หล่อ ใจดี สปอร์ต แก่งกระจาน HONDA CRV 2.4 EL 4WD
New CRV เจนเนอเรชั่นที่ 4 ถูกเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2555 บนความอเนกประสงค์ของการออกแบบใหม่หมดทั้งคันสำหรับตัวรถในสไตล์ Crossover ของค่าย Honda ดีไซน์ที่ถูกปรับใหม่หมดตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังเน้นไปที่ความสวยงาม ลงตัว ความสะดวกสบายของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และความคุ้มค่าของการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน โดยยังคงเครื่องยนต์สองขนาดความจุเอาไว้ให้เลือกเหมือนเเดิม
New CRV 2013 รถ Crossover สุดฮิตเจเนอเรชั่นที่ 4 ถูกปรับปรุงให้รองรับการขับขี่ได้สองรูปแบบ ทั้งขับขี่ในสภาพทางปกติและลุยไปในพื้นที่ทุรกันดานที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก รถ CRV รุ่นล่าสุดที่เน้นประสิทธิภาพการขับขี่แบบรถเก๋งและ Crossover ลุยได้บ้าง แต่ไม่มากเท่า SUV เต็มรูปแบบ การดีไซน์ตัวถังของ New CRV 2013 ใช้เส้นสายที่มีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันเพื่อความลงตัว ตัวถังรอบคันผสานไปกับรูปทรงที่ถูกขัดเกลาจากระบบอากาศพลศาสตร์ ทำให้มันมีเรือนร่างที่เหนือกว่ารุ่นเก่าอยู่บ้าง New CRV ยนตรกรรมอเนกประสงค์ได้รับการออกแบบใหม่ ดีไซน์ที่เน้นความหรูหราในแบบรถสปอร์ตกึ่งอเนกประสงค์แบบ Crossover แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายเหมือนกับรถเก๋งขนาดกลาง ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินแบบ i-VTEC ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี พร้อมการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่เพื่อตอบสนองทั้งในด้านความต้องการส่วนบุคคล และความสะดวกสบายควบคู่ไปกับการขับขี่ ระบบความปลอดภัยครบครัน เครื่องยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการผ่านมาตรฐาน EURO 4 รองรับการใช้พลังงานทางเลือกน้ำมันเชื้อเพลิง E85 รถ New CRV ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งคัน ภายใต้แนวคิด Premium Smart SUV เป็นยนตรกรรมที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว หรูหรา สวยงามและแข็งแกร่งในแบบรถสปอร์ตอเนกประสงค์ขณะเดียวกันก็ให้?ความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับรถซีดานขนาดกลาง
รูปลักษณ์ด้านหน้าใช้แนวเส้นที่มีความเชื่อมโยงกับกระจังหน้าและชุดไฟหน้าแบบ ใหม่ที่เฉียบคมจากงานดีไซน์ กระจังและกันชนเชื่อมต่อกันโดยมีชุดไฟตัดหมอกทรงกลมอยู่ในชิ้นงานพลาสติกสีดำ ฝากระโปรงหน้ายกสันนูนเพื่อให้มีความสอดคล้องกับแก้มข้าง ส่วนซุ้มล้อของ
New CRV ถูกขยายขนาดขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อความสวยงามและเหมาะสมกับล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว บริเวณแคร้งใต้ห้องเครื่องยนต์ถูกปิดด้วยวัสดุพวกพลาสติกสีดำ โดยต้องการให้อากาศไหลผ่านใต้ท้องได้อย่างเป็นระเบียบและป้องกันการหมุนวน ที่ไม่เป็นระเบียบของกระแสลม วิศวกรของ Honda แจ้งว่า ระบบแอร์โรไดนามิกส์ที่ดีขึ้นอีก 6.5% จะส่งผลไปถึงการควบคุมที่ดีขึ้นกว่าเดิม ชุดกันชนหน้าที่ถูกย่อให้เล็กลงเพื่อเพิ่มมุมประชิดให้มากยิ่งขึ้นและถือ เป็นแนวทางในการออกแบบรถรุ่นใหม่ภายในค่าย Honda Automobile ซึ่งจะยังคงใช้สไตล์ที่เห็นในอีกหลายโมเดลท่ี่จะออกตามมาในอนาคตอันใกล้นี้
ด้านข้างไหลลื่นด้วยการออกแบบที่โน้มนำมุมมองของหลังคาที่ค่อยๆ ลาดเอียงไปทาง ส่วนท้าย ไฟหรี่ในกรอบไฟหน้ากับไฟท้ายทรงตั้งตรง มีความโค้งมนไปตามแนวเส้นของฝาท้ายด้านข้างตัวถัง นักออกแบบของ Honda ในแผนก R And D ยังคงใช้เส้นนำสายตาลากจากแก้มข้างผ่านแนวของมือจับประตูไปจนถึงไฟท้าย ความโค้งมนของแนวหลังคาลาดเอียงไล่องศาลงต่ำไปยังด้านหลังทัศนวิสัยมุมมอง ด้านหน้ากว้างขึ้นจากการขยายกระจกหน้าออกไปอีก 60 มิลลิเมตร ส่วนตำแหน่งของผู้ขับขี่ บริเวณเบาะนั่งและพวงมาลัยสูงขึ้นอีก 10 มิลลิเมตร เพื่อมุมมองที่ดีรอบคัน ฝาท้ายเปิดได้ด้วยมุมที่สูงเหมือนเดิม เพื่อความสะดวกในการขนสัมภาระ ส่วนท้ายของหลังคายังมีเสาวิทยุที่ออกแบบคล้ายกับกระโดงของปลาฉลาม ซึ่งเหมือนกับเสาอากาศในรถ
BMW จากดีไซน์ที่คล้ายคลึงกัน พื้นที่เก็บสัมภาระอยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงเบาะหลังที่พับเอนได้ยังช่วยให่การขนของทำได้มากกว่า CRV ทุกรุ่นที่ผ่านมา ในรุ่นสูงสุดซึ่งเป็นรถทดสอบมีกล้องมองหลังที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยามถอย เข้าออกจากบ้านหรืออาคารจอดรถ ตัดปัญหาในการถอยไปโดนกระถางต้นไม้ ทับหมาแมวหรือโดนกับวัตถุกีดขวางที่อยู่ด้านหลัง
New Honda CRV ในเจนเนอเรชั่นที่ 4 มีการพัฒนาเชิงวิศวกรรมใหม่ทั้งหมด เพื่อส่งถ่ายความเป็นไดนามิกส์และยกระดับความแข็งแกร่งของตัวถังแบบ Unit-body ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องในการพัฒนาคุณภาพการขับขี่และการควบคุมรถที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับการลดเสียงดังที่จะเล็ดลอดเข้าสู่ห้องโดยสาร รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามามากมายหลายจุด แนวเส้นหลังคาที่มีขนาดยาวขึ้นถูกออกแบบให้เชื่อมต่อเป็นชุดเดียวกับสปอยเลอร์ ช่วยให้ตัวรถมีมุมมองที่ดูต่ำลง และมีความเพรียวลมมากที่สุด กระจกบานโตรอบคันทำให้ New CRV มีทัศนวิสัยมุมมองที่ดี ระบบแชสซีส์ของ New CRV ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนอในด้านประสิทธิภาพของการขับขี่ ความสะดวกสบายและความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร ระบบรองรับยังถูกปรับแก้ให้มีความนิ่มนวลมากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นเก่า แต่ยังคงให้การยึดเกาะในระดับที่ดี New CRV ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบน ทำให้ขยายพื้นที่ของเบาะนั่งด้านหลังและพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ตัวรถยังสามารถตอบสนองทั้งในด้านการบังคับควบคุมและคุณภาพในการขับขี่ วิศวกรของค่ายทำการลดน้ำหนักชิ้นส่วนบางชิ้นในระบบกันสะเทือนและใช้การ ออกแบบใหม่ให้ทุกชิ้นส่วนทำงานได้กระชับขึ้น ชิ้นส่วนบางชิ้นที่ได้รับการปรับปรุงยังทำให้น้ำหนักตัวของ Honda New CRV เบากว่ารุ่นปี 2011กว่า 80 กิโลกรัม ล้อแม็กลาย 5 ก้านขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความสปอร์ตและสมรรถนะการขับเคลื่อน ใน
Honda New CRV 2.0S และ Honda New CRV 2.0E ใช้ยางขนาด 225/65 R17 ส่วนรุ่น
Honda New CRV 2.4EL 2WD และ Honda New CRV 2.4EL 4WD คันทดสอบ ใช้ยาง DunlopSport Maxx ขนาด 225/60 R18
ห้องโดยสารใหม่ของ
New CRV 2.4 EL NAVI ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ด้วยรูปแบบ Man Maximum Machine Minimum แผนกออกแบบของ Honda วางตำแหน่งของการใช้อุปกรณ์และทรงของแดซบอร์ดใหม่ทั้งหมด แต่แผงคอนโซนที่ทำจากพลาสติกระดับกลางๆโดยไม่มีแบบที่ีใช้โฟมขึ้นรูปแล้วห่อ หุ้มด้วยหนังแท้ ทำให้มันลดคุณค่าของงานภายในลงไปพอสมควร วัสดุซับเสียงและการออกแบบรอยต่อของชิ้นงานคอนโซลดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเข้า มาช่วยเอาไว้ได้บ้าง คอนโซลกลางโค้งมนกลมกลืนไปกับทรงของช่องแอร์ ส่วนตำแหน่งกึ่งกลางด้านบนของคอนโซลติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID ขนาดความกว้าง 5 นิ้ว อุปกรณ์ใหม่ที่มีเพิ่มเข้ามาเพื่อคอยแจ้งเตือนข้อมูลที่สำคัญขณะขับขี่ โดยแสดงผลระบบการปรับตั้งค่าการทำงานต่างๆ ของรถ ส่วนจอเล็กตรงกึ่งกลางหน้าปัดวัดความเร็ว คอยแจ้งข้อมูลเช่น คำนวณระยะทางต่อเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ในถัง อุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร ทริปมิเตอร์ ฯ จอมัลติฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยระบบสัมผัส รองรับ i-Pod CD / MP3 / DVD / ระบบนำทางด้วยดาวเทียม ระบบโทรศัพท์ไร้สาย ระบบกล้องถอยหลังแบบมีระนาบกะระยะ ชุดปรับอากาศแยกส่วนแบบดิจิตอล ตำแหน่งของการวางซุ้มเกียร์ออโต้ก็ยังถูกปรับเปลี่ยนให้ใกล้กับมือ รวมถึงยกให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อความกระชับ
อุปกรณ์แจ้งเตือนพวกหน้าปัด และมาตรวัดมีขนาดใหญ่ ด้วยมิตเตอร์วัดระดับความเร็วขนาดใหญ่ที่อ่านค่าได้ง่าย ซ้อนทับที่มุมซ้ายด้วยมาตรวัดรอบและตำแหน่งของเกียร์ออโต้ ด้านขวาของวงหน้าปัดมีสัญลักษณ์แจ้งเตือนการทำงานของระบบต่างๆ เกจ์วัดระดับ เชื้อเพลิงในถังและเข็มอุณหภูมิของเครื่องยนต์ พวงมาลัยทรงสามก้านแบบสปอร์ต หุ้มด้วยหนังแท้สีดำมีสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นปรับเครื่องเสียง สวิตช์ระบบโทรศัพท์บลูทูธสวิตช์สตาร์ตเครื่องยนต์ ที่วางแก้ว กล่องเก็บของ การจัดวางโทนสีและพื้นผิวสัมผัสของวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายในของ New CRV มีรูปแบบและมิติที่ดีขึ้น การออกแบบภายในของรถรุ่นนี้มีการคำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอยซึ่งเป็นไปตาม ยุคสมัย และค่านิยมของผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลก
ห้องโดยสารของ New CRV ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดให้เป็นรถที่สะท้อนความเป็นตัวตนของรถยนต์ใน ประเภท Crossover ซึ่งใช้ดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรถซีดานขนาดกลางที่มีห้องโดยสาร ที่ใหญ่และเปี่ยมด้วยประโยชน์ใช้สอย เบาะนั่งด้านหลังพับจังหวะเดียว (One Motion Seat) New Crv ได้รับการออกแบบพนักพิงหลังของเบาะนั่งด้านหลังให้สามารถพับแบบจังหวะเดียว (One Motion Seat) ด้วยคันโยกที่ติดตั้งอยู่ใกล้กับฝากระโปรงท้ายหรือดึงสายที่ติดตั้งอยู่ที่ ด้านข้างของเบาะนั่งด้านหลังก็จะสามารถพับพนักพิงหลัง ซึ่งแยกด้านเป็นแบบ 60:40 ให้พับเก็บลงโดยอัตโนมัติและพับลงมาเกือบแบนราบเป็นระนาบเดียวกับพื้นที่ เก็บสัมภาระด้านท้ายของรถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดใน?การบรรทุกสัมภาระ
ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศจะติดตั้งอยู่ที่ตรงกลางของแผงมาตรวัดเพื่อความสะดวกใน การใช้งาน (รุ่น 2.0S เป็นการปรับแบบ Manual ส่วนรุ่น 2.0E, 2.4EL 2WD และ2.4EL เป็นแบบ Dual Zone Air Condition) ระบบเครื่องเสียงของ New CRV มีการติดตั้งระบบเครื่องเสียง โดยมีวิทยุและเครื่องเล่น CD ที่สามารถรองรับแผ่น CD-R ที่บันทึกไฟล์ WMA และไฟล์ MP3 พร้อมระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วของรถยนต์นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง iPod, Flash Drive ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth (เฉพาะใน CRV รุ่น 2.0E, 24.EL(2WD) และ 2.4EL 4WD) หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (มีเฉพาะรุ่น 2.4EL 2WD และ 2.4EL 4WD) ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist โหมดการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECON Mode
เครื่องยนต์ New CRV มี 2 รุ่น ให้เลือกคือ
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 กระบอกสูบ 16 วาล์ว แบบแคมฯ เดี่ยว SOHC i-VTEC ปริมาตรความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 190 นิวตัน-เมตร (19.4 กิโลกรัมเมตร)ที่ 4,300 รอบต่อนาที ซึ่งมีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Real-Time รถคันทดสอบเป็นรุ่นสูงสุด 2.4 EL 4WD วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ DOHC i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร (22.4 กิโลกรัมเมตร) ที่ 4,300 รอบต่อนาที รถ New CRV 2013 ซึ่งมีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้ง 2 รุ่นใช้ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้ออิเล็กทรอนิกส์ DBW ในการควบคุมการถ่ายทอดกำลังระหว่างเกียร์ในตำแหน่งต่างๆ ให้มีตความต่อเนื่อง และนุ่มนวล ระบบ Grade Logic Control ควบคุมการทำงานของเกียร์ ทำหน้าที่ในการรักษาตำแหน่งเกียร์ที่เหมาะสม ในระหว่างการขับขี่บนเขาหรือทางลาดชัน เพื่อลดการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่จำเป็น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Real Time พร้อมระบบ Intelligent Control System ระบบ Real Time 4WD ใน CRV เจนเนอเรชั่น 4 ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและช่วยให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า ผู้ขับขี่เพียงกดคันเร่ง ระบบก็จะทำงานโดยอัตโนมัติในการยึดเกาะรวมถึงการปีนไต่ทางลาดชัน
ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (Motion Adaptive Electric Power Steering System : MA-EPS) ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัว VSA และระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ผู้ขับขี่สามารถบังคับเลี้ยวได้แม่นยำขึ้นในขณะที่เข้าโค้งหรือขณะที่ขับบนเส้นทางที่เปียกลื่น Honda New CRV ทุกคันจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยออกตัวเมื่ออยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist) ซึ่งเป็นระบบใหม่ใน CRV โดยเป็นระบบช่วยออกตัวเมื่ออยู่บนทางลาดชันป้องกันไม่ให้รถไหลไปด้านหลังขณะ ที่ผู้ขับขี่ถอนเท้าออกจากแป้นเบรกเพื่อกดคันเร่งเวลาที่จอดติดอยู่บน ทางลาดชัน นอกจากนี้ยังมีถุงลมป้องกันการกระแทกด้านข้างสำหรับเบาะคู่หน้า ระบบตรวจสอบตำแหน่งท่านั่งของผู้โดยสารด้านหน้า (Occupant PositionDetection System - OPDS) สำหรับสิ่งที่เหมือนกับรุ่นที่แล้วคือโครงสร้างตัวถังด้านหน้าที่ได้รับการ พัฒนาภายใต้แนวคิดโครงสร้างตัวถัง นิรภัย G-CON ซึ่งจะช่วยกระจายแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากการชนด้านหน้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ผมรับรถ
New CRV 2.4 EL 4WD รุ่นท็อปสุดมาจาก Honda Automobile (Thailand) co. ltd เพื่อขับไปยังสนามแก่งกระจานสำหรับการทดสอบ
Honda Brio รุ่น 4 ประตู ตัวต้นแบบ เนื่องจากช่วงที่ Honda Automobile จัดการทดสอบแบบกลุ่ม ผมดันติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศจึงต้องตามมาเก็บรายละเอียดของ CRV รุ่นใหม่แบบเดี่ยวๆ เวลา 1 อาทิตย์เต็มที่จะได้ขับ Crossover รุ่นใหม่ล่าสุดของ Honda ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับการเดินทางไกลไปทำงานทดสอบขับขี่ยนตกรรมถึงสองรุ่นในค่ายเดียวกันซึ่งนานๆ จะเกิดขึ้นสักที
ท่านั่งที่สูงโด่งสไตล์ Crossover ทำให้มุมมองรอบคันในการควบคุม CRV อยู่ในระดับความสูงและทัศนวิสัยที่เหนือกว่ารถเก๋งขนาดกลางทั่วไป แถมยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้หญิงที่มีรูปร่างเล็ก เนื่องจากมิติด้านความสูงและตำแหน่งของเบาะโดยสารถูกเพิ่มมากกว่ารถซีดาน เจ้า New CRV ยังมีการขยายขนาดของกระจกบานหน้า พื้นที่ของห้องโดยสารและมิติของตัวถังให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย วัสดุภายในพวกพลาสติกที่ใช้ตกแต่งมีรูปแบบที่ดี แต่เกรดของพลาสติกคอนโซลค่อนข้างแย่ ทำให้ขาดรสชาติของความสวยงามไปพอสมควร คอนโซลกลางมีขนาดใหญ่ตามมิติของตัวรถ ตำแหน่งของปุ่ม สวิตช์ จัดวางให้ใช้งานได้ง่าย โทนสีเทาเข้มของชิ้นงานช่วยลดแสงสะท้อนลงได้บ้าง เบาะคู่หน้าปรับตั้งด้วยไฟฟ้า สวิตช์สตาร์ต ปุ่ม ECO พวงมาลัยและแผงประตูรวมถึงผ้าบุหลังคากับพวงมาลัยสามก้านวงเล็กคล้ายกับของรถซิ่ง ทำให้ภายในห้องโดยสารมีความน่าใช้งาน มันช่วยกลบงานพลาสติกคุณภาพต่ำของคอนโซลได้อย่างกลมกลืน ผมชอบชิ้นงานคอนโซลแบบที่ใช้โฟมขึ้นรูปแล้วหุ้มด้วยหนังมากกว่าที่จะใช้พลาสติกทั้งแท่งมาทำเป็นแดซบอร์ดซึ่งแข็งกระด้างและซับเสียงได้ด้อยกว่า
กดปุ่มสตาร์ต เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC ติดขึ้นอย่างเงียบเชียบ ในรอบเดินเบามันเงียบจนคุณสงสัยว่าเครื่องยนต์ติดหรือยังหากไม่ได้สังเกตที่วัดรอบ คันเร่งไฟฟ้ามีน้ำหนักที่เบาสบายเท้า เหมาะกับการขับขี่ของคุณสุภาพสตรีที่นิยมความเบาสบาย ในโหมดเดินทางแบบประหยัดด้วยการกดไปที่สวิตช์ ECO สีเขียวขวามือของคนขับ คันเร่งในโหมดนี้จะถูกปรับให้สมดุลกับความประหยัด มันค่อนข้างยืดหยุ่นโดยที่รอบเครื่องยนต์จะค่อยๆ ไหลขึ้นไปเรื่อยๆ แรงบิดรอบต่ำของเครื่อง 2.4 ลิตร ทำให้ไม่เป็นปัญหาสำหรับการออกตัวแบบฉับพลันทันที รถจะพุ่งออกไปตามน้ำหนักที่กดลงบนแป้นคันเร่ง ที่รอบเครื่องยนต์ 1,800 รอบต่อนาที New CRV จะวิ่งด้วยความเร็วเกือบๆ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จอแสดงผลที่กึ่งกลางคอนโซลยังคอยแจ้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบกิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งในรถทดสอบที่ผมขับขี่จะอยู่ในตัวเลข 9.3 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นการขับที่ใช้คันเร่งค่อนข้างฟุ่มเฟือยโดยไม่สนใจที่จะขับแบบคลานเพื่อประหยัดเชื้อเพลิงแต่อย่างใดทั้งสิ้น ในความเป็นจริงก็คงจะไม่มีใครทำแบบนี้กันมากนักสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันที่รีบเร่งในเมืองหลวง
Honda New CRV กลายเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่สำคัญของรถยนต์ในระดับราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท มันคือทางเลือกสำหรับแม่บ้านที่ชอบขับรถด้วยตัวเอง รถ CRV นั้น ออกขายมานานจนเข้าสู่รุ่นที่สี่จากค่านิยมในด้านความอเนกประสงค์ของการใช้งาน บนค่าตัวระดับนี้ของรุ่นสูงสุด คุณจะได้รถที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางกว่าซีดานขนาดกลางอีกเล็กน้อย ระบบขับสี่ที่ตัวรถตัดสินใจเองและอุปกรณ์เสริมสำหรับการใช้งานแบบครบครัน น่าเสียดายที่ Honda ทำตลาด New CRV รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลแต่เฉพาะในยุโรปและอเมริกา ส่วนในเอเซียก็มีเพียงแค่บางประเทศเท่านั้นที่มีขาย สำหรับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เบนซินนั้นวางใจได้ แต่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิิงก็จะขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะขับมันแบบไหน โดยทั่วๆ ไปแล้วมันก็ไม่ได้กินน้ำมันมากมายอะไร หากไม่กดกันต่อเนื่องตลอดทาง ตัวเลขเฉลี่ย 9 กิโลเมตรต่อลิตร อยู่ในระดับปกติทั่วไปสำหรับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 170 แรงม้าที่ต้องแบกรับน้ำหนักตัว 1.5 ตัน แล้วมอบความกระชับฉับไวด้านอัตราเร่งเท่าที่รถ Crossover ยุคใหม่จะสามารถทำได้ มันคล่องแคล่วและไม่มีคำว่าชักช้าจนน่ารำคาญถึงแม้จะตัวโต เครื่องยนต์ตอบสนองต่อการกดคันเร่งทุกครั้ง คันเร่งจะเร็วและไวยิ่งขึ้นหากคุณกดปุ่มยกเลิกโหมด ECON แต่การกดใช้งานโหมดประหยัดจะทำให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นมาอีกเล็กน้อย แถบไฟสีเขียวตรงขอบมาตรวัดความเร็วจะเป็นตัวบ่งบอกการใช้คันเร่งของคนขับ หากมันติดตลอดโดยไม่เปลี่ยนไปเป็นสีขาวแสดงว่ามันกำลังบริหารเชื้อเพลิงเท่าที่จำเป็นและช่วยให้ไม่ต้องวิ่งเข้าปั๊มกันบ่อยเกินไป
อัตราทดของเกียร์ออโต้ 5 สปีดที่มีแป้น Paddle Shift อยู่หลังพวงมาลัยมาให้ใช้งานมีความนิ่มนวลคล้ายกับเกียร์ของรุ่น
Honda Accord 2.4 NAVI ที่ผมเคยขับไปเกาะช้างเมื่อสองปีก่อน มันส่งถ่ายอัตราทดขึ้น-ลงได้เนียนและไหลลื่นจนบางครั้งค่อนข้างน่าเบื่อที่มันขาดอารมณ์และความรู้สึก การออกแบบระบบส่งกำลังที่ต้องคำนึงถึงความนิ่มนวลลื่นไหลยามเปลี่ยนเกียร์ ส่งผลให้ความมันส์ของอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตขาดหายไปจากรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มากมาย ในยุคปัจจุบันที่ระบบเกียร์ออโตเมตริคก้าวล้ำไปข้างหน้า สมองกลเกียร์เข้ามาจัดการเองทั้งหมดในตำแหน่ง D และทำหน้าที่ได้อย่างชาญฉลาดโดยแปรผันอัตราทดไปตามระดับความเร็วด้วยความว่องไวและแม่นยำ ในเกียร์ออโต้ของ CRV บนโหมดปกติ นอกจากจะทำงานได้ไม่บกพร่องแล้ว ยังฉลาดพอที่จะไปยังตำแหน่งเกียร์ที่ถูกต้องแทนที่จะทำตามเมื่อผู้ขับกดแป้นเปลี่ยนเกียร์ไม่สัมพันธ์ไปกับความเร็วซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนภายใน สมองกลเกียร์ใน CRV ทำงานได้แม่นยำมากจากการโปรแกรมของวิศวกรระบบส่งกำลัง Honda ที่ผ่านการพัฒนาและทดสอบมาเป็นอย่างดี
หลังจากการทดสอบ Brio 4 ประตูคันต้นแบบเสร็จสิ้นลงในช่วงบ่ายสี่โมงเย็น ผมบึ่ง
New CRV 2.4EL 4WD ออกมาจากสนามแก่งกระจานแล้วใช้เส้นทางลาดยางสองเลนสวนกันเพื่อไปยังวนอุทยานพะเนินทุ่ง New CRV มีพวงมาลัยที่ดีซึ่งส่งถ่ายความแม่นยำในทุกระดับความเร็วแม้ตัวจะโตกว่ารุ่นเก่า พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้าส่วนใหญ่ให้สัมผัสที่ด้อยกว่าพวงมาลัยแบบเก่า ซึ่งใช้เพาเวอร์สายพานเชื่อมต่อกับพูเล่ย์ของเครื่องยนต์ รถยนต์บางรุ่นในยุคนี้จึงไม่สามารถส่งถ่ายความรู้สึกของล้อหน้ามายังมือของผู้ขับขี่ได้ไม่มากเท่าทีควร บางครั้งก็ขาดความเป็นธรรมชาติจนไปเหมือนกับการสังเคราะห์มากจนเกินไป พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ของ New CRV มีประสิทธิภาพมากพอในการสื่อสารกับผิวถนน องศาของการเลี้ยวและส่งสัมผัสที่ดีของยางตรงเข้าสู่ระบบรองรับแล้วแปรเปลี่ยนเป็นความเบาสบายแต่ไม่ได้เบามากจนน่ากลัว เฟืองที่อยู่ในมอเตอร์ทำหน้าที่แปรผันน้ำหนักได้อย่างแม่นยำ เมื่อบวกกับการทำงานของระบบรองรับที่ทั้งนิ่มนวลและหนึบแน่นบนยาง 225/60/R18 ทำให้มันวิ่งไปยังวนอุทยานพะเนินทุ่งแบบปลอดภัยไร้กังวล การทำความเร็วในโค้งที่ตัวรถต้องถ่ายน้ำหนักไปมา ให้ความมั่นใจและส่งถ่ายความรู้สึกให้เห็นถึงค่าความแตกต่างด้านการขับขี่ระหว่างรุ่นที่ผ่านมากับรุ่นล่าสุด การปรับจูนบนขั้นตอนของการทดสอบและพัฒนา ทำให้พวงมาลัยและช่วงล่างของ New CRV ไม่แตกต่างไปจาก
BMW X1 xDRIVE 20i แม้แต่น้อย จะผิดกันก็แค่ความรู้สึกใน X1 ที่เป็นรถที่มีขนาดย่อมลงมาอีกหน่อยและขับเคลื่อนสี่ล้อ (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ CRV จะทำงานโดยอัตโนมัติจากการตัดสินใจของเซ็นเซอร์ในระบบขับสี่ล้อเท่านั้น)
จังหวัดเพชรบุรีทางทิศตะวันตกมีเส้นทางที่สงบและสวยงาม ภูเขาและโค้งยาวๆ ที่ทอดตัวสลับไปบนทางลาดยางมะตอย วิวทิวทัศน์สองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ หุบเขาสลับซับซ้อนกับพื้นที่ราบลุ่มไกลสุดสายตา ผมมักใช้ความเร็วต่ำเมื่อนำรถทดสอบมาเก็บภาพในแถบนี้เนื่องจากความเงียบสงบไม่พลุกพล่านเหมือนจังหวัดชลบุรีที่มีผู้คนใช้ทางเยอะกว่า รถทดสอบ
Honda New CRV 2.4 EL 4WD เหมาะสมมากกับพื้นที่ในแถบนี้และมันเองก็ทำตัวได้อย่างกลมกลืนจากประสิทธิภาพของการขับขี่ทางไกล บนการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่างและพวงมาลัยที่ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการขับขี่และย่านของกำลังในรุ่นสูงสุดหากไม่แคร์เรื่องอัตราสิ้นเปลืองมากจนเกินไป เบาะออกแบบมาเพื่อทำให้ไม่รู้สึกเมื่อยล้าตลอดการเดินทางจากตำแหน่งท่านั่งที่สบายรวมกับขนาดที่ใหญ่ขึ้นทั้งตัวเบาะและพนักพิง ยาง Dunlop รุ่น Sport Maxx ไซส์ 225/60/R18 ก็ทำหน้าที่ได้ดีสำหรับการยึดเกาะไปกับผิวถนน ส่วนการเก็บเสียงใน New CRV ทำได้ในระดับที่น่าพอใจ แม้ที่ย่านความเร็ว 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะมีเสียงของยางที่บดไปกับผิวถนนดังลอดเข้ามาให้ได้ยินแต่ก็ถือว่าอยู่ในค่าปกติของรถทั่วไป แต่ที่ความเร็วต่ำ มันมีการป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอกได้ดีจนน่าพอใจ
เครื่องเสียงและระบบนำทางที่ใช้ร่วมกันในรถ Honda หลายรุ่น บนการสั่งงานแบบสัมผัสไปที่หน้าจอให้ความพึงพอใจได้ระดับหนึ่งแต่คุณภาพของเสียงจากลำโพงยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร รถ New CRV ไม่ขาดตกบกพร่องในเรื่องของเทคโนโลยีและมีเพียงน้อยนิดที่ต้องปรับปรุงซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไร งานวิศวกรรมที่ดีจากการพัฒนาทำให้มันเป็นรถที่ขับได้อย่างง่ายดาย คล่องตัวและเร็วทันอกทันใจสำหรับรุ่นสูงสุดที่วางเครื่อง 2.4 ลิตร ระบบห้ามล้อนั้นอยู่ในขั้นที่ไว้วางใจได้ ดิสเบรกสี่ล้อพร้อมตัวช่วยเบรก กับจิตใต้สำนึกและมุมมองท่ี่ไม่ตั้งอยู่บนความประมาท จะทำให้การใช้รถของคุณมีความปลอดภัยมากขึ้น บน CRV เบรกให้ความรู้สึกมั่นคงและหยุดรถได้ดี แต่ผมยังไม่ได้ลองมันบนทางเปียกลื่นเพื่อดูอาการที่แท้จริงในขณะที่เบรกบนสภาพทางที่มีน้ำปกคลุม การถ่ายเทน้ำหนักบนทางโค้งมีความเป็นกลางและให้ความรู้สึกคล่องตัว พวงมาลัยวงเล็กหุ้มหนังกับระบบ EPS ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคอยหน่วงน้ำหนักไปตามความเร็วที่แท้จริงกับช่วงล่างนิ่มหนึบคือความสำเร็จบนตัวรถรุ่นใหม่คันนี้อย่างแท้จริง
Honda New CRV 2.4 EL 4WD รุ่นสุงสุดเชี่ยวชาญในการเดินทางบนภูมิประเทศที่หลากหลาย มันทำให้การขับทางไกลเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นมาก จากรุ่นแรกสุดมาจนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด ในบางแง่มุมแล้ว มันคือรถ Crossover ที่มีประสิทธิภาพมากพอและไม่เป็นรองคู่แข่งในตลาดรถยนต์ประเภทนี้แม้แต่น้อย เวลา 17.40 น ขณะที่เพื่อนๆ สื่อมวลชนไปถึงโรงแรมที่พักในอำเภอหัวหินกันหมดแล้วและแสงอาทิตย์เริ่มลดน้อยลงไปทุกที ผมใช้ความเร็วต่ำแค่ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมุ่งหน้าสู่อำเภอชะอำ โดยขับผ่านคลองชลประทานของอำเภอท่ายาง พลางคิดคำนึงถึงสภาพของการขับทดสอบตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ รถ CRV รุ่นใหม่วิ่งได้ดีกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา พวงมาลัยและช่วงล่างที่โดดเด่นทำให้มันเหนืือกว่าเจนเนอเรชั่นที่สามแบบเห็นๆ มิติตัวถังที่โตขึ้นมากกว่ารุ่นเก่าบนน้ำหนักตัวแค่ตันครึ่งเมื่อใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 170 แรงม้าทำให้มันมีความคล่องตัวไม่ต่างจากรถเล็กน้ำหนักเบา การทรงตัวที่ความเร็วสูงไว้ใจได้แม้จะวิ่งในระดับความเร็ว 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อพบกับทางโล่งๆ เจ้า CRV ก็ยังคงนิ่งและวิ่งได้อย่างมั่นคง อัตราทดของเกียร์ออโต้ 5 สปีดที่ถูกปรับให้รอบเครื่องยนต์ต่ำลงเมื่อวิ่งที่ความเร็ว 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยในเรื่องของความประหยัดได้ดี ตำแหน่งท่านั่นที่คุณสามารถนั่งอยู่บนรถได้ทั้งวันโดยไม่ปวดเมื่อยตัว สำหรับแม่บ้านนักขนของ ฝาท้ายที่เปิดออกด้วยมุมสูงกับเบาะตอนหลังที่พับเอนราบได้จะทำให้การขนสิ่งของขนาดใหญ่มีพื้นที่พอเพียง ความโอ่โถงของห้องโดยสารให้ความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายตลอดการเดินทาง และหากชอบออกตัวเร็วๆ หรือชอบกำลังแรงบิดที่ดีสำหรับการเร่งแซง รุ่น 2.4 EL 4WD ราคา 1.52 ล้านบาทดูจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ลองไปขับทดสอบด้วยตัวของคุณเองทั้งรุ่น 2.0 หรือ 2.4 ลิตร แล้วเปรียบเทียบกับรถยี่ห้ออื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกันเพื่อดูว่ารุ่นไหนเหมาะสมกับการใช้งานและเงินในกระเป๋าของคุณมากที่สุด
ขอขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล จากคอลัมน์
Man & Machine