NISSAN MARCH เล็ก น่ารัก ประหยัด คุ้ม!
NISSAN MARCH
"
นิสสัน มาร์ช ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น" ผู้นำเทรนด์แห่งความประหยัดและเป็นอีโคคาร์ยุคแรก ที่ปลุกกระแสรถเล็กที่ประหยัดทุกด้าน ทั้งน้ำมัน, ราคา, ค่าบำรุงรักษา รวมถึงพื้นที่บนถนนด้วย จากตัวเลข 20 กม./ลิตร ทำให้ทีมงาน
Thai Product Review และ Checkraka.com ขอทดสอบอีกสักครั้ง แต่คราวนี้ไม่ทดสอบแบบทั่วไปที่ทำกันคือ วัดความประหยัดโดยละเอียดแบบตั้งใจ ข้อมูลตัวเลขเยอะๆ ซึ่งก็ดี แต่ในบางครั้งอาจจะไม่ตรงกับชีวิตประจำวันของคนที่ต้องการใช้รถประเภทนี้ซะทั้งหมด ครั้งนี้จึงทดสอบโดยใช้เส้นทางในกรุงเทพฯ รถติด ขับแบบอ้อมไปออกชานเมืองแล้วก็วกกลับเข้าเมือง ผ่านเส้นทางหลากหลายที่คาดว่าจะต้องเจอสถานการณ์นี้เป็นประจำครับ
นิสสัน มาร์ช มีตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู กะทัดรัดกำลังเหมาะ ไม่เล็กจนอึดอัด เปิดตัวครั้งแรกช่วงมีนาคม 2553 ในฐานะรถอีโคคาร์คันแรกของประเทศไทย และได้รับกระแสตอบรับในด้านยอดขายที่สูงเกิน 55,000 คัน ตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบัน
นิสสัน มาร์ช มีทั้งหมด 6 สี 6 รุ่นย่อย และเพิ่มรุ่นปี 2012 อีก 2 รุ่นย่อย คือ
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2556 ทีมงาน Thai Product Review และ Checkraka.com ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสันอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ TSS-NS NISSAN official dealer สาขาคลองตัน ให้รับนิสสัน มาร์ช มาทดสอบ โดยเป็นรุ่นท็อปคือ VL-CVT แต่ไม่ใช่รุ่น Sport version เริ่มทดสอบจากศูนย์ TSS-NS คลองตัน ผ่านแยกพระราม 9 รามคำแหง เลี้ยวขวามุ่งสู่ถนนมอเตอร์เวย์ แล้วเข้าถนนร่มเกล้า-ลาดกระบัง เพื่อเชื่อมกับถนนสุวินทวงค์ และตรงเข้าถนนรามอินทราลัดถนนสวนสยามเข้าถนนสุขาภิบาล 1 และลัดไปออกถนนสุขาภิบาล 3 รามคำแหง และตรงข้ามสะพานรามคำแหงมุ่งหน้าคลองตันกลับศูนย์นิสสัน รวมระยะทางทั้งหมด 72.1 กม.
ระดับน้ำมันก่อนเติม ระดับน้ำมันหลังเติม 500 บาท 15.44 ลิตร ผู้ทดสอบ 2 คน คนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ไม่มีสัมภาระพร้อมน้ำมัน 1 ใน 3 ถัง แวะเติมน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอลอี20 เพิ่มอีก 500 บาท จำนวน 15.44 ลิตร ระดับน้ำมันขึ้นมาที่ 2 ใน 3 ถัง สภาพการจราจรหนาแน่นแทบตลอดเส้นทาง และติดขัดบางจุด มีโล่งบ้างช่วงถนนสุวินทวงศ์และถนนรามอินทรา ซึ่งโดยรวมแล้วการจราจรนับว่ารถเยอะหนาแน่นเกือบตลอดทางเลยครับ ตรงกับการใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ
นิสสัน มาร์ช มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างเหลือเชื่อตามแบบฉบับของนิสสันที่เน้นกว้างนั่งสบาย มิติตัวถังยาว 3,780-3,800 มม. กว้าง 1,665 มม. สูง 1,515 มม. ระยะฐานล้อ 2,450 มม. ทำไม่ต้องบอกขนาดรถ? ก็เอาไว้เทียบกับรุ่นอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ รวมๆ แล้วรูปร่างน่ารัก น่าหลงใหล ไฟหน้ามัลติรีเฟลตเตอร์ขนาดใหญ่สว่างทั่วถึงแม้ขับทางไกล กระจังหน้าและช่องดักลมโครเมียม มือจับประตูคู่หน้าและกระโปรงท้ายแบบกดปุ่มเปิดล็อคไม่มีรูกุญแจ ด้านหลังติดตั้งสปอยเลอร์ ไฟเบรกดวงที่ 3 และใบปัดน้ำฝน เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด กระจกข้างพับไฟฟ้าเมื่อล็อคประตู ระบบกุญแจ Intelligent Key พร้อม Immobilizer ล้อแม็กลาย 7 ก้าน 15 นิ้ว ยางดันลอปขนาด 175/60 และช่วงล่างที่ใว้ใจได้ในรถระดับนี้ ภายในเด่นด้วยปุ่มกดสตาร์ต-ดับเครื่องยนต์ แอร์อัตโนมัติ จอแสดงผลอัตราสิ้นเปลือง เบาะหลังพับได้ 60:40 เครื่องเสียงพร้อมช่องเชื่อมต่อ AUX-IN ถุงลมคู่หน้า เครื่องยนต์ 3 สูบ เดินนิ่งที่แสนประหยัด พร้อมเกียร์ CVT เปลี่ยนนุ่มและต่อเนื่อง
แผงควบคุมแอร์อัตโนมัติน่ารักๆ ตัวเล็กที่แคบแค่ไหนก็สบาย
นิสสัน มาร์ช ใช้เครื่องยนต์ที่พัฒนาจาก HR 16 DE 1,600 ซีซี จากทีด้า แต่ถูกออกแบบใหม่ให้เหลือเพียง 3 สูบ เป็นเบนซินรหัส HR 12 DE DOHC 12 วาล์ว หัวฉีดมัลติพอยท์ ECCS 32 บิท กระบอกสูบXระยะชัก 78.0X83.6 มม. อัตราส่วนการอัด 10.2:1 ความจุ 1,198 ซีซี 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 10.8 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที เกียร์ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราสิ้นเปลืองจากโรงงานประมาณ 20 กม./ลิตร ความจุถังน้ำมัน 41 ลิตร ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ หลังดรัม กับน้ำหนักตัว 900-965 กิโลกรัม
ช่วงล่างแน่นหนึบพอตัว จังหวะคิกดาวน์ 80-120 กม./ชม. ใน 9 วินาที
80 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ไม่ถึง 2,000 ต้นเหตุความประหยัด
ขับตามกฏหมายที่ 90 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ก็ยังไม่ถึง 2,000 รอบ/นาที
สมรรถนะเครื่องยนต์ : 4 ดาว
นิสสัน มาร์ช ออกแบบเน้นความประหยัด เครื่องยนต์จึงมี 79 แรงม้า พร้อมเกียร์ CVT ซึ่งเกินพอต่อใช้งานทั่วไป จึงทำให้ไม่รู้สึกว่าอืดสำหรับเครื่อง 3 สูบ เมื่อเริ่มออกตัวหากกดคันเร่งเบาๆ จะมีอาการคล้ายรถที่ออกตัวเกียร์ 2 คือ จะไปช้าๆ แล้วก็เร็วขึ้นตามเท้าที่เราเหยียบคันเร่ง ซึ่งรอบเครื่องจะขึ้นไม่สูงมากนักประมาณ 1,500-2,000 รอบ/นาที แต่ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 80 กม./ชม. ช่วยประหยัดน้ำมันขึ้นอีก หากต้องการออกตัวแรงๆ ก็กดคันเร่งสุด รถก็จะพุ่งพร้อมกับรอบเครื่องกวาดขึ้นจนค้างอยู่ประมาณ 5,000-6,000 รอบ/นาที โดยที่ความเร็วก็เพิ่มตาม จับเวลาอย่างไม่เป็นทางการ 0-100 กม./ชม. ประมาณ 15-16 วินาที แม้จังหวะเร่งแซงช่วงความเร็ว 80-100 กม./ชม. ก็ไปได้แบบไม่ต้องลุ้นจากการคิกดาวน์จนสุด ความเร็วสูงสุดนั้นในวันทดสอบลองได้เพียง 160 กว่าๆ กม./ชม. เท่านั้น เพราะรถหนาแน่นและไม่ปลอดภัย ซึ่งต้องใช้ระยะยาวพอสมควรเพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด เนื่องจากมาร์ชไม่ออกแบบให้ใช้ความเร็วสูงๆ อยู่แล้ว การขับในตัวเมือง ชานเมืองและนอกเมือง อัตราเร่งและความเร็วระดับนี้ เหลือๆ สำหรับอีโคคาร์ตัวจิ๋วแต่แจ๋วรุ่นนี้ครับ
อัตราสิ้นเปลืองบนหน้าปัด 11.7 กม./ลิตร ระยะทางรวม 72.1 กม. แต่น้ำมันแทบไม่ลดเลย ก่อนเติมน้ำมันE20 หลังเติม 500 บาท/15.44 ลิตร หลังทดสอบเสร็จ นิสสัน มาร์ช มีอัตราสิ้นเปลื่องน้ำมันตามที่โฆษณาไว้คือ 20 กม./ชม. ซึ่งในความเป็นจริงใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรือนอกเมืองที่วิ่งระยะสั้นๆ นั้น คงเป็นไปได้ยาก ประกอบกับรถที่ติดตามแยกต่างๆ ดังนั้นการทดสอบครั้งเป็นการขับผ่านเส้นทางทั้งรถเยอะ รถน้อย ติดน้อย ติดนาน ในและนอกเมือง ทำให้ได้อัตราการสิ้นเปลืองใกล้เคียงใช้งานแบบไลฟ์สไตล์จริงๆ และผู้ขับทดสอบใจยังวัยรุ่น เท้าหนักบ้างถ้าโอกาสเหมาะ ทำให้ตัวเลขใช้งานจริงบนหน้าปัดวัดได้ 11.5-11.7 กม./ลิตร แต่ว่าเมื่อรวมระยะทางทดสอบพร้อมกับการจราจรคับคั่งตลอดเส้นทางนั้น ระดับน้ำมันบนหน้าปัดแทบไม่ลดระดับลงเลย เกือบเท่าตอนที่เติมใหม่ๆ จากการทดสอบในครั้งนี้อาจไม่มีตัวเลขมายืนยันอัตราสิ้นเปลืองได้ แต่ก็พิสูจน์จากใช้งานจริงในเมืองและชานเมืองประหยัดเห็นๆ หรือดูระดับน้ำมันว่าลดไปเท่าไร
ปุ่มกดสตาร์ต/สต็อป เครื่องยนต์ ที่วางแก้วรวมทั้งหมด 5 จุด ท่านั่งผู้ขับ/ผู้โดยสาร ตำแหน่งคนขับกับพวงมาลัยสะดวกในการหมุน วงพวงมาลัยไม่ใหญ่จนเกะกะ ตำแหน่งปุ่มหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นก็ใช้งานง่ายและสะดวก แม้ผู้ทดสอบจะตัวใหญ่แต่เบาะก็นั่งได้สบายไม่อึดอัด ระยะยืดขาที่แป้นคันเร่ง/เบรก และมือกับพวงมาลัยทำได้ลงตัวมาก พื้นที่ระหว่างศีรษะค่อนข้างกว้าง ในส่วนผู้โดยสารตอนหน้าก็ไม่อึดอัด สามารถยืดขาได้พอสมควร แต่หัวเข่าขวาอาจติดแผงคอนโซลกลางบ้างหากเป็นคนรูปร่างใหญ่สักหน่อย เบาะนั่งตอนหลังดูดีสุดในกลุ่มรถประเภทนี้ รูปทรงเข้ากับสรีระ พับได้ 60:40 พร้อมหนอนพิงศรีษะปรับระดับได้ ช่องวางขาพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่
ทัศนวิสัย มุมมองนับว่าดีจากตำแหน่งเบาะที่ค่อนข้างสูง ทำให้ทัศนะวิสัยดีมาก มุมเสาทั้ง A, B และC ไม่บดบังการมองรอบๆ ตัวรถ กระจกมองข้างและมองหลังดูชัดเจน
ความรู้สึกเมื่อขับนิสสัน มาร์ช เป็นรถที่กะทัดรัด และคล่องเคล่ว เหมาะใช้งานในเมืองถนนเล็กๆ หรือที่จอดแคบ ทันสมัยด้วยปุ่มกดสตาร์ต/ดับเครื่องยนต์ การตอบสนองทำได้ดีสำหรับรถความจุ 1,200 ซีซี ได้เกียร์ CVT ช่วยแปรผันให้รอบเครื่องยนต์กับความเร็วสัมพันธ์กันและต่อเนื่อง แม้เครื่องจะมีความจุน้อย แต่ก็ไม่รู้สึกด้อยไปกว่ารถ 1,500 ซีซี เมื่อขับในเมือง แม้ขับช่วงทางโล่งก็ไล่ระดับความเร็วขึ้นไปแตะ 120 กม./ชม.ได้ไม่ยาก อัตราเร่งแซงนับว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ พวงมาลัยเบาไปหน่อยตามน้ำหนักรถแต่ก็ควบคุมง่าย จุดเด่นอีกด้านคือ วงเลี้ยวแคบเพียง 4.5 ม. สามารถกลับรถในที่แคบได้สบาย ช่วงล่างที่หนึบเกินคาดในรถระดับนี้ ออกแนวกระด้างนิดๆ แต่ทรงตัวในความเร็วสูงค่อนข้างดี ไม่ยวบยาบ สมรรถนะระบบเบรกเกินตัว ความเร็วปกติไม่ต้องเบรกลึกมากก็หยุดได้สนิททันใจ
จุดกลับรถแคบๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มาร์ชไปสบายแบบม้วนเดียวจบ วัสดุและการประกอบ ชิ้นส่วนในห้องโดยสารนับว่าดีเกินราคา ใช้วัสดุเกรดใกล้เคียงหรือเทียบเท่าซับคอมแพ็กต์บางรุ่น ชิ้นส่วนต่างๆ ยึดแน่น สวิตช์แผงควบคุมเครื่องเสียงแน่นหนา
ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติใช้งานง่าย ตั้งอุณหภูมิไว้แล้วระบบจะปรับการทำงานให้โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม หรือหากต้องการเร่งความเย็นก็เลือกปรับระดับแรงลม ตั้งอุณหภูมิก็ได้
เสียงรอบกวนจากภายนอก เริ่มได้ยินเมื่อความเร็วประมาณ 70 กม./ชม. ขึ้นไป จากยางที่บดกับถนน และมีเสียงลมปะทะบ้าง แต่หากเพิ่มความเร็วมากขึ้น เสียงลมและยางก็ยิ่งดังตาม แต่ระดับเสียงไม่ถึงกับรำคาญ เปิดเพลงฟังก็กลบได้ ซึ่งเสียงรบกวนนั้นก็ใกล้เคียงกับรถระดับซับคอมแพ็กต์บางรุ่นเช่นกัน
ก่อนกดปุ่มสตาร์ตต้องเหยียบเบรก วัดอุณหภูมิภายนอก ฟังก์ชันต่างๆ ดับเครื่องแล้วก็ GOOD-BYE อุปกรณ์อำนวยความสะดวก มีให้ครบครันเกินราคา มาตรวัดการสิ้นเปลืองน้ำมันพร้อมฟังก์ชั่นแจ้งเตือนจอดพักหรือโอกาสพิเศษ เสียงเตือนเมื่อลืมดึงกุญแจ หรือลืมปิดไฟหน้ารถ กระจกข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมเลือกโหมดพับอัตโนมัติเมื่อล็อครถ ระบบเครื่องเสียงเล่นแผ่น CD/MP3/AUX ติดตั้งลำโพงที่ประตูทั้ง 4 จุด
นิสสัน มาร์ช โดดเด่นในรูปร่างภายนอกที่ดูน่ารักเหมือนปลาการ์ตูน ส่วนหน้าทรงมนและท้ายตัด แต่มีการเล่นเส้นสายโค้งเว้าทำให้ดูท้ายไม่สั้นจนกุด ซุ้มล้อที่กว้างเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก
ภายในออกแบบจัดวางอุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ ให้มีขนาดเล็กไม่เกะกะ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะส่วนแผงควบคุมแอร์กับเครื่องเสียงยิ่งดูน่ารัก เข้าใจง่าย
นิสสัน มาร์ช ให้ระบบความปลอดภัยในระดับปานกลางตามมาตรฐาน เช่น เข็มขัดเบาะคู่หน้า/หลัง 3 จุด 4 ที่นั่ง และ 2 จุดตรงเบาะหลังตรงกลาง 1 ที่นั่ง โครงสร้าง Zone Body Concept ช่วยลดแรงกระแทรก ไฟเบรกดวงที่ 3 ส่วนถุงลมคู่หน้ากับเบรก ABS พร้อม ระบบกระจายแรงเบรก EBD และเสริมแรง BA เฉพาะรุ่น V, VL และVL Sport version
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา: 4.5 ดาว
นิสสัน มาร์ช มาพร้อมเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย เช่น มาตรวัดอัตราสิ้นเปลือง, ปุ่มกดสตาร์ต, กุญแจอิมโมบิไลเซอร์, ถุงลมคู่หน้าเบาะหลังพับได้ ส่วนภายในห้องโดยสารกว้างขว้างสะดวกสบายไม่อึดอัด อัตราสิ้นเปลืองแม้ว่าใช้งานในชีวิตประจำวันอาจเห็นตัวเลข 20 กม./ลิตรได้ยาก แต่หลังจากที่ทีมงาน
Thai Product Review และ
Checkraka.com ได้ทดสอบในลักษณะคล้ายกับการใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ นับว่าประหยัดมาก และสมรรถนะก็ไม่ด้อยตามความประหยัดนี้เลย หากต้องการอีโค่คาร์แบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ทั้งประหยัด คล่องตัว เน้นใช้งานในเมือง ไปต่างจังหวัดบ้าง ภายในกว้างขวาง เบาะนั่งสบาย งบประมาณ 4-5 แสนกว่าบาท นิสสัน มาร์ช นับเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นอีกรุ่นครับ