TOYOTA FORTUNER 2.8 V เติมเต็มความสุขให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบ
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง ลบภาพรถดัดแปลง (PPV) โดยสิ้นเชิง ด้วยความหรูหรา อุปกรณ์ระดับพรีเมียม พร้อมฟังก์ชันครบๆ กับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบทรงพลัง 177 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มสมรรถนะการควบคุมได้ดีขึ้น ระบบความปลอดภัยล้นคัน พร้อมภาพลักษณ์อันโดดเด่น
ทีมงาน CarGuRu Thailand / เช็คราคา.คอมได้รับรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.8V 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ (sigma4 - ซิกม่าโฟร์) สีน้ำตาลเด่นสุดในรุ่นราคา 1,629,000 บาท มาทดสอบเพื่อแฟนๆ ชาวเช็คราคา.คอมชมกันครับ
เส้นทางการทดสอบฟอร์จูนเนอร์ใหม่ แบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักคือ การใช้งานแบบชีวิตประจำวันในเขตตัวเมืองย่านสุขุมวิท - เพลินจิต - พระราม 4 - วิภาวดี เป็นต้น เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้ส่วนมากมักทำงานในเขตการจราจรหนาแน่น และการเดินทางไปต่างจังหวัดระยะทางรวมประมาณ 500 กม. เพื่อการทดลองที่หลากหลายและใกล้เคียงสภาพจริงมากที่สุด
ภายนอกดูบึกบึน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่มาก ไฟหน้าแบบสปอร์ตโคมโปรเจคเตอร์หลอดไฟแอลอีดี Bi-Beam ทั้งไฟสูง/ต่ำ พร้อมไฟแอลอีดี เดย์ไทม์ รันนิ่งไลท์เรียงเม็ดที่ขอบบนภายในโคมเดียวกัน ด้านข้างให้ความรู้สึกแข็งแกร่งพร้อมความหรูหราด้วยซุ้มล้อขนาดใหญ่ ติดตั้งราวหลังคาแบบบิวท์อิน เรียบร้อยสวยงาม ส่วนท้ายยิ่งดูฉีกกฏจากระดัดแปลง PPV ด้วยไฟแอลอีดีเป็นเส้นทรงเรียวยาว พร้อมแถบโครเมี่ยมปั๊มตัวอักษร FORTUNER และ โลโก้ 3 ห่วงด้านบน พร้อมระบบไฟฟ้าเปิด-ปิดประตูท้ายสั่งการด้วยปลายนิ้วและมีระบบป้องกันการหนีบอีกด้วยไฮเทคสุดๆ
กระจกข้างพร้อมไฟเลี้ยวแอลอีดี มือจับประตูคู่หน้ามีปุ่มเปิด/ปิดล็อคประตู ทำงานร่วมกับ Smart Key มาพร้อม Immobilizer ทางด้านข้างติดตั้งบันไดสำหรับปีนขึ้นรถ และล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว ยาง 265/60 R18
คอนโซลหน้า และคอนโซลกลางดูผ่านๆ คล้ายพื้นฐานจาก
ไฮลักซ์ รีโว่ แต่อันที่จริงมีความแตกต่างค่อนข้างมาก เช่น ตรงช่วงที่อยู่ของชุดเครื่องเสียงและระบบแอร์ เป็นต้น พร้อมกับตกแต่งให้หรูหราขึ้นด้วยการเลือกใช้วัสดุระดับคุณภาพสูงกว่า ให้อารมณ์ Luxury เทียบเคียงแบรนด์หรูร่วมค่ายอย่าง Lexus แผงกันแดดด้านบนมาตรวัดใช้วัสดุนุ่มมือ หุ้มด้วยหนังแท้ ตรงส่วนกลางเหนือช่องแอร์เป็นพลาสติกฉีดขึ้นรูป ที่ฝาที่เก็บของด้านบนใช้วัสดุนุ่มหุ้มหนังเช่นกัน ทำให้ความรู้สึกแตกต่างจากคอนโซลของรีโว่โดยสิ้นเชิง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ครบครันด้วยปุ่มควบคุมหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะบนมาตรวัด (ทางด้านขวา) ปุ่มควบคุมระบบความบันเทิง (ทางด้านซ้าย) ที่ด้านหลังมีก้าน Paddle Shift ทางเป็นลดจังหวะเกียร์ (-) ทางขวาเป็นเพิ่มจังหวะเกียร์ (+) และด้านล่างทางขวามีก้านสวิตช์ระบบครูซคอนโทรล
ตรงกลางติดตั้งเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ ระบบ T-connect และ Bluetooth พร้อมระบบนำทาง และให้ภาพละเอียดคมชัดเมื่อปรับเป็นจอแสดงภาพขณะถอยหลัง ถัดลงมาเป็นชุดควบคุมแอร์อัตโนมัติ และสวิตช์ปรับโหมดการขับเคลื่อน ทั้ง H2, H4 และ L4 รวมถึงปุ่มสั่งเปิด-ปิดระบบช่วยลงทางชัน DAC หรือ ระบบป้องกันล้อลื่นไถล
คอนโซลกลางตกแต่งลายไม่สีเข้ม ครอบฐานเกียร์ใช้วัสดุโครเมียมและคันเกียร์แบบขั้นบันไดและสามารถโยกมาทางขวาเพื่อเปลี่ยนระบบเป็นโหมดสปอร์ตเปลี่ยนจังหวะเกียร์ได้เอง ถัดลงมาเป็นสวิตช์เลือกโหมดการขับขี่ Eco Mode และ PWR Mode (Power) ช่องเล็กวางของกระจุกกระจิกและกล่องใส่ของพร้อมที่เท้าแขน
ซ้ายสุดเป็นสวิตช์เปิดปิดการใช้งานปุ่มกลาง, กลางเป็นปุ่มเปิด-ปิดฝากระโปรงท้าย
ส่วนขวาสุดสวิตช์เปิด-ปิดระบบสตาร์ต/สต็อป เครื่องยนต์
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
เบาะหนังสีน้ำตาลเข้ม รูปแบบเบาะแบบ 2+3+2 เบาะแถว 2 เลื่อนเข้า-ออก ปรับพนักพิงได้ และยังพับเก็บจังหวะเดียวเพื่อให้เข้า-ออกเบาะแถว 3 ได้อย่างสะดวก เบาะแถว 3 พับแบบยกเบาะขึ้นเก็บด้านข้างเพิ่มพื้นที่ได้อีกมาก
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ช่องแอร์ครบทุกแถว
เบาะแถว 3 ผู้ใหญ่นั่งได้ แต่อึดอัดไปสักหน่อย ส่วนเด็กๆ สบายครับ คนตัวใหญ่พอนั่งได้ แต่ถ้าระยะทางไกลคงต้องแวะบ่อยหน่อยครับ
SPECIFICATION - FAST FACTS
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.8 วี ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล 2.8 ลิตร 177 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร เกียร์ 6 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซิกม่าโฟร์ ที่มีให้เลือกรูปแบบการขับ 3 แบบคือ H2 ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง - ใช้ขับในสภาพถนนปกติทั่วไป ประหยัดน้ำมัน H4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้ความเร็วสูง - สำหรับเพิ่มสมรรถนะการเกาะถนนและการควบคุมเมื่อเจอสภาพถนนเปียกลื่นหรือเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆ และ L4 โหมดสำหรับลุยสไตล์ "Off Road" บนสภาพถนนโหดๆ เป็นหลุมบ่อและต้องการแรงตะกายมากๆ พร้อมระบบช่วยหน่วงความเร็วขณะลงทางลาดชัน (DAC)
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบโฟร์ลิงค์คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มนวลมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า
รายละเอียด | 2.8V |
แบบเครื่องยนต์ | ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) | 2,755 |
ระบบเกียร์ | อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมซีเควนเชี่ยล และแพดเดิ้ล ชิฟต์ |
กำลังสูงสุด (PS) | 177 ที่ 3,400 รอบ/นาที |
แรงบิดสูงสุด (Nm) | 450 ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที |
ระบบขับเคลื่อน | ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบซิกม่าโฟร์ |
ระบบ Stop & Start | มี |
ขนาดล้อ-ยาง | 265/60 R18 |
ความรู้สึกเมื่อทดลองขับ
วิสัยทัศน์ในตำแหน่งคนขับนับว่ามองได้ชัดเจนเกือบรอบคัน มีเพียงเสา "A" ที่บดบังในการเลี้ยวอยู่บ้าง น้ำหนักพวงมาลัยเมื่อจอดจะมีความหนืดสักหน่อย อาจเพราะยางและล้อขนาดใหญ่ แต่เมื่อวิ่งที่ความเร็วสูงเริ่มเบาขึ้น แต่ก็คงความหนืดๆ เอาไว้เพื่อควบคุมได้นิ่งไม่ต้องเกร็งมือมากนัก
โหมดปกติ การตอบสนองเครื่องยนต์ในโหมดปกติ จะมีการตอบสนองช้าแบบรถเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปที่ต้องเติมคันเร่งมากสักหน่อยจึงจะเร่งได้ตามเท้า
โหมดสปอร์ต (Power Mode) เมื่อปรับเป็นโหมด PWR หรือ Power การตอบสนองนั้นผิดหูผิดตาทันที! เครื่องยนต์ตอบสนองไวมากขึ้น เร่งได้แรงขึ้น โดยจะสังเกตเห็นว่ารอบเครื่องยนต์จะคงระดับสูงเอาไว้ เพื่อให้เรียกใช้ได้ทันทีไม่ต้องรอรอบเมื่อต้องการเร่งอย่างรวดเร็ว สำหรับโหมดนี้นับว่าขับมันมากๆ
โหมดประหยัด (Eco Mode) นับเป็นการเน้นขับแบบประหยัดนั่นคือ ไปเรื่อยๆ แม้เติมคันเร่งเพิ่มเข้าไปอีกก็ยังไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่นัก แต่เมื่อคิกดาวน์หรือเพิ่มแรงมากขึ้น เครื่องยนต์ก็เริ่มตอบสนองได้ตามสั่ง
สรุปว่าในแต่ละโหมดนั้นใช้ในสภาวะที่แตกต่างกัน แต่ทุกๆ โหมดก็ สามารถขับให้แรงได้พอๆ กันครับ
มาถึงช่วงล่างในเจเนอเรชั่นนี้ เกาะถนนมากขึ้นและควบคุมได้นิ่งมากขึ้น แต่ก็แลกกับอาการกระเด้งเล็กน้อยเมื่อวิ่งผ่านสภาพถนนไม่เรียบนัก แต่เมื่อกระโดดคอสะพานกลับให้ความนุ่มนวลไม่มีอาการท้ายดีดอย่างที่คาดเอาไว้ นับว่าปรับปรุงระบบช่วงล่างให้เข้ากับถนนแย่ๆ ของประเทศไทยได้ดีขึ้นมากๆ ครับ
ระบบเบรกที่ให้ความมั่นใจแม้แตะเพียงเล็กน้อย สามารถหยุดรถได้นิ่งและใช้ระยะทางสั้นมาก โดยได้มีโอกาสทดลองเบรกอย่างกะทันหัน เมื่อถูกรถตัดหน้าและต้องกระทืบเบรกอย่างแรง สามารถหยุดได้ทันและไม่เสียการควบคุม (ขับมาในลักษณะทางตรง) ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ปรับปรุงระบบเบรกได้น่าประทับใจ อาจเป็นเพราะระบบช่วยเหลือต่างๆ ที่ให้มาทำให้ไม่เสียการทรงตัว ให้ความนุ่มเท้า และผ่อนแรงได้ดีครับ
ระบบปรับอากาศเย็นจัดเย็นจริงทั่วทั้งคัน แม้วันทดสอบจะเจอสภาพอากาศแดดจัด ลมนิ่ง วิ่งทั้งวันก็ตาม เพียงแค่ปรับระบบอัตโนมัติเอาไว้เท่านั้น ระบบลมแอร์ทั้งจากคอนโซลหน้าและช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลังที่มีครบทุกตำแหน่งก็ให้ความเย็นได้ทั่วถึงจริงๆ
อัตราสิ้นเปลืองจากการทดสอบใช้งานทั้งในและนอกเมือง การจราจรติดขัดสุดๆ บนถนนเพลินจิตหรือวิภาวดีช่วงค่ำ มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนหน้าปัดวัดได้ 8.7 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 11.49 กิโลเมตร/ลิตร
ส่วนการใช้งานนอกเมืองไป-กลับ กรุงเทพฯ - อยุธยา รวมระยะทางประมาณ 264.7 กิโลเมตร รวมเข้าเขตตัวเมืองรถติดขัดอีก ทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนหน้าปัดได้ประมาณ 8.6 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 11.62 กิโลเมตร/ลิตร
ปิดระบบสตาร์ต/สต๊อป หลังจากนั้นได้ทดลองใช้งานต่อเนื่องด้วยจากกรุงเทพฯ - นครนายกไปและกลับเป็นระยะทางประมาณ 267.7 กิโลเมตร เมื่อรวมกับวันที่เดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็น 532.4 กิโลเมตร ระดับน้ำมันเหลือ 1 ช่อง จึงได้เติมน้ำมันกลับคืนถังเท่ากับ 940 บาท หรือ 47.57 ลิตร ซึ่งนับตั้งแต่วันรับรถที่เติมไว้เต็มถังใช้มาร่วม 4 วัน ตกเพียงลิตรละ 1.76 บาทเท่านั้น และอัตราสิ้นเปลื้องของน้ำมันในถังที่ใช้ไปนั้นเท่ากับ 11.19 กิโลเมตรต่อลิตร นับว่าความประหยัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากครับ
การทดสอบทั้งหมดได้ทำการปิดระบบสตาร์ต/สต๊อปเครื่องยนต์ เพราะเมื่อเจอสภาพการจราจรติดหนักๆ มันทำงานบ่อยจนไม่คุ้นเคย แต่ระบบนี่ทางโตโยต้าได้ออกแบบมาเป็นพิเศษให้รองรับการสตาร์ตบ่อยๆ ได้ดี ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องอายุการใช้งานครับ
สำหรับระบบดับเครื่องยนต์นั้น แอร์จะมีแต่ลมออกมา ซึ่งระบบจะมีการประมาลผลว่าขณะที่ดับเครื่องยนต์หากความเย็นลดลงหรืออุณหภูมิสูงขึ้นตามที่ตั้งเอา เมื่อระบบแอร์สั่งงานให้คอมเพรสเซอร์ทำงานเครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นเอง เพื่อช่วยทำความเย็น หรือในกรณีที่ขยับพวงมาลัยเล็กน้อย และการปล่อยเบรก แต่ระบบนี้หากเข้าเกียร์ตำแหน่ง "P" จะไม่ทำงาน และสามารถสั่งปิดระบบได้ที่สวิตช์ตรงคอนโซลหน้าทางขวาใกล้ๆ หัวเข่าก็ย่อมได้
สัมผัสแรกที่ได้ขับต้องบอกว่าเบาะค่อนข้างใหญ่ แม้ผู้ขับจะตัวใหญ่แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ส่วนปีกของที่พิงหลังเยอะ ทำให้ไม่อึดอัด วัสดุเบาะมีความแข็ง แน่นๆ เมื่อนั่งไปสักระยะจะเริ่มสบายตัวมากขึ้น พวงมาลัยจับได้ถนัดมือ และปุ่มควบคุมต่างๆ สามารถใช้งานได้สะดวกเพียงปลายนิ้วโป้ง
วัสดุที่ใช้ในส่วนที่เป็นนวมหุ้มหนังนับว่าเรียบร้อยสวยงามดี แต่บางจุดที่เป็นพลาสติก เช่น แผงประตูบางส่วนอาจดูด้อยลงไปบ้าง แต่โดยรวมเมื่อมีการตกแต่งลายไม้และโทนสีน้ำตาลก็ดูกลมกลืนและพอรับได้ครับ
จุดที่เท้าแขนตรงคอนโซนกลางอยู่ระดับต่ำลงมา เพื่อป้องกันข้อศอกติดเวลาสาวพวงมาลัยเลี้ยว ระบบแอร์ใช้งานง่าย เพียงตั้งระบบ AUTO เอาไว้ก็ใช้ได้ หรือจะปรับ เพิ่ม-ลดอุณหภูมิกับความแรงลมเองก็เพียงหมุนปุ่มปรับเองเท่านั้น ง่ายนิดเดียวครับ
เมื่อเข้ามาในรถก็ต้องดูก่อนเลยว่าแอร์เย็นไหม สำหรับในฟอร์จูนเนอร์ นอกจากแอร์ด้านหน้าแล้ว ก็มีช่องแอร์ผู้โดยสารตอนกลางและตอนหลังเพิ่มด้วย เย็นสบายรอบคันชัวร์! และสามารถเปิด-ปิดลมแอร์ชุดหลังได้ด้วยปุ่มควบคุมด้านบนเพดานของที่นั่งแถว 2 สะดวกไปอีกขั้น ความสว่างของไฟภายในรถใช้หลอดแอลอีดีจึงสว่างชัดเจน มีเพียงไฟเก๋งตอนท้ายสุดเท่านั้นที่ใช้หลอดไส้สีส้มๆ
เบาะที่สามสามารถปรับได้หลากหลายรูปแบบตามลักษณะการใช้งาน โดยเฉพาะหากเป็นครอบครัวนักเดินทางพร้อมสัมภาระแนว xtreme ละก็สบายๆ ครับ พื้นที่ท้ายรถกว้างเหลือเกิน และระบบประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบเมื่อมีวัตถุขวาง ปลอดภัยหายห่วง
ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ครบครันด้วยอุปกรณ์ทันสมัย ทั้งเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ DVD เชื่อมต่อ USB/AUX/สมาร์ทโฟน ให้การตอบสนองเร็วกว่าฟอร์จูนเนอร์รุ่นก่อนหน้า ระบบนำทาง ซึ่งอาจจะต้องทำความคุ้นเคยบ้างเพราะฟังก์ชั่น และลูกเล่นของเนวิเกเตอร์เวอร์ชั่นนี้ละเอียดยิบครับ เมื่อคุ้นเคยแล้วจะรู้สึกว่าใช้งานได้ครบถ้วน แม่นยำ ระบบเสียงลำโพง 6 ตำแหน่ง เพลิดเพลินแทบไม่ต้องไปแตะต้องเลย เสียงดีนุ่มลึกและครบทุกย่านเสียง
ระบบสัมผัสยอมรับว่ายังมีหน่วงอยู่บ้างแต่ก็เร็วกว่าฟอร์จูนเนอร์รุ่นก่อนหน้า
ผู้โดยสารตอนกลางมีจุดเสียบไฟทั้งแบบ DC และ AC ด้านความปลอดภัยนับเป็นจุดเด่นของ ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ เพราะทุกรุ่นถูกบรรจุระบบเหล่านี้ เช่น ระบบเตือนการโจรกรรม และ Immobilizer /ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ Speed Auto Lock / ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) / ไฟตัดหมอกหน้า / ไฟตัดหมอกหลัง / ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED / ไล่ฝ้ากระจกหลัง / เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง / กล้องมองหลัง / ระบบป้องกันล้อล็อก ABS / ระบบกระจายแรงเบรก EBD / ระบบเสริมแรงเบรก BA / ระบบควบคุมการทรงตัว VSC / ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (A-TRC) / ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพวงท้าย TSC / ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC / โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA / คานเหล็กนิรภัยด้านข้าง / ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านผู้ขับ ผู้โดยสาร และหัวเข่าผู้ขับ / ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง และม่านนิรภัย ส่วนระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC และระบบป้องกันการหนีบประตูท้าย
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ 2.8 V รถอเนกประสงค์แนวคิดใหม่เพื่อเติมเต็มครอบครัวยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยกีฬาสุดโปรดแบบ Xtreme พร้อมภาพลักษณ์ที่สวยหรูมีระดับ แฝงความ "ลุย" เข้ากันอย่างลงตัว ฟังก์ชั่นตอบสนองไลฟ์สไตล์ดิจิทัลล้ำสมัยไม่ตกเทรนด์ ทุกอย่างรวมเอาไว้ในฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ด้วยค่าตัวเพียง 1,629,000 บาท
"ความสุขไม่ใช่แค่การถึงจุดหมายปลายทาง แต่คือการทำให้ผู้ที่ร่วมทางไปด้วยมีความสุข"