระบบช่วยทำให้อากาศสะอาดสดชื่น เพื่อลดอาการภูมิแพ้ต่างๆ และช่วยกรองมลพิษกับควันไอเสียได้ดี โดยไม่ต้องไปหาซื้อเครื่องฟอกอากาศมาวางให้เกะกะ นับว่าน่าสนใจสำหรับระบบฟอกอากาศที่มีในรถยนต์แบบนี้
5. ระบบ Wireless Charge
โทรศัพท์หรือสมาร์ทโฟนเป็นปัจจัยที่ 5 หรือ 6 ไปแล้ว นับว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน สำหรับการเดินทางในรถยนต์ก็เช่นกัน การมีช่อง USB หรือเต้ารับปลั๊กไฟ AC นับว่าเริ่มมีให้เห็นกันแพร่หลายในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แต่ระบบที่เริ่มนิยมและให้ความสะดวกสบายมากกว่านั้นก็คือ การชาร์จแบบไร้สาย หรือ Wireless Charge นั่นเอง เพียงแค่วางโทรศัพท์เอาไว้ตรงจุดชาร์จ ระบบก็จะทำการชาร์จไฟเข้าโทรศัพท์มือถือให้ทันที แต่มีข้อแม้ว่ามือถือจะต้องมีระบบนี้รองรับด้วย และในอนาคตคาดว่าโทรศัพท์มือถือแทบทุกรุ่นก็น่าจะมีระบบชาร์จไร้สายมาเป็นระบบมาตรฐานอย่างแน่นอน
6. กล้องมองด้านข้างรถและรอบคัน
กล้องมองภาพด้านหลังของรถยนต์นับเป็นสิ่ง(เกือบ)จำเป็นไปแล้ว โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับ ที่จะช่วยให้ถอยหลังหรือว่าจอดรถได้อย่างปลอดภัยและสะดวกยิ่งขึ้น แต่ในรถยนต์ใหม่หลายรุ่นก็ได้เพิ่มกล้องมองด้านข้างฝั่งคนนั่งข้างผู้ขับมาให้เป็นการช่วยให้ทัศนวิสัยดีมากขึ้นในขณะจอดรถขนาบข้าง และยิ่งไปกว่านั้นรถยนต์บางรุ่นได้เพิ่มระบบกล้องมองรอบทิศทาง เรียกว่า 360 องศา เพื่อให้เห็นบริเวณรอบๆ ตัวรถได้อย่างชัดเจนและสะดวกในการจอดรถมากยิ่งขึ้น
แถมด้วยระบบที่แทบจะเป็นพื้นฐานของรถยนต์ระดัยพรีเมี่ยมไปแล้วนั่นคือ ระบบเตือนมุมอัพสายตา ที่มาทั้งในรูปแบบของสัญลักษณ์เตือนตรงมุมด้านบนของกระจกมองข้างและเสียงเตือน ซึ่งนับเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ช่วยให้เปลี่ยนเลนได้ปลอดภัยมากขึ้น
ระบบช่วยจอดรถ ระบบนี้มีทั้งการจอดรถแบบขนานริมถนนกับการถอยเข้าช่องจอด โดยมีวิธีการใช้งานที่แสนง่าย เพียงทำตามขั้นตอนหรือข้อความที่แสดงผลบนจอเครื่องเสียง สั่งการให้ "ขับต่อไป" "กรุณาเข้าเกียร์ R" เป็นต้น หลังจากนั้นผู้ขับก็เพียงควบคุมความเร็วด้วยการใช้เบรกเท่านั้น และรถยนต์บางรุ่นก็สามารถควบคุมการเข้าจอดได้เองในทุกขั้นตอนโดยที่ผู้ขับไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงนั่งทำตามคำสั่งเท่านั้น นับว่าระบบนี้สุดยอดและช่วยให้ลดปัญหาการถอยจอดสำหรับมือใหม่ได้ดี แต่ว่ามักจะอยู่ในรถยนต์ราคาสูงๆ หรือระดับพรีเมียมเท่านั้น หากพบว่าอยู่ในรถยนต์รุ่นใดที่ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทละก็... ซื้อเลย!
ระบบช่วยถอยจอดอัตโนมัติ
ทดสอบระบบช่วยจอดอัจฉริยะ แบบเทียบข้างและถอยเข้าซอง และระบบช่วยเบรกความเร็วต่ำ
อีกหนึ่งเทคโนโลยีอัจฉริยะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สรรหามาใส่ให้ และอัพราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยให้สอดคลองกับต้นทุน นั่นคือ ระบบการสั่งงานด้วยเสียง ระบบนี้จะแบ่งเป็น 2 ประเภทง่ายๆ คือ สั่งการเพื่อเชื่อมต่อระบบการสื่อสารระบบการทำงานทั่วไปของเครื่องยนต์หรือระบบความบันเทิง และอีกประเภทคือ การสั่งงานให้รถยนต์ทำตามได้ทั้งระบบ เช่น สั่งให้สตาร์ตเครื่องยนต์ เปิด-ปิดกระจกหรือซันรูฟ สั่งการระบบแอร์ หรือแม้แต่โทรศัพท์เรียก Call Center ก็ย่อมได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับโดยไม่ต้องละสายหรือแม้แต่ละมือออกจากพวงมาลัยเพื่อมากดปุ่มให้ยุ่งยากอีกด้วย
9. ระบบเตือนการชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติ
สำหรับผู้ที่มีอาการเหม่อลอย ง่วงนอนหรือเบลอๆ ไม่ควรขับรถ แต่หากว่ามีความจำเป็นต้องเดินทางจริงๆ ขอแนะนำระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบนี้จะช่วยเตือนผู้ขี่เมื่อมีวัตถุหรือรถยนต์ข้างหน้าลดความเร็วลง แต่ความเร็วของรถที่ผู้ขับใช้อยู่ไม่ได้ลดความเร็วลงตาม ระบบนี้ก็จะส่งเสียงเตือนพร้อมกับไฟสีแดงๆ กะพริบบนคอนโซลหน้า หรือบางรุ่นอาจมีการสั่งการที่พวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับรู้สึกตัวและเบรกได้อย่างปลอดภัย คล้ายกับมีผู้ช่วยคอยบอกว่า "รถคันข้างหน้าเบรกแล้ว" ซึ่งปัจจุบันรถยนต์บางรุ่นก็พัฒนาระบบไปอีกขั้นด้วยการช่วยหยุดรถให้อัตโนมัติ เมื่อผู้ขับไม่มีอาการตอบสนองใดๆ และจะหยุดรถจนจอดสนิทให้อีกเป็นเวลา 3-4 วินาที หลังจากผู้ขับต้องเบรกด้วยเองอีกครั้ง ระบบนี้นับว่าเหมาะกับการจราจรในเมืองที่รถเคลื่อนที่สลับกับหยุดนิ่ง
10. แอปพลิเคชันสื่อสารกับรถยนต์
สมัยนี้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เป็นระบบจอสัมผัสเกือบหมดแล้ว ดังนั้นแอปพลิเคชันต่างๆ ที่จะช่วยให้สื่อสารระหว่างผู้ขับกับรถยนต์นั้นง่ายแสนง่าย เพียงแค่รถยนต์รุ่นที่รองรับมีระบบเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน โดยส่วนมากเป็นของบริษัทรถยนต์ที่ผลิตและติดตั้งให้สามารถงานได้ในรถยนต์ยี่ห้อของตนเอง ซึ่งระบบจะแสดงผลข้อมูลต่างๆ ของรถยนต์ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนด้วยการใช้แอปพลิเคชันของรถยนต์รุ่นนั้นได้ครบครัน เช่น การสั่งล็อค-ปลดล็อคประตู การค้นหาตำแหน่งรถยนต์ การตรวจสอบความพร้อมก่อนเดินทางด้วยการแสดงผลของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบไฟฟ้าในแบตเตอรี่ ระบบเตือนนำรถเข้าเช็คระยะ เป็นต้น นับว่ามีส่วนช่วยให้ผู้ขับสามารถรู้สถานะของรถยนต์และใช้รถยนต์ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงป้องกันรถหายได้อีกด้วย
ฟีเจอร์เด็ดๆ เหล่านี้นับเป็นส่วนหนึ่งของอีกหลายๆ ฟีเจอร์ที่ค่ายรถยนต์ผลิตและติดตั้งมาให้ ซึ่งระบบช่วยเหลือต่างๆ นั้นก็เป็นเพียงอุปกรณ์หรือ "ออปชั่น" ที่เสริมเพิ่มขึ้นมาให้ผู้ขับขี่รถยนต์มีความปลอดภัยมากขึ้น และเป็นเพียงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องทำงานควบคู่กับผู้ขับไปพร้อมๆ กัน แม้ว่ารถยนต์จะมีระบบช่วยเรื่องความปลอดภัยต่างๆ แล้ว แต่ส่วนของผู้ขับขี่เองก็ต้องใช้สติ เคารพกฎจราจร และมีน้ำใจเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อทุกคนบนท้องถนน จงอย่าลืมว่า "รถยนต์คือเครื่องจักรกลชนิดหนึ่งที่มนุษย์ควบคุม มันจะไม่สามารถเคลื่อนที่เองได้ถ้าไม่ผ่านการสั่งการจากมนุษย์"