รีวิว Toyota Hilux Revo Double Cab 4WD 2.8G AT กระบะยอดนิยม ตัวท็อป ขับเคลื่อนสี่ล้อ

การเดินทางโดย โตโยต้า รีโว่ ดับเบิ้ล แค็บ 2.8G AT ให้ความรู้สึกสบายใจและตื่นตัวในการเดินทาง ต่างจากที่ผ่านมา เพราะผู้เขียนมักใช้รถเก๋งช่วงล่างแบบสปอร์ต เหตุเพราะระยะหลังถนนในเมืองไทยมักมีจุดเสียหายและเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางสำคัญสู่แหล่งท่องเที่ยว ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์แบบเดิมๆ ไม่ค่อยสะดวกนัก เมื่อเทียบกับใช้รถกระบะ 4 ประตู ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ การขับในช่วงแรกผู้เขียนใช้เส้นทางยกระดับสู่จังหวัดชลบุรี เพราะอยากดูการทรงตัวเวลาตัวถังโดนลมแรงปะทะจากด้านข้าง และเลือกเวลาวันธรรมดาในการเดินทางเพื่อความสบายในการขับ และยังมีโอกาสทดสอบอัตราเร่งหลากหลายช่วงได้สะดวก โดยผู้เขียนลองแช่ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ในช่วงถนนโล่ง สักพักจึงเร่งขึ้นไปอย่างเต็มที่ พบว่าเข็มวัดความเร็วสามารถกวาดขึ้นไปได้อย่างรวดเร็วและไปต่อได้เรื่อยๆ จนถึง 180 กม./ชม. ผู้เขียนก็ยกคันเร่งเพื่อความปลอดภัย ไม่น่าเชื่อว่ากำลัง 177 แรงม้า บนตัวถังที่หนักสุดของรีโว่ สามารถฉุด โตโยต้า รีโว่ ดับเบิ้ล แค็บ 2.8G AT ที่หนัก 2 ตันกว่า ทะยานไปข้างหน้าได้อย่างสนุกตื่นเต้น ด้วยแรงบิด 450 นิวตันเมตร ความรู้สึกที่ได้เมื่อกดคันเร่งคือ ดึงเร็วดันยาว ส่วนการเบรกชะลอความเร็วก็ทำได้อย่างนุ่มนวล ตอบสนองดี ให้น้ำหนักได้ง่าย และพอขับด้วยความเร็วคงที่ยาวๆ บางช่วงที่เจอลมปะทะบ้างก็ไม่พบอาการตัวถังโคลงแต่อย่างใด อย่างมากแค่ทำให้ตัวรถไหวตัวบ้าง 

เมื่อลงมาขับถนนด้านล่างมุ่งหน้าสู่ชายหาดบางแสน จึงมีโอกาสขับผ่านโค้ง แยก และซอยต่างๆ พบว่า รีโว่ ที่มีความยาวเกิน 5 เมตร สามารถเลาะเลี้ยวผ่านไปได้ทุกจุดอย่างไม่ลำบาก ด้วยมุมมองจากตำแหน่งที่สูงกว่าทั่วไป ทำให้ขับได้สบายเพราะเห็นจุดกีดขวางชัดเจนกว่า ส่วนความรู้สึกตรงตำแหน่งผู้ขับเหมือนได้ขับเอสยูวีมากกว่ารถกระบะ ส่วนหนึ่งเพราะภายในห้องโดยสารรุ่นนี้มีความทันสมัยและเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับเดียวกับเอสยูวีอย่าง ฟอร์จูนเนอร์ จุดที่ประทับใจคือ การแสดงข้อความเตือนเป็นภาษาไทยบนหน้าปัด ซึ่งทำให้ผู้ขับส่วนใหญ่เข้าใจได้ง่ายและเร็วขึ้น โตโยต้าบอกว่า จากการวิจัยพบว่าผู้ใช้รถส่วนมากมักมองข้ามและเพิกเฉยต่อการแสดงเตือนด้วยสัญลักษณ์ จึงปรับให้เป็นภาษาไทย โดยเริ่มใช้ใน รีโว่ 

เมื่อใช้เวลาถ่ายภาพบริเวณบางแสนจนเสร็จสิ้น ก็มุ่งหน้าสู่สัตหีบโดยใช้เส้นทางบายพาสตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 331 ซึ่งช่วงนี้กำลังทยอยทำถนนเพิ่มเลน แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นถนน 2 เลนสวนกัน ทำให้มีโอกาสใช้พลังจากเครื่องยนต์ 1GD-FTV เพื่อการเร่งแซงรถช้าบ่อยครั้ง พร้อมได้ลองขับเปลี่ยนเลนกะทันหันในช่วงเปลี่ยนเลนสวนเพื่อแซงรถช้า พบว่า รีโว่ 2.8G AT รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีระบบ TSC คอยควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย ทำให้การแซงมั่นใจมากขึ้น นอกเหนือไปจากพละกำลังที่เพียงพอ การควบคุมตัวรถก็ทำได้สบายไม่เครียด เมื่อถึงที่หมายชายหาดดงตาล พร้อมนำตัวรถจอดเลียบชายฝั่งเพื่อบันทึกภาพ ผู้เขียนก็รู้สึกว่า รีโว่ สีแดง - CRIMSON SPARK RED METALLIC ดูสวยและเท่ น่าใช้จริงๆ แต่การใช้ขับทางไกลแบบออนโรดเหมาะสมกับการเดินทางแบบครอบครัวมากน้อยแค่ไหน แม้ผู้เขียนขับแล้วประทับใจหลายส่วน แต่ผู้โดยสารแถวหลังที่นั่งมาด้วยบอกว่า ตัวรถมีอาการโยนและสะเทือนมากที่ขับผ่านพื้นผิวถนนขรุขระหรือเป็นลอน จุดนี้คงเป็นความต่างระหว่างกระบะกับเอสยูวีอยู่ แต่โดยรวมนับว่าประทับใจกับสมรรถนะรอบด้าน

การขับบนถนนที่เป็นลอนหรือมีเนินเล็กๆ อาจทำให้ผู้นั่งแถวหลังอยากไปหาหมอหลังจากนั้น

พลัง 177 แรงม้า ของรีโว่ไม่ได้ให้ความรู้สึกด้อยกว่าคู่แข่ง 200 แรงม้าแต่อย่างใด
ตรงกันข้ามกลับให้ความรู้สึกถึงพลังที่แรงอย่างต่อเนื่องแม้ขับขึ้นทางลาดชัน

เกือบเป็นความสมบูรณ์แบบของรถกระบะเมืองไทย ถ้าไม่ติดที่ราคาล้านกว่าบาทสำหรับรุ่นท็อป
เพราะราคานี้ซื้อเอสยูวีรุ่นเริ่มต้นได้หลายยี่ห้อ ส่วนตัวคิดว่าถ้าได้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เป็นล้อมาตรฐานติดรถ
 อาจทำให้รถดูสวยสมกับเป็นรุ่นท็อปกว่านี้

การขับเป็นระยะทาง 815 กม. เป็นการขับรวมทั้งในและนอกเมือง สลับเปลี่ยนการใช้โหมดธรรมดา และ POWER ไม่เน้นทำตัวเลขความประหยัด ทุกอย่างเป็นไปตามการใช้งานจริง ทั้งจอดนิ่งและทำความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง โดยบางช่วงมีการปรับสวิตช์ระบบขับเคลื่อนเป็น H4 เพื่อทดลองวิ่งบนเส้นทางกรวดลอย โดยได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจากหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับ MID อยู่ที่ 11.3 กม./ลิตร 

 

ด้านความสะดวกสบายนับเป็นจุดเด่นของไฮลักซ์ รีโว่ เริ่มตั้งแต่ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ซึ่งให้ความสะดวกกับผู้ใช้รถมาก โดยเฉพาะการขับผ่านพื้นที่อับแสงในเวลากลางวัน สำหรับรุ่น 2.8G ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 รุ่นย่อย และ 2.8G พรีรันเนอร์ ส่วนต่างเด่นๆ ประกอบด้วย ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ปุ่มสตาร์ท-สต็อปเครื่องยนต์ และกุญแจรีโมทแบบสมาร์ทคีย์ นับเป็นความสะดวกตามมาตรฐานรถยุคใหม่ที่ควรมี ส่วนภายในชอบช่องเสียบปลั๊กไฟกระแสสลับ 220 โวลต์ ทำให้การใช้ไฟฟ้าจากตัวรถสะดวกขึ้น

การมีปลั๊กไฟให้เสียบในรถนับเป็นความดีงามของผู้ริเริ่ม ทำให้เราไม่ต้องกลัวลืมสายชาร์จแบบเดิมๆ ขึ้นรถอีกต่อไป

การมีจอสัมผัสขนาดใหญ่ในรถเป็นเรื่องที่ดี แต่ด้วยความสามารถของสมาร์ทโฟนและพลังของ Google Map 
ทำให้จอเหล่านี้เป็นได้แค่อินเตอร์เฟสแบบห้องเรียนรวมมากกว่า หรือไม่ก็ไว้ดูหนังร่วมกัน 

โตโยต้ารับรู้ถึงปัญหาการไม่สนใจอ่านสัญลักษณ์ของผู้ใช้รถในไทย จึงคิดค้นการแสดงผลคำเตือนเป็นภาษาไทยผ่านจอ แสดงข้อมูล แต่สัญลักษณ์บางอย่างก็ยังต้องใช้ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องอยู่ต่อไป

ช่องแอร์ด้านหลังเป็นสิ่งดีงามสำหรับการใช้รถในเมืองไทย
ผู้เขียนยังค้นพบว่าเป็นสิ่งเรียนรู้ที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆ อีกด้วยเวลานั่งหลังนานๆ 

 

เพียบพร้อมและครบครันสำหรับระบบความปลอดภัยในรุ่นท็อป 2.8G AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวรถติดตั้งระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟ แต่การขับทดสอบคงไม่สามารถสร้างสถานการณ์ให้ระบบเหล่านี้ทำงานได้หมด แต่สิ่งที่ใช้งานบ่อยและจำเป็นมากคือ กล้องมองหลัง นับเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับรถกระบะทรงสูง เพราะการถอยแล้วมองผ่านเพียงกระจกมองหลังอย่างเดียวไม่พอต่อความปลอดภัย

ระบบเบรกหน้าดิสก์-หลังดรัม เพียงพอต่อการหยุดและชะลอทุกระดับความเร็วอย่างมั่นใจ

ตอนแรกผู้เขียนมองว่า ถ้าเลือก รีโว่ เพื่อขับใช้งานทั่วไปและเน้นท่องเที่ยวกับครอบครัว ไม่เน้นใช้เพื่อการพาณิชย์ รุ่น โตโยต้า รีโว่ ดับเบิ้ล แค็บ 2.8G AT พรีรันเนอร์ ก็น่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่พิจารณาราคาที่ถูกกว่า โตโยต้า รีโว่ ดับเบิ้ล แค็บ 2.8G AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพียง 4 หมื่น แล้วซื้อแบบผ่อนชำระ ค่างวดก็อาจต่างกันแค่หลักร้อย สู้ขยับซื้อตัวท็อปเลยดีกว่า เมื่อมองถึงความสะดวกสบาย ภาพลักษณ์ และความประหยัด ราคารถ 1,139,000 บาท อาจใกล้เคียงกับค่าตัวเอสยูวี รุ่นเริ่มต้น หลายยี่ห้อ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับว่าคุณ ถ้าซื้อแล้วได้ใช้รถคุ้มค่ากับสิ่งที่ ไฮลักซ์ รีโว่ 2.8G AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีให้แค่ไหน ถ้าเน้นสมรรถนะและการบุกตะลุยทุกเส้นทาง รีโว่ ก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีรุ่นหนึ่งครับ 

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Toyota Revo ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Toyota ทุกรุ่น