เลือกแร็คจักรยานอย่างไร? ให้เหมาะกับรถของคุณ
กระแสความนิยมปั่นจักรยานเพิ่งเกิดขึ้นในไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณประชากรนักปั่นเพิ่มมากขึ้น และมีร้านจักรยานใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอด นอกจากนี้ เดี๋ยวนี้ยังมีเลนจักรยานสอดแทรกอยู่ตามถนนหนทางในเขตกรุงเทพ และตามจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น เลนเขียวที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งในปัจจุบันกำลังปรับปรุงโดยธนาคารไทยพาณิชย์ และจะมีชื่อใหม่ว่า สกายเลน ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากความนิยมปั่นจักรยานนี้เช่นกัน
ด้วยความนิยมนี้เองทำให้มีกิจกรรมการแข่งขัน และจัดปั่นจักรยานเพิ่มมากขึ้น ทั้งจัดทริปปั่นกันเองในกลุ่ม หรือเข้าร่วมรายการแข่งต่างๆ ซึ่งต้องใช้การขนย้ายจักรยานทางรถเพื่อไปตั้งต้นเริ่มปั่น ทำให้การเลือกอุปกรณ์ยึดจักรยานเข้ากับรถหรือที่เรียกว่าแร็คจักรยานเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การเลือก แร็คจักรยาน อย่างแรกเลยคือ ควรเลือกให้เหมาะกับรถที่ต้องติดตั้ง ไปดูกันดีกว่าครับว่าจะมีแบบไหนบ้าง
ROOF RACKS - แร็คติดหลังคา
ถ้าเลือกใช้ แร็คติดหลังคา - ROOF RACKS ควรเป็นรถที่มีหลังคาสูงไม่ควรเกิน 5 ฟุต เพราะถ้าใช้รถประเภทเอสยูวีหรือแวน เวลาที่คุณยกจักรยานขึ้นหลังคาเหนือหัว นั่นอาจสร้างปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นการยืนที่ไม่ถนัดหรือน้ำหนักของจักรยานเวลายกสูงเหนือหัว ถ้าแข็งแรงพอยกได้ก็นับว่าโชคดี แต่อย่าลืมนึกถึงตอนปั่นเสร็จต้องเก็บแรงไว้ยกจักรยานเก็บอีก กำลังขาที่ถูกบั่นทอนอาจทำให้การยกจักรยานขึ้นหลังคาไม่ง่ายเหมือนตอนใส่มา และที่สำคัญส่วนใหญ่แร็คหลังคามักยึดจักรยานได้เพียง 2 คัน ตามจำนวนรางซ้าย-ขวาที่ใกล้ของแนวตัวถังและต่อให้รถคุณมีหลังคาเตี้ยแล้วก็ตาม การจัดตำแหน่งจักรยานก็ควรให้ใกล้ด้านนอกตัวถังรถมากสุดเท่าที่ทำได้ ถ้าใช้แร็คติดหลังคา สิ่งที่ลืมไม่ได้เด็ดขาดระหว่างขับคือ ลืมว่ามีจักรยานอยู่ข้างบน ให้เขียนเตือนในกระดาษโน้ตติดไว้ด้านหน้ากระจกในตำแหน่งที่มองเห็นแต่ไม่รบกวนสายตา อย่างน้อยเวลาขับเข้าตึกหรือสถานที่มีหลังคาต่ำจะได้หลีกเลี่ยงได้ทัน
แร็คจักรยานติดหลังคาเหมาะกับรถที่ไม่สูงมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเตี้ยติดพื้นแบบนี้ HITCH RACKS - แร็คเกี่ยวกันชนท้าย
ถ้าแร็คหลังคาไม่ใช่แนว แร็คเกี่ยวกันชนท้าย - HITCH RACKS ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดี โดยมีทั้งแบบเป็นฐานรองรับทั้งคันกับราวแขวนเฟรมด้านบน ข้อดีคือ รับน้ำหนักได้เยอะ จักรยานไม่ต้องปะทะลมเวลารถวิ่ง และไม่ต้องเสี่ยงต่อการโดนกรวดหรือแมลงปลิวมาโดน ข้อควรระวังคือประเภทรถที่ใช้ ถ้าเป็นเอสยูวีที่มีความสูง ช่วงล่างด้านหลังก็ควรมีความแข็งแกร่งพอรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและยื่นออกจากตัวรถได้ดีพอด้วย นอกจากนี้เมื่อติดตั้งพร้อมใส่จักรยานแล้ว การนำรถไปจอดก็อาจเป็นปัญหากับการเผื่อระยะความยาวของตัวรถที่มากขึ้น แร็คประเภทนี้มักติดตั้งแบบยึดถาวรกับตัวรถเพื่อรองรับในส่วนที่ต้องใช้เสียบประกบสลัก ทำให้มีราคาแพงกว่าแร็คหลังคา แต่ก็นับเป็นแบบที่ใส่จักรยานได้สะดวกที่สุด
TRUNK RACKS - แร็คเกี่ยวฝากระโปรงท้าย
ถ้าทั้งแร็คหลังคาและกันชนหลังยังไม่โดนใจอีก ก็คงต้องพิจารณา แร็คเกี่ยวฝากระโปรงท้าย - TRUNK RACKS ซึ่งมีราคาถูกกว่า 2 แบบแรก ติดตั้ง-เก็บง่าย ไม่มีส่วนยึดติดเหลือไว้กับตัวรถ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา และแบบเดียวสามารถใช้กับรถได้หลายยี่ห้อและรุ่นด้วย แต่การยึดด้วยสายไนลอนกับฝากระโปรงและเกี่ยวใต้กันชน แม้จะติดตั้งง่าย แต่ก็โดนขโมยได้ง่ายเช่นกัน ที่สำคัญฝากระโปรงท้ายไม่สามารถเปิดได้ระหว่างที่ติดแร็คอยู่ และตัวรองรับท่อนอนของเฟรมก็อาจไม่เหมาะกับจักรยานบางประเภท เช่น ฟูลซัส หรือที่มีท่อนอนไม่ตรง นอกจากนี้ไม่เหมาะกับจักรยานที่มีน้ำหนักมากกว่าทั่วไป
TRUCK RACKS - ราวแร็คในฝากระบะท้าย
ราวแร็คในฝากระบะท้าย - TRUCK RACKS เป็นแบบที่พบเจอในบ้านเรามาก เนื่องจากตลาดรถกระบะในบ้านเราเติบโตและมีการใช้งานแพร่หลายทั่วประเทศ ทำให้เป็นรถกระบะบ้านเรามีการดัดแปลงตามการใช้งานมากที่สุด เมื่อต้องการใช้ขนจักรยานก็สามารถออกแบบทำได้ง่าย โดยมากมักทำเป็นราวเหล็กติดตั้งตัวยึดดุมล้อหน้าตามแนวขวางตัวรถ แต่ก็มีหลายคนออกแบบเอง โดยให้ร้านเชื่อมเหล็กสร้างให้ บางแบบก็ไม่ต้องถอดล้อโดยทำเป็นช่องเสียบล้อและยึดเพื่อความสะดวกในการขนย้ายจักรยาน
แบบนี้ใช้สายล็อคจักรยานได้ด้วย ขนจักรยานขึ้น-ลงได้เร็วเพราะไม่ต้องเสียเวลาประกอบล้อ แต่ก็กินพื้นที่เมื่อไม่ได้ใช้งาน INSIDE CAR RACKS - แร็คในรถ
แร็คในรถ - INSIDE CAR RACKS สำหรับผู้ที่ใช้รถแบบแฮตช์แบ็ก แวน หรือรุ่นที่สามารถเปิดฝาท้ายได้สูงจนนำจักรยานเข้าออกในแนวตั้งได้ แร็คที่ใช้มักเป็นแบบยึดชั่วคราว ที่นิยมในบ้านเราก็เช่น MINOURA ส่วนใหญ่มักยึดได้ 2-3 คัน ข้อดีคือ ปลอดภัยที่สุด และไม่ต้องตากแดด-ฝนเหมือนแบบอื่นๆ เมื่อเลิกใช้งานภายในรถดูเหมือนเดิม แต่ข้อเสียก็คือ ต้องมีการยึดเฟรมจักรยานเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้โคลงเวลารถวิ่ง และเสียพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมาก ที่สำคัญเวลาเก็บจักรยานกลับ อาจต้องล้าง-เช็ดให้สะอาดก่อนขนขึ้นรถ
แร็คในรถช่วยให้รถไม่ต้องตากแดดตากฝนและรอดสายตาจากพวกขโมย แต่อาจทำให้ภายในเป็นรอยถ้ายึดไม่ดี แร็คจักรยานแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป แบบไหนจะเหมาะกับรถของเราที่สุด ก็คงต้องพิจารณาทั้งจากรูปแบบ ลักษณะการใช้งาน และความสะดวกของเราด้วย หวังว่าบทความนี้พอจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแร็คจักรยานที่เหมาะกับรถของคุณได้มากยิ่งขึ้นนะครับ