ทดสอบยานยนต์อีโคคาร์คันล่าสุดของประเทศไทย Honda Brio Amaze รถยนต์ซีดาน 4 ประตูราคาประหยัดในโครงการคืนภาษีรถคันแรกที่เข้ามาทำตลาดในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นปี เมื่อรัฐบาลประกาศเลื่อนการคืนเงินภาษีสำหรับรถยนต์คัน แรกออกไป ผู้บริหารของค่าย Honda Automobile (thailand) Co.,Ltd ได้ตัดสินใจเร่งการเปิดตัวรถอีโคคาร์รุ่น 4 ประตู Honda Brio Amaze ให้กระชับเข้ามาอีกเพื่อให้ทันกับระยะเวลาช่วงสุดท้ายของโครงการคืนภาษีรถ ยนต์คันแรก สำหรับการพัฒนาตัวรถรุ่น 4 ประตูต่อจากรุ่น 5 ประตูที่ออกขายไปเมื่อช่วงต้นปี 2011 ถือเป็นความท้าทายที่มีระยะเวลาเป็นตัวกำหนด ทีมงานพัฒนาตัวรถของ Honda Automobile ทั้งวิศวกร ฝ่ายขายและทีมประชาสัมพันธ์ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ Brio Amaze คลอดออกมาตรงตามกำหนดระยะเวลาที่เหลืออีกไม่มากนักในช่วงปลายปี การเปิดตัว Brio Amaze เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2555 คือความพยายามอย่างสุดความสามารถของทีมงาน Honda และตามมาด้วยความสำเร็จจากกระแสตอบรับที่ดีของลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ใน โครงการรถคันแรกซึ่งมีราคาไม่แพง มีสมรรถนะในการใช้งานที่สามารถสร้างความพึงพอใจสำหรับคนเมือง นี่คือปรากฏการณ์ของ Amaze ที่กลายเป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดคันสุดท้ายของ Honda Automobile ในปี 2555 หลังจากเปิดตัวอย่างต่อเนื่องนับจากช่วงต้นปีมาจนถึงปลายปีกับยนตรกรรมรุ่นใหม่ถึง 10 รุ่น 10 โมเดล Honda Brio Amaze 4 Door สร้างขึ้นจากความต้องการใช้รถยนต์ของคนเมืองในยุคใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการขับขี่ควบคุมและพื้นที่ของห้องโดยสารเป็นพิเศษ ภายใต้สภาวะของตลาดรถเล็กราคาประหยัดในปัจจุบันที่กำลังเติบโตอย่างต่อ เนื่อง Honda Automobile ได้นำเสนอรถยนต์ที่จะตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าว การศึกษาหาข้อมูลของลูกค้า Honda ในการเลือกใช้รถยนต์ราคาประหยัดจึงได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2008 ตามด้วยการเปิดตัว Honda Small Concept ซึ่งเป็นรถต้นแบบของ Brio รุ่น 5 ประตู ในปี 2009 หลังจากนั้น รถอีโคคาร์รุ่น 5 ประตูชื่อ Brio จึงออกทำตลาดในเอเชียเมื่อช่วงต้นปี 2011 สำหรับโครงการ Brio รุ่น 4 ประตูที่จะเข้ามาสานต่อ วิศวกรของ Honda มุ่งไปที่ความคล่องแคล่วปราดเปรียวในการบังคับควบคุม ห้องโดยสารถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Honda Smart Limousine Concept ส่วนการออกแบบตัวถังภายนอก เน้นไปที่ความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมืองจากขนาดที่กะทัดรัด การออกแบบไฟท้ายเพื่อให้ดูหรูหราลงตัว ทีม R And D ของ Honda ใช้ไฟท้ายทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ง่ายในระยะไกล เลนส์ไฟท้ายแบบขาวแดงทำจากพลาสติกโพลิเมอร์ ช่วยทำให้สัดส่วนของบั้นท้ายแบบซีดานใน Amaze ดูลงตัว การประสานเหลี่ยมมุมรอบตัวถังเพื่อให้มีความแตกต่างจากรุ่น 5 ประตู โดยใช้กระจังหน้าแบบใหม่ทั้งหมด
ตัวถังของ Amaze บริเวณด้านบนตั้งแต่เสากลางถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมๆ ไปกับการเพิ่มเส้นจากกลางตัวถังลากต่อเนื่องไปจนจรดฝาท้าย เสาหลังของ Amaze เข้ามาช่วยในเรื่องของระบบอากาศพลศาสตร์ที่ดี ส่วนไฟหน้าขนาดใหญ่ยังคงคล้ายกับรุ่น 5 ประตูแต่มีรูปแบบภายในที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ด้านหน้าลาดต่ำจากฝากระโปรงหน้าที่ถูกออกแบบให้มีความลาดเทมากกว่าปกติ กระจังหน้าพลาสติกโครเมี่ยมสีเงินดูแปลกตาไปจากรุ่น 5 ประตู รวมถึงสปอยเลอร์หน้าหรือกันชนหน้าที่แปลกแยกออกไป
ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว ใส่ยาง 175/65/R14 เป็นล้ออะลูมินั่มอัลลอยที่ถูกดีไซน์ให้มีความแตกต่างจาก Honda รุ่นอื่นๆ ระยะห่างของฐานล้อหน้า-หลังยาวขึ้นอีก 60 มิลลิเมตรเข้ามาเสริมการทรงตัวให้ดีขึ้น ด้านข้างตัวถังออกแบบให้มีมุมมองคล้ายกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าจากแนวเส้น ข้างที่ลากจากประตูบานหน้าทแยงมุมขึ้นไปจนถึงไฟท้ายทรงเหลี่ยม แม้ความยาวของ Amaze จะอยู่ในระยะ 4 เมตร ห้องเก็บสัมภาระส่วนท้ายก็ยังคงมีพื้นที่พอเพียงสำหรับการขนของ ส่วนของบั้นท้ายแบบซีดานให้ความรู้สึกที่กว้างในระดับเดียวกับ Honda Civic โดยขยายส่วนของไฟท้ายให้ออกไปในแนวด้านข้างของตัวถัง ไฟท้ายถูกดีไซน์เป็นลายกราฟิกสะท้อนตัวตนอย่างชัดเจนบนความแตกต่างจากรุ่น 5 ประตู คิ้วโครเมี่ยมที่ฝาท้ายเหนือตำแหน่งติดตั้งป้ายทะเบียนทำให้มุมมองของ Brio Amaze ดูลงตัวสำหรับทรงแบบรถเล็กหน้าสั้นท้ายกุด ห้องโดยสารคือหัวใจของ Amaze ในการใช้ต่อกรกับรถเล็กที่มีขนาดและราคาเท่ากัน คอนโซลพลาสติกเกรดต่ำสีน้ำตาลขึ้นรูป วางรูปแบบที่ไม่แตกต่างไปจากรุ่น 5 ประตู แต่หน้าปัดมาตรวัดของ Brio Amaze ใช้โทนสีที่แปลกแยกออกไป ไฟมาตรวัดสีเหลืองบนพื้นสีดำช่วยให้อ่านค่าได้ชัดเจน เบาะแบบสปอร์ตห่อหุ้มด้วยผ้าสีน้ำตาลอ่อนเพื่อทำให้ห้องโดยสารมีโทนสีที่ นุ่มนวลและดูเหมือนกับว่ามีมิติที่ใหญ่โตเกินจริง ช่องแอร์ทรงกลมมีชุดเครื่ิองเสียงอยู่ตรงกึ่งกลางในตำแหน่งที่เอื้อมมือไป ปรับตั้งได้ง่าย เครื่องเสียง 2 DIN แบบง่ายๆ เข้ากับรูปแบบและราคาค่าตัวให้เสียงในระดับพอใช้ได้ไม่โดดเด่นอะไร มันเล่นได้ทั้ง CD/MP3/AM/FM พร้อมสายเสียบเชื่อมต่อ USB ipod กับช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก สวิตช์ควบคุมอุณหภูมิทรงกลมสามอัน ที่วางแก้วน้ำและซุ้มเกียร์ออโต้ วงพวงมาลัยแบบสามก้าน หุ้มด้วยไวนิลไม่มีสวิตช์ปรับตั้งระบบต่างๆ มาให้เนื่องจากเป็นเพียงแค่อีโคคาร์ราคาไม่แพง เบาะผู้โดยสารตอนหลังกว้างกว่ารุ่น 5 ประตูเล็กน้อยจากการออกแบบ ตรงกึ่งกลางมีพนักเท้าแขนแบบซีดานขนาดกลางที่พับเก็บหรือดึงออกมาเพื่อใช้ เท้าแขนได้เมื่อต้องนั่งกันไกลๆ แผงประตูหุ้มผ้าสีเดียวกับตัวเบาะ มีที่วางแก้วน้ำมาให้ ซึ่งที่วางแก้วน้ำใน Amaze นั้นมีมาให้มากถึง 9 ตำแหน่ง เพื่อการขับขี่ผ่านทะเลทรายอย่างปลอดภัยไร้กังวล โดยไม่ต้องกลัวว่าจะขาดน้ำหากผู้ขับขี่พกพาน้ำดื่มไปตามจำนวนของที่วางแก้ว ส่วนการปรับตั้งเบาะคู่หน้าใช้แบบแมนนวล ตำแหน่งเบาะคู่หน้าค่อนข้างสูงคล้ายกับ Jazz ซึ่งเลียนแบบการนั่งขับของ MINI MPV ที่เน้นทัศนวิสัยของการมองมากกว่าจะต่ำเตี้ยติดพื้นแบบสปอร์ต แผงบังแดดยังติดตั้งกระจกส่องแต่งหน้าสำหรับคุณสุภาพสตรี รวมถึงช่องเก็บของที่ด้านหลังของเบาะคู่หน้า พวงมาลัยปรับสูงต่ำได้แต่ปรับไกลใกล้ไม่ได้กับกุญแจแบบรีโมตคอนโทรล
Honda Brio Amaze วางเครื่องยนต์เบนซินแถงเรียงสี่กระบอกสูบ 16 วาล์วแบบแคมเดี่ยวหรือ SOHC ปริมาตรความจุ 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี มีเรี่ยวแรง 88 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรหรือ 11.2 กิโลกรัมเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 10.2:1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดไฟฟ้าแบบมัลติพอยท์ PGM-F1 ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติแบบสายพาน CVT ระบบบังคับเลี้ยวใช้แรคพวงมาลัยแบบแรคแอนพีเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าช่วยผ่อน แรงหมุน EPS พวงมาลัยหมุนได้ 3.42 รอบ และมีรัศมีวงเลี้ยว 4.6 เมตร ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าใช้จานดิสเบรกแบบมีช่องระบายความร้อน ส่วนเบรกด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก ระบบรองรับด้านหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้กอัพ เหล็กกันโคลง ส่วนระบบรองรับด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม H-Shape เครื่องยนต์ของ Honda Brio Amaze ใช้สายพานราวลิ้นที่มีระบบปรับตั้งความตึงอัตโนมัติ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับการหมุนของเครื่องยนต์ ระดับความตึงที่มีความคงที่ช่วยลดแรงเสียดทานและทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง ระบบหมุนเวียนไอเสีย EGR Exhaust Gas Recirculation ควบคุมการเผาไหม้ เครื่องยนต์ iVTEC ไซส์เล็กตัวนี้ยังสามารถควบคุมการทำงานของวาล์วไอดี โดยหยุดการทำงานของวาล์วไอเสียหนึ่งตัวในกระบอกสูบและเพิ่มการหมุนเข้าของไอ ดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผสมอากาศกับเชื้อเพลิงในกระบอกสูบ ปลายก้านสูบเคลือบสาร MoS2 โครงสร้างของระบบส่งกำลัง CVT ออกแบบให้ปั๊มส่งน้ำมันหล่อลื่นที่ติดตั้งไว้กับเพลาส่งกำลังมีขนาดเล็ก ทำให้เกิดแรงเสียดทานต่ำ ฝาครอบของรอกกับแบริ่งหล่อเป็นชิ้นงานเดียวกัน ทำให้มีโครงสร้างร่องน้ำมันลงไปที่เพลาสเตเตอร์ วิศวกรของ Honda ขยายระยะการทำงานของคลัตช์ล็อกให้ครอบคลุมถึงจังหวะของการออกตัว คงความรู้สึกของผู้ขับขี่แบบอัตราเร่งคงที่ ลดการฟรีทิ้งหรือลื่นไถลในจังหวะออกตัว ระบบควบคุมการเคลื่อนที่กับเซนเซอร์ตรวจจับความลาดเอียงของรถจะควบคุมการ เคลื่ิอนตัวโดยเฉพาะขณะที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อเคลื่อนตัวด้วยความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยรักษาการเคลื่อนตัวให้อยู่ในระดับปกติ เมื่อเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ ระบบจะหยุดการทำงาน เมื่อปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะกลับมาทำงานอีกครั้งเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง หากมีการหยุดรถในตำแหน่งที่มีความลาดเอียง ระบบจะปรับการทำงานให้มีการเคลื่อนตัวที่เหมาะสมเพื่อป้องการการถอยหลังโดย ไม่ตั้งใจ Honda Brio Amaze มีโครงสร้างนิรภัย G-CON ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับหรือ i-SRS ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารตอนหน้า SRS ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ ระบบสัญญาณกันขโมย ล็อกกันเด็กเล็กที่ประตูหลัง และไฟเบรกดวงที่สาม Honda Brio Amaze มีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น S เกียร์ธรรมดา ราคา 454,000 บาท และเกียร์อัตโนมัติ ราคา 493,000 บาท รุ่น V เกียร์ธรรมดา ราคา 482,000 บาท และรุ่น V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 521,000 บาท (คันทดสอบ) และมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) แดงคาร์เนเลียน(มุก) เงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) ขาวทาฟเฟต้า และสีใหม่คือสีม่วงมารีน (มุก) หลังจากที่พาสื่อมวลชนสายยานยนต์ลงทดสอบรถต้นแบบ Amaze ไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่สนามแก่งกระจานเซอร์กิต บริษัท Honda Automobile ก็ทำการเปิดไลน์ประกอบรถ Brio Amaze เพื่อให้ทันกับการเปิดตัวในวันที่ 23 พฤศจิกายน รวมถึงการโชว์ตัวที่งานแสดงรถยนต์ MOTOR EXPO 2012 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30-10 ธันวาคม ตามมาด้วยการเชิญสื่อมวลชนลงทำการขับทดสอบสมรรถนะของ Amaze อีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2555 นับเป็นครั้งแรกที่รถ Brio รุ่น 4 ประตู ออกวิ่งทดสอบบนถนนในประเทศไทย โดยกำหนดเส้นทางจากแรนโซ ชาญวีร์รีสอร์ท ผ่านวัดเกิดนิมิต ออกสู่ทางหลวงหมายเลข 2235 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ผ่านลำตะคองแล้วแวะเปลี่ยนคนขับที่มหาวิหารหลวงพ่อโต (วัดโนนกุ่ม) วกกลับโดยใช้เส้นทางเดิมเพื่อมายังแรนโซ ชาญวีร์รีสอร์ท รวมระยะทางในการทดสอบทั้งหมด 102 กิโลเมตร เป็นการขับขี่ทดสอบในช่วงสั้นๆ หลังจากทำยอดจองในงานมหกรรมยานยนต์ ไล่ตาม City CNG มาแบบติดๆ นี่คือยนตรกรรมอีโคคาร์คันสุดท้ายของปี 2555 ซึ่ง Honda พยายามอย่างเต็มที่ในไลน์ผลิตเพื่อให้ทันกับระยะเวลาสุดท้ายของโครงการรถ ยนต์คันแรกที่ได้รับการคืนภาษี
ความรู้สึกของการควบคุมเมื่อผมได้ขับทดสอบ Brio 5 ประตูเป็นครั้งแรกที่ดอยตุงในปี 2011 กับการขับตัว 4 ประตูที่ใช้ชื่อว่า Amaze ในแถบเขาใหญ่แทบจะไม่มีความแตกต่างกันแม้แต่น้อย สิ่งที่ผิดแปลกออกไปคือรูปทรงแบบ 4 ประตูซีดานและสภาพของเส้นทางที่เปลี่ยนจากทางขึ้น-ลงภูเขามาเป็นทางแบบ ไฮเวย์ ตำแหน่งของการนั่งขับคล้ายกับ Jazz ซึ่งเน้นให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยมุมมองที่ดี ท่านั่งที่ค่อนข้างสูงมากกว่าปกติทำให้การวางเท้ามีพื้นที่เหลือเฟือ เมื่อออกจากโรงแรมวิ่งเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ผมลองกดคันเร่งเพื่อลองหาอัตราเร่ง เกียร์ CVT ของ Amaze ให้ความรู้สึกไหลๆ แบบไปเรื่อยๆ ช่วงออกตัวจากสัญญาณไฟแดงมีความกระชับฉับไวใช้ได้ รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ไม่สูงจนเกินไปแม้จะมีปริมาตรความจุเพียงแค่ 1.2 ลิตร หรือ 1,198 ซีซี เมื่อจับคู่กับเกียร์ CVT ใน Brio Amaze รุ่น V ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดราคา 5.2 แสนบาท การปรับตั้งอัตราทดให้รอบเครื่องยนต์อยู่ในระดับกลางๆ ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้บ้าง สำหรับความเร็วสูงสุดบนทางตรงทำได้ 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก่อนที่เซนเซอร์จะตัดการทำงานให้วิ่งได้เร็วสุดแค่นั้น ซึ่งเป็นการเน้นในเรื่องของความปลอดภัย เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร บนตัวรถขนาดเล็กแบบ Amaze ระดับความเร็วที่เหมาะสมกับความปลอดภัยจึงไม่ควรเกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การทรงตัวนับว่าทำออกมาได้โดนใจ เมื่อมีกระแสลมปะทะด้านข้างที่ความเร็วสูงกว่า 130 กิโลเมตร เจ้า Brio Amaze ดูจะออกอาการอยู่บ้างเล็กๆ ขนาดของยางเพียงแค่ 175/65/R14 เหมาะกับการวิ่งแบบเรื่อยๆ มากกว่าจะกดกันอย่างต่อเนื่อง การเก็บเสียงอยู่ในระดับเดียวกันกับ Honda Jazz ส่วนความสะดวกสบายของการนั่งโดยสารแทบจะไม่มีความแตกต่างกันระหว่างรุ่น 5 ประตู อุปกรณ์ที่ให้มาก็ยังคงเหมือนกันอีกด้วย ฐานล้อที่ถูกยืดออกไปอีก 60 มิลลิเมตร ทำให้การวิ่งที่ย่านความเร็วสูงสุดมีความนิ่งอยู่พอสมควรหากไม่โดน กระแสลมแรงๆ พัดมาปะทะด้านข้าง การปรับสมดุลเชิงกลของระบบกันสะเทือนมีส่วนช่วยให้การนั่งขับหรือโดยสารมี ความนิ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ให้ความรู้สึกได้ดีแม้จะไม่ชัดเจนเท่า City แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ชุดเครื่องเสียงและชุดควบคุมอุณหภูมิ คอนโซลและอุปกรณ์บางชิ้นที่คล้ายกับรุ่น 5 ประตูยังทำให้ Honda ลดต้นทุนในไลน์การผลิตจากโรงงานลงได้ค่อนข้างมาก ส่งผลให้ราคาค่าตัว 5.2 แสนบาทไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องเดินทางไปกลับเพื่อ ทำงานในชีวิตประจำวัน ระยะทางเพียงแค่ 102 กิโลเมตรทำให้การทดสอบจบลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงบ่ายมีการถาม-ตอบจากวิศวกรชาวอาทิตย์อุทัยของ Honda Automobile ซึ่งเข้ามาให้ความกระจ่างในรายละเอียดของตัวรถและยินดีรับฟังข้อติชมจากสื่อ มวลชนที่ได้ลงทำการขับทดสอบ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่สมรรถนะและประสิทธิภาพในการวิ่งของ Brio Amaze ก็เผยความลับออกมาจนหมด การใช้งานในเมืองคือเป้าประสงค์ของการออกแบบพัฒนาและสร้างยนตรกรรมอีโคคาร์ คันนี้ โดยภาพรวมตามความเห็นของผม เจ้า Honda Brio Amaze เป็นรถเล็กราคาประหยัดที่น่าใช้งานอีกคันในตลาดรถยนต์แบบอีโคคาร์ของไทย มันขับขี่ได้อย่างง่ายดายจากการออกแบบตำแหน่งของท่านั่ง คุณภาพของการประกอบอยู่ในมาตรฐานของ Honda Automobile วัสดุและอุปกรณ์ถึงแม้จะทำมาเพื่อรถราคาถูกแต่ถูกจัดวางมาเป็นอย่างดี พลาสติกคอนโซลที่ดูไม่ค่อยดีนักจะถูกกลบเกลื่อนด้วยการควบคุมขับขี่ที่ดีของ ตัวรถ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีมาให้เท่าที่จำเป็นและใช้งานได้จริง เบาะนั่งด้านหลังกว้างขึ้นกว่ารุ่น 5 ประตูเล็กน้อยช่วยให้การนั่งโดยสารบนระยะทางไกลๆ สะดวกขึ้น ฝาท้ายมีพื้นที่ขนสัมภาระ 400 ลิตร พอเพียงสำหรับขนของ ขนาดที่เล็กของล้อและยางรวมถึงน้ำหนักที่เบาเพียง 900 กิโลกรัม อาจเกิดการเป๋ขึ้นมาบ้างเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงแล้วโดนกระแสลมปะทะ แก้ได้ไม่ยากด้วยการเปลี่ยนล้อและยางให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น หากยังไม่พอใจ สปริงกับโช้กอัพแต่งของบางสำนักที่ทำออกมาเพื่อเอาใจคนใช้ Brio จะช่วยให้มันเกาะเป็นตุ๊กแกสำหรับท่านที่ชอบขับเร็วๆ แต่ผมไม่แนะนำให้ใช้ความเร็วอย่างต่อเนื่องในรถแบบอีโคคาร์ เมื่อโครงสร้างของรถยนต์ประเภทนี้นั้นไม่แข็งแกร่งเท่ากับรถที่มีขนาดใหญ่ กว่า การวิ่งใช้งานแบบเรื่อยๆ ในเมืองหรือออกทางไกลจะทำให้คุณปลอดภัยและมีความสุข กับเจ้า Amaze มันคือสมการความสุขที่หาได้ในราคา 5.2 แสนบาทสำหรับรุ่น V ซึ่งเป็นรถทดสอบ ลองไปหาขับดูด้วยตัวของคุณเองตามโชว์รูมของ Honda Automobile ทั่วประเทศ เมื่อคุณต้องควักกระเป๋ากว่าครึ่งล้านเพื่อแลกกับรถยนต์ในโครงการรถคันแรก ซึ่งบรรยายมาทั้งหมดคงไม่เท่ากับการที่คุณได้ลองของจริงแล้วเปรียบเทียบกับ คู่แข่งที่มีค่าตัวพอๆ กัน รักใครชอบใคร จัดไปสักคันแต่อย่าลืมผ่อนให้ครบห้าปี ไม่งั้นเงินคืนภาษี 100,000 บาทจากรัฐบาลจะกลายเป็นฝันสลายอย่างแน่นอน ขอขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลจากคอลัมน์ Man & Machine
|
เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้
ประเภทคุกกี้ อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ |
ยินยอม / ไม่ยินยอม |
---|---|
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ (Strictly Necessary) |
|
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์ (Functionality) |
|
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์ (Performance & Analytics) |
|
คุกกี้เพื่อการตลาด (Marketing) |