FIRST DRIVES ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า ใหม่ (Porsche 911 Carrera) เร้าใจขึ้นด้วยพลังเทอร์โบ
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนทดสอบขับรถ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 2016 โฉมใหม่ - บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ ปี 2016 ซึ่งปรับเปลี่ยนหลายจุด โดยเฉพาะเครื่องยนต์จากเดิมขนาด 3.7 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ เปลี่ยนเป็นขนาด 3.0 ลิตร ปั่นพลังได้เร้าใจกว่าเดิมด้วยพลังเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 370 แรงม้า และ 420 แรงม้า ในรุ่น Carrera S
ส่วนอื่นที่ได้รับการปรับปรุง เช่น แชสซีส์, ระบบอินโฟเทนเมนท์ และเพิ่มออปชั่นระบบ Rear-axle steering เป็นครั้งแรกในรุ่นย่อย
ภายนอก ปรับให้ดูสปอร์ตล้ำสมัยมากขึ้น จุดเด่นที่ปรับเปลี่ยนไป เช่น ไฟหน้าพร้อม Daytime 4 ดวง (Four point daytime running lights), มือเปิดประตู, ฝากระโปรงหลังพร้อมสปอยเลอร์ในตัว, ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ และไฟเบรกพร้อม Daytime 4 ดวง (Four point daytime brake lights) ส่วนล้ออัลลอยเป็นลายใหม่หน้า-หลังใช้ต่างขนาด ตัวล้อหน้าขนาด 8.5 x 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/40 ZR19 ด้านหลัง 11.5 x 19 นิ้ว ยางหน้ากว้างขนาด 295/35 ZR19 พร้อมถ่ายทอดพลังสู่พื้นได้เต็มที่
ภายในห้องโดยสาร ปรับเน้นรายละเอียดให้ดูสปอร์ตพรีเมียม และทันสมัยมากขึ้น พร้อมติดตั้งระบบ Porsche Communication Management สั่งงานผ่านหน้าจอทัชสกรีน ให้ความสะดวกมากกว่าเดิม
การขับทดสอบ
การทดลองขับทางผู้จัดได้ให้สื่อมวลชนลองขับคนละ 2 รอบ ในลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นการขับตามเส้นทางไพล่อนคล้ายการขับแบบจิมคาน่า ระยะทางขับจริง 2 รอบ ไม่เกิน 2 กม. โดยเน้นการจับความรู้สึกในการควบคุม การตอบสนองของเครื่องยนต์เทอร์โบและเกียร์ใหม่ ก่อนขับรอบแรกมีเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกสอนขับให้ดูก่อน โดยผู้เขียนได้มีโอกาสฟังและสังเกตการใช้งานของรถแบบคร่าวๆ ในการขับ 2 รอบ รอบแรกผู้เขียนขับในโหมดธรรมดา และโหมด Sport + ในรอบหลัง
การขับเริ่มต้นด้วยการทำความเร็วในทางตรงสั้น แต่เครื่องยนต์เทอร์โบใหม่ ก็ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมและเพียงพอต่อการผ่านความเร็วหลัก 100 กม./ชม. พุ่งเข้าหาจุดดักไพล่อน และให้ลองหักหลบเปลี่ยนเลนกะทันหัน พร้อมกับกระชากกลับเข้าสู่ทางเดิม ผู้เขียนลองใช้ความเร็วและจุดเบรกให้ได้ใกล้เคียงกับการขับเดโม่ของผู้ฝึกสอนในรอบก่อนหน้า แต่ก็ยอมรับว่าทำใจไม่ได้ และพยายามไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถควบคุมได้ โดยการขับในโหมดธรรมดาการบังคับเลี้ยวจะไม่เฉียบคมเท่ากับโหมดสปอร์ต แต่ก็ยังตอบสนองการหักเลี้ยวได้อย่างฉับไว พาให้หลุดพ้นไพล่อนได้ตลอดเส้นทางที่วางไว้ ในช่วงสุดทางตรงและต้องหักเลี้ยวซ้ายแบบหักศอก การเบรกชะลอความเร็วก่อนเข้าโค้งเป็นไปด้วยความระมัดระวังเพราะไม่เคยสัมผัสพลังการเบรกอันยอดเยี่ยมของคาลิเปอร์ 4 pot MONOBLOC จานดิสก์เบรกขนาด 300 มม. ทั้ง 4 ล้อ (รุ่น Carrera S ใช้จานดิสก์เบรกหน้า 350 มม.) มาก่อน ด้วยความเร็วที่ทะยานเข้าหาจุดหักเลี้ยวขนาดนั้น ความคุ้นเคยกับรถทั่วไป จึงทำให้ผู้เขียนเบรกชะลอเร็วกว่าที่ควร แต่ก็พยายามทำให้ได้ใกล้เคียงกับการขับเดโม่ของผู้ฝึกสอน
ในช่วงกลับเป็นทางตรงสั้นๆ พอให้เร่งเข้าหาจุดหักหลบที่วางไพล่อนกว้างกว่าอีกด้าน โดยไม่ต้องเบรกหนักเท่าช่วงแรก สามารถใช้ความเร็วที่พอเหมาะเข้าและออกได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ใจคิดว่าด้วยความเร็วระดับนี้รถธรรมดาคงเสียการทรงตัวไปแล้ว แต่ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า ที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังและเครื่องยนต์วางหลัง กลับไม่มีอาการใดๆ ให้ต้องแก้เลย นับเป็นการขับช่วงสั้นๆ แต่ก็รู้สึกประทับใจกับประสิทธิภาพของ 911 คาร์เรร่า ใหม่
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
ผู้เขียนเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนแบบบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ของ 911 คาร์เรร่า พร้อมราคาใหม่ที่เย้ายวน น่าจะทำให้ 911 คาร์เรร่า หลากหลายรุ่นย่อยทยอยเข้าเมืองไทยตลอดทั้งปีตามออร์เดอร์ โดยเฉพาะรุ่นเริ่มต้นที่ได้ทดลองขับ ราคาค่าตัวเพียง 12.2 ล้านบาท ถ้าเป็นผู้ที่กำลังมองหาซูเปอร์คาร์ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี ขับง่าย รูปลักษณ์ทั้งภายนอก-ภายในสวยทันสมัย และทรงประสิทธิภาพทั้งขุมพลังและระบบเบรก บอกเลยว่าคุ้มค่า จนต้องรีบจอง !