Kia Cerato Koup 2.0 MPI - เกีย เซอราโต้ คูป ฉีกแนวรถสปอร์ต์คูเป้แบบเดิมๆ นำเทรนด์ใหม่สำหรับผู้ชื่นชอบรถ 2 ประตูขนาดเทียบเท่า บี-เซกเมนต์ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี
161 แรงม้า แรงบิด 19.8 กิโลกรัม-เมตร ระบบเกียร์
6 จังหวะ สามารถเปลี่ยนเองได้ด้วย Paddle Shift บนพวงมาลัย แรงเกินตัว แต่หากขับแบบไม่เร่งรีบมากนักกลับให้ความประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับการขับนอกเมืองเพียง
5.9 ลิตร/100 กม.หรือ 16.94 กม./ลิตร และในเมือง
6.8 ลิตร/100 กม. หรือ 14.7 กม./ลิตร (บนหน้าปัด) พร้อมทั้งรูปทรงที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ภายนอกและภายในสไตล์ยุโรป ช่วงล่างแบบสปอร์ตแต่ไม่ทิ้งความนุ่มนวล ความปลอดภัยเต็มคัน เซอราโต้คูป นำเข้าจากเกาหลีทั้งคัน คุ้มค่ากว่า เหนือกว่าในรถระดับเดียวกันทั้งด้านความสวยงาม สมรรถนะ ความปลอดภัย ในราคาที่เร้าใจ
999,000 บาท เพียง 40 คันแรกเท่านั้น
เช็คราคา.คอมได้มีโอกาสไปสัมผัสสมรรถนะ KIA All-new Cerato Koup 2.0 MPI สีแดงสด รถทดสอบคันแรก เจ้าแรกในประเทศไทยจากบริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ช่วงระหว่างวันที่ 29 ส.ค. - 1 ก.ย. 57 4 วันเต็มๆ กับความแรงของเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี สนุกทุกการควบคุมและหล่อเหลาเอาการจนใครๆ ที่ได้พบต่างก็ต้องเหลียวมอง "เซอราโต้ คูป" สปอร์ตคูเป้คันนี้
ทริปทดสอบเกีย เซอราโต้ คูปครั้งนี้ เป็นการใช้งานเหมือนชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง มีหลากหลายอรรถรส ตั้งแต่การใช้งานในรถติดสุดๆ ของวันศุกร์ที่ 29 ส.ค. ช่วงเย็น (17.00-19.00 น.) เริ่มจากบริษัท ยนตรกิจ เกีย ถนนร่มเกล้า-ลาดกระบังมุ่งหน้าไปบันทึกภาพที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขับวนอยู่หลายรอบเพื่อให้ได้ภาพสวยๆ หลังจากนั้นขับไปใจกลางเมืองอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ ต่อจากนั้นเดินทางต่อไปยังถนน RCA ย่านสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี และกลับที่พักย่านสะพานใหม่ - ดอนเมือง
ช่วงสายๆ วันเสาร์ที่ 30 ส.ค. เดินทางจากสะพานใหม่-ดอนเมืองไป-กลับย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปริมาณรถติดสะสมมากในบริเวณนี้ แต่ด้วยความกะทัดรัดคล่องตัวของเซราโต้ คูปจึงไม่ใช่ปัญหา สามารถลัดเลาะเปลี่ยนช่องทางได้อย่างสบายๆ และในบางครั้งก็มีรถข้างๆ แอบชะลอมองดูความสวยงามของเซอราโต้ คูปอยู่บ่อยๆ และช่วงค่ำๆ ก็เดินทางจากสะพานใหม่ดอนเมืองไปถนน RCA เพื่อไปทำภารกิจส่วนตัวจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ก็เดินทางกลับที่พักย่านสะพานใหม่
ต่อเนื่องสายๆ วันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค.เดินทางไปบันทึกภาพเกีย เซอราโต้ คูป ณ รีสอร์ท Montana Farm วังน้ำเขียว จ.นครนายก และเวลาประมาณ 17.30 น. จึงเดินทางกลับที่พัก และช่วง 21.30 น.เดินทางไปทำภารกิจต่อที่ถนน RCA เช่นเดิมจนถึงเวลาเที่ยงคืนเศษก็กลับที่พัก โดยก่อนออกเดินทางเติมน้ำมันให้เต็มถังที่ 1,450 บาท จำนวน 38.36 ลิตร รวมระยะทางทั้งหมด 531.3 กิโลเมตร
ส่วนเช้าวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. นับเป็นวันที่ได้ทดสอบเกีย เซอราโต้ คูปอย่างจริงจัง โดยออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ชายหาดบางแสนตั้งแต่เวลา 9.30 น. เริ่มต้นจากเติมน้ำมันให้เต็มถังที่ปั๊ม Susco ถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณใกล้กับตึกการบินไทย ใช้ถนนวิภาวดี และไปขึ้นทางด่วนที่ด่านดินแดง จากนั้นมุ่งหน้าไปถนนสายมอเตอร์เวย์และออกทางแยกเพื่อไปจังหวัดชลบุรีต่อเนื่องอ่างศิลาและชายหาดบางแสน รวมระยะทางทั้งไปและกลับ 225.4 กม.
โดยการเดินทางในขากลับย้อนเส้นทางเดิมสู่กรุงเทพฯ ในเวลา 17.30 น. ตลอดเส้นทางในช่วงเขตในเมืองก่อนออกมอเตอร์เวย์ รถมากเคลื่อนตัวช้า แม้จะเป็นเวลาสายแล้วก็ตาม พอถึงช่วงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) รถเริ่มคล่องตัวมากขึ้นใช้ความเร็วได้มากขึ้น แต่ก็ไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามกำหนด ซึ่งบางช่วงได้ทดลองอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง และอัตราเร่งแซง ในรถมีผู้ขับและช่างภาพรวม 2 คน มีสัมภาระเป็นกระเป๋ากล้อง, ขาตั้ง และน้ำมันเต็มถัง
All-New Cerato Koup มีความโดดเด่นในเรื่องการออกแบบรูปทรงที่สวยสะดุดตาทุกมุมมอง เมื่อจอดเทียบข้างกับรถยุโรปบางรุ่น กลับเป็นเป้าสายตามากกว่าด้วยซ้ำไป มีมิติตัวถังยาว 4,530 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,420 มม. ระยะฐานล้อ 2,700 มม. แม้จะออกแบบมาเป็นสปอร์ต 2 ประตู แต่ก็มีมิติตัวถังที่กว้างเหนือกว่าคู่แข่งหรือเทียบเท่ารถแบบซีดานเลยทีเดียว นอกจากความสวยงามแล้วหลักการออกแบบก็เป็นไปตามหลักพลศาสตร์ที่มีค่าต่ำเพียง 0.27 สามารถทำอัตราเร่ง 0 -100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 8.95 วินาที (ตามสเปคของผู้ผลิต)
การออกแบบที่สวยงามเริ่มต้นที่ไฟหน้ามาพร้อมหลอดไฟส่องเวลากลางวันแบบ LED เรียงแถวเป็นเส้นที่ขอบด้านบนในชุดไฟ ส่วนโคมไฟต่ำแบบโปรเจกเตอร์ HID ไฟสูงเป็นฮาโลเจน พร้อมโหมดเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจังหน้ามีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ ทรงแบนรับกับโคมไฟหน้าทั้ง 2 ข้าง กันชนหน้าพร้อมช่องดักลมขนาดใหญ่เป็นชิ้นเดียวจากกระจังหน้าลงมาจนถึงด้านล่าง ติดตั้งไฟตัดหมอกทรงกลม 2 ข้าง
ด้านข้างมองเห็นส่วนของประตูที่มีความยาวมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นแบบไร้กรอบเมื่อเปิดกระจกลงสุดได้อารมณ์สปอร์ตแท้ๆ และออกแบบมาให้ผู้โดยสารตอนหลังเข้า-ออกได้สะดวก กระจกมองข้างแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวและไฟส่องนำทางเมื่อเปิดล็อคหรือปิดล็อคประตูรวมถึงมือจับประตูด้วยหลอดแบบ LED ไฮไลท์ของระบบกุญแจอัจฉริยะในเซอราโต้ คูป คือ เมื่อผู้ขับเดินเข้ามาในระยะใกล้พอเหมาะ กุญแจรีโมทจะสั่งการให้เป็นไฟส่องข้างรถพร้อมกางกระจกข้างออกอัตโนมัติ โดยที่ประตูจะยังไม่ถูกเปิดล็อคเพื่อป้องกันภัย เมื่อเราต้องการจะเปิดประตูก็สั่งการเพียงกดปุ่นตรงมือจับเท่านั้น
ส่วนท้ายโดดเด่นด้วยโคมไฟแบบ LED ทรงสี่เหลี่ยมที่แบ่งช่องของไฟต่างๆ ได้อย่างสวยงาม เด่นสะดุดตาเมื่อมองระยะไกล ฝากระโปรงท้ายทรงสูงขึ้นรับกับกระจกหลังที่ลาดชันในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ กันชนหลังขนาดใหญ่พร้อมแถบสะท้อนแสงทั้ง 2 ฝั่งเล่นสีสันด้วยดำตัดตรงส่วนกลางพร้อมกับดิฟฟิวเซอร์ที่ด้านล่าง และเว้าขอบชายกันชนล่างด้านขวาเอาไว้ให้โชว์ปลายท่อสแตนเลส ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว สีน้ำตาลเข้มพร้อมสุดยอดยางดีอันดับ 1 Brigdestone Potenza adrenalin re002 ขนาด 215/45/R17
ภายในให้ความรู้สึกเป็นรถสไตล์ยุโรปทั้งการออกแบบ วัสดุที่ใช้มีความปราณีตและเนี้ยบมาก โดนตรงคอนโซลหน้าออกแบบให้ดูสปอร์ตตกแต่งด้วยลายแบบเคฟล่าร์ แผงควบคุมแอร์และเครื่องเสียงเอียงรับกับตำแหน่งผู้ขับ แผงหน้าปัดสไตล์ยุโรปมีมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่องยนต์ทรงกลมพร้อมกรอบวงแหวนแบบโครเมียม ตรงกลางมีจอสี TFT - LCD แสดงผลการทำงานต่างๆ บอกสถานะการใช้งาน เช่น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ระยะทางทริป A, B ระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลือในถัง และแตกต่างจากรถค่ายแถบเอเชียทั่วไปคือ คันเร่งแนวตั้งจากพื้น ถูกตกแต่งด้วยแผ่นอลูมิเนียมแบบสปอร์ตสไตล์เดียวกับรถทางฝั่งยุโรป
นอกจากนี้จอแสดงผลยังสามารถตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ของรถได้ เช่น แสดงสถานะโหมดพวงมาลัยคือ Comfort, Normal และ Sport ตั้งค่าการเปิด-ปิดประตู ตั้งการเข้ารับเช็คระยะตามกิโลเมตร เป็นต้น
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียง, กดเลือกหรือตั้งค่าที่จอแสดงผล และชุดควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control) พร้อม Peddle shift ด้านหลังพวงมาลัยเปลี่ยนเกียร์ได้ตามสั่งถึง 6 จังหวะ
คอนโซลกลางที่ออกแบบได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากมีช่องเก็บของตรงใต้ปุ่มแอร์พร้อมฝาปิดแบบสไลด์ ช่องวางแก้วน้ำตรงเบรกมือ กล่องเก็บของขนาดไม่ใหญ่แต่ลึกใส่กล้องถ่ายรูปพร้อมเลนส์ได้สบายๆ พร้อมที่เท้าแขนและช่องแอร์ด้านหลัง
เบาะนั่งในเซอราโต้ คูป เป็นแบบสปอร์ตทั้งตอนหน้าและหลัง ปรับด้วยมือ และมีปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าฝั่งคนขับ เบาะคู่หน้าเป็นแบบ Bucket seat โอบกระชับลำตัวอารมณ์รถสปอร์ตแท้ๆ หุ้มหน้งแท้สีดำสลับด้ายแดงเย็บเป็นรูปตาข่ายสวยสะดุดตา ส่วนของเบาะตอนหลังมีที่เท้าแขนพร้อมช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง
แผงหลังคาที่ไฟส่องสว่างภายในรถมีช่องเก็บแว่นตา ไฟอ่านแผนที่ซ้าย-ขวา แผ่นบังแดดพร้อมกระจกส่องหน้าและไฟส่องสว่าง และมีไฟอีกหนึ่งชุดให้ผู้โดยสารตอนหลัง
เครื่องเสียงของเซอราโต้ คูปนับว่ามีเพียงพอที่ใช้พังเพลงและเชื่อมต่อ AUX,USB เล่น CD/MP3/FM/AM พร้อมลำโพง 6 จุด เสียงแน่นใสครบทุกย่านมากๆ (ทดลองฟังมาเรียบร้อยครับ) แต่น่าเสียดายที่ไม่มีระบบเนวิเกเตอร์ ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ กล้องมองหลัง หรือจอสัมผัสมาให้ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติถูกตัดออกเหลือเพียงระบบ Manual ควบคุมด้วย "มือหมุน" 3 ปุ่มกลมๆ แต่ก็ใช้งานง่ายดีไม่ยุ่งยากครับ
เกีย เซอราโต้ คูป มีจุดเด่นนอกจากความสวยงามแล้วยังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1,999 ซีซี MPI Dual-CVVT 161 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 19.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Paddle shift หรือโยกเปลี่ยน +/- เกียร์เองได้ที่คันเกียร์ ขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชั่นบีม โช้กอัพแก๊สทั้ง 4 ล้อ ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อม ABS ป้องกันล้อล็อค และ EBD กระจายแรงเบรกให้สมดุล ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ยางขนาด 215/45/R17
เกีย เซราโต้ คูป เป็นรถยนต์เครื่อง 2.0 ลิตรที่ตอบสนองได้ฉับไวและอัตราเร่งที่ดีมาก เทียบเท่ากับรถในระดับ 2.2 - 2.4 ลิตรบางรุ่น เครื่องยนต์ของเซอราโต้ คูป แม้จะไม่ใส่เทคโนโลยีลงไปจนรกรุงรังมากนัก มีเพียงระบบวาล์วแปรผันที่โดดเด่นเท่านั้น แต่สามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ถึง 161 แรงม้า เทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รถรุ่นอื่นๆ ที่มีเทคโนโลยีพ่วงติดตัวมากมาย เครื่องยนต์กำลังมากขนาดนี้วางอยู่ในโครงสร้างตัวถังที่เพียงหนัก 1 ตันเศษๆ จึงทำให้ได้อัตราเร่งที่ดีเกินคาด และการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าที่รวดเร็วมาก แค่เพียงแตะเบาๆ เครื่องยนต์ก็พร้อมทำงานตลอด เมื่อลองออกตัวในแบบกดคันเร่งเบาๆ ค้างเอาไว้เครื่องยนต์จะเร่งรอบขึ้นไปเรื่อยๆ และเปลี่ยนจังหวะเกียร์จนไต่ระดับความเร็วขึ้นไปที่ 80 - 100 กม./ชม. โดยแทบไม่ต้องกดคันเร่งเพิ่มจากเดิมตั้งแต่ออกรถเลย นับว่าโปรแกรมคันเร่งไฟฟ้าทำออกมาได้ดีกว่ารถเจ้าตลาดบางยี่ห้อด้วยซ้ำไป
เนื่องจากเซอราโต้ คูปเป็นรถแนวสปอร์ตในวันที่ทดสอบจึงจำเป็นต้องลองกำลังม้าในคอก 161 ตัว ให้วิ่งพล่านสักหน่อย เริ่มจากการทดสอบอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ด้วยการจอดนิ่งอยู่กับที่ ใส่เกียร์ตำแหน่ง D และเบรกไว้เมื่อจังหวะรถโล่งปลอดภัยก็กดคันเร่งแบบติดพื้นรวดเดียวยาวจนถึง 140 กม./ชม. ผลปรากฏว่าใช้เวลาไปเพียง 9 วินาทีเท่านั้น นับว่าใกล้เคียงกับตัวเลขจากโรงงาน แต่สิ่งที่ประทับใจในรถสปอร์ตคันนี้คือ การตอบสนองเครื่องยนต์และการทรงตัวที่ดี มั่นใจทุกครั้งเมื่อคิกดาวน์เพื่อแซงหรือเปลี่ยนช่องทางอย่างรวดเร็ว ระบบช่วงล่างที่เกาะถนนในระดับที่ดีเทียบเท่ารถยุโรปบางรุ่น และในขณะเดียวกันก็ให้ความนุ่มนวลเมื่อกระโดดคอสะพานหรือขับผ่านหลังเต่าลูกโตๆ แม้แต่ขับตกหลุมก็ไม่รู้สึกว่ากระเทือนเป็นรถโหลดซิ่งให้ตับแตกแต่อย่างใด ยิ่งเมื่อขับใช้ความเร็วระดับกลางๆ ประมาณ 60 - 90 กม./ชม. ช่วงล่างจะมีการกระเพื่อมเบาๆ ได้อารมณ์ซูเปอร์คาร์นิดๆ เกีย เซอราโต้ คูปยิ่งขับยิ่งมันยิ่งหลงรัก ติดใจซะแล้วครับ
ในวันที่ทดสอบเจ้าเซอราโต้ คูปบนเส้นทางลัดเลาะไหล่เขาบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีโค้งวัดใจมากมายให้ได้ลอง เมื่อเจอทางโค้งลงเขาที่มีทั้งรูปตัวเอสหรือโค้งประมาณ 60 องศา เซอราโต้ คูปสามารถใช้ความเร็วในย่านสูงๆ ได้พอสมควร ประมาณ 60 - 80 กม./ชม. และในบางโค้งที่ยาวๆ สามารถเข้าได้หลัก 100 กม./ชม. โดยไม่มีอาการหน้าดื้อท้ายปัดแต่อย่างใด รวมถึงระบบเบรกที่หนึบมากๆ ในขณะทางลงเนินเขาบางช่วงต้องใช้เบรกบ่อยๆ และถี่มาก แต่ไม่มีอาการเฟดหรือเบรกตื้อๆ แต่อย่างใด
เซอราโต้ คูปมีจุดเด่นที่่เหนือกว่าคู่แข่งคือ การเลือกโหมดปรับน้ำหนักพวงมาลัยได้ 3 แบบ
Comfort, Normal และ Sport โดยที่แต่ละโหมดรู้สึกได้ชัดเจนว่ามีการเพิ่มหรือลดน้ำหนัก, ความว่องไวของพวงมาลัยที่แตกต่างกัน เช่น
- Comfort เบามากเหมาะกับขับในเมืองความเร็วต่ำๆ หรือขณะกำลังวนรถหาที่จอดต้องเลี้ยวไปมาบ่อยๆ ทำให้เบาแรงได้มาก และเมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้นก็จะปรับน้ำหนักให้มากขึ้นอีกด้วย
- Normal เป็นการปรับน้ำหนักให้อยู่ในระดับกลางๆ ไม่เบาหรือหนักเกินไป เหมาะกับผู้ที่ใช้งานในสภาพการจราจรที่หลากหลาย
- Sport โหมดนี้เหมาะสำหรับการใช้ความเร็วสูงๆ หรือวิ่งระยะทางยาวๆ หลายกม. ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมรถที่ความเร็วสูงแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น
ทั้ง 3 โหมดนี้ได้ทำการทดสอบเรียบร้อย นับว่ามีประโยชน์มากสำหรับสภาวะที่แตกต่างกับของการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ
ความเร็ว 80 กม./ชม. ที่ 1,600 รอบ/นาที ความเร็ว 120 กม./ชม. ที่ 2,500 รอบ/นาที เกีย เซอราโต้ คูป มีอัตราการกินน้ำมันที่ต่ำกว่ารถเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ในระดับเดียวกัน แม้เครื่องยนต์จะไม่ได้มีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดน้ำมันเข้ามาช่วยเลย มีเพียงระบบวาล์วแปรผันที่โดดเด่นเท่านั้นครับ แต่กลับทำอัตราสิ้นเปลืองได้เทียบเท่าหรืออาจจะดีกว่า โดยในวันทดสอบทั้ง 3 วัน ใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ รวมถึงขับออกต่างจังหวัดระยะทางยาวๆ อัตราสิ้นเปลื่องเฉลี่ยบนหน้าปัดที่ทำตัวเลขได้ดีที่สุดคือ นอกเมือง (กทม.- เขาใหญ่ - วังน้ำเขียว) 6.8 ลิตร/100กม. หรือ 14.7 กม./ลิตร, นอกเมือง (กทม.- บางแสน) 5.9 ลิตร/100 กม. หรือ 16.94 กม./ลิตร
ส่วนอัตราเฉลี่ยในเมืองที่ได้ความประหยัดที่สุดคือ 7.6 ลิตร/100 กม. หรือ 13.15 กม./ลิตร ซึ่งไม่ได้ขับแบบแข่งประหยัดนะครับ ตลอดเส้นทางมีการเร่งแซงเมื่อทางโล่งๆ คิกดาวน์เร่งรอบสูงอยู่บ่อยๆ และบางสภาวะก็เจอรถติดนิ่งจอดนานสลับเคลื่อนตัวได้บ้าง ส่วนอัตราเฉลี่ยในเมืองที่กินจุมากสุดคือ 11.4 ลิตร/100 กม. หรือ 8.7 กม./ลิตรครับ
เกีย เซอราโต้ คูปนับเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันติดอับดับต้นๆ ของกลุ่มรถสปอร์ต 2 ประตู และบางครั้งอาจประหยัดกว่ารถรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเท่าๆ กัน ที่มีเทคโนโลยีมากมายเต็มเครื่่องยนต์ไปหมดด้วยซ้ำไป
ระยะทาง 531.3 กิโลเมตร เหลือระดับน้ำมันในถัง 1 ช่อง ที่นั่งผู้ขับ / ผู้โดยสาร
เกีย เซอราโต้ คูป ถูกผสมผสานกันระหว่างความสปอร์ตสุดหรูหรา และความสะดวกดุจรถเก๋งซีดาน เพราะความกว้างขวางของห้องโดยสารทั้งด้านหน้าที่เมื่อเข้าไปนั่งแล้วไม่รู้สึกอึดอัด ช่องวางขาโปร่งสบาย หัวเข่าไม่ติดใต้คอนโซลหน้า และยิ่งเป็นเบาะตอนหลังยิ่งน่าประทับใจครับ ด้วยพื้นที่ความกว้างเทียบเท่ารถแบบ 4 ประตูขนาดกลาง ไม่ว่าจะช่องวางขาที่มีพื้นที่เหลือเฟือ ส่วนของพื้นที่เหนือศีรษะก็โปร่งมาก เพราะได้ทดลองนั่งเองแล้วรู้สึกเหมือนเป็นรถซีดานคันหนึ่งแต่ไม่มีประตูบานหลัง เพราะเป็นรถที่มีพื้นฐานล้อที่ยาวถึง 2,700 มม. จึงทำให้ภายในยาวและกว้างกว่ารถคูเป้ 2 ประตูทั่วไป "เป็นรถแบบเดียวกับ 4 ประตู ที่มีแค่ 2 ประตู"
ลักษณะพิเศษเฉพาะในเซอราโต้ คูปคือ ความยาวของประตูทั้ง 2 ข้าง ซึ่งขอตอบเลยว่ามาก เมื่อปรับเบาะ คนเข้าไปนั่งด้านหลังได้อย่างสะดวกสะบาย แถมยังมีแอร์หลังเป่าให้หนาวเล่นๆ อีกด้วย
ในส่วนผู้ขับขี่นั้นก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมครูซคอนโทรล ก้านเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift เมื่อต้องการซิ่งแบบวัยรุ่น สั่งงานชุดเครื่องเสียงได้ทันทีบนพวงมาลัย หรือจะฟังเพลงจาก USB/AUX ก็ย่อมได้ แต่ไม่มีระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์ และเนวิเกเตอร์ ซึ่งถ้าจัด 2 อย่างนี้เพิ่มเข้ามารับรองว่าทิ้งห่างคู่แข่งได้อีกไกล
เบาะคนขับกระชับรับสัดส่วน สามารถล็อคตัวไม่ให้ดิ้นออกจากเบาะเมื่อเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆ ได้ดี แต่อาจจะรู้สึกกระด้าง หรือผิวของเบาะอาจจะแข็งไปสักหน่อย เมื่อนั่งขับหรือเดินทางยาวๆ อาจรู้สึกต้องขยับตัวบ่อยให้คล้ายเมื่อยล้า แต่ยังยืนยันว่าเบาะนั่งตอนหลังมีขนาดใหญ่และนุ่มสบายกว่าคู่หน้าพอสมควร เมื่อลงไปนั่งลำตัวของเราจะเอนรับกับเบาะพิงและช่วงขาที่งอกำลังสบายพอดีๆ จึงกลายเป็นรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูที่นั่งตอนหลังสบายกว่าคนขับ แต่อย่างไรก็ตามรถสปอร์ตแนวนี้มักเน้นขับกินลมชมวิว พาคู่รักไปเที่ยว โฉบเฉี่ยวในเมือง แต่อาจมีขับออกต่างจังหวัดบ้าง ก็อาจต้องแวะพักบ่อยสักหน่อยเป็นการพักคนขับไปในตัวด้วยครับ
แม้เกีย เซอราโต้ คูปจะเกิดมาเพื่อเป็นรถคูเป้ 2 ประตู แต่ก็ไม่ลืมประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เบาะพิงตอนหลังสามารถพับได้เกือบแบนราบ ด้วยที่ดึงซ้อนด้านในห้องสัมภาระท้ายทั้ง 2 ฝั่ง เพิ่มพื้นที่ขนของได้อีกเพียบ ถึงแม้จะไม่พับเบาะส่วนเก็บสัมภาระท้ายก็มีขนาดกว้างขวางมีความจุถึง 433 ลิตร เทียบเท่ารถซีดานทั่วไป และยังมีระบบเปิดกระโปรงท้ายด้วยรีโมทคอนโทรลเพียงกดค้างเอาไว้เท่านั้น
มุมมองเมื่ออยู่ตำแหน่งคนขับจะคล้ายรถเก๋งซีดานทั่วไป แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่ระดับของเบาะคนขับที่ปรับสูง-ต่ำได้ แต่แม้จะปรับสูงเท่าใด ระดับนั่งของเบาะก็ยังใกล้เคียงแนวระนาบหรือคล้ายรถสปอร์ตนั่นคือ แนวขาคนขับเกือบจะขนาดกับพื้นตัวรถ ทำให้การควบคุมแป้นคันเร่งกับเบรกแม่นยำขึ้น และได้อารมณ์เหมือนกำลังขับซูเปอร์คาร์
ในส่วนกระจกบังลมหน้าบานใหญ่มองได้ทั่วแม้จะเลี้ยวโค้งก็สามารถเห็นรถที่อยู่ตรงมุมเสาเอ "A-Pillar" ได้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ข้อเสียสำหรับผู้ที่ขับที่ไม่ชำนาญก็คือ จะมองไม่เห็นฝากระโปรงบานหน้าเพราะระดับเบาะที่เตี้ยนั่นเอง
กระจกมองข้างมองเห็นชัดเจนด้วยเลนส์โค้งทำให้ดูรถได้ตั้งแต่ระยะใกล้ แต่ก็มีคำเตือนว่าควรมองดีๆ ก่อนนะครับว่า "วัตถุอาจใกล้กว่าที่เห็นโปรดระมัดระวัง" ซึ่งทรงของกระจกมองข้างดูอย่างไรก็เหมือนรถยุโรปบางครั้งคิดว่า "เรากำลังขับ Audi อยู่รึเปล่า"
First impression ของ KIA Cerato Koup ก็คือนี่มันรถยุโรปชัดๆ! ตั้งแต่ระบบเปิดประตูโดยไม่ต้องทำอะไรให้มากมายเพียงเข้าใกล้ระบบสัญญาณของรถจะสื่อสารกับกุญแจรีโมทที่อยู่ในกระเป๋า พร้อมกางกระจกข้างเปิดไฟส่องพื้นข้างใต้และที่มือจับประตูเป็นการบอกว่า "ผมพร้อมแล้วครับ" และไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาแอบเปิดประตูก่อนเราเดินถึงตัวรถเพราะจะต้องกดปุ่มสี่เหลี่ยมเงาๆ ที่มือจับประตูก่อนจึงจะเปิดล็อคได้ครับ และยังเป็นปุ่มกดล็อคได้อีกด้วย สะดวกสบายพร้อมความหรูหราไฮเทคจริงๆ
ไฟ LED ใต้กระจกมองข้างและตรงมือจับประตูสว่างเมื่อเดินเข้าใกล้ตัวรถ รถอะไรประตูย้าวยาว.... เมื่่อเข้าไปนั่งตำแหน่งคนขับก็ได้อารมณ์สปอร์ตแท้ ด้วยความเตี้ยของตัวเบาะและระดับช่วงลำตัวมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเดียวกับตัวรถ และการเข้าไปนั่งหรือลุกออกนั้นก็ไม่ลำบากเพราะประตูที่กว้างและยาวมาก แต่ต้องเลือกที่จอดกว้างๆ สักหน่อยพอให้กางประตูออกไปได้มากขึ้น
เบาะปรับมือและปุ่มดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า + คันเร่งแบบตั้งพื้นสไตล์ยุโรป เบาะนั่งกระชับลำตัวแบบรถสปอร์ตแท้ๆ ซึ่งเย็บด้วยหนังสีดำสลับด้ายสีแดงปักเป็นลวดลายตาข่ายยิ่งดูดุดัน สามารถปรับสูง-ต่ำได้ด้วยคันโยก และมีระบบดันหลังระบบไฟฟ้าแก้เมื่อยล้า
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหนังแท้สลับวัสดุพลาสติกสีดำ แต่ผิวสัมผัสเหนียวแน่นไม่ลื่นมือ แต่ตัวนวมที่หุ้มหนังแข็งไปสักหน่อย ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยใช้สะดวกยกเว้นปุ่มเลือกฟังก์ชั่นทางขวาที่อาจจะอยู่ต่ำไปบ้าง ทำให้กดยาก แต่ว่ารถรุ่นนี้มีระบบป้องกันไม่ให้ปรับตั้งค่าต่างๆ ขณะรถเคลื่อนที่ ใช้ได้ก็ต่อเมื่อจอดสนิทเท่านั้น จึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดครับ
เกีย เซอราโต้ คูป นอกจากรูปทรงสวยงามแล้วยังมีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ 161 แรงม้า แบบไม่มีระบบอัดอากาศ แต่เมื่อลองอัตราเร่งทั้งแบบจอดนิ่งออกตัวอย่างรวดเร็วหรือเร่งแซงในความเร็วสูงๆ เซอราโต้ตอบสนองได้ลื่นไหลและฉับไวมาก จะมีบ้างที่ระบบเกียร์รอจังหวะเปลี่ยนช้าไปสักเล็กน้อย ซึ่งเป็นธรรมดาของรถที่ใช้เกียร์แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์และการเปลี่ยนแบบขั้นบันไดจึงต้องรอการลับเกียร์ข้ามจังหวะ แต่ถ้าเร่งจากความเร็วต่ำเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ การเปลี่ยนเกียร์จะนุ่มมากกว่าไม่มีอาการกระตุก โดยเฉพาะถ้าขับใช้งานในเมืองหรือการจราจรไม่เร็วนัก เซอราโต้ คูปเป็นรถที่ขับสบายมาก เพียงแตะคันเร่งเบาๆ เครื่องยนต์ก็ตอบสนองทันทีและเร่งขึ้นไปตามจังหวะเกียร์เรื่อยๆ พร้อมกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างทันใจเหลือพอกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ช่วงล่างเซอราโต้ คูปให้ความรู้สึก "เกาะแต่ไม่กระด้าง นุ่มแต่ไม่โยน" หากขับที่ความเร็วต่ำๆ บนถนนเมืองไทยจะมีอาการสะเทือนเล็กน้อยได้อารมณ์รถสปอร์ต แต่เมื่อกระโดดคอสะพานหรือข้ามเนินลูกระนาดกลับมีช่วงยุบตัวที่มากเพียงพอที่จะให้ความนุ่มนวล ไม่จุกเวลาขับผ่านเนินสูงๆ และในขณะเดียวกันเมื่อขับความเร็วสูงๆ เมื่อเข้าทางโค้งกลับเกาะดีกว่าที่คิด และรู้สึกถึงความหนักแน่นของพวงมาลัยที่นิ่ง ทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจไม่แพ้รถสปอร์ตฝั่งยุโรป
เกีย เซอราโต้ คูป รุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยนี้เป็นแอร์แบบ Manual 3 ปุ่ม ปรับความแรงพัดลม, ปรับระบบกระจายลม และปรับระดับอุณหภูมิ ซึ่งใช้งานง่ายๆ ไม่จุกจิกในระยะยาว และไม่ต้องคอยมองว่ากดปุ่มถูกต้องหรือปรับโหมดถูกหรือไม่ และในเซอราโต้ก็เน้นการขับขี่สนุกสนานเร้าใจ ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบอัตโนมัติ เพราะว่าหากติดตั้งมาด้วยราคาอาจสูงขึ้นกว่านี้แน่ๆ และก็สามารถทำให้ "เย็นฉ่ำ" ได้เหมือนกันแม้เวลากลางวัน เพราะรถคันทดสอบนี้ไม่ติดฟิล์มกรองแสงจึงทำให้ได้พิสูจน์แล้วว่าสู้แดดแรงๆ ในบ้านเราได้สบายๆ ครับ นอกจากนั้นก็มีปุ่ม A/C ตัดต่อการทำงานของคอมเพรสเซอร์, ปรับลมหมุนวนในรถ และระบบไล่ฟ้ากระจกหลัง
เกีย เซอราโต้ คูป เป็นรถนำเข้าจากเกาหลีทั้งคัน เรื่องการเก็บเสียงลมปะทะ เสียงสภาพแวดล้อมต่างๆ นั้นทำได้ใกล้เคียงระดับรถเซกเมนต์ขนาดใหญ่ ส่วนเสียงเครื่องยนต์พอได้ยินเบาๆ แต่เมื่อเร่งรอบสูงสัมผัสได้ถึงความดุดัน ส่วนเสียงของยางที่วิ่งบดกับถนนจะเริ่มได้ยินบ้างเมื่อความเร็วเกิน 110 กม./ชม.ขึ้นไป แต่ความเร้าใจอยู่ที่เสียงนุ่มๆ เบาๆ ของ "ท่อไอเสีย" ซึ่งเป็นท่อเดิมๆ ไม่ใช่ท่อแต่ง แต่หวานไพเราะเสนาะหูให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตแท้ๆ และก็ไม่ดังจนหูอื้อนะครับ หากเปิดกระจกยิ่งได้ยินเสียงความเป็นสปอร์ตเร้าใจจนนึกว่าเปลี่ยนชุดไอเสียแต่งมาให้ด้วยหรือนี่!
ยิ่งลากรอบสูงๆ เสียงเครื่องยนต์ยิ่งดุดันเร้าใจ มีเสียงปลายท่อไอเสียทุ้มนุ่มลึกออกมาเบาๆ คล้ายท่อจากสำนักแต่ง เครื่องเสียงที่ติดตั้งมาให้ สามารถเล่นได้ทั้ง CD/MP3 เชื่อมต่อ USB/AUX รับวิทยุ FM/AM เสาอากาศแบบครีบฉลาม แต่ไม่มีระบบ Bluetooth, ดูหนัง และจอสัมผัส แต่ขอบอกว่าแค่ระบบเสียงจากลำโพง 6 ตัวก็คุ้มแล้ว เสียงใสและเบสหนามาก เมื่อลองเปิดแผ่นเพลงแนวแจ๊สคุณจะสัมผัสได้ถึงเสียงจากเครื่องดนตรีทุกชิ้นอย่างละเอียด แม้จะไม่เทียบเท่ารถระดับหรู แต่มั่นใจว่าเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มเต็มระบบเครื่องเสียง เท่าที่ให้มาก็เพียงพอแล้ว
ติดตั้งเสารับสัญญาณแบบครีบฉลาม เซอราโต้ คูป ออกแบบผสมผสานความเป็นเกาหลีและยุโรปได้ลงอย่างตัว ไม่ว่าจะขับผ่านตามสถานที่ต่างๆ หรือจอดเทียบเคียงกับรถสปอร์ตเปิดประทุนบางรุ่น เซอราโต้ คูปกลับโดดเด่นและมีผู้คนสนใจมองกันมากกว่า และยิ่งเป็นรถสีแดงสว่างมาแต่ไกลทำให้รถสปอร์ตบางค่ายหมองไปทันที ยิ่งเวลากลางคืนระบบไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อม LED และไฟท้าย LED ยิ่งเสริมภาพลักษณ์กลบความเป็นเกาหลีกระโดดข้ามซีกโลกไปเทียบเท่ารถรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมันได้สบายๆ
ส่วนภายในเป็นสิ่งที่เกียทำการบ้านมาได้ดี ด้วยการออกแบบอย่างตั้งใจประกอบและผลิตอย่างประณีต รวมถึงดีไซน์ที่ฉีกความเป็นรถเกาหลีทิ้งออกไป ซึ่งหากแกะโลโก้ เกีย ออกและพรางรถเอาไว้ ผมเองอาจคิดว่าเป็นรถยุโรปสักค่ายหนึ่งที่ทำรถสปอร์ตรุ่นเล็กออกมาทับแบรนด์ญี่ปุ่นแน่ๆ
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของภายในที่สุดน่าจะเป็นรูปทรงและวัสดุของเบาะตอนหน้าและหลังที่ดูเข้ากับบุคลิกความเป็นสปอร์ตตามคอนเซปต์ของรถจริงๆ และพวงมาลัยแบบ 3 ก้านที่ดูยังอย่างไรก็รถยุโรป ยิ่งได้ลองบังคับควบคุมทิศทางขณะรถวิ่งสัมผัสอารมณ์ได้ว่านี่คือ "รถเกาหลีเอาใจคนชอบรถยุโรป ในราคาประหยัด"
ความปลอดภัยมีครบตามมาตรฐานสากล เริ่มต้นด้วยระบบถุงลมคู่หน้า, เบรก ABS + EBD, ล็อคคอพวงมาลัยระบบไฟฟ้า, กุญแจแบบ Smart key - Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย, ล็อค/ปลดล็อคประตูอัตโนมัติตามที่ตั้งไว้ (หากรถไม่จอดสนิทจะไม่สามารถเปิดล็อคได้เลยระบบจะเด้งล็อคกลับอัตโนมัติ), เซ็นเซอร์กะระยะทั้งด้านหน้า/หลังพร้อมปุ่มคำสั่งกดยกเลิกได้ และพิเศษด้วยระบบป้องกันแบตเตอรี่ไฟหมด
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
โดยรวมแล้วเกีย เซอราโต้ คูป เป็นรถที่มีคู่แข่งเป็นรถยุโรปเท่านั้น เพราะถ้าเปรียบรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูในประเทศไทยนั้นมีไม่กี่รุ่นและส่วนมากเป็นเครื่องยนต์ซีซีไม่สูง แต่ราคาสูงลิบลิ่ว เป็นรถที่เกิดมาเพื่ออุดช่องว่างของบรรดาสปอร์ตคูเป้ระดับ 2,000 ซีซีในประเทศไทย ณ เวลานี้ นับว่าคุ้มค่าคุ้มราคา
ทดลองก่อน จองก่อน ขับก่อน เท่ก่อนใคร !
สามารถทดลองขับ KIA CERATO KOUP - เกีย เซอราโต้ คูป พร้อมสิทธิพิเศษมากมายได้ที่โชว์รูมเกียทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมการรับประกับคุณภาพนานสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน)
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-247-5555
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.kia.com