ล่องใต้กับ TOYOTA NEW YARIS
แม้จะเปิดตัวรถอีโคคาร์ช้ากว่าชาวบ้าน แต่ค่ายสามห่วงก็ยังคงมีทีเด็ดทีขาด เมื่อปล่อย New Yaris Eco ยนตรกรรมคนเมืองรุ่นล่าสุดที่หลายคนรอคอย เวอร์ชั่นสุดติ่งของรถยนต์ราคาประหยัดกับดีไซน์ใหม่หมดจดตั้งแต่หน้ายันท้าย รูปแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู บนเรือนร่างที่ถูกขยายออกไปในทุกสัดส่วนเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น รถ Toyota New Yaris ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางความสำคัญของการพัฒนารถยนต์ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรากฏตัวของ New Yaris ในช่วงปลายปี สร้างกระแสร้อนแรงของรถ Eco Car ราคาประหยัดที่เริ่มจะซบเซาหลังจากโครงการรถคันแรกของรัฐบาลสิ้นสุดลง
ทรง 5 ประตูของ New Yaris ถูกขยายออกไปทุกสัดส่วน มิติตัวถังภายนอกเมื่อมองดูจากสายตาจะพบว่ามันมีขนาดที่โตขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมาอยู่พอสมควร ตัวถังมีความยาว 4,115 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร และกว้าง 1,700 มิลลิเมตร ด้านหน้าแปลกตาด้วยกระจังหน้าใหม่ที่ปรับเปลี่ยนจากรุ่นที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์มีดีไซน์ที่เชื่อมโยงกับฝากระโปรงหน้าอย่างลงตัว กระจังแบบใหม่ที่กลมกลืนไปกับไฟหน้าและชุดกันชนใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู สปอยเลอร์หน้าที่ครอบปิดส่วนหน้าทั้งหมด หน้าตาที่ดูจริงจังขึ้นมากจากการปรับดีไซน์ใหม่หมดทั้งคันทำให้มันกลายเป็น Yaris เวอร์ชั่นที่ถูกส่งขายในจีนและประเทศไทยรวมถึงบางประเทศในแถบเอเชีย รถ Toyota Yaris Eco ใส่ล้ออัลลอยลาย 7 ก้าน สีเงิน ขอบ 15 นิ้ว กับยาง 185/60R15 เป็นยางมาตรฐานในรุ่น G/E สำหรับบานประตู มือจับพลาสติกสีเงินโครเมียมตัดกับสีของรถแบบสปอร์ต กระจกมองข้างมีเลนส์ไฟเลี้ยว เพิ่มมุมมองด้านความปลอดภัยขณะเปลี่ยนช่องทาง
ด้านข้างของ Yaris มีมุมมองที่ลงตัวจากเส้นนำสายตาที่ลากจากแก้มข้างไปจนถึงไฟท้าย เสาหน้าเอียงลาดมากกว่ารุ่นที่แล้ว องศาที่เอนมากขึ้นมาอีกนิดช่วยในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ แนวผืนหลังคาด้านบนค่อยๆ ลดมุมองศาลงมาจดกับประตูบานฝาท้ายได้อย่างกลมกลืน จากชิ้นงานพลาสติกสีดำที่ปิดทับเอาไว้ในตำแหน่งเสาหลัง สปอยเลอร์หลังมีเหลี่ยมมุมแบบคางหมูสอดรับกับประตูบานฝาท้าย ชายล่างของสปอยเลอร์หลังยังมีแผ่นพลาสติกสะท้อนแสงช่วยให้การขับหรือจอดตอนกลางคืนมีความปลอดภัย ฝาท้ายมีกระจกบานเล็กกับใบปัดน้ำฝนด้านหลังและขดลวดละลายฝ้า รวมถึงไฟเบรกดวงที่สามซึ่งใช้หลอดแอลอีดีเพิ่มความชัดเจนขณะเบรก เหนือกรอบทะเบียนมีคิ้วพลาสติกสีเงิน ด้านหลังเป็นมือจับที่เปิดประตูบานฝาท้าย สำหรับพื้นที่เก็บของส่วนท้ายมีความยาวรวม 734 มิลลิเมตร ยาวกว่าเดิมอีก 140 มิลลิเมตร ทำให้มีปริมาตรความจุ 326 ลิตร
ห้องโดยสารคล้ายคลึงกับ Toyota Vios จากการแชร์ชิ้นส่วนบางชิ้นที่ใช้ร่วมกับคอนโซลกลางสีดำ ทำจากพลาสติกขึ้นรูปทั้งชิ้น ออกแบบโดยมีมุมมองคล้ายกับใช้หนังห่อหุ้ม หากไม่เอามือไปสัมผัส หน้าปัดมาตรวัดขนาดใหญ่ ย้ายตำแหน่งจากกึ่งกลางคอนโซลในรุ่นที่ผ่านมาโดยชิ้นงานหน้าปัดทั้งหมดจะอยู่ตรงหน้าคนขับคล้ายกับ New Vios มาตรวัดรอบและความเร็ว มาตรวัดระดับเชื้อเพลิงทำออกมาเป็นทรงกระบอกซ้อนกันสามวงอยู่ในกรอบหน้าปัด แผงควบคุมระบบให้ความบันเทิงที่รวมเอาวิทยุ CD/MP3 USB/AUX มีโปรแกรมรองรับการแสดงผลเป็นภาษาไทยที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น ช่องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก iPod อยู่บนชุดเครื่องเสียงบริเวณด้านซ้ายไม่ได้เก็บซ่อนไว้เหมือนรถอื่นๆ ที่มักจะนำไปไว้ยังตำแหน่งพนักเท้าแขนหรือช่องเก็บของด้านผู้โดยสารตอนหน้า
เบาะนั่งแบบสปอร์ต ตัดเย็บจากผ้าโทนสีเข้มเพื่อเน้นบรรยากาศความน่าขับ สำหรับวงพวงมาลัยแบบสามก้านหุ้มด้วยหนังแท้สีเทาดำ ก้านวงมีสวิตช์ปรับเครื่องเสียงพวกระดับของเสียงและเลือกเล่นเพลง พวงมาลัยของ New Yaris Eco ใช้กลไกไฟฟ้าในการทำงานโดยใช้ปั๊มไฟฟ้าแปรผันน้ำหนักไปตามความเร็ว ซุ้มเกียร์แบบร่องออกแบบให้คันเกียร์ และหัวเกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการยึดจับใช้งาน ระยะห่างระหว่างผู้โดยสารตอนหน้า-หลัง 912 มิลลิเมตร ทำให้การวางเท้าของผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่พอเพียง รวมถึงพื้นที่บริเวณเหนือศีรษะที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ มีมาให้เท่าที่จะสามารถยัดใส่ลงไปได้ เช่น ที่วางแก้วน้ำผู้โดยสารตอนหน้า ที่วางแก้วน้ำในตำแหน่งคนขับ ช่องเก็บของด้านหน้าซุ้มเกียร์ ช่องเก็บของอเนกประสงค์ด้านหน้าของผู้โดยสารตอนหน้า ที่วางแก้วบริเวณคอนโซลกลาง พื้นที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสารตอนหลังยังมีลักษณะที่เรียบ
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ แผงประตูดีไซน์เข้ากับรูปแบบของห้องโดยสาร แม้ New Yaris จะใช้พลาสติกเกรดปานกลางแต่งานออกแบบและการจัดวางอุปกรณ์ค่อนข้างออกมาในแบบ เอาใจคนส่วนใหญ่ สำหรับระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร เป็นแบบอัตโนมัติพร้อมด้วยจอแสดงผล แอลซีดีขนาดเล็กสีแดง ปุ่มควบคุมอุณหภูมิแบ่งโซนการทำงานแยกออกจากกัน สำหรับจอแสดงผลการขับขี่หรือ MID จะแสดงข้อมูลในการขับขี่ใช้งาน เช่น ระยะทางรวม Trip A / Trip B / ระยะทางที่สามารถไปถึงจากเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ในถัง อัตราการใช้เชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงขณะขับและความเร็วเฉลี่ย
ขุมกำลังใหม่ของ Toyota New Yaris Eco เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT-i ปรับจูนจังหวะของการจุดระเบิดรวมถึงจังหวะของการเปิด-ปิดวาล์วไอดีและวาล์วไอเสียแบบแปรผันไปตามความเร็วรอบ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์มาตรฐานมลพิษ EURO-4 ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,197 ซีซี รหัสเครื่องยนต์กำหนดโดย Toyota - 3NR-FE กระบอกสูบคูณช่วงชักที่ 72.5 มิลลิเมตร x 72.5 มิลลิเมตร เป็นการวางความกว้างกับช่วงชักแบบสมมาตร อัตราส่วนกำลังอัดที่ 11.5:1 แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 11.0 กิโลกรัมเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายเชื้อเพลิงหัวฉีดไฟฟ้า EFI ระบบส่งกำลังวางเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมกลไก Shift Lock ระบบรองรับช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้กอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนชุดรองรับด้านหลังหรือกันสะเทือนหลังของ New Yaris เป็นแบบ ทอร์ชั่นบีม สปริงและเหล็กกันโคลง
New Yaris Eco ออกแบบแชสซีโดยคำนึงถึงการควบคุมที่ดีขึ้น ตัวถังผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลมเพื่อทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของอากาศ ดีขึ้นด้วยการปรับลดสัดส่วนความสูง ดีไซน์ของหลังคาแบบ Catamaran เพื่อการไหลเวียนของกระแสอากาศที่ดี ลดแรงปะทะของกระแสลม การติดตั้งครีบ Fin บริเวณกระจกมองข้างและไฟท้ายช่วยทำให้ลมไหลผ่านบริเวณด้านข้างขณะวิ่งด้วย ความเร็วสูงสามารถไหลได้ดีขึ้น โครงแชสซีมีการเพิ่มเติมจุดเชื่อมต่อเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง โครงสร้างแบบ GOA ออกแบบให้มีการดูดซับแรงกระแทกจากการชน ระบบความปลอดภัย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบกลไกดึงกลับอัตโนมัติ เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL Whiplash Injury Lessening กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS Theft Deterrent System
มีให้เลือก 7 สี ได้แก้
- สีส้ม.. Orange Metallic (New)
- สีแดง.. Red Mica Metallic (New)
- สีฟ้า.. Frozen Blue Metallic (New)
- สีเทา.. Gray Metallic
- สีขาว.. Super white
- สีเงิน.. Silver Metallic
- สีดำ.. Attitude Black Mica
เช้าวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2556 เครื่อง Airbus A320 ของสายการบินไทยสมายล์ ซึ่งบินตรงจากเชียงใหม่ลงไปยังจังหวัดภูเก็ตร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตเอาเมื่อเวลาประมาณ 09.45 น. เป็นการบินรวดเดียวยาว 2 ชั่วโมงบนน่านฟ้าของประเทศไทยโดยไม่แวะสุวรรณภูมิมายังหัวเมืองชายทะเลอันสวยงามในฝั่งอันดามัน เพื่อนำสื่อมวลชนมาร่วมลงทดสอบ
Toyota New Yaris Eco รถยนต์ราคาประหยัดของค่ายสามห่วงที่เพิ่งจะเปิดผ้าคลุมไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากขับทดสอบ
Ford EcoBoost เสร็จในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน ในเช้าวันรุ่งขึ้น สื่อมวลชนสายยานยนต์จำนวน 13 คนก็ต้องจับเครื่องบินกลับลงมาทดสอบประสิทธิภาพของรถยนต์ในโครงการ
Eco Car คันแรกของค่าย Toyota เป็นสัปดาห์ที่มีการเชิญสื่อมวลชนขับทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่ของแต่ละบริษัทซึ่งชุกชมมากที่สุดติดๆ กันมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคมโดยจะลากยาวไปจนถึงช่วงกลางเดือนธันวาคม สำหรับสื่อที่ทำงานคนเดียวกับการเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ไม่หยุดหย่อน เริ่มออกอาการงกๆ เงิ่นๆ จากความล้าที่สะสมมาหลายทริป
10.30 น. ผมยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าโชว์รูม Toyota Next สถานที่แห่งนี้คือโชว์รูมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Toyota ที่ใหญ่ที่สุดในเขตจังหวัดภูเก็ต สำหรับ New Yaris Eco กับการสลัดคราบรถแฮทช์แบคที่น่ารักน่าชังในรุ่นก่อนหน้ามาเป็นยนตรกรรม Eco Car หน้าตาจริงจังขึงขังมากขึ้น บวกกับราคาที่ไม่แพงจนเกินเอื้อมนับว่าเป็นการทำตลาดอย่างชาญฉลาดของ Toyota Motor Thailand แม้จะออกขายช้าไปนิดและไม่ทันกับโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล แต่
New Yaris ก็อยู่ในความสนใจของผู้คนมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนการเปิดตัว รถ New Yaris รุ่นล่าสุดเมื่อสังเกตดูให้ดีจะพบว่ามันมีมิติตัวถังโตขึ้นในทุกสัดส่วน เรือนร่างภายนอกวัดจากขนาดความกว้างของตัวถังที่ 1,700 มิลลิเมตร ยาว 4,115 มิลลิเมตร และสูง 1,475 มิลลิเมตร ส่งผ่านรูปลักษณ์แบบ 5 ประตูที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด หน้ากระจังกับไฟหน้าทรงแปลกตาสื่อให้เห็นถึงแนวทางการออกแบบของค่ายสามห่วง ที่เชื่อมโยงกันเกือบทุกโมเดลในปัจจุบัน และเกี่ยวโยงไปถึง Lexus จากรูปแบบของหน้ากระจังลักษณะนี้ที่กำลังระบาดอยู่ในรถโมเดลใหม่ ๆ ของค่ายสามห่วง โดยภาพรวม ทรงของรถ New Yaris Eco ดูดีขึ้นในทุกๆ มุมมองโดยเฉพาะด้านข้างกับแนวหลังคาที่ต่อเนื่องไปกับเสาท้ายได้อย่างลงตัว
เส้นทางที่ใช้ทดสอบในวันนี้เป็นทางหลวงจังหวัดภูเก็ตที่เชื่อมต่อกับจังหวัดกระบี่ จากโชว์รูม Toyota Next ในจ. ภูเก็ตมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา และจุดแวะพักก่อนที่จะขับตรงไปยังโรงแรมเชอราตัน กระบี่ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบ
Toyota New Yaris รวมระยะทางของการทดสอบในกลุ่มแรก 167.5 กิโลเมตร ผมจับคู่กับน้องนัฐพงษ์ เดชสิงห์ นักข่าวจากสยามธุรกิจเหมือนเดิม หลังจากที่ร่วมกันควบเจ้า New Fiesta EcoBoost 1.0L ไปเมื่อวานที่ จ.เชียงใหม่ วันรุ่งขึ้นผมกับน้องอาร์ทและเพื่อนๆ สื่อมวลชนต้องบินจากเชียงใหม่ลงมายัง ภูเก็ตเพื่อให้ทันกับการลงทดสอบ New Yaris Eco เป็นกลุ่มแรก ระยะทางที่ค่อนข้างสั้นและความง่ายของเส้นทางทำให้ช่วยลดความอ่อนล้าลงไปได้บ้าง ประกอบกับการใช้ความเร็วของรถนำในกลุ่มรถทดสอบ New Yaris Eco ไม่สูงมากนัก ซึ่งวิ่งกันอยู่แค่ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สื่อมวลชนจึงพอมีเวลาที่จะผ่อนคลายขับกินลมชมวิว มากกว่าจะอัดไล่ตามกันอย่างไม่ลดละเหมือนกับตอนขับทดสอบ Ford Fiesta EcoBoost บนเส้นสะเมิงที่จะมุ่งไปยังเทือกเขาขุนตาล ไม้แรกสุดเป็นหน้าที่ของ นัฐพงษ์ เดชสิงห์ โดยจะควบเจ้า New Yaris Eco จากจุดสตาร์ตที่ด้านหน้าโชว์รูม Toyota Next ไปยังวนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา รวมระยะทางที่ อาร์ท-สยามธุรกิจ จะต้องขับในช่วงทดสอบภาคเช้า 109 กิโลเมตร
ห้องโดยสารที่คุ้นเคยของ
Toyota New Yaris ในรุ่นก่อนหายไปอย่างสิ้นเชิง ใน New Yaris Eco กับดีไซน์ภายในที่ถูกปรับเปลี่ยนตำแหน่งของมาตรวัดรอบและความเร็ว โดยย้ายกลับมาอยู่ตรงหน้าคนขับเหมือนรถแฮทช์แบค 5 ประตูทั่วไป ทำให้อารมณ์ความรู้สึกภายในห้องโดยสารของมันไปคล้ายกับ New Vios ทั้งรูปแบบของคอนโซล พลาสติกเกรดปานกลางและงานตกแต่งบางจุด เบาะหุ้มผ้าในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้านั่งได้สบายก้น และมีพื้นที่สำหรับการวางเท้าเพียงพอที่จะทำให้คุณนั่งโดยสารยาว ๆ แบบข้ามจังหวัดได้สะดวกโดยที่ไม่ปวดระบมก้นไปเสียก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทาง เบาะผู้โดยสารตอนหลัง มีพื้นที่พอแค่ได้อาศัย แต่ก็ยังถือว่ากว้างขวางกว่า Yaris รุ่นที่แล้ว พื้นที่เหนือศีรษะที่ไม่ได้มากมายอะไร จากการออกแบบแนวหลังคาด้านหลังที่มีลักษณะลาดเอนลดองศาลงมาทำให้รู้สึกคับแคบสำหรับคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่เกิน 180 เซนติเมตร แต่หากคุณมีเรือนร่างตามมาตรฐานชาย - หญิงไทยทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้สูงโย่งเหมือนฝรั่ง การนั่งโดยสารยังตำแหน่งเบาะผู้โดยสารตอนหลังของ New Yaris ก็ยังคงให้ความสบายอยู่พอสมควร เบาะหลังที่สามารถแยกพับได้ยังช่วยเพิ่มเติมพื้นที่ในการขนสัมภาระชิ้นโตอีก ด้วย
ราคา 4.7 แสนบาทในรุ่นถูกสุดกับ 5.9 แสนบาทในรุ่นสูงสุด มีความเหมาะสม และพอดิบพอดีกับระดับของสมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่ควบคุม ในรถยนต์ปัจจุบันที่มีราคาไม่ถึง 5 แสนบาท เจ้า
New Yaris Eco จะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของตัวเลือก เนื่องจากความสดใหม่และการบริการหลังการขายตลอดจนราคาขายต่อเป็นรถยนต์มือสองของค่ายสามห่วงที่ค่อนข้างอยู่ในอันดับต้น ๆ จากค่านิยมของคนไทยที่มีต่อแบรนด์ Toyota ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือรถเพื่อการพาณิชย์ ค่าย Toyota มักได้รับความไว้วางใจด้วยดีเสมอมา สำหรับ New Yaris Eco ซึ่งออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ การทำตลาดที่มีทิศทางควบคู่ไปกับการดูแลกลุ่มลูกค้านับเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ โดยจะเห็นได้จากตัวเลขยอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่องของ Toyota Motor Thailand
เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบแถวเรียง 4 สูบ 16 วาว์ล Dual VVT-i มีปริมาตรความจุเพียงแค่ 1197 ซีซี เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบสายพานหรือ Super CVT-i พร้อม Shift Lock เป็นระบบขับเคลื่อนของ
New Yaris Eco ที่ไม่ได้เน้นอัตราเร่งรุนแรงหรือกระโชกโฮกฮาก มันทำได้แค่ไปแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างหรูหราเอาการ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.4 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยทำให้เงินในกระเป๋าของคุณไม่หายไปเร็วนักกับการจ่ายค่าเชื้อเพลิง เกียร์ CVT-i ให้รสชาติแบบไหลไปเรื่อย เนียนๆ แบบปราศจากอาการกระตุกกระชาก ในบางจังหวะจะโคนคล้ายกับการขับรถไฟฟ้า ที่น่าเบื่ออยู่บ้าง รอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงมากจนเกินไปจากการปรับอัตราทดให้มีความพอดีกับระดับของความเร็วเดินทางบนไฮเวย์ด้วยเกียร์แบบนี้ เข้ามาเสริมเติมเต็มให้กับประสิทธิภาพของการบริหารเชื้อเพลิง การออกแบบตัวถังที่ถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ ได้ค่าตัวเลขสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ (cd0.29) สำหรับการเก็บเสียง ยังคงทำได้ตามระดับของราคาค่าตัวและวัสดุที่ใช้ห่อหุ้ม วิ่งด้วยความเร็วเดินทางย่าน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงของยางและลมที่ปะทะกับตัวถังยังคงมีเข้ามาให้พอได้ยินแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรจนก่อให้เกิดความรำคาญ
100 กิโลเมตรแรก สำหรับการทดสอบในภาคเช้าสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากรับประทานอาหารกลางวันซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองรสชาติเผ็ดร้อนตามสไตล์ปักษ์ใต้ที่วนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ขบวนรถทดสอบ
New Yaris Eco ทั้ง 13 คันก็ออกเดินทางต่อโดยขับติดๆ กันเป็นขบวนคาราวานเหมือนเดิม อาร์ท นัฐพงษ์ เดชสิงห์ เปลี่ยนมาเป็นผู้โดยสารส่วนผมเข้ามารับหน้าที่ขับต่ออีก 70 กิโลเมตรจากวนอุทยานอ่าวพังงาไปยังโรงแรมเชอราตันกระบี่ สภาพร่างกายที่เริ่มออกอาการล้าของน้องอาร์ททำให้ช่วงทดสอบที่สองในภาคบ่าย หมดไปกับการนอนหลับพักผ่อนบนรถทดสอบโดยมีผมนั่งประคองพวงมาลัยไหลตามรถคันนำ และทิ้งระยะห่างเพื่อความปลอดภัยเหมือนเดิม คันเร่งไฟฟ้าที่ออกอาการหยุ่นๆ ย้วยๆ ของ New Yaris Eco กำลังส่งความรู้สึกมาถึงผมทันทีที่เลี้ยวหัวรถขึ้นสู่ไฮเวย์ มันพยายามบอกกับผมว่าอะไรคือความหมายที่แท้จริงของรถยนต์แบบ Eco Car กำลัง 86 แรงม้าที่ดูเหมือนไม่ได้มากมายอะไรและออกจะน้อยเกินไปสักนิดสำหรับพวกเท้าหนักแลกกลับคืนด้วยความประหยัดอย่างที่บอก แรงบิด 11.0 กิโลกรัม-เมตร กับน้ำหนักตัวในรุ่นสูงสุด (รุ่น G) ที่ 1,040 กิโลกรัมถือว่าไม่หนักมากจนเกินไป แต่จะดีและกระฉับกระเฉงมากกว่านี้อย่างแน่นอนหากน้ำหนักตัวของมันลดลงได้ มากกว่านี้ที่ 950 กิโลกรัมซึ่งน่าจะสมน้ำสมเนื้อต่อระดับของย่านกำลังและแรงบิด
พวงมาลัยไฟฟ้าเชื่อมต่อระบบบังคับเลี้ยวเพื่อผลักดันล้อขับเคลื่อนคู่หน้าให้ไป ตามทิศทางที่ต้องการ มันให้ความรู้สึกถึงการเป็นยนตรกรรมในกลุ่มรถราคาถูกของค่ายสามห่วงอย่างชัดเจน มันไม่ถึงกับกระชับและแม่นยำสุด ๆ เหมือน GT86 เนื่องจากราคาค่าตัวต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ระบบบังคับเลี้ยวของ
New Yaris Eco ก็ให้ความรู้สึกที่มั่นคงได้ในระดับปานกลาง พวงมาลัยไฟฟ้าของรถขับเคลื่อนล้อหน้าในปัจจุบันโดยเฉพาะรถยนต์ Eco Car มักจะมีน้ำหนักที่เบามากจนเกินไป ทำให้ความรู้สึกของผู้ขับขี่ในย่านความเร็วสูงออกอาการไม่มั่นใจเท่าที่ควร แต่ New Yaris Eco ทำได้อย่างน่าพึงพอใจสำหรับอารมณ์ สัมผัสและความรู้สึกของคนขับหลังวงพวงมาลัยบนรถยนต์แนวอีโคคาร์ เมื่อหมุนพวงมาลัยจากจุดหยุดนิ่งเพื่อการถอยเข้า-ออก เจ้า New Yaris ให้สัมผัสที่เบาสบายมือในการขับเข้าหรือออกจากที่จอดรถแคบๆ กลายเป็นเรื่อง ที่สะดวก เมื่อพวงมาลัยมีน้ำหนักเบาในย่านความเร็วต่ำตั้งแต่ 0-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเริ่มหนืดขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อความเร็วทะลุเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สวิชต์มัลติฟังก์ชันที่ก้านวงด้านซ้ายมือคอยอำนวยความสะดวกเมื่อต้องปรับตั้งเครื่องเสียงหรือเปลี่ยนเพลง ทำให้คุณไม่ต้องละมือไปจากการควบคุมพวงมาลัยซึ่งถือเป็นความปลอดภัยอันดับต้นๆ ของการควบคุมรถยนต์
ล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้วใน Yaris รุ่น G ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด กับขนาดของยางที่ 185/60R15 พอรับได้ที่ย่านความเร็วสูงเกิน 130 -140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยางลดแรงต้านทานของ Bridgestone ไม่ได้ลดแรงยึดเกาะลงแต่อย่างใด ความสดใหม่ของยางยังช่วยให้สามารถประคับประคองพวงมาลัยได้อย่างสะดวกจิต เมื่อผมเริ่มหวดมันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ การถ่ายเทน้ำหนักในโค้งมุมแคบทำได้ดีพอใช้ สำหรับการวิ่งทางตรงในย่านความเร็วเดินทางอยู่ในมาตรฐานของรถเล็กทั่วๆ ไป ส่วนระบบห้ามล้อหรือเบรกซึ่ง New Yaris นั้นใช้เบรกแบบดรัมเบรกที่ล้อด้านหลังก็ไม่รู้สึกว่าเชื่องช้า หรือตอบสนองไม่ทันการแต่อย่างใดทั้งสิ้น เบรกของมันสามารถชะลอหรือหยุดมวลน้ำหนัก 1,040 กิโลกรัม ได้อย่างสบาย พร้อมๆ ไปกับตัวช่วยที่มีทั้งระบบป้องกันล้อล็อกและชุดเสริมแรงเบรก สำหรับระบบรองรับของ
New Yaris Eco ซึ่งวางระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้กอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังซึ่งเป็นแบบทอร์ชั่นบีมให้ความรู้สึกหนึบใช้ได้จากฐานล้อที่กว้างขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมาเล็กน้อย แซสซีส์ที่ทนต่อแรงบิดตัวได้ดีขึ้นยังช่วยในด้านของความแข็งแกร่งและเสถียร ขณะใช้ความเร็วอีกด้วย
ช่วง 70 กิโลเมตรสุดท้ายจบลงอย่างรวดเร็วและมีความสุข ผมส่งรถให้กับเจ้าหน้าที่ของ Toyota บริเวณด้านหน้าของโรงแรมเชอราตันกระบี่แล้วลงไปฟังช่วง Q and A ซึ่งมีวิศวกรของค่ายสามห่วงรอตอบคำถามของสื่อมวลชนอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม พอเดินออกมาเพื่อจะเก็บภาพภายในห้องโดยสารก็พบกับลานจอดรถว่างๆ เนื่องจากรถทดสอบทุกคันถูกนำไปทำความสะอาดหมดเพื่อรอรับสื่อมวลชนในชุดต่อไป หลังจากการขับทดสอบในช่วงสั้นๆ รวมระยะทาง 170 กิโลเมตรของนักข่าวกลุ่มแรกสิ้นสุดลง ความรู้สึกหลังพวงมาลัยที่ได้รับจาก
Toyota New Yaris Eco รุ่น G บอกกับผมอย่างชัดเจนว่ามันเป็นรถราคาประหยัดที่ดีคันหนึ่งของวงการ ขับสนุกแม้จะไม่มากเท่า Fiesta 1.0L แต่ราคาของ EcoBoost ทะลุไปถึง 7.7 แสน แตกต่างกับ Yaris Eco G ที่มีราคาขาย 5.9 แสนบาท ซึ่งเป็นส่วนต่างถึง 1.6 แสนบาท มันเป็นยานยนต์ที่ใช้งานได้ทุกวัน และไม่ได้มีระบบอืเล็กทรอนิกส์รกรุงรังซับซ้อนจนต้องคอยเข้า-ออกศูนย์เป็นประจำเหมือนรถที่มีค่าตัวแพงกว่า มันเหมาะกับทุกๆ คนจากราคาค่าตัวที่ไม่แพงมากจนไกลเกินเอื้อม มันเป็นรถที่ไม่มีความสลับซับซ้อนอะไรมากนัก รถ Yaris Eco คือการต่อยอดสำหรับพัฒนาการในรุ่นล่าสุดที่ส่งถ่ายมาในรูปแบบของรถยนต์ราคาประหยัด Toyota New Yaris ไม่ได้เป็นยนตรกรรมที่เหนือกว่าเหล่าบรรดาคู่แข่งทั้งหมด แต่มันก็มีข้อดีในบางจุดที่ส่งผลไปถึงตัวเลขยอดขายให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของ วงการรถ Eco Car ถึงแม้จะออกมาล่าช้าไปนิด แต่ก็ยังดีกว่ารถ Eco บางรุ่นที่ทำภายในและความรู้สึกหลังพวงมาลัยออกมาในแบบขอไปที
ด้วยเงินเกือบ 6 แสนบาทที่ต้องจ่ายออกไป แลกกลับคืนมาเป็นรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ของค่ายสามห่วงนั้น สิ่งที่คุณจะได้รับคือรูปลักษณ์ที่สดใหม่ของรถยนต์สไตล์คนเมืองแบบ 5 ประตู ซึ่งสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่กันชนหน้าไฟหน้าไล่ไปจนถึงไฟท้าย ภายในตกแต่งสไตล์ Toyota แม้จะเต็มไปด้วยพลาสติกเกรดปานกลาง แต่รูปแบบและการจัดวางตลอดจนการใช้งานนั้นอยู่ในระดับมาตรฐานไม่ได้แย่หรือ เลวร้ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ช่วยทำให้ประหยัดนั้น มีสมรรถนะที่พอดีกับเรือนร่างรูปทรง ทำให้มันเป็นรถที่ขับได้ง่ายคันหนึ่งของวงการ อย่าคาดหวังว่ามันจะมีกำลังชนิดดึงให้หลังคุณติดเบาะ มันแค่ทำได้แบบไปเรื่อยๆ ซึ่งดีมากเมื่อวิ่งใช้งานในเมืองใหญ่ที่มีการจราจร คับคั่ง
สำหรับอัตราเร่งเมื่อต้องการแซงรถช้าควรกะระยะของการแซงให้ดี รถ Yaris Eco แม้จะไม่ใช่รถที่เร็ว แต่ก็ไม่ได้ชักช้าอืดอาดจนน่ารำคาญ ความน่าสนใจของมันอยู่ที่สภาพของการใช้งานในชีวิตประจำวันซึ่งคุณสามารถขับ มันได้ทุกวันโดยที่ไม่ต้องคอยเข้าออกปั๊มน้ำมันกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน สัดส่วนของพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา รวมถึงการปรับแต่งเครื่องยนต์และเกียร์ใหม่หมดซึ่งทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี การยึดเกาะที่อยู่ในมาตรฐานของรถเล็ก และเหนือกว่า Eco Car รุ่นอื่นๆ อยู่เล็กน้อย จากขนาดความกว้างของฐานล้อ รวมกับพื้นที่ใช้สอยภายในที่เพิ่มมากขึ้น คืออาวุธเด็ดของ New Yaris Eco ที่ Toyota จงใจสร้างขึ้นมาเพื่อการเดินทางของคนเมืองยุคใหม่ อย่างที่เคยบอกว่าเงินจำนวน 5.9 แสนบาทที่หามาได้อย่างยากลำบากสำหรับเลือกซื้อพาหนะใหม่สักคัน คุณควรไปลองขับด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่ามันดีหรือแย่อย่างไร มันตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ มันมีจุดดีหรือบกพร่องอะไรบ้างเมื่อเปรียบเทียบกับรถคู่แข่งที่คุณเล็งและพยายามเปรียบเทียบจุดดีจุดด้อย สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของผม รถ
New Yaris จาก Toyota กำลังขายความสดใหม่ของรถยนต์ในสไตล์ Eco Car มันมีทุกอย่างตามความต้องการของการขับขี่ใช้งานในเมืองหรือขับออกทางไกลกับ ครอบครัวในวันหยุดพักผ่อน ลืมเรื่องของความแรงและหันมาสนใจกับความประหยัดกับประสิทธิภาพของการขับขี่ ควบคุม คุณจะพอใจในที่สุด