ยนตรกรรมสปอร์ตเปิดหลังคาระดับพรีเมี่ยมจาก BMW Group นี่คือ 325i E93 Convertible รถเปิดประทุนหลังคาโลหะพับเก็บได้ นับเป็น Series-3 Convertible รุ่นแรกที่หันมาใช้หลังคาอัลลอยแทนที่หลังคาผ้าใบแบบเก่า กับสมรรถนะของการขับขี่ที่ยังคงส่งประกายความเป็น BMW ได้ดีเหมือนเดิม Convertible คือชื่อเรียกรถเปิดประทุนแบบสี่ที่นั่ง ซึ่งในวงการยนตรกรรมของโลกนั้น รถยนต์ประเภทนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมานานกว่า 70 ปีแล้ว นิยามหรือคำจำกัดความของ Convertible แทบจะไม่แตกต่างไปจาก Cabriolet จักรกลสองหรือสี่ประตู สี่ที่นั่งหลังคาพับเก็บได้ แม้จะเป็นรถไร้หลังคาหรือหลังคาพับเก็บได้ซึ่ีงส่วนใหญ่ในยุคแรกเริ่มนั้น รถยนต์เหล่านี้มักใช้หลังคาผ้าใบ กับกลไกการพับเก็บด้วยมือ เมื่อเทคโนโลยีของระบบไฮดรอลิกมีความก้าวหน้ามากขึ้น กลไกการพับหลังคาจึงทำได้อย่างสะดวกเพียงแค่กดสวิตช์เท่านั้น หลังคาผ้าใบก็จะพับเก็บหรือกางออกโดยใช้เวลาไม่นานนัก ความนิยมในการขับรถเปิดประทุนของคนทั่วโลก ทำให้บริษัทผลิตรถยนต์จากเยอรมนี เจ้าของตราสัญลักษณ์ใบพัดฟ้า-ขาว ต้องหันมาผลิตรถรุ่นเปิดหลังคาเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าขา ประจำ หากหมุนเวลาย้อนกลับไปในอดีตที่เคยรุ่งเรืองของรถเปิดประทุนจากค่าย BMW รุ่นที่ขายดีที่สุดคงไม่พ้นรหัส 3-Series แบบเปิดหลังคา รถเหล่านี้คือสายพันธุ์แห่งประวัติศาสตร์ บนรากฐานที่ีสื่อความหมายของคำว่า Convertible ได้อย่างแท้จริงและสมบูรณ์แบบตามยุคสมัยของมัน BMW Series-3 E93 325Ci Convertible 2008-2012
รถทดสอบ E93 325i Convertible สีขาวของ BMW Group Thailand คันนี้ มีรูปทรงที่คล้ายคลึงกับรุ่นหลังคาแข็งแบบ Coupe รหัส E92 แต่หลังคาแบบพับได้ของมันผลิตจากอะลูมินัมอัลลอยแทนที่จะเป็นแบบผ้าใบเหมือน รุ่นอื่นๆ การหันมาใช้หลังคาโลหะพับได้เหมือนกับ Z4 E89 ช่วยทำให้กักเก็บเสียงแปลกปลอมจากภายนอกได้ดีเกือบเท่ารถหลังคาปกติ วัสดุซับเสียงและผ้าหลังคาสีดำสนิท ยังเข้ากับห้องโดยสารแบบเปิดประทุนได้ดี หลังคาใช้เวลากางออกหรือพับเก็บเพียงแค่ 35 วินาที การทำงานเริ่มจากฝากระโปรงท้ายเปิดออกในมุมที่ผิดปกติ หลังคาจะซ้อนพับกันเป็นสองชิ้น แล้วพับอย่างนิ่มนวลไปเก็บยังฝากระโปรงหลัง เมื่อชุดหลังคาลงเก็บเรียบร้อย ฝาหลังจะพับกลับมาปิดจนสนิทแนบแน่น กลายเป็นรถไร้หลังคาสองประตูสี่ที่นั่งที่สวยงาม เพื่อนสื่อมวลชนบางคนบอกผมว่ามันมีหลังคาที่น่าเกลียดและดูไม่สมส่วนเมื่อ วิ่งแบบปิดหลังคา แต่ผมกลับคิดไปว่าหลังคาพับได้ของ 325Ci E93 มีความเป็นเอกลักษณ์ของรถเปิดประทุนอย่างแท้จริง หลังคาสองรูปแบบยังวิ่งที่ความเร็วสูงได้ดีกว่าหลังคาผ้าใบ แม้ความคลาสสิกในตัวตนของมันจะถูกลดทอนลงไปบ้างก็ตาม เบาะหนัง Dagota สีน้ำตาลเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศที่นุ่มนวลของห้องโดยสารใน E93 325Ci Convertible แดซบอร์ดสไตล์ BMW ยุคใหม่ ใช้โฟมขึ้นรูปแล้วห่อหุ้มด้วยวัสดุประเภทหนังสีดำเพื่อลดแสงสะท้อน ความหรูหราของอุปกรณ์อยู่ในระดับสูง ลายไม้คาดกลาง Black High Gloss มอบความสุขุมนุ่มลึกแบบผู้ใหญ่มาดเนียบได้มากกว่าเจ้า Z4 ที่ใช้ชิ้นงานอัลลอยสีเงินแบบแนวๆ เอาใจวัยแรง มาตรวัดรอบและมาตรวัดความเร็วอยู่ในกรอบหน้าปัดขนาดเล็กที่เหมือนกับรุ่นสี่ ประตูรหัส E90 จอตรงกึ่งกลางเป็นจอของระบบ iDRIVE ใช้ปรับตั้งการทำงานของระบบต่างๆ ด้วยการสั่งงานผ่านสวิตช์ทรงกลมข้างคันเกียร์ จอขนาด 8 นิ้วที่คมชัดยังมีระบบนำทางด้วยดาวเทียม เซ็นเซอร์และแนวเส้นระนาบระหว่างการถอยหลังเพื่อความปลอดภัยของระบบ PDC แสดงผลการเล่นเพลงและวิทยุ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์แบบไร้สาย แถมยังแสดงการเล่นเพลงจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อมาจากภายนอก แม้แต่ปกอัลบั้มของศิลปินนักร้องที่บันทึกไว้ใน iTunes ก็ยังถูกแสดงที่จอทันทีที่กดสวิตช์สั่งงานให้ทำการเล่นเพลง พวงมาลัยหุ้มหนังแท้สีดำสามก้านคล้ายกับพวงมาลัยของ Z4 เพียงแต่มันไม่มีแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ติดมาให้ ระยะของการปรับค่อนข้างกว้างทั้งเดินหน้า ถอยหลัง ขึ้นลง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำสามระดับกับหมอนรองศีรษะขนาดมหึมา พื้นที่ของเบาะหลังไม่ได้ทำให้เด็กนั่งอีกต่อไป ผู้ใหญ่ที่มีความสูง 180 เซนติเมตรสามารถเข้าไปนั่งได้ แต่ผมแนะนำให้นั่งที่เบาะหน้าดีกว่าหากต้องเดินทางไกล วัสดุพวกหนัง พลาสติก พรม ลายไม้ อะลูมินัมอัลลอย รวมถึงกลิ่นและสัมผัสบ่งบอกตัวตนว่ามันคือเลือดเนื้อของยนตรกรรมชั้นสูงที่ ผลิตโดย BMW ซุ้มอุโมงค์เกียร์ที่ค่อนข้างใหญ่แบ่งสัดส่วนของพื้นที่อย่างชัดเจน อุปกรณ์ต่างๆ หันเข้าหาคนขับซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถูกออกแบบให้เป็นจุดศูนย์กลาง ของตัวรถ คันเกียร์ออโต้ 7 สปีดแบบเซมิออโตเมตริกหัวเกียร์ทำจากหนังกับอัลลอยสีเงิน ห่อหุ้มด้วยถุงเกียร์ทำจากหนังแท้สีดำ สวิตช์ iDRIVE อยู่ใกล้กับมือจนบางครั้งเผลอไปโดนเข้าด้วยความไม่ตั้งใจ ส่วนแผงประตูใส่ของได้บ้างแต่ไม่มากนักจากการออกแบบที่เน้นความสวยงาม มากกว่าจะเอามาไว้เป็นที่วางแก้วน้ำ ขณะที่นักออกแบบส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับระบบอากาศพลศาสตร์ และสัดส่วนของตัวถัง แต่พวก BMW กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามเช่น เน้นไปที่ขอบเขตของสภาวะแวดล้อมระหว่างการใช้งานกับอารมณ์ของการขับขี่ วิศวกรเยอรมันเชื่อมโยงการควบคุมรถให้เข้ากับงานศิลปะได้อย่างกลมกลืน และทิ้งกรอบแนวคิดที่ยึดติดกับสิ่งเก่าๆ อย่างสิ้นเชิงเพื่อก้าวไปข้างหน้า ด้วยความเด็ดเดี่ยว ความสมบูรณ์แบบของรูปทรงด้านหน้าตัวรถ E93 325i Convertible ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ซีนอน ไฟหรี่ LED สีเหลือง กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ ไฟตัดหมอกทรงเหลี่ยม สปอยเลอร์ที่มีขนาดพอเหมาะพอดี รวมถึงแนวขอบของเส้นนำสายตาบนฝากระโปรงหน้า เมื่อทั้งหมดผสมรวมกันเป็นรูปลักษณ์ด้านหน้าของ E93 325i Convertible แล้ว สิ่งที่มองเห็นคือรถสปอร์ตคูเป้แบบพับหลังคาได้ที่ให้อารมณ์และมุมมองที่ไม่ ซ้ำซากและจำเจ ไฟหรี่วงแหวนตามกฎหมายยุโรปยิ่งทำให้ด้านหน้าของมันมีความน่ามองมากขึ้น แม้จะโดนตำหนิจากนักวิจารณ์ว่ามันมีรูปทรงที่ขาดความเป็นเอกลักษณ์ของ BMW แต่ E93 325i Convertible ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน งานประกอบที่ประณีตจากวัสดุชั้นดีที่ใช้ตกแต่งทั้งภายในและภายนอก หรูหราและเต็มไปด้วยรสนิยมที่บ่งบอกตัวตนเจ้าของได้เป็นอย่างดี แสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่ได้มากกว่า Z4 E89 โดยไม่ต้องใช้ล้อขนาดยักษ์ หลังหลังแบบ GT หรือท่อปลายที่มากจนเกินความจำเป็น ด้านข้างของ 325i Convertible เรียบง่าย มีเพียงเส้นนำสายตาคมๆ ลากจากแก้มข้างไล่ไปจนถึงไฟท้ายทรงยาวรี ล้ออัลลอยของ M ลายก้านที่ล้างทำความสะอาดได้ยากแต่มันสวยเสียจนทำให้ล้ออื่นๆ ดูหมองไป ถนัดใจ จากสีเทาดำที่ตัดกับสีขาวของตัวถัง มันช่างขัดแย้งแต่เปล่งประกายสวยงามท่ามกลางแดดจัด และเขร่งขรึมดุดันยามค่ำคืน ล้อขนาด 18 นิ้ว ใส่ยางต่างขนาดแบบหน้าเล็กหลังใหญ่ตามลักษณะของการขับเคลื่อน ล้อคู่หน้าใส่ยาง Michelin รุ่น Pilot Super Sport ขนาด 225/40/ZR18 ส่วนล้อหลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อน มียางที่อวบอ้วนขึ้นมาอีกนิดแต่แก้มต่ำเตี้ยติดพื้นที่ 255/35/ZR18 ฝาถังเชื้่อเพลิงทรงเหลี่ยมยังเข้ากับแนวหลังคาที่ไม่สมมาตรของรถคันนี้ได้ อย่างแปลกประหลาด Series-3 เปิดประทุนคันนี้มีสัดส่วนบั้นท้ายที่ดึงดูดสายตา จากการออกแบบไฟท้ายทรงยาวรีที่สอดรับกับฝากระโปรงหลัง ไฟท้ายสีแดงใช้หลอด LED ทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนท่ามกลางสภาพอากาศแย่ๆ ฝากระโปรงท้ายติดตั้งไฟเบรกดวงที่สาม กันชนหลังเรียบสนิทไร้รอยต่อ ท่อระบายไอเสียสเตนเลสทรงกลมสองท่อคู่ กับเซ็นเซอร์ถอยหลังหรือระบบแจ้งเตือนระยะการจอด Park Distance Control (PDC) สี่ตำแหน่งรอบๆ กันชนหลัง มุมมองด้านหลังหากกางหลังคาจะเหมือนกับรถคูเป้ทั่วไปจนดูแทบไม่ออก ต่อเมื่อพับหลังคาลงเก็บ เจ้า E93 325Ci Convertible จะแปลงร่างเป็นรถสองประตูเปิดประทุนที่สวยงามและมีสัดส่วนที่ลงตัว สิ่งที่แตกต่างจาก Series-3 เปิดหลังคารุ่นที่ผ่านๆ มาคือขนาดที่โตขึ้นในทุกมิติ โดยมีฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่น 4 ประตู (E90) อยู่เล็กน้อย BMW Series-3 325Ci Convertible วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 กระบอกสูบ รหัส M57 DOHC 24 วาล์ว 2,497 ซีซี พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VALVE TRONIC และ ระบบ Double VANOS กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร หรือ 25.45 กิโลกรัม/เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 2,750 - 4,000 รอบต่อนาที กระบอกสูบคูณช่วงชัก 85.0x88.0 มิลลิเมตร 4 วาว์ลต่อกระบอกสูบ=24วาล์ว อัตราส่วนแรงม้าต่อลิตร =71.8 แรงม้า/ลิตร สมรรถนะในการเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลา 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 241.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดของ ZF พร้อมโหมดแมนนวล ระบบกันสะเทือนของรุ่นเปิดประทุนใน 325Ci ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพ เหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติลิงก์กับเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Servotronic หรือ Electro Servo Hydraulic Valve โดยไม่มีระบบ Active Control เหมือนกับรุ่นที่มีราคาสูงกว่าอย่าง 335Ci หรือแม้แต่ M3 ระบบห้ามล้อหรือเบรก วิศวกรของ BMW วางดิสเบรก 4 ล้อ พร้อม ABS และระบบ Pre-loading ระบบช่วยเบรก DBC หรือ Dynamic Brake Control จะทำการคำนวณแรงดันน้ำมันเบรกที่เหมาะสมสัมพันธ์ไปกับความเร็วแบบอัตโนมัติ ระบบ Soft-Stop ช่วยเข้ามาให้ความนุ่มนวลขณะเบรกและระบบ Set-Off ป้องกันรถไหลถอยหลังเมื่อต้องออกตัวบนทางลาดชัน ระบบ CBC หรือ Cornering Brake Control ช่วยป้องกันการหมุนระหว่างเบรก ระบบดังกล่าวถูกเชื่อมต่อกับกลไกไฟฟ้าที่คอยเข้ามาเสริมในด้านของความเสถียร เช่น DSC หรือ Dynamic Stability Control หลังคาโลหะแบบพับเก็บได้เข้ามาแทนที่หลังคาผ้าใบแบบเก่า แต่รูปทรงที่ไม่ลงตัวกับงานวิศวกรรมและการออกแบบทำให้มันดูขัดตาอยู่บ้าง เมื่อไม่ได้พับหลังคาลง ข้อดีของหลังคาโลหะพับได้บนตัวรถรุ่น E93 325i Convertible ซึ่งเป็นรถทดสอบของ BMW Group คือการวิ่งที่ความเร็วสูงขณะปิดหลังคามีความมั่นคงมากกว่าหลังคาผ้าใบ มันมอบความนุ่มนวลและลดอาการกระด้างของช่วงล่างแบบสปอร์ตได้ดีกว่าหลังคาผ้า ในรุ่นที่แล้ว (E46) ใน 325i รุ่นเปิดประทุน แม้น้ำหนักของหลังคาอัลลอยแบบใหม่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านการแบกรับของ เครื่องยนต์ มันคืออุปสรรคที่ยากต่อการกำจัดเมื่อผู้บริหารของ BMW ตกลงใจที่จะใช้หลังคาแบบนี้กับ Z4 E89 และ Series-3 Convertible E93 ซึ่งทาง BMW ต้องมาเน้นไปที่กำลังแรงบิดจากเครื่องยนต์เป็นการชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มมาก ขึ้น
รถทดสอบ BMW 325i Convertible ดูดีมากที่สุดในกลุุ่มรถเปิดประทุนเครื่องยนต์ไม่เกิน 3.0 ลิตร มันคือความสำเร็จของนักออกแบบที่ใช้ความทุ่มเท เพื่อทำให้มันดูดีทั้งตอนปิด หรือเปิดหลังคา คุณภาพและมาตรฐานของการประกอบอยูในระดับสูง และมีรายละเอียดมากกว่ารุ่นซีดาน หรือรุ่น 2 ประตูหลังคาแข็ง เนื่องจากเป็นรถเปิดประทุน โครงสร้างของ E93 จึงถูงยึดดามมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการบิดตัว ภายในห้องโดยสารแบบสี่ที่นั่งส่งมอบความสะดวกสบายในการใช้งาน เบาะหลังที่ไม่คับแคบ ยังเป็นมิตรกับผู้โดยสารโดยมีพื้นที่วางเท้าพอสมควร หากคนที่นั่งด้านหน้าไม่ตัวใหญ่จนเกินไป พื้นที่เหนือศีรษะด้านหลังมีไม่มากนัก ซึ่งเกิดจากการออกแบบหลังคาส่วนหลังที่มีกระจกบานหลังลาดเอียงมากกว่าปกติ เพื่อความสวยงาม เส้นสายของตัวรถที่เรียบๆทำให้มันมีมุมมองที่ลื่นไหล ทัศนวิสัยมุมมองด้านหน้าโปร่งโล่ง แต่เสาหลังที่โค้งลงเพื่อให้สอดรับกับรูปทรงเข้ามาบดบังมุมมองด้านท้ายอยู่ บ้าง ผมใช้ความเร็วต่ำและค่อยๆ ทำความรู้จักกับมันก่อนที่จะพาวิ่งออกทางไกล เพื่อเก็บภาพและทดสอบประสิทธิภาพด้านการขับขี่ใช้งาน จำนวนของวันที่มีอากาศเย็นในฤดูหนาวของประเทศไทยหดสั้นลงทุกที แต่ปริมาณของรถยนต์เปิดประทุนกลับเพิ่มมากขึ้นและสวนทางกับสภาพอากาศอย่าง สิ้นเชิง แสดงให้เห็นถึงความนิยมรถเปิดหลังคาในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
เครื่องยนต์ของรถทดสอบคันนี้เป็นเครื่องเบนซินแถวเรียง 6 กระบอกสูบ 2.5 ลิตร และมีเรี่ยวแรง 218 แรงม้า อัตราเร่งที่แจ้งมาว่าใช้เวลาตะกายไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 7.4 วินาที เมื่อลองกดคันเร่งลงลึกในช่วงออกตัวก็จะพบกับแรงดึงอย่างต่อเนื่อง มันอาจไม่ดึงแบบกระชากกระชั้นเหมือนกับ Z4 35is ที่ผมเคยขับเมื่อเดือนก่อนแต่สร้างความบันเทิงได้ดีทีเดียว รถ BMW 325i Convertible คือจักรกลที่มีความเป็นไดนามิกส์สูง มันขับได้เยี่ยมและให้การตอบสนองต่อการคิกดาว์นเปลี่ยนลงเกียร์ต่ำด้วยความ ว่องไว แรงบิด 245 นิวตันเมตร มีให้ใช้แบบกว้างๆ ตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบปานกลาง ส่วนระบบรองรับที่ขึ้นชื่อว่าเกาะเป็นตุ๊กแก ยังมอบความนิ่มนวลแม้ผิวถนนจะไม่เรียบ คอสะพานชันๆ ที่สร้างปัญหาให้กับพวก Roadster กลับไม่สามารถทำอะไรเจ้ารถคันนี้ได้แม้แต่น้อย มันซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีจนผมเผลอคิดไปว่ากำลังควบ Series-5 ทั้งๆ ที่มันคือ Series-3 สองประตูเปิดประทุนที่มีขนาดเล็กกว่ามาก อารมณ์ของความนิ่มนวลและความสบาย ทำให้มันเหมาะกับผู้หญิงที่ชื่นชอบรถเปิด หลังคา ซึ่งมอบการขับและควบคุมได้ง่ายกว่าสปอร์ตสองที่นั่งพลังสูงทั่วๆ ไป แม้ย่านของกำลังแรงบิดจะอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก แต่มันคือผู้ชนะจากยอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่องทั่วโลก สิ่งที่อยู่ภายในของรถคันนี้จะค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละน้อย ตัวตนที่แท้จริงของมันโดยเฉพาะตอนพับหลังคาเก็บ จะส่งถ่ายทั้งอารมณ์และความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวไปตลอดเส้นทาง
คันเร่งไฟฟ้าที่ถูกปรับตั้งให้หน่วงเวลาของการตอบสนองน้อยกว่ารุ่น 4 ประตูอาจสร้างความรำคาญให้บ้างเมื่อต้องกดคันเร่งลงลึกแบบฉับพลันเพื่อแซงรถ ช้าหรือต้องการออกตัวแบบรวดเร็ว แต่เมื่อรอบเครื่องกวาดไปที่ช่วงกลางๆมันกลับทำตัวได้ดีขึ้น เสียงเครื่องยนต์ 6 สูบจะครางดังขึ้นมาทันทีที่รอบแตะระดับ 4,000 ต่อนาทีแล้วตังต่อเนื่องไปจนถึงย่าน 7,500 รอบที่จะสนั่นหวั่นไหวมากกว่าเดิม มันเป็นรถที่ชอบให้ลากรอบหากคุณเป็นคนที่ไม่สนใจระดับของน้ำมันเชื้อเพลิงใน ถังมากนัก อัตราทดของเกียร์ 7 สปีดจาก ZF ที่มีความต่อเนื่องยังเข้ามาทำให้รอบของเครื่องยนต์ไม่หล่นลงมาเร็วนัก เกียร์อันชาญฉลาดของพวกเยอรมนียังมีโหมดแมนนวลสำหรับคนที่ชอบยัดเกียร์เอง อีกด้วย ที่ความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเก็บเสียงกลับทำได้ดีจนน่าแปลกใจ แม้ยาง Michelin รุ่น Pilot Super Sport ขนาด 225/40/ZR18 ที่ล้อหน้าและ 255/35/ZR18 ที่ล้อหลัง จะมีแก้มที่ค่อนข้างแข็งแต่ เสียงที่ดังลอดเข้ามาในย่านความเร็วสูงมีเพียงเสียงของกระแสลมที่ไหลปะทะตัว ถังและเสียงของยางที่บดไปกับผิวถนนแค่พอให้ได้ยินเท่านั้น เครื่องยนต์ 6 สูบ ที่วางอยู่ด้านหน้ามีน้ำหนักมากพอในการกดส่วนหน้าของรถให้นิ่งและมีความมั่น คงมากเมื่อใช้ความเร็ว เครื่องยนต์ถูกวางให้ร่นเข้าหาห้องโดยสารมากที่สุดเพื่อการกระจายน้ำหนักที่ ดี บนตัวเลขอัตราส่วนของการกระจายน้ำหนักที่ 50/50 ยังส่งผลไปถึงการควบคุมบนทางโค้งที่ดี และให้ความมั่นใจแม้จะใส่กันหนักๆ ในโค้ง อาการหน้าดื้อ หรือท้ายปัดก็เกิดขึ้นน้อยมาก พวงมาลัยไฟฟ้า Electro Servo Hydraulic ของ BMW 325i Convertible มีการทำงานที่น่าสนใจ ที่ความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันให้สัมผัสที่เบาสบายและมอบความมั่นคงได้ดีที่ความเร็ว สูงจากการแปรผันน้ำหนัก พวงมาลัยของรถคันนี้จะมีการหน่วงน้ำหนักไปตามความเร็วผ่านเซ็นเซอร์ โดยจะมีน้ำหนักมากขึ้นไปตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น และจะกลับมาเบาสบายมืออีกครั้งที่ความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้นทุนของการพัฒนาที่สูงลิบทำให้พวงมาลัยของ BMW ยุคใหม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้ดี ไม่แตกต่างไปจากพวงมาลัยแบบเดิมๆ ซึ่งใช้ปั๊มเพาเวอร์สายพานทืี่กินกำลังเครื่องยนต์ ส่วนช่วงล่างอัลลอยน้ำหนักเบาให้ความรู้สึกที่ดี และมอบการยึดเกาะในระดับสูง แม้จะอัดเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงก็ตาม จิตวิญญาณของรถเปิดหลังคา ที่ผลิตโดย BMW Group จากอดีตสู่ปัจจุบัน ยังคงส่งถ่ายความรู้สึกและอารมณ์ของการขับขี่ที่คงคุณลักษณะที่ดีของรถ Convertible ไว้อย่างครบถ้วน ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นเกิดจากขนาดที่โตขึ้นในทุกมิติ รวมถึงอุปกรณ์ที่ทันสมัยอย่างหลังคาโลหะ ซึ่งพับและกางได้ด้วยความรวดเร็ว บน 325i Convertible คุณไม่จำเป็นต้องเป็นพวกสุดยอดฝีมือ ก็สามารถดึงเอาสมรรถนะของมันออกมาได้ บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ BMW เป็นรถที่เน้นความสามารถของคนขับในการรับรู้ความรู้สึกที่ส่งจากช่วงล่างมา ยังพวงมาลัย อาการโคลงตัวและการถ่ายเทน้ำหนักเมื่อหักหัวรถเข้าสู่ทางโค้งเป็นไปโดย ธรรมชาติ และมีความสมดุลต่อเนื่องนุ่มนวลจากชุดกันสะเทือนที่ปรับตั้งค่ามาเป็นอย่าง ดี แรงบิดรอบต่ำของเครื่อง M52B25 ค่อนข้างแบนราบและเน้นที่ความต่อเนื่องไหลลื่นมากกว่าจะดึงกันจนชนิดหน้า หงาย ถึงแม้กำลังของมันจะด้อยกว่ารุ่น 335i หรือ M3 แต่มันกลับได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรปและอเมริกา ด้วยราคาค่าตัวที่ต่ำกว่ามาก มันไม่ได้แพงจนบ้าเลือดอย่างรถตระกูล M ทั้งยังขับขี่-ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า กินน้ำมันเชื้ิอเพลิงน้อยกว่า อีกไม่นานนัก รถเปิดประทุน Series-3 รุ่นต่อไปจะมีเครื่องยนต์ที่เล็กลง กินเชื้อเพลิงน้อยลงไปอีก แต่ยังคงมีแรงม้าและแรงบิดเท่าเดิมหรือดีกว่า เครื่องยนต์แถวเรียง 6 สูบที่ BMW Group เริ่มปลดประจำการ แล้วหันมาพัฒนาเครื่องยนต์ 4 สูบอัดอากาศด้วยเทอร์โบแทน เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมัน มีน้ำหนักเบา ปล่อยมลภาวะต่ำกว่าและมีสมรรถนะเท่าเทียมหรือเหนือกว่าเครื่อง 6 สูบในบางจุด เครื่องยนต์รุ่นใหม่ของ BMW Group ได้เข้ามาแทนที่เครื่อง 6 สูบ โดยเริ่มจาก New Series-5 F10 และตามด้วย New Series-3 F30 เทคโนโลยี TwinPower Turbo ซึ่งมีระบบหัวฉีดรุ่นใหม่แบบคอมมอนเรลไดเรกอินเจกชั่น กลไกของวาล์วแปรผัน เกียร์ 8 อัตราทดและเทอร์โบแบบ Twin Scroll ได้เข้ามาแทนที่เครื่อง 6 สูบที่กินจุและมีน้ำหนักมาก จนทำให้เจ้า 325i Convertible รุ่นต่อๆ ไปจะมีขนาดของเครื่องยนต์เล็กลง แต่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการขับเคลื่อนในสไตล์ BMW อย่างแน่นอน เมื่อเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนที่จะมุ่งหน้าไปยังเขื่อนแก่งกระจาน บนเส้นทางเขาพะเนินทุ่ง หลังคาที่ถูกพับเก็บสร้างความประทับใจในความแตกต่างด้านความรู้สึก รถเปิดประทุนมีอารมณ์และสัมผัสที่ออกจะแปลกประหลาด มันให้ความเชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางด้วยความประทับใจ สายลมและแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเย็นแถบ อ.ท่ายาง กลิ่นหญ้าและดินหลังฝนตกใหม่ๆ กับวิวทิวทัศน์เหนือตัวเขื่อน เมื่อใช้ความเร็วต่ำบนรถเปิดประทุน อย่าง BMW 325i i Convertible ก็จะเข้าสู่รูปแบบการขับที่เหมาะสมสำหรับควบคุมรถเปิดหลังคาเพื่อโลดแล่นไป บนเส้นทางอันงดงามของประเทศไทย การขับรถเปิดหลังคา นับว่าเป็นกิจกรรมทางอารมณ์อย่างแท้จริง แต่สภาพดินฟ้าอากาศของเมืองไทยนั้น ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยมากนัก แสงแดดที่แรงจัดแบบเขตร้อนชื้น พายุฝนฟ้าคะนอง หรือสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมือง ทำให้การขับขี่รถยนต์ประเภท Open Top ต้องถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดบางประการดังกล่าว แต่เมื่อพับหลังคาลง จะไม่มีอะไรมากั้นสายตาของคุณเลยแม้แต่น้อย บรรยากาศรอบข้างระหว่างที่รถกำลังแล่นไปด้วยความเร็วต่ำ สูดอากาศบริสุทธิ์ตามเนินเขาของวนอุทยานแห่งชาติพะเนินทุ่ง ละอองหมอกหลังฝนตกที่เย็นชุ่มฉ่ำผ่านเข้ามาปะทะใบหน้าชวนให้ชื่นใจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างระหว่าง BMW 325i Convertible กับรถหลังคาปกติทั่วไปได้อย่างชัดเจนที่สุด
การมาถึงของหลังคาแบบใหม่ ช่วยให้การใช้งานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น หลังคาอัลลอยพับได้ของ 325i ยังช่วยเก็บเสียงแปลกปลอมจากภายนอกได้ดี รถเปิดประทุนรุ่น Series-3 ในอดีตขึ้นชื่อในเรื่องของสมรรถนะและความน่าพึงพอใจในการใช้งาน ส่วนเจ้า E93 ก็มีหน้าที่เพียงแค่เข้ามาสานต่อจิตวิญญาณของรถเปิดหลังคาจาก BMW Group ให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ของการขับเคลื่อน มันวิ่งได้นิ่มนวลสุดๆ และมีระดับของการใช้สอยที่สามารถขับขี่ได้ทุกวัน แม้ฝาท้ายจะใส่ของได้ไม่มากนัก เมื่อต้องการพื้นที่สำหรับพับหลังคา แต่ความอเนกประสงค์ของการใช้งานในด้านอื่นๆ จะเข้ามาทดแทนพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด ในการใส่สัมภาระ รถ Series-3 E46 Convertible ในรุ่นที่แล้วได้รับคำชมเชยมาในด้านความสามารถของการควบคุมที่อยู่ในระดับดี ส่วนเจ้า E93 325i Convertible รุ่นใหม่คันนี้เข้ามาเสริมในเรื่องของงานวิศวกรรมที่มีความซับซ้อนมากกว่า ความละเอียดประณีตจากงานประกอบและการคัดสรรวัสดุชั้นดี มันขับได้ดีพอๆ กัน แต่ E93 325i Convertible จะมอบความหนักแน่นแม่นยำ และมีความต่อเนื่องของอัตราทดจากระบบส่งกำลังที่โดดเด่นกว่ามาก รวมถึงระบบกันสะเทือนที่ยอดเยี่ยมของมัน ก็ยังช่วยให้การขับผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ มีความนิ่มนวลสูงสุด ใกล้เคียงรุ่น Series-5 F10 เลยทีเดียว ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีของวิวัฒนาการในโมเดล 3-Series เปิดประทุน ส่งผลให้ 325i Convertible มีความสมบูรณ์แบบด้านการใช้งาน รวมถึงสมรรถนะที่ดี โดยมีคู่แข่งเพียงแค่ Mercedes Benz E-Class Coupe Cabriolet E250 CGI เท่านั้น ที่เป็นคู่แข่งสำคัญบนตลาดรถนำเข้าในไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า คุณรักและชอบที่จะแสดงออกบนถนนแบบไหนมากว่ากันเท่านั้ัน ขอขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล จากคอลัมน์ Man & Machine
|
เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้
ประเภทคุกกี้ อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ |
ยินยอม / ไม่ยินยอม |
---|---|
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ (Strictly Necessary) |
|
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์ (Functionality) |
|
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์ (Performance & Analytics) |
|
คุกกี้เพื่อการตลาด (Marketing) |