ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว TOYOTA Fortuner ใหม่ เวอร์ชั่น TRD Sportivo สปอร์ตมาดเข้ม

icon 29 มี.ค. 59 icon 67,215
รีวิว TOYOTA Fortuner ใหม่ เวอร์ชั่น TRD Sportivo สปอร์ตมาดเข้ม

TOYOTA ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ เวอร์ชั่น TRD Sportivo สปอร์ตมาดเข้ม
New Fortuner TRD Sportivo ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในการออกแบบและพัฒนาร่วมกันระหว่าง วิศวกรคนไทยจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง และ Toyota Racing Development ภายใต้แนวคิด Premium Sport ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์รถยนต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าคนไทยมากที่สุด เพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ตผสมผสานกับความหรูหราอย่างลงตัว ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่รองรับการขับสไตล์สปอร์ต ตลอดจนระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก รวมอยู่ใน New Fortuner TRD Sportivo 


เส้นทางการทดสอบ
การทดสอบเริ่มต้นจากเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านทางโค้งชันสู่ที่ว่าการฯ ด้านบน ก่อนลงไปทางด่านปราจีนบุรี เพื่อไปพักที่ดาษดา รีสอร์ท จากนั้นใช้เส้นทางเข้าสู่นครนายกจนถึงรังสิตคลอง 5 แล้วตัดเข้าถนนกาญจนาภิเษกยิงยาวสู่ถนนบางนา มุ่งหน้าไปยูเทิร์นหน้าห้างฯ เซ็นทรัล บางนา เพื่อเลี้ยวเข้าไปจบที่ "โตโยต้า ไดร์ฟวิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ พาร์ค" 





รูปลักษณ์ภายนอก
ฟอร์จูนเนอร์ TRD ปรับโฉมใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ ให้ความโดดเด่นกว่ารุ่นปกติอย่างชัดเจน ดูสปอร์ตเข้มมากขึ้น ถ้าเป็นสีขาว สามารถเลือกหลังคาหุ้มฟิล์มสติ๊กเกอร์สีดำตัดให้ความดุดันยิ่งขึ้น ส่วนตัวรถรุ่น TRD มีให้เลือกเพียง 2 สี ดำ และขาว รายละเอียดภายนอกชัดเจนด้วยชุดแต่งเสริมรอบคัน แต่ที่โดดเด่นสุดๆ ผู้เขียนว่าเป็นล้ออัลลอย 20 นิ้ว ดีไซน์ 6 ก้าน คล้ายสายฟ้า โทนสีเข้ม ซึ่งถ้าเลือกรถสีขาวดูตัดกันดีมาก และเด่นกว่าสีดำ ด้านหลังมีโลโก้ TRD Sportivo ติดที่ฝาท้ายบ่งบอกชัดถึงความพิเศษ

กระจังหน้าแบบรมดำ รับกับกันชนดีไซน์ใหม่ ให้อารมณ์สปอร์ตเต็มๆ

กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ สอดแทรกด้วยวัสดุสีดำรับกับด้านหน้า

บันไดข้างกว้างก้าวขึ้นสบาย เข้มรับตัวรถ

ตัวถังขาว หลังคาดพร้อมเสาอากาศทรงฟินสีดำ สปอยเลอร์ก็ดำ

โลโก้ TRD Sportivo และ sigma 4 บนตัวถังสีขาว บ่งบอกความเป็นที่สุดของรุ่น และแพงสุดด้วย
รูปลักษณ์ภายใน
ฟอร์จูนเนอร์ TRD ภายในห้องโดยสารขยับปรับเปลี่ยนให้สอดรับความสปอร์ตมากขึ้น นับตั้งแต่ก้าวขึ้นไปนั่งรู้สึกว่าหรูและสปอร์ตขึ้น ด้วยวัสดุหนังผสมหนังสังเคราะห์สีดำ-แดงแบบทูโทน และเดินด้ายสีแดงแนวสปอร์ต พร้อมเสริมหลายจุดด้วยการหุ้มฟิลม์ลายคาร์บอนเคฟลาร์ ส่วนวัสดุโครเมียมภายในรถเป็นแบบเงารมดำ แต่ส่วนที่เด่นและผู้เขียนชอบคือ มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ออกแบบใหม่ พื้นหลังวงกลมกลางลายคาร์บอนฯ ด้านขวามาตรวัดความเร็วมีสัญลักษณ์ TRD สีขาว ตัดบนพื้นคาร์บอนฯ สวย ได้อารมณ์เรซซิ่ง นอกจากนี้ก็มีพรมเฉพาะรุ่น ซึ่งน่ามีขายแยกในโชว์รูม และปุ่ม Push Start สีแดงสัญลักษณ์ TRD

คอนโซลโดยรวมไม่มีอะไรเปลี่ยนมาก แต่เบาะดำ-แดง และส่วนหุ้มลายคาร์บอนฯ เป็นจุดสร้างความแตกต่าง

โตโยต้า มักออกแบบเบาะนั่งสบาย และเบาะฟอร์จูนเนอร์ TRD ก็เช่นกัน
แถมปรับละเอียดด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งคนขับ ผู้เขียนนั่งขับแล้วสบายจริงๆ 

เบาะหลังนั่งสบาย และปรับพับแยก 60/40 และเลื่อน-เอนได้
ตรงกลางมีปลั๊กไฟ 220 โวลต์ ให้ใช้เพิ่มความสะดวกในการใช้สารพัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เบาะแถวสามพับได้แบบ 50/50 สามารถปรับเอนได้ด้วย

มุมมองจากเบาะแถวสาม เห็นได้ว่าช่องแอร์เพดานกระจายวางตำแหน่งได้ทั่วถึง

พรม TRD Sportivo เฉพาะรุ่นพิเศษ แต่อาจมีขายแยกในโชว์รูม สำหรับคนใช้รุ่นธรรมดาที่อยากได้บ้าง

พื้นที่หลังเบาะแถวสามกว้างพอวางถุงกอล์ฟ และกระเป๋าสัมภาระได้หลายใบ แต่ถ้าขนอุปกรณ์สันทนาการหรือกีฬาขนาดใหญ่ไปพร้อมกับสมาชิกหลายคน เช่น จักรยาน, เรือยาง หรืออื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่อาจต้องติดแร็คหลังคาเพิ่ม ซึ่งตัวรถก็มีราวหลังคารองรับเรียบร้อยแล้ว
เครื่องยนต์
ฟอร์จูนเนอร์ TRD เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ให้พลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มีระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์ สามารถเลือกโหมดการขับ H2 H4 และ L4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC ให้พร้อมลุยสไตล์ออฟโร้ดได้มากขึ้นด้วย

การขับทดสอบ

การขับทดสอบ ฟอร์จูนเนอร์ TRD เริ่มต้นด้วยการนั่งรถตู้ไปที่ เทมส์ วัลลีย์ รีสอร์ท เขาใหญ่ เพราะผู้เขียนอยู่ในกลุ่มขับเที่ยวกลับ โดยมีนักข่าวอีกกลุ่มขับเที่ยวไปในวันเดียวกัน ในวันรุ่งขึ้น ขบวนรถทดสอบ ฟอร์จูนเนอร์ TRD เริ่มทยอยออกจากที่พักในช่วงสาย โดยรถ 1 คัน ต่อนักข่าว 2 คน ให้สลับขับกันเองระหว่างทาง ขบวนฯ มุ่งหน้าขึ้นอุทยานฯ เขาใหญ่ ผ่านด่านเก็บค่าเข้าแล้วขับขึ้นไปยังที่ว่าการฯ ด้านบน ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวที่หลายคนคุ้นเคย ช่วงขาขึ้นต้องใช้พลังในการขึ้นเขาผ่านโค้งพับซ้าย-ขวาหลายช่วง กำลังของเครื่องยนต์ 177 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สามารถพาตัวรถขับเคลื่อนผ่านความชัน และเร่งแซงรถช้าด้านหน้าได้อย่างสบายๆ ที่แม้แต่ผู้ขับรถขึ้นเขาไม่เก่งก็ไม่ต้องกลัว เพราะตัวรถเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและระบบช่วยต่างๆ มากมาย ที่สำคัญพลังเหลือเฟือ และเกียร์ดีพอช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องกังวลกับการจังหวะการเร่ง-หยุดบนทางชัน

ขบวนฯ ขึ้นมาถึงที่ว่าการอุทยานฯ ด้านบนในช่วงเวลาไม่นาน และขับไปลงที่ด่านปราจีนฯ เพื่อแวะพักที่ดาษดา รีสอร์ท ในช่วงเส้นทางขึ้น-ลงเขาใหญ่ที่ขับผ่านมา ผู้เขียนรู้สึกว่าตัวรถมั่นคงกว่ารุ่นปกติในช่วงเข้าโค้งอย่างชัดเจน การบังคับเลี้ยวเฉียบคมขึ้น และกระฉับกระเฉงดี แม้ใช้ล้ออัลลอยใหญ่ถึง 20 นิ้ว และยางหน้ากว้าง 265/50 ผสานกับช่วงล่างแบบสปอร์ต จึงทำให้ ฟอร์จูนเนอร์ TRD ขับสนุก และมั่นใจในการทำความเร็วหรือเข้าโค้งมากขึ้น รวมไปถึงระบบเบรกที่เป็นดิสก์หลังขนาดใหญ่ติดตั้งแทนแบบดรัมในรุ่นปกติ จริงๆ เป็นการปรับให้เหมาะสมกับคาแรคเตอร์รุ่น TRD Sportivo ที่เน้นความสปอร์ตมากกว่า ถ้าใช้งานทั่วไปดรัมเบรกหลังก็ให้พลังหยุดเพียงพออยู่แล้ว สำหรับความรู้สึกที่ได้จากการเบรกของรถรุ่นนี้ พบว่าระบบเบรกให้น้ำหนักดี ให้ความมั่นใจแม้เบรกต่อเนื่องในช่วงทางลงเขา 
เมื่อได้เวลาอันสมควรขบวนฯ เดินทางต่อจากดาษดา รีสอร์ท มุ่งสู่ "โตโยต้า ไดร์ฟวิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ พาร์ค" บางนา ปลายทาง โดยในช่วงท้ายผู้เขียนได้มีโอกาสลองความเร็วบนถนนเปิดโล่ง และสามารถใช้ความเร็วระดับ 120-150 กม./ชม. ได้นานต่อเนื่องหลายช่วง เรื่องพละกำลังนับว่าหายห่วงมั่นใจทุกครั้งที่กดคันเร่งแซงรถช้า การทรงตัวเมื่อเปลี่ยนเลนที่ความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ตัวรถตอบสนองได้นิ่งกว่าเดิมชัดเจน แต่เมื่อแช่ทางตรงยาวพบว่าพวงมาลัยมีความละเอียดอ่อนต่อรอยต่อถนนและค่อนข้างไวพอสมควร ทำให้ต้องมีสมาธิกับการบังคับพวงมาลัยมากกว่ารุ่นปกติ อาจดีถ้าขับแบบสปอร์ต แต่การใช้งานขับทางไกลอาจทำให้ผู้ขับเหนื่อยล้าง่าย แต่โดยรวมก็นับว่าพอใจและชอบมากกว่ารุ่นปกติ ส่วนตัวถ้าผู้เขียนกำลังคิดซื้อรุ่นปกติคงยอมขยับเพิ่มอีก 120,000 บาท เพื่อแลกกับความคุ้มค่าและสมรรถนะการขับที่ดีกว่า

อัตราสิ้นเปลือง
การขับทดสอบทริปนี้ใช้เส้นทางไม่ไกลมาก และเน้นทดสอบด้านสมรรถนะของตัวรถแบบสปอร์ตมากกว่า จึงไม่ได้ให้น่้ำหนักด้านการทำอัตราสิ้นเปลืองมากนัก เป็นการขับที่เน้นอัตราเร่ง และการทำความเร็วมากกว่า ด้วยระยะทางเกือบ 200 กม. จากเทมส์ วัลเล่ย์ ทางขึ่้นเขาใหญ่ห่างจากหน้าด่านอุทยานฯ เขาใหญ่ประมาณ 5 กม. ขบวนฟอร์จูนเนอร์ TRD 7 คัน ขับเรียงตามขึ้นไป โดยเป็นการลองพลังขับเคลื่อนผ่านทาางชันขึ้น-ลงเป็นส่วนใหญ่จนถึงด่านด้านปราจีนบุรี จากนั้นเป็นทางราบจนถึงกรุงเทพฯ เมื่อถึงที่หมายหน้าจอแสดงข้อมูลวัดได้ 10.4 กิโลเมตร/ลิตร

เทคโนโลยีและความสะดวกสบาย
ฟอร์จูนเนอร์ TRD เข้า-ออก ตัวรถสะดวกด้วยกุญแจ Smart Key และสตาร์ทสะดวกแบบไม่ต้องควักกุญแจบิดด้วยปุ่ม Push Start สัญลักษณ์ TRD ในช่วงระหว่างขับก็สั่งงานหรือเรียกดูข้อมูลง่ายขึ้นผ่านพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ซึ่งใช้วัสดุหนังแท้ตัดกับฟิล์มลายคาร์บอนฯ เข้าชุดกับพื้นที่รอบคันเกียร์ ส่วนระบบเอนเตอร์เทนเพลินมากกับชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียมแยกชิ้น โดยมีเฮดยูนิท พาวเวอร์แอมป์ และลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง รวม 11 ลำโพง พร้อมซับวูฟเฟอร์ด้านฝาท้าย นับว่าครบเครื่องเอาใจสมาชิกที่ชอบดูหนังฟังเพลงในรถ

ส่วนระบบนำทาง (Navigator) โดดเด่นด้วย T-Connect บริการพิเศษสำหรับรถโตโยต้า เชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย Bluetooth แสดงผลผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ซึ่งเล่นไฟล์เพลง-หนังได้ และแสดงภาพจากกล้องมองหลังเมื่อถอยรถ


ด้านหลังมีช่องปลั๊กไฟกระแสสลับ AC 220 โวลต์ ให้ความสะดวกมากขึ้น 

ตำแหน่งทวิตเตอร์บนเสาเอ พร้อมโลโก้ JBL บ่งบอกถึงความพิถีพิถันด้านเสียงเพลงมากขึ้น

ลำโพงเสียงกลางติดตั้งเสริมบนคอนโซลทั้ง 2 มุม เพื่อซาวด์สเตจที่ดีขึ้น

ซับวูฟเฟอร์ใช้พื้นที่ในฝาท้าย ทำงานคล้าย BASS BOX มากกว่า ข้อดีคือ ไม่กระทบต่อพื้นที่ภายในรถ

แอร์ด้านหน้า ถูกเสริมด้วยแอร์เพดาน 4 ตำแหน่ง เพื่อความเย็นทั่วถึงทุกพื้นที่

ความสบายที่ผู้เขียนชอบ ไม่ต้องเอื้อมจับฝาปิด แค่กดก็ปิดอัตโนมัติเหมือนรถพรีเมียม
ระบบความปลอดภัย
ฟอร์จูนเนอร์ TRD ลุยอย่างมั่นใจระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยสามารถเลือกโหมดการขับ H2 H4 และ L4 ตามความเหมาะสมในการใช้งาน ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC, A-TRC และดิสก์เบรก 4 ล้อ ยิ่งมั่นใจ ลองแล้วชอบความรู้สึกในการชะลอเบาเบรกจริงๆ แม้ใช้ล้อวงโตก็ตาม สำหรับรุ่นขับ 2 ล้อหลัง ต่างตรงที่ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC เป็นแบบธรรมดาแต่ขับ 4 ล้อ เป็นแบบแอคทีฟ A-TRC และรุ่นขับ 2 ล้อหลังไม่มีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC 

ระบบเบรกหน้า-หลังดิสก์ ถูกนำมาใช้กับรุ่นพิเศษอย่าง TRD Sportivo รองรับการขับแบบสปอร์ตมากขึ้น ให้น้ำหนักดีเยี่ยม

ชุดโช้กอัพ-สปริง TRD พ่นสีแดงคงทนทุกทุกสภาวะ พร้อมปรับค่า K ใหม่ แน่นหนึบ

ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ TRD Sportivo ให้สมรรถนะและอารมณ์การขับที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากรุ่นปกติ 2.8V 2WD AT (1,559,000 บาท) และ 2.8V 4WD AT (1,629,000 บาท) เทียบกับแบบตรงรุ่นขับเคลื่อน ซึ่งใช้เป็นพื้นฐานในการปรับเป็นรุ่น TRD ไม่ว่าการออกแบบภายนอกที่ได้ดูสปอร์ตมาดเข้มกว่า โดยเฉพาะล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลายสปอร์ต ส่วนภายในห้องโดยสารก็ถูกปรับให้เป็นสไตล์ TRD มีโลโก้บ่งบอกหลายจุด ที่สำคัญคือ ระบบเครื่องเสียง JBL ชุดใหญ่ เหมือนรุ่นพรีเมียมหลายล้าน นับเป็นความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้นเพียง 120,000 บาท แค่ชุดโช้กอัพ-สปริง TRD กับล้อ-ยาง 20 นิ้ว ก็คุ้มแล้ว ส่วนที่หลายคนอาจมองว่า TRD Sportivo ราคาสูง แต่จริงๆ ถ้าเป็นผู้ที่กำลังมองและกำลังซื้อ ฟอร์จูนเนอร์ อยู่แล้วการขยับจากรุ่นธรรมดาเป็น TRD ย่อมคุ้มค่ากว่า ถ้าไม่ติดว่ามีแต่สีดำกับขาว 

ราคา โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ TRD Sportivo 2016 *สำหรับสี White Pearl CS ราคาเพิ่ม 12,000 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 4WD AT Black Top ราคา 1,769,500 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 4WD AT ราคา 1,749,500 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 2WD AT Black Top ราคา 1,699,500 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 2WD AT ราคา 1,679,000 บาท

แท็กที่เกี่ยวข้อง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)