ALL New Mazda CX-5 SKYACTIV สปอร์ต แรง ประหยัด...
ALL New Mazda CX-5 ออล นิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 รถอเนกประสงค์รูปลักษณ์สปอร์ตที่มาสด้าถ่ายทอดเทคโนโลยีสกายแอคทีฟมาเต็มคัน ความสดใหม่ที่น่าสนใจและเป็นจุดขายหลักคือ เทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบ "
เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ" (SKYACTIV Technology) ในรถเจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ทุกรุ่น คู่กับธีมการดีไซน์รถใหม่ "โคโดะ"(KODO - Soul of Motion) หรือจิตวิญญาณ แห่งการเคลื่อนไหว ที่เน้นในเรื่องการถ่ายทอดความสวยงามของพลังผ่านรูปทรงของรถ
ALL New Mazda CX-5 มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบ 3 ขนาดความจุคือ เบนซิน 4 สูบ SKYACTIV-G 16 วาล์ว Dual S-VT 1,998 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 14.0 : 1 กำลังสูงสุด 165 แรงม้า และ เบนซิน 4 สูบ SKYACTIV-G 16 วาล์ว Dual S-VT 2,488 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 13.0 : 1 กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ทั้ง 2 ความจุนี้ใช้เกียร์ SKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
ส่วนรุ่นท็อปสุดใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนแรลเทอร์โบ 4 สูบ SKYACTIV-D 16 วาล์ว VVL 2,191 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 14.0 : 1 กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ผ่านเกียร์ SKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ (AWD) มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย
ทีมงานเช็คราคา.คอมได้มีโอกาสทดสอบรถ ALL New Mazda CX-5 รุ่น 2.5 S ราคา 1,440,000 บาท ที่ให้ออปชั่นท็อปสุดของรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจากมาสด้า ไทยยานยนตร์ พระราม 9 ซึ่งตั้งอยู่ริม ถนนพระรามเก้าใกล้สี่แยกพระราม 9 รามคำแหง เชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบ
เริ่มต้นที่โชว์รูมมาสด้า ไทยยานยนตร์ พระราม 9 กลับรถใต้สะพานข้ามคลองและมุ่งหน้าทางพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ โดยใช้เส้นทาง พระราม 9 ตัดใหม่ เมื่อถึงทางแยกจากถนนมอเตอร์เวย์ ตัดกับวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออกแล้วขับขึ้นสะพานวนไปทางบางนาตราด และใช้ถนนบางนาตราดยาวตลอดจนถึงจุดหมายคือ มหาวิทยาลัยเอแบค วิทยาเขตบางนา จากนั้นก็เดินทางกลับย้อนเส้นทางเดิมจนถึงถนนวง แหวนรอบนอกก็เลี้ยวเข้าถนนรามอินทรา เพื่อใช้เส้นทางเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าถนนพระราม 9 เลี้ยวซ้ายผ่านแยกพระราม 9-รามคำแหง เพื่อไปกลับรถที่หน้าเดอะมอลล์รามฯ ย้อนกลับมายังโชว์รูมมาสด้า ไทยยานยนตร์พระราม 9 เป็นอันสิ้นสุดทริปนี้ รวมระยะทางทดสอบทั้งหมด 131 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ยตลอดทริป 80-120 กม./ชม. มีผู้ร่วมเดินทางรวมคนขับ 2 คน ไม่มีสัมภาระ และน้ำมันเต็มถังจากโชว์รูม สภาพการจราจร ในเขตเมืองรถหนาแน่นแต่ไม่ถึงกับติดขัดมาก ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 60-70 กม./ชม. และนอกเมืองช่วงถนนโล่งรถน้อยใช้ความเร็วเฉลี่ย 80-120 กม./ชม. (บนมอเตอร์เวย์และวงแหวนรอบนอกตะวันออก) บางช่วงของถนน บางนาตราดติดขัดสลับนิ่งเพราะมีก่อสร้างทางในหลายจุด และโล่งอีกทีเมื่อใกล้ถึงทางเข้ามหาวิทยาลัยเอแบคบางนา
ข้อมูลทั่วไป-จุดเด่น ALL New Mazda CX-5
ALL New Mazda CX-5 มีมิติตัวถังยาว 4,540 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,670 มม. และระยะฐานล้อยาว 2,700 มม. น้ำหนักเริ่มตั้งแต่ รุ่น 2.0 c, 2.0 s หนัก 1,459 กิโลกรัม, รุ่น 2.5 s หนัก 1,521 กิโลกรัม และรุ่น XDL 2.2 ดีเซล หนัก 1,650 กิโลกรัม จุดเด่นคือ ความสดใหม่ในโมเดลนี้ที่มาสด้านำรถครอสโอเวอร์ขนาดกลางเข้ามาจำหน่ายเป็นครั้งแรก ออกแบบภายใต้แนวคิด "KODO - Soul of Motion หรือจิตวิญญาณ แห่งการเคลื่อนไหว" โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ปรับสูง-ต่ำได้จากในรถ และเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของล้อ (เว้นรุ่น 2.0 C) กระจังหน้ารูปทรงคล้ายปีกของนกด้วยการใช้เส้นสาย ลากผ่านกันชนไปจนถึงไฟหน้าทั้ง 2 ข้าง กันชนสปอร์ตพร้อมไฟตัดหมอก เส้นสายด้านข้างดูบึกบึนแข็งแรงจรดไฟท้ายทรงเหลี่ยม ติดตั้งสปอยเลอร์ท้ายแนบกันตัวรถได้กลมกลืน กระจกข้างแยกออกจากเสา "A" เพื่อการมองเห็น จุดอับด้านข้าง และลู่ลมได้ดี ส่วนชายด้านล่างตกแต่งด้วยขอบสีดำบ่งบอกความเป็นรถครอสโอเวอร์แท้ๆ หลังคาสามารถติดตั้งราวขนสัมภาระได้โดยมีจุดยึดมาให้จากโรงงานไม่ต้องเจาะตัวหลังเพื่อยึดน็อต ฝาประโปรงท้าย เปิดได้สูงพอที่จะให้คนสูง 180 ซม.ยืนได้สบายๆ พร้อมท่อไอเสียแบบคู่ที่อยู่ริมนอกสุด เพื่อป้องกันอันตรายจากความร้อนของไอเสียขณะยืนเก็บของที่ท้ายรถ พร้อมล้อแม็กขนาด 19 นิ้ว ในรุ่น 2.5 S/ XDL และ 17 นิ้ว ในรุ่น 2.0 C/2.0 S
ภายในพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแท้สีดำแซมด้วยสีเงินปรับได้ 4 ทิศทาง คอนโซลหน้าสีดำเข้มหุ้มด้วยหนังแท้โดยใช้ผ้าชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ลดการสะท้อนแสงแดดด้วยโทนสีดำและไม่มีวัสดุสีสว่าง ที่เป็นอันตรายต่อการสะท้อนเวลาขับขี่ ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้นอีกระดับ แป้นเหยียบคันเร่งแบบตั้งขึ้นจากพื้นสไตล์รถยุโรป ทำมุมกับส่วนฝ่าเท้าได้พอดีควบคุมได้แม่นยำขึ้น ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา คัน เกียร์แบบขั้นบันได เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 5.8 นิ้ว เล่นได้ทั้ง CD/MP3/USB/AUX และ Bluetooth พร้อมกล้องกะระยะเมื่อถอยหลังจอด ลำโพงจาก BOSE 9 ตำแหน่ง ในรุ่น 2.5 S/ XDL ทันสมัยด้วย ปุ่ม Push Start Button ในทุกรุ่นย่อย
เบาะคู่หน้าทรงกึ่งสปอร์ต กระชับแต่นุ่มสบายหุ้มด้วยหนังแท้เดินด้ายสีแดง ปรับด้วยไฟฟ้าในด้านคนขับ และเบาะตอนหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 พร้อมปุ่มควบคุมที่ห้องสัมภาระด้านหลัง
มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอ็คทีฟ-จี SKYACTIV-G เทคโนโลยีสกายแอ็คทีฟ สร้างกำลังอัดได้สูงกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป พร้อมลดน้ำหนักของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เพื่อลดภาระ โหลดที่สูญเสียโดยไม่จำเป็น ออกแบบหัวลูปให้เว้าเพื่อกำหนดตำแหน่งของการจุดระเบิดที่หัวของลูกสูบได้แม่นยำ ออกแบบระบบท่อไอเสียใหม่แบบ 4-2-1 เพื่อลดแรงดันไอเสียในแต่ละสูบย้อนกลับไปสู่กระบอกสูบอื่น ส่งผล ให้มีกำลังและประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า มีให้เลือก 2 ขนาดความจุ คือ
- เบนซิน 4 สูบ 1,998 ซีซี 16 วาล์ว Dual S-VT ระบบไอเสีย 4-2-1 กำลังอัดสูงถึง 14.0:1 จ่ายน้ำมันด้วยแบบไดเร็คอินเจ็คชั่น 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อ หน้า
- เบนซิน 4 สูบ 2,488 ซีซี 16 วาล์ว Dual S-VT ระบบไอเสีย 4-2-1 กำลังอัดสูงถึง 13.0:1 จ่ายน้ำมันด้วยแบบไดเร็คอินเจ็คชั่น 192 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 256 นิวตันเมตร ที่ 3,250 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อ หน้า
SKYACTIV-D เครื่องยนต์เทคโนโลยีที่พัฒนาในทุกด้านเช่นเดียวกับสกายแอ็คทีฟ-จี แบบดีเซลคอมมอลแรล 4 สูบ 2,191 ซีซี 16 วาล์ว VVL เทอร์โบ กำลังอัดสูงสุด 14.0 : 1 จ่ายน้ำมันด้วยแบบไดเร็ค อินเจ็คชั่น 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ
SKYACTIV-DRIVE รวมทุกข้อดีในหนึ่งเดียว
เกียร์อัตโนมัติสกายแอ็คทีฟออกแบบในส่วนของระบบตัดต่อกำลังใหม่เพื่อถ่ายทอดกำลังได้เต็มที่มากขึ้นกว่าเดิมถึง 89% น้ำหนักเกียร์เบาลง ควบคุมระบบกลไกการเปลี่ยนเกียร์ด้วยไฟฟ้า ลดภาระของ ปั๊มแรงดันภายในเกียร์ เพิ่มความแม่นยำในการเปลี่ยนจังหวะ การออกตัวและเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้น เป็นการรวมข้อดีทั้งระบบ CVT, DUAL-CLUTCH และแบบปกติเข้าด้วยกัน ส่งผลให้ประหยัดเพิ่มขึ้นอีก 4-7 %
SKYACTIV-BODY โครงสร้างที่เน้นจุดเชื่อมต่อให้เป็นชิ้นเดียวกัน น้ำหนักเบาลงถึง 8% แข็งแรงขึ้น 30% สามารถกระจายและดูดซับแรงกระแทกที่เกิดจากการชนเพื่อคงสภาพห้องโดยสาร ลดภาระของเครื่องยนต์ทำให้ประหยัดมากขึ้น
SKYACTIV-CHASSIS ระบบช่วงล่างออกแบบใหม่ทั้งหมด ลดน้ำหนักชิ้นส่วนลงได้ถึง 14% ปรับอัตราทดพวงมาลัยใหม่ควบคุมได้แม่นยำมากขึ้น ออกแบบจุดยึดปีกนกด้านหลังใหม่ให้มี ระดับสูงขึ้น แต่ตัวสวิงอาร์มมีความโค้งลงจากจุดยึด แล้วจึงตรงไปยังจุดของดุมล้อ เพื่อลดแรงเหวี่ยงขณะเลี้ยวหรือเบรกเต็มแรงไม่ให้ส่วนท้ายยกลอยขึ้นและถ่ายน้ำหนักไปทางด้านหน้า ทำให้แก้อาการท้ายลอยได้มากขึ้น ส่ง ผลให้เมื่อเบรกเต็มแรงสามารถควบคุมทิศทางของรถได้ตามต้องการ เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงเพิ่มขนาดของคานกลางให้ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังออกแบบรูปทรงที่ลู่ลมและลดการเกิดเสียงลมปะทะ โดยมีค่า สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (CD) เพียง 0.33 นับว่าต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ในเรื่องอัตราเร่งของ CX-5 ดูเหมือนว่าขนาดและน้ำหนักจะไม่มีผลต่อความแรงของเครื่องยนต์ตัวนี้เลย เมื่อถนนโล่งได้ทดสอบออกตัวโดยเหยียบคันเร่งแบบจมมิด ให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องยนต์ที่มี ระบบไลท์-เทอร์โบ แม้ว่าจะมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ช่วยเอาไว้ แต่ก็ยังได้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตดิบๆ เสียงเครื่องยนต์คำรามเบาๆ พอให้ได้ยินอารมณ์สปอร์ตอยู่บ้าง บวกกับระบบคายไอเสียแบบเฮดเดอร์ที่มีอาการรอ รอบเพียงเล็กน้อยก่อนจะพุ่งตัวอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกตัวอีกที่เข็มความเร็วชี้ไปที่ 160 กม./ชม. อย่างรวดเร็ว จนเมื่อการจราจรเริ่มหนาแน่นก็ลดความเร็วด้วยการทดสอบเหยียบเบรกแบบเกือบเต็มแรง แป้นเบรกตอบสนองดีมาก นุ่ม แต่ไม่ต้องออกแรงและลึกมาก สามารถหยุดรถได้อย่างนุ่มนวลมั่นใจ และเมื่อคงความเร็วไว้ที่ 80 กม./ชม. เร่งต่อเนื่องขึ้นไปจนถึง 140 กม./ชม. ใช้เวลาสั้นๆ ประมาณ 7-8 วินาที เสียดายที่ความเร็วสูงสุดไม่สามารถทดสอบได้ ครับ เพราะการจราจรไม่เหมาะที่จะขับเกิน 140 กม./ชม.
มาสด้า CX-5 รุ่นที่ทดสอบเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ดังนั้นอัตราบริโภคน้ำมันย่อมมากตามขนาดซีซี แต่หากเปรียบเทียบกับรถที่มีเครื่องยนต์ระดับเดียวกันในตลาดคู่แข่งนั้น นับว่าประหยัดในระดับ ต้นๆ จากการทดสอบในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลักทั้งเส้นทางที่การจราจรติดขัด และบางช่วงทางโล่งระยะสั้นๆ ทำให้ลักษณะการขับครั้งนี้ไม่สามารถวิ่งแช่ความเร็ว 80-120 กม./ชม.ได้ยาวๆ ส่วนมากจะติดสลับหยุดนิ่ง ช่วงในตัวเมืองและช่วงถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 20 กว่าๆ ซึ่งกำลังปรับปรุงผิวถนน ทำให้รถติดยาวสลับนิ่งกว่าจะผ่านช่วงนี้ก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงเป็นการขับทดสอบในลักษณะใช้งานในเมืองจริงๆ ดังนั้นอัตราสิ้น เปลืองน้ำมันเฉลี่ยย่อมเป็นการใช้งานจริงล้วนๆ ครับ สำหรับความเร็วที่ 80 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 1,500 รอบ/นาที และที่ 120 กม./ชม. ใช้เพียง 1,800 รอบ/นาที เท่านั้น นับว่าประหยัดได้มาก
วันทดสอบ ตัวเลขบนหน้าปัดมาสด้า CX-5 บอกค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมัน 13.2 ลิตร/100 กม. หรือเท่ากับ 7.6 กม./ลิตร จากระยะทางทดสอบทั้งหมด 131 กม. อาจดูแล้วน่าตกใจ แต่การใช้งานใน ลักษณะการจราจรหนาแน่น แม้รถระดับเดียวกันที่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ก็ทำตัวเลขประหยัดสูงสุดได้ราวๆ 9 -12 กม./ลิตร เท่านั้น แต่ในมาสด้า CX-5 ความจุเพิ่มมากอีกเป็น 2.5 ลิตร นับว่าไม่ดุดันสักเท่าไหร่ อยู่ใน ระดับกลางๆ และอาจประหยัดกว่ารถระดับเดียวกันที่เครื่องยนต์ใกล้เคียงกันอีกด้วย
อัตราสิ้นเปลืองจากบริษัท มาสด้าที่ญี่ปุ่นได้ทดสอบในทุกรุ่นได้ดังนี้
- มาสด้า CX-5 เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 16.4 กม./ลิตร
- มาสด้า CX-5 เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 15.2 กม./ลิตร
- มาสด้า CX-5 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 18.6 กม./ลิตร
ส่วนในประเทศไทยทางผู้ผลิตไม่ได้แจ้งตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองอย่างเป็นทางการ และเราไม่ทราบลักษณะการทดสอบของมาสด้าที่ญี่ปุ่นว่าทำกันอย่างไร แต่ทริปนี้เป็นการใช้งานในชีวิตประจำวันจริงแท้ แน่นอน ดังนั้นตัวเลข 7.6 กม./ลิตร ก็ยังพอรับได้สำหรับรถเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี
ที่นั่งผู้ขับ/ผู้โดยสาร เมื่อได้นั่งเบาะผู้ขับที่หุ้มด้วยหนังแท้ ให้ความรู้สึกโอบกระชับเหมือนขับรถสปอร์ต ซึ่งภายในมาสด้าออกแบบได้โดนใจมาก เพราะมีกลิ่นอายของรถสปอร์ตแนวยุโรปปะปน อยู่ การจัดวางอุปกรณ์การใช้งานสะดวกและให้ผู้ขับเป็นศูนย์กลาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันควบคุมระบบเครื่องเสียงและจอแสดงผลอัจฉริยะที่หุ้มหนังแท้สลับวัสดุโครเมียมยิ่งรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่รถ SUV แผงประตูออกแบบได้ลงตัว โดยเฉพาะที่จับด้านในแนวเดียวกับรถยุโรประดับรุ่นสูงๆ ตำแหน่งหัวเกียร์ และการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นแบบขั้นบันไดอยู่ต่ำลงมาเล็กน้อยเพื่อให้พื้นที่ช่วงระบบเครื่องเสียงและแผงควบคุมระบบปรับอากาศได้สะดวก แผงมาตร วัดแบบทรงกลม 3 ช่องสะดุดตาพร้อมกรอบโครเมียมมองเห็นได้ชัดเจน ตำแหน่งที่นั่งตอนหลังออกแบบให้ระดับหัวเข่าชันขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดแรงเหวี่ยงเมื่อรถเบรกกะทันหันทำให้ผู้โดยสารสามารถทรงตัวได้อย่างถูกสรีระ และ ยังสอดปลายเท้าที่ใต้เบาะหน้าเพื่อความผ่อนคลายเมื่อเดินทางไกลๆ
ทัศนวิสัย ส่วนฝากระโปรงหน้าที่มีช่วงไม่ยาวมาก ทำให้กะระยะเลี้ยวในทางแคบๆ ได้สบาย สำหรับตำแหน่งผู้ขับสามารถมองเห็นได้รอบตัวรถ แม้ส่วนกระจกด้านหลังจะดูแคบ แต่ก็ไม่เป็น ปัญหา การกะระยะ มุมมองของกระจกส่องหลังเห็นทั่วบริเวณกระจกด้านหลังและเห็นทางด้านซ้ายของตัวรถ ช่วยเพิ่มความแม่นยำในจังหวะเปลี่ยนเลน กระจกมองข้างทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจนติดตั้งที่ประตู โดยออกแบบให้มีช่องระหว่างกระจกเพื่อให้มองเห็นลอดผ่านในมุมที่กำลังเลี้ยวโดยไม่ต้องชะโงกหน้ามอง มุมมองส่วนทางด้านหลังแม้ตัวรถจะถูกยกสูง แต่ระดับการมองเห็นแทบไม่ต่างกับรถปกติ มาสด้า CX-5 รุ่นนี้ขับง่าย สะดวกทุกมุมมองไม่แตกต่างจากรถเก๋ง
มาสด้า CX-5 ให้การตอบสนองและควบคุมที่ดีมากแม่นยำและง่าย ด้วยพวงมาลัยที่มีน้ำหนักความหนืดที่พอดี ไม่หนักที่ความเร็วต่ำและไม่เบาหวิวในความเร็วสูง สามารถควบคุมได้ฉับไว แม้ขณะ จอดนิ่งและออกตัวพร้อมหักพวงมาลัยอย่างรวดเร็วเพื่อเปลี่ยนช่องทางอย่างกะทันหันก็ทำได้ไม่ยาก CX-5 ให้ความคล่องตัวแบบเดียวกับรถเก๋ง เมื่อลองเข้าโค้งที่ความเร็วระดับ 60 - 80 กม./ชม. ทำได้ดีมาก โดยมีความหนึบ ตามทิศทางที่บังคับพวงมาลัย ในส่วนของคันเร่งที่ออกแบบมาให้จุดหมุนตั้งกับพื้นทำให้วางเท้าสบายและผ่อนแรง โดยไม่ต้องออกแรงกดมากเพียงเบาๆ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 192 แรงม้า ก็พาตัวถังหนัก 1,521 กิโลกรัม ปลิวไป อย่างนิ่มๆ ความรู้สึกเหมือนเรากำลังขับรถสปอร์ตคันเล็กๆ ที่ทุกอย่างดูเบาๆ ควบคุมง่ายไปหมด ไม่รู้สึกเกร็งแต่อย่างใด พร้อมกับความนุ่มแต่หนึบของระบบช่วงล่าง Skyactiv ที่ตอบสนองได้ดี โดยขณะออกตัวแรงๆ ตัวรถก็ไม่ เอียงไปทางด้านหลังมากนัก ในจังหวะเปลี่ยนช่องทางที่ความเร็วสูงก็ไม่มีอาการโคลงเคลงให้ขาดความมั่นใจ และยังรู้สึกว่ามั่นใจและปลอดภัยกว่า เพราะระบบความปลอดภัยที่ติดรถมาบอกได้ว่าครบทุกฟังก์ชัน เทียบได้เท่ากับ รถยุโรปบางรุ่นราคาหลายล้าน
ส่วนของที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังออกแบบให้ใช้งานได้หลายรูปแบบและเป็นครั้งแรกที่เบาะแยกเป็น 3 ส่วน 40-20-40 มีตรงกลางที่พับลงมาเพื่อขนสิ่งของลักษณะยาวให้ลอดผ่านช่องกลางของเบาะ หลังได้ ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ฝาปิดสัมภาระท้ายออกแบบให้มองเห็นเมื่อกระโปรงท้ายถูกเปิดขึ้น เพื่อมองเห็นภายในห้องโดยสารขณะทำธุระด้านท้ายรถ และไม่ต้องกลัวความร้อนจากท่อไอเสีย เพราะมาสด้า CX-5 ได้ติด ตั้งปลายท่อคู่ไว้ริมซ้าย-ขวาเพื่อป้องกันไอร้อนเอาไว้เรียบร้อย
ระบบปรับอากาศ การใช้งานระบบแอร์ง่ายมากเนื่องจากเป็นแบบอัตโนมัติ เมื่อเข้ามาในรถ เหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ต จากนั้นก็กดปุ่ม "AUTO" เพียงเท่านี้ ระบบจะปรับอุณหภูมิภายในรถ อัตโนมัติ หรืออยากปรับแยกฝั่งซ้าย-ขวาก็ย่อมได้ และไม่ว่าสภาพอากาศในวันที่ทดสอบจะร้อนขนาดแค่ไหน เมื่ออยู่ใน CX-5 คันนี้ก็เย็นสบายครับ แม้จอดรถตากแดดพักทานอาหารไว้สัก 25-30 นาที เมื่อเข้ามาในรถที่ร้อนระอุ แต่เมื่อขับเปิดแอร์ไปสักครู่ ก็เริ่มเย็นฉ่ำทั่วทั้งคัน
เสียงรบกวนภายนอก มาสด้า CX-5 ใช้ชิ้นส่วนในการประกอบที่แน่นหนาและเก็บงานได้เรียบร้อย ทำให้เสียงจากภายนอกเล็ดรอดเข้ามาได้น้อยมาก และจากการออกแบบตามหลักอากาศ พลศาสตร์ที่มาสด้าเน้นว่ามีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (CD) เพียง 0.33 เท่านั้น นับว่าดีที่สุดในระดับเดียวกัน เมื่อขับที่ความเร็วสูงแทบไม่มีเสียงลมปะทะกับตัวรถ แม้ขณะเร่งเครื่องยนต์รอบสูงประมาณ 6,000 รอบ/นาที แบบคิกดาวน์ก็ได้ยินเบาๆ พอได้อารมณ์ดุๆ แต่ไม่รบกวนการสนทนาหรือฟังเพลงในรถเลย
อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ระบบเครื่องเสียงเป็นจอสัมผัส 5.8 นิ้ว เล่น CD/MP3/FM/AM เชื่อมต่อ USB/AUX และBluetooth พร้อมลำโพงระดับ Hi-End 9 ตำแหน่ง จาก BOSE สุดยอดลำโพง ระดับโลก สามารถควบคุมเครื่องเสียงได้ด้วยปุ่มบนพวงมาลัย และยังแสดงภาพจากกล้องมองหลังได้ด้วย
Mazda CX-5 ใหม่ ออกแบบรูปลักษณ์ได้กลมกลืนระหว่างรถ SUV และสปอร์ต ทำให้ Mazda CX-5 เป็นรถแนวลุยที่ดูขนาดไม่ใหญ่จนเกะกะหรืออุ้ยอ้าย จากแนวคิด "จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ของ KODO" ทำให้รถมีความกะทัดรัด คล่องตัว โดยไม่เสียอรรถประโยชน์แถมด้วยความกว้างขวางสะดวกสบาย ส่วนของไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ กระจังหน้าและกรอบไฟตัดหมอกใช้วัสดุโครเมียมตัดกับสีรถได้สวยงาม และตรง ชายกันชนหน้าตัดด้วยสีเงิน ไฟท้ายทรงเหลี่ยมเรียวเล็กยาวตามแนวนอนจากเส้นสายด้านข้าง กันชนท้ายพร้อมไฟตัดหมอกและโดดเด่นด้วยดิฟฟิวเซอร์ตัดด้วยสีเงิน
ภายในถอดแบบดีไซน์จากรุ่นพี่อย่างมาสด้า 6 ล้ำสมัย และยังออกแบบให้คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังแท้ชิ้นเดียวสีดำ และไม่ใช้วัสดุสีที่มีความสว่างตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อลดแสงสะท้อนที่จะเข้าตาผู้ขับ ลดการเกิดอุบัติเหตุได้ดี เบาะนั่งทุกจุดเป็นทรงกึ่งสปอร์ต กระชับลำตัวเมื่อเข้าโค้งแรงๆ และมีลายของหนังที่สวยงาม
มาสด้า CX-5 มาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มคัน เริ่มที่ไฟหน้าปรับระดับสูงต่ำตามน้ำหนักบรรทุก และปรับมุมตามการเลี้ยวอัตโนมัติ ซึ่งในวันทดสอบนั้นได้ลองขับในที่มืดก็สังเกตเห็นการขยับของ ลำแสงได้ตามการหมุนของพวงมาลัย มีระบบเซ็นเซอร์หน้า-หลังถึง 4 จุด กะระยะได้แม่นยำขึ้น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ลูก กุญแจนิรภัย (Immobilizer) และสัญญาณกันขโมย (Burglar Alarm) กล้องมองหลัง ระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อรถเคลื่อนที่ ระบบป้องกันล้อล็อค (4W-ABS)
พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบช่วยเบรก (BA) ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) ระบบควบคุมเกียร์ AAS (Active Adaptive Shift) ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System) ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitoring System) เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งคู่หน้า 3 จุด 2 ตำแหน่งแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner & Load Limiter) เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งแถวหลัง 3 จุด 3 ตำแหน่งคานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง พวงมาลัยยุบตัวแปรผันตามการทำงานของถุงลมนิรภัย แป้นเบรกยุบตัวได้ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ไฟเบรก ดวงที่ 3 แบบ LED และโครงสร้าง SKYACTIV-BODY แข็งแรงขึ้น 30% กระจายแรงปะทะสู่รอบโครงสร้างเพื่อลดแรงกระแทกของผู้โดยสารได้มากขึ้น และน้ำหนักเบาลง 8%
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
Mazda CX-5 Sport SUV พันธุ์ใหม่ รถครอสโอเวอร์ในคราบสปอร์ต ที่ใช้เทคโนโลยี SKYACTIV ทุกรายละเอียดเหนือกว่ารถระดับเดียวกัน ทั้งการลดน้ำหนักตัวรถลง เครื่องยนต์และระบบเกียร์ SKYACTIV ที่ประหยัด ทรงพลังและทันสมัยที่สุด ช่วงล่าง SKYACTIV ที่ออกแบบลดการอาการโยนตัวได้มากขึ้น ควบคุมการทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น น้ำหนักเบาลงอีก 14% อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิงหลากหลาย ครบครันเกินค่าตัว และระบบความปลอดภัยที่หาในรถระดับเดียวกันได้ยาก
มั่นใจในการให้บริการหลังการขายด้วยการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม.(แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน) การรับประกันอะไหล่แท้จากมาสด้า 1 ปี หรือ 20,000 กม. อุ่นใจด้วยบริการช่วยเหลือฉุก เฉิน 24 ชม.ฟรี เป็นระยะเวลา 3 ปี
MAZDA CX-5 SKYACTIV พร้อมให้คุณสัมผัสที่โชว์รูมมาสด้าทุกแห่ง หรือที่โชว์รูมมาสด้า ไทยยานยนตร์ พระราม 9 จำกัด (ในเครือบริษัท ไทยยานยนตร์ เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด) โทร.02-716-9777