เทียบกันชัดๆ Ford Ranger กับ New Ford Ranger Raptor แตกต่างกันอย่างไร?

Ford Ranger Raptor ใหม่ รถยนต์ใหม่จากฟอร์ดที่พัฒนาใหม่เกือบหมดทั้งคัน ตั้งแต่ขนาดตัวรถที่ใหญ่ขึ้น กระจังหน้าและกันชนใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลพลังโหด 2.0 ลิตร 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ระบบช่วงล่างระดับรถแข่ง BAJA ด้วยโช้ก FOX พร้อมซับแทงค์ ดูโหดตามรอยรุ่นพี่อย่าง F-150 Raptor ที่จำหน่ายในตลาดยุโรป และเตรียมจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป นับเป็นรุ่นพิเศษหรือ Ford Performance ให้เป็นตัวเลือกสำหรับผู้รักการลุยชนิดที่โหดสุดๆ มาดูกันว่าเมื่อเทียบกับ Ranger WildTrack ในตัวท็อปสุดนั้นภายนอก-ภายใน และเครื่องยนต์ รวมถึงระบบต่างๆ เพิ่มเติมจากรุ่นปกติที่มีจำหน่ายอยู่อย่างไรบ้าง 

New Ford Ranger Raptor ผมไม่เล็กนะครับ

Ranger Wildtrak

ภายนอกฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ (Ford Ranger Raptor) ใหม่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โดยรับแรงบันดาลใจมาจาก F-150 RAPTOR ชุดกันชนหน้าติดกับเฟรมรถได้รับการออกแบบให้ดูน่าเกรงขาม และพร้อมสำหรับการขับขี่ในทุกอุปสรรค แผงกันชนหน้ามาพร้อมกับไฟตัดหมอกแบบ LED พร้อมช่องรีดอากาศที่ช่วยลดการต้านลมของตัวรถได้

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

แก้มข้างรถผลิตขึ้นจากวัสดุคอมโพสิท ทนทานต่อการบุบและรอยขีดข่วน ทั้งยังถูกตีโป่งขยายออกเพื่อรองรับระยะยุบตัวของโช้กอัพที่เพิ่มมากขึ้น และยางออฟโรดขนาดใหญ่ มิติตัวถังของ Ranger RAPTOR นั้นขยายขึ้นกว่า Ranger ในทุกมิติ รวมถึง ระยะช่วงล้อหน้า-หลัง และความสูงใต้ท้องรถด้วย ขณะเดียวกัน ยังมาพร้อมมุมไต่ที่ 32.5 องศา มุมคร่อมที่ 24 องศา และมุมจากที่ 24 องศา  

Ranger Wildtrak

Ranger Wildtrak

Ford Ranger รุ่นปกติโป่งซุ้มล้อจะไม่กว้างมาก กระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังไม่เหมือนกัน แต่ก็มีอะไหล่บางชิ้นส่วนที่ใช้กันได้ เช่น กระจกมองข้าง มือจับประตู บานประตู เป็นต้น 

ภายในของ Ford Ranger Raptor ใหม่ เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่เข้ามาเพียบ ด้วยการตกแต่งสำหรับ "Raptor" เท่านั้น พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแพดเดิ้ลชิฟต์ เบาะปักโลโก้ "Raptor" เทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อ ซิงค์ 3 (SYNC 3) ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ผนวกเข้าในรถคันนี้อย่างสมบูรณ์แบบ   

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

ภายในนั้นทั้งคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง มาตรวัด และอุปกรณ์ส่วนใหญ่ยังคล้ายกับรุ่นเรนเจอร์อยู่ อาจมีแตกต่างบ้างในลายเบาะ ทริมตกแต่งเล็กน้อยเพื่อให้รู้ว่าเป็นรุ่นพิเศษ "Raptor" 

Ranger Wildtrak

Ranger Wildtrak

Ranger Wildtrak

Ranger Wildtrak

Ranger Wildtrak

จะเห็นว่าภายในอาจไม่แตกต่างกันในเรื่องของรูปทรงและดีไซน์ แต่จะมีบางจุดที่เสริมเพิ่มให้ดูเป็นรุ่นพิเศษสำหรับ "Raptor" โดยเฉพาะการปักโลโก้บนพนักพิงและเบาะคู่หน้าทรงกึ่งบักเก็ตซีต ที่ดูคล้ายๆ เบาะซิ่งของ "Recaro" โดยบังเอิญ (หรือเปล่า) 

New Ford Ranger Raptor มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 213 แรงม้า แรงบิดมากถึง 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ใช้ใน RAPTOR F-150 และ Mustang แต่ปรับจูนใหม่ให้มีอัตราทดแคบลง ให้การตอบสนองดีขึ้น 

New Ford Ranger Raptor

สำหรับ Ranger Wildtrack ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตร 200 แรงม้า 470 นิวตันเมตร อัตโนมัติ 6 สปีด

Ranger Wildtrak

ช่วงล่างด้านหน้าปีกนกคู่อลูมิเนียมและด้านหลังเป็นระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อค โช้กแบบ Position Sensitive Damping (PSD) ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษโดย Fox Racing Shox ใช้ลูกสูบขนาด 46.6 มิลลิเมตร ทั้งคู่หน้าและหลัง ระบบเบรกคาลิปเปอร์คู่หน้าเป็นแบบลูกสูบคู่ ที่เพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขึ้น 9.5 มิลลิเมตร มาพร้อมกับจานเบรกคู่หน้าแบบมีครีบระบายความร้อนที่มีขนาดใหญ่ถึง 332 x 32 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับดิสก์เบรกที่มาพร้อมกับระบบ Brake Actuation Master Cylinder

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

New Ford Ranger Raptor

ส่วนทางด้านรุ่นปัจจุบันด้านหน้าปีกนก 2 ชั้น เช่นกัน แต่ด้านหลังใช้แหนบและโช้กอัพไขว้ พร้อมกับระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม 

Ranger Wildtrak

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์มีโหมดการควบคุมที่เหนือกว่า Terrain Management System (TMS) เพื่อการขับขี่ 6 รูปแบบ 

โหมดการขับขี่ทางเรียบ

• โหมดปกติ - เน้นความสบาย นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน
• โหมดสปอร์ต - ตอบโจทย์ผู้ที่มีใจรักการขับขี่ทางเรียบ เน้นการเปลี่ยนเกียร์เร็วและฉับไวในขณะที่รอบเครื่องสูง พร้อมทั้งค้างรอบเครื่องสูงไว้เพื่อให้การตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้นอย่างที่ผู้ขับขี่ต้องการ

โหมดการขับขี่ออฟโรด

• โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ - ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ โดยระบบจะทำการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลขึ้นพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดอัตราการลื่นไถลของล้อรถ
• โหมดโคลน/ทราย - ระบบจะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง
• โหมดหิน - ใช้เมื่อขับขี่บนพื้นผิวในเขตภูเขาที่ลาดชัน ต้องใช้ความเร็วต่ำ และเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ
• โหมดบาฮา - ระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ ออฟโรดด้วยความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ โดยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ นั้น มีเพียง 3 โหมดคือ 2H  4 H และ 4L 

Ranger Wildtrak

Ranger Wildtrak

แน่นอนว่ารถยนต์ใหม่ของฟอร์ดต้องมาคู่กับระบบเทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อ ซิงค์ 3 (SYNC 3) ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ผนวกเข้าในรถคันนี้อย่างสมบูรณ์แบบ 

New Ford Ranger Raptor

แชสซีส์ที่ออกแบบใหม่เป็นพิเศษ ผลิตจากเหล็กอัลลอย HSLA (High-Strength Low-Alloy) เกรดต่างๆ อีกทั้งยังเสริมความแข็งแรงด้านข้างของแชสซี (side-rails) เพื่อรองรับแรงกระแทกที่เกิดจากการขับขี่ด้วยความเร็วสูง และทนต่อแรงกระแทกที่อาจเกิดจากการขับขี่โดยเฉพาะระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อคทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง

New Ford Ranger Raptor

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ และยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program), ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (Trailer Sway Control), ระบบช่วยออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control) และระบบควบคุมการบรรทุก (Load Adaptive Control)

Ranger Wildtrak

ส่วนใน Ranger WildTrack ปัจจุบันนั้นก็มีระบบความปลอดภัยมาให้ครบเช่นกันต่างกันที่ Raptor ถูกปรับปรุงเพิ่มให้ทำงานได้ดีมากขึ้นอีกระดับ

New Ford Ranger Raptor

โดยรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์เป็นรุ่นที่เพิ่มขึ้นมาจากไลน์ปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชอบลุยป่า รักการผจญภัย และสบบุกสมบัน พร้อมกับของแต่งขั้นเทพ ที่ติดตั้งมาให้ครบ แต่ว่า... นี่เป็นเพียงการนำรถมาโชว์ให้รู้ว่า ฟอร์ดก็มีรถยนต์ใหม่ที่มาในสไตล์ลุยดุๆ โหดดิบๆ มาให้คนไทยได้สัมผัสกันแน่ๆ ราวๆ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 และราคานั้น คาดว่าจะอยู่ราวๆ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับราคานี้ เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่ได้มา สมรรถนะในระบบต่างๆ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มมาเพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ช่วงล่างด้านหลังแบบคอยล์สปริงและดิสก์เบรก 4 ล้อ ก็นับว่าคุ้มค่าตัวไม่น้อยเลย ส่วนเรนเจอร์ปัจจุบันราคารุ่น Wild track อยู่ที่ 1,199,000 บาท

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Ford Ranger ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Ford ทุกรุ่น