บางจาก พานั่งรถลอง Hi Premium Diesel S พรีเมียมดีเซลใหม่

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำคณะสื่อมวลชนร่วมกิจกรรม 'ทดสอบประสิทธิภาพน้ำมัน Hi Premium Diesel S' เส้นทางเชียงใหม่ - เชียงราย ระยะทางรวมกว่า 180 กม. เพื่อสัมผัสถึงความแตกต่างที่เหนือกว่ามาตราฐานเดิม

การทดสอบได้ให้ผู้ใช้จริงเข้ามาร่วมพร้อมกับมีสื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของรถพรีเมียมเครื่องยนต์ดีเซล เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู ผู้เขียนจับฉลากได้นั่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ GLC 250D โดยนั่งเพื่อสังเกตการณ์ช่วง 40 กม.แรก พบว่าให้ความประหยัดราว 14 กม./ล. หลังจากนั้นอีก 140 กม. เป็นทางเขามุ่งเข้าสู่ตัวเมืองเชียงรายผู้เขียนได้สลับมาขับ ช่วงที่ขับฝนได้ตกตลอดเส้นทาง ผู้เขียนใช้ความเร็วตามขบวนที่ระดับความเร็ว 60 กม./ชม. ได้ช่วงหนึ่งก็ขยับความเร็วแซงเพื่อลองอัตราเร่งและทำความเร็วเสมือนใช้งานจริง จนถึงปลายทางที่ร้านชีวิตธรรมดา จังหวัดเชียงราย ด้วยระยะทางรวม 180 กม. ได้ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้นเป็น 17.5 กม./ล. ด้านสมรรถนะสอบถามจากเจ้าของรถที่สามารถสัมผัสถึงความต่างของเชื้อเพลิงได้มากกว่าเพราะใช้เป็นประจำได้ความว่า น้ำมัน Hi Premium Diesel S ของบางจากให้ความรู้สึกลื่นไหลมากว่า เดินคันเร่งน้อยลง สำหรับผู้เขียนมองว่า น้ำมัน Hi Premium Diesel S ก้าวเข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ในตลาด สำหรับผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลที่ต้องการน้ำมันคุณภาพสูง ตอบสนองในทุกด้านได้ดีกว่ามาตรฐานทั่วไป และคิดว่าเติมเพียงถังเดียวก็น่าจะได้คำตอบว่าเชื้อเพลิงระดับพรีเมียมดีกว่าอย่างไร 

Hi Premium Diesel S เป็นน้ำมันที่ให้ค่าซีเทนสูงสุด 70% ช่วยให้หัวฉีดสะอาดขึ้นกว่า 70% ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ ช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมันได้ถึง 4.3% และยังมาพร้อมมาตรฐาน Euro 5 ช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบัน บางจาก 'Hi Premium Diesel S' มีจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก 120 แห่งทั่วประเทศ และขยายเป็น 200 แห่งภายในสิ้นปีนี้

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมัน Hi Premium Diesel S ด้วยนวัตกรรม The Next Generation Green Cetane  เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้รถที่ต้องการน้ำมันดีเซลคุณภาพสูง รองรับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ จากการผสานองค์ประกอบน้ำมันคุณภาพที่คัดจากแหล่งที่ดีที่สุดเพียงแหล่งเดียวซึ่งมีค่าซีเทนสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผนวกกับสารเพิ่มคุณภาพ ทำให้มีสมรรถนะเหนือกว่าพรีเมียมดีเซลทั่วไป ได้แก่

• ค่าซีเทนสูงสุดถึง 70 (มาตรฐานกรมธุรกิจพลังงานกำหนดค่าซีเทนขั้นต่ำ 50) จึงแรงในทุกอัตราเร่งทั้งทางเรียบและทางชัน ประหยัดน้ำมันได้ถึง 4.3%
• ผนวกสาร Hi Active Cleansing ช่วยให้หัวฉีดสะอาดขึ้นกว่า 70% พร้อมปกป้องเครื่องยนต์จุดระเบิดเผาไหม้ได้เต็มประสิทธิภาพ รักษาอายุของเครื่องยนต์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น 
• มาตรฐาน Euro 5 ค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า (เมื่อเทียบกับ Euro 4) ช่วยลดมลภาวะดีต่อสิ่งแวดล้อม