FORD Focus จับมาลองซะ
ฟอร์ดโฟกัสใหม่ เปิดตัวในไทยเมื่อ 8 สิงหาคม 2012 ด้วยการโฆษณาที่เน้นเทคโนโลยีเครื่องยนต์และระบบช่วยจอดอัจฉริยะกับระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ซึ่งผลิตเป็นรุ่นแรกในโรงงานอันทันสมัยแห่งใหม่ของฟอร์ดในจังหวัดระยอง พร้อม 9 รุ่นย่อย และ 2 รุ่นเครื่องยนต์คือ Duratec 1.6L Ti-VCT 125 แรงม้า และ 2.0L Ti-VCT GDi 170 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโมติ PowerShift 6 จังหวะ ราคาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเกียร์ธรรมดา 759,000 บาทไปจนถึงรุ่นท็อป
Ford focus 5Dr 2.0L Ti-VCT GDi Sport+powershift ในตัวถัง 5 ประตู 1,079,000 บาท
ทีมงาน Thai Product Review และ Checkraka.com ได้รับเชิญให้ทดสอบโฟกัสใหม่รุ่นนี้จากบริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย จำกัด โดยรุ่นที่นำมาทดสอบนี้เป็นรุ่น 4 ประตู สีเงิน เครื่องยนต์ Duratec 2.0L Ti-VCT GDi Titanium+ PowerShift 6AT ราคา 1,069,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดในแบบตัวถังซีดาน 4 ประตู (รุ่นแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ราคา 1,079,000 บาท)
เส้นทางการทดสอบ
การทดสอบจะเน้นไปที่การใช้งาน ให้ใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองเป็นหลัก และไม่ขับแบบแข่งประหยัดน้ำมันหรือขับเร็วลากเกียร์เหมือนในสนามแข่ง แต่ในทางโล่งๆ ก็ใช้อัตราเร่งบ้าง และเมื่อวิ่งชานเมืองก็ทำความเร็วสูงบ้าง แต่ไม่เกินกฎหมายกำหนดนะครับ โดยเส้นทางในเมือง เริ่มจากจุดรับรถทดสอบโรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ใช้เส้นทางสุขุมวิทเข้าถนนอ่อนนุชมุ่งหน้าถนนเลียบสนามบินสุวรรณภูมิ สภาพการจราจรติดขัดมาก และเริ่มคลายตัวเมื่อใกล้ถึงสุวรรณภูมิ และกลับมาตั้งต้นใหม่ที่ถนนรามอินทรา กม. 6 รวมระยะทางประมาณ 70 กม. และช่วงนอกเมืองจากกรุงเทพฯ-นครปฐม ใช้เส้นทางรามอินทรา กม. 6 มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะข้ามสะพานพระราม 5 เข้าสู่ถนนชัยพฤกษ์ และถนนราชพฤกษ์ และใช้เส้นทางบรมราชชนนีมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม จุดหมายคือ องค์พระปฐมเจดีย์ และย้อนกลับทางเดิม สิ้นสุดที่รามอินทรา กม.6 รวมระยะทางประมาณ 240 กม. ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ 90-120 กม./ชม. ทีมงานทดสอบ 2 คน ผู้ขับและผู้โดยสารนั่งตอนหน้า 1 คน ไม่มีสัมภาระ กับน้ำมัน 1 ใน 4 ส่วนของถัง สภาพการจราจรหนาแน่นในเมืองและเริ่มคล่องตัวช่วงชานเมือง เมื่อรวมระยะทางทั้งนอกเมือง และในเมืองประมาณ 310 กม.
ข้อมูลทั่วไป - จุดเด่น NEW FORD FOCUS
ฟอร์ด โฟกัสใหม่ มีมิติตัวถังยาว 4,534 มม. กว้าง 1,823 มม. และสูง 1,484 มม. โดยมีจุดเด่นที่เหนือกว่าด้วยไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติพร้อมที่ฉีดทำความสะอาด, กระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ Active Grille Shutter เปิดช่องอากาศอัตโนมัติเมื่อต้องการระบายความร้อนมากขึ้น และปิดเองเพื่อความลู่ลม, ไฟหรี่แบบ LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟส่องนำทางขณะเลี้ยว, หลังคา Sunroof แบบปรับไฟฟ้าแนวเอียงและสไลด์, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถพร้อมไฟส่องทางเดิน, ล้อแม็ก 16 นิ้ว พร้อมยาง Michelin Primacy LC ขนาด 205/60 R16
ภายในพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง, มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่, ปุ่มสตาร์ตรถอัตโนมัติ Ford Power Start, กุญแจแบบ Smart Keyless Entry, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา, เบาะตอนหลังพับ 60/40 พร้อมที่วางแขน, กระจกขึ้น-ลงจังหวะเดียวทั้ง 4 บาน, ไฟในห้องโดยสารแบบ LED, เทคโนโลยีระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM รับคำส่งด้วยเสียงเชื่อมความบันเทิงได้หลากหลาย ทั้งการใช้โทรศัพท์รับสาย-โทรออก เลือกเพลงที่ชื่นชอบด้วยการเชื่อมต่อ USB หรือ Bluetooth ผ่านสมาร์ทโฟน และฟังเสียงข้อความจากตัวอักษรในโทรศัพท์
SPECIFICATION
โฟกัสใหม่พัฒนาเครื่องยนต์ให้เหมาะกับทุกสภาวะการใช้งานทั้งในประเทศอากาศหนาวเย็นและเขตร้อน ด้วยเทคโนโลยี Duratec แบบเบนซิน 4 สูบเรียง 16 วาล์ว วางขวาง Ti-VCT ไดเร็กอินเจ็กชัน 1,999 ซีซี 170 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิด 202 นิวตัน-เมตร (20.59 กิโลกรัม-เมตร) ที่ 4,450 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ Dual-Clucth PowerShift 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลังแบบอิสระคอนโทรล เบรด มัลติลิงค์ คอยล์สปริง ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน หลังดิสก์ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า อัตราสิ้นเปลืองจากโรงงาน 14.9 กม./ลิตร และถังน้ำมันขนาด 55 ลิตร
สมรรถนะเครื่องยนต์ : 4 ดาว
เมื่อกดคันเร่งในช่วงรอบต่ำสัมผัสถึงความนุ่มนวล แต่พอรอบสูงออกแนวก้าวร้าวนิดๆ ให้ความรู้สึกขับสนุกในทุกย่านความเร็ว อัตราเร่งเมื่อเริ่มออกตัวรอบเครื่องที่ 1,500 รอบ/นาที ขึ้นไปตอบสนองได้ดี โดยในช่วงความเร็วที่ 80 กม./ชม. และเร่งไปถึง 120 กม./ชม. ใช้เวลาไม่เกิน 8 วินาที ทำให้แซงได้ฉับไวด้วยกำลัง 170 แรงม้า ที่มาตามน้ำหนักเท้าขวาแบบไม่ต้องลุ้น โดยทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยการจับเวลาจากนาฬิกาข้อมือใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีกว่าๆ เท่านั้น และความเร็วสูงสุดเท่าที่ถนนว่างและปลอดภัยคือ 180 กม./ชม. โดยเริ่มเร่งความเร็วจาก 100 กม./ชม. ใช้เวลาไม่เกิน 15 วินาที ซึ่งเครื่องยนต์ยังมีกำลังอีกเหลือเฟือย แต่ไม่มีถนนว่างและปลอดภัยพอจึงต้องลดความเร็วลง
อัตราสิ้นเปลือง : 4 ดาว
ฟอร์ด โฟกัสใหม่ มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงานที่ 14.9 กม./ลิตร ทีมงาน
Thai Product Review และ Checkraka.com ได้ทำการทดสอบทั้งสภาพในเมืองที่การจราจรติดขัด ได้ค่าเฉลี่ยบนจอแสดงผลบนหน้าปัดรถคือ หรือ 10.5 กม./ลิตร และนอกเมืองที่มีปริมาณรถหนาแน่นสลับคล่องตัวก่อนถึง จ.นครปฐม ทำได้ 8.1 ลิตร/100 กม. หรือ 12.34 กม./ลิตร และเฉลี่ยตลอดทริปคือ เฉลี่ย 8.7 ลิตร/100 กม. หรือ 11.49 กม./ชม. นับว่าประทับใจ และดีกว่าที่คาดไว้สำหรับรถพิกัด 2,000 ซีซี โดยที่ขับแบบไม่ช้าจนน่ารำคาญมีการเร่งแซงบ่อยๆ ในบางช่วง และใช้ความเร็วระหว่าง 80-120 กม./ชม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร และเท้าขวาของคนขับด้วยนะครับ หากขับยาวๆ ไม่เร่งแซงบ่อยมากนัก และปริมาณรถน้อยก็อาจได้เห็นตัวเลขแถวๆ 13-15 กม./ลิตร
แหล่งข้อมูล | อัตราสิ้นเปลือง |
1. สเปคโรงงาน | 14.9 กม./ลิตร |
2. จากการทดสอบวิ่งในเมือง | 10.5 กม./ลิตร |
3. จากการทดสอบวิ่งนอกเมือง | 12.34 กม./ลิตร |
4. เฉลี่ยจากการทดสอบ | 11.49 กม./ลิตร |
ความสะดวกสบาย : 4.5 ดาว
ที่นั่งผู้ขับ/ผู้โดยสารเมื่อนั่งหลังพวงมาลัยให้ความรู้สึกกระชับตัวด้วยเบาะคู่หน้ากึ่งบักเก็ตซีตเบาะปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางโอบกระชับสบายไม่เกร็งหลัง มีคันโยกปรับระดับตัวดันหลังลดความเมื่อยล้า เบาะข้างคนขับปรับระดับด้วยมือ เบาะตอนหลังขนาดใหญ่นั่งสบายมุมเอนหลังไม่เมื่อยล้า พื้นที่วางช่องขาอาจจะพอดีๆ ไปสำหรับคนรูปร่างสูงใหญ่ แต่ได้พื้นที่เหนือศีรษะโปร่งสบาย
ทัศนวิสัยมุมมองด้านของกระจกบังลมหน้าบานใหญ่มองได้กว้าง ขณะเลี้ยวไม่ต้องชะโงกดูถนนเพราะเสา-เอ (A-Pillar) ไม่บดบังมุมมอง ทัศนวิสัยด้านข้างก็ไม่ถูกเสา-บี (B-Pillar) บังตาให้กวนใจ กระจกมองข้างทรงกึ่งสปอร์ตขนาดเล็กไม่เกะกะ ผิวกระจกเป็นแบบโค้งเห็นมุมกว้าง พร้อมมุมเอียงเพื่อมองรถระยะไกล และสัญญานไฟเตือนระบบตรวจจับรถในจุดบอด Blind spot information system เห็นชัดเจนเป็นตัวช่วยที่ดีเมื่อเรามองรถด้านข้างไม่เห็น กระจกมองหลังเป็นแบบปรับแสงอัตโนมัติ ช่วยกรองแสงจากไฟหน้าของรถคันหลังที่แยงตาโดยเฉพาะที่ติดตั้งไฟซีนอนสว่างๆ กระจกบานหลังทำมุมเอียงมองดูเหมือนแคบไปสักหน่อย แต่ก็เห็นเพียงพอต่อการใช้งาน
ความรู้สึกเมื่อลองขับโฟกัสใหม่มีความคล่องตัวกว่าที่คาดไว้ ทั้งที่มีตัวถังขนาดใหญ่กว่ารถในเซกเมนต์เดียวกันพอควร พวงมาลัยควบคุมง่ายจับกระชับมือ เปลี่ยนช่องทางก็ไม่ลำบาก และมีไฟเตือนสีส้มบนกระจกมองข้างเมื่อมีรถมาขนาบข้างซึ่งเป็นมุมอับที่มองไม่เห็น พวงมาลัยที่ความเร็วต่ำน้ำหนักเบา หัวเกียร์มีปุ่มกด บวก/ลบ เพื่อเปลี่ยนเกียร์เองได้ การตอบสนองของเครื่องยนต์ระบบดูอัลคลัตช์ 6 จังหวะ นุ่มนวลและต่อเนื่อง การทำงานเหมือนมีชุดควบคุมการเหยียบ-ปล่อยคลัตช์แทนขาซ้ายเรานั่นเอง (เปรียบเทียบอย่างง่าย) เมื่อเริ่มออกตัวจะคล้ายๆ การปล่อยคลัตช์ในรถเกียร์ธรรมดา ทำให้ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์เต็มที่ ไม่เสียกำลังไปหมุนระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์เพื่อสร้างแรงดันน้ำมันไปหมุนชุดเกียร์ในระบบอัตโนมัติทั่วไป นั่นคือ ตัด-ต่อกำลังจากเครื่องยนต์สู่ระบบส่งกำลังไปที่ล้อคู่หน้าอย่างเต็ม 100% โดยตรงไม่รอรอบ นุ่มนวลกว่าแบบเกียร์ธรรมดา แต่จะรู้สึกถึงแรงดึงเบาๆ เมื่อออกตัวหรือเปลี่ยนเกียร์แต่ละจังหวะ อัตราเร่งแซงทันใจตามน้ำหนักเท้าตั้งแต่ช่วง 1,500 รอบ/นาที ขึ้นไป และลากได้ถึง 6,500 รอบ/นาที ก่อนที่จะเปลี่ยนเกียร์ต่อไป
ช่วงล่างเมื่อขับความเร็วต่ำๆ จะรู้สึกนุ่มนวลเหมือนรถหรูระดับนักธุรกิจ แต่เมื่อความเร็วสูงกลับหนึบไม่ยวบยาบ การทรงตัวดีกว่ารถระดับเดียวกันบางรุ่น มั่นใจขณะเข้าโค้ง เปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว หรือการเข้าโค้งสะพานกลับรถเกือกม้าที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้าปรับความหนืดตามความเร็วควบคุมทิศทางได้ดี ตัวรถนิ่งไม่มีอาการเลื้อยหรือเสียงร้องของยางแต่อย่างใด ระบบเบรกนุ่มเท้าไม่แข็งเหมือนรถยุโรปทั่วไป และไม่ต้องเหยียบลึกก็เริ่มจับล้อให้หยุด ตอบสนองรวดเร็วมั่นใจ
ภายในงานประกอบนับว่าดีเยี่ยม ทั้งพวงมาลัย เบาะตอนหน้า-หลัง แผงประตู แผงคอนโซลหน้าและกลาง ถูกหุ้มด้วยหนังแท้อย่างประณีตจริงๆ ตำแหน่งควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเครื่องเสียงใช้งานสะดวกง่ายดาย เพราะออกแบบให้อยู่ใกล้มือคนขับแทบทุกจุด พร้อมปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ กระจกขึ้น-ลงจังหวะเดียวทั้ง 4 บาน ตำแหน่งคันเกียร์อยู่สูงใช้งานง่าย ดีไซน์หรูหรา และใกล้กันก็มีด้ามเบรกมือที่ต้องออกแรงดึงพอสมควร แต่ดึงเพียงเล็กน้อยก็จอดทางชันได้นิ่งสนิท ที่วางแก้วน้ำตรงคอนโซลกลาง 2 จุด เท้าแขนเบาะหลัง 2 จุด อาจน้อยไปหน่อยเมื่อมีผู้โดยสารครบ 5 คน กล่องใส่ของตรงคอนโซลกลางและข้างประตูจุได้เยอะ ฝากระโปรงท้ายเปิดด้วยปุ่มสัมผัสตำแหน่งระหว่างไฟส่องป้ายทะเบียน หรือเปิดด้วยรีโมทคอนโทรลก็ได้ พื้นที่ท้ายรถกว้างขวางใส่ถุงกอล์ฟได้สบายๆ หรือพับเบาะและใส่สัมภาระอื่นได้อีกมากมาย
หลังคาซันรูฟสามารถเลือกเปิดเฉพาะแผ่นบังแสงเพื่อดูวิว เปิดแบบกระดกขึ้นเล็กน้อย หรือเปิดหมดก็ได้ด้วยสวิตช์ภายในบนแผงหลัง ส่วนตำแหน่งสวิตช์ไฟส่องภายในห้องโดยสารอยู่เหนือศีรษะคนขับอาจต้องเงยมองบ้างหากไม่คุ้น แต่ส่องในมุมอ่านหนังสือได้พอดิบพอดี โดยมีให้ใช้ทั้งปุ่มเปิดไฟปกติ และปุ่มเลือกเปิด-ปิดไฟเมื่อประตูรถเปิดอยู่
สะดวกด้วยระบบเปิด-ปิดไฟหน้าพร้อมปรับระดับอัตโนมัติ เมื่อรถขับขึ้นทางชันไฟหน้าจะปรับให้ส่องลงต่ำเห็นถนน และเมื่อลงทางชันก็ปรับให้เงยขึ้นเห็นถนนด้วย (มุมที่ปรับได้ประมาณ 5 องศา) และที่ฉีดน้ำล้างไฟหน้า ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ไฟส่องนำทางขณะเลี้ยวเวลากลางคืน ก้านไฟเลี้ยวย้ายอยู่ทางขวาเพื่อความสะดวก พร้อมเพิ่มระบบเลื่อนค้างและปล่อย 1 ที ไฟจะกะพริบให้เอง 4 ครั้ง เมื่อไม่ต้องการเปิดแบบต่อเนื่อง
ระบบปรับอากาศ
ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา ซึ่งทางฟอร์ดได้ให้ข้อมูลว่า โฟกัสใหม่เคยผ่านการทดสอบหลากหลายประเทศ ที่อุณหภูมิภายในรถกว่า 60 องศามาแล้ว เพื่อทดสอบระบบปรับอากาศว่าใช้เวลานานเท่าไหรกว่าผู้โดยสารในรถจะรู้สึกสบาย ทีมงาน Thai Product Review และ Checkraka.com จึงเริ่มทดลองโดยการจอดรถตากแดดจัดๆ กลางแจ้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที อุณหภูมิภายนอกราวๆ 38 องศาเซลเซียส แล้วกลับเข้ามาในรถ และสตาร์ทเครื่อง ซึ่งตลอดทริปไม่ได้เพิ่มระดับอุณหภูมิ อยู่ในโหมดอัตโนมัติเช่นเดิมและค้างไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส เมื่อขับออกไปใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็เริ่มมีความรู้สึกสบายขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับเย็นฉ่ำ พอขับไปอีกสัก 10 กว่านาที ก็เริ่มเย็นสบายมากขึ้นอีก
เสียงรบกวนจากภายนอกภายในห้องโดยสารของโฟกัสใหม่พอได้ยินเสียงรบกวนบ้างตามปกติของรถเซกเมนต์นี้ เมื่อขับด้วยความเร็วในระดับ 60 กม./ชม.ขึ้นไป จึงเริ่มได้ยินเสียงยางบดกับถนนหรือเมื่อวิ่งผ่านช่องว่างตะเข็บถนน และเสียงเครื่องยนต์เมื่อลากรอบสูงแผวๆ แต่ได้อารมณ์สปอร์ตและสะใจไปอีกแบบ เสียงจากภายนอกพอเล็ดลอดเข้ามาบ้างไม่ถึงกับรำคาญ
อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงมาถึงจุดเด่นของโฟกัสใหม่ด้วยเครื่องเสียงจาก SONY เล่นได้ทั้ง CD/DVD/MP3/USB/iPod/Bluetooth พร้อมลำโพง 9 จุด รายละเอียดเพลงครบทุกย่านเสียง พร้อมเทคโนโลยีระบบ SYNC สั่งงานด้วยเสียง ที่มีในฟอร์ดเพียงเจ้าเดียวสำหรับรถระดับเดียวกัน ระบบนี้ใช้งานด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงเท่านั้นเพื่อให้เครื่องเสียงเลือกทำตาม แต่ทีมงานทดลองลำบากหน่อยกว่าจะใช้ได้เพราะสำเนียงอาจไม่ค่อยดี ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สะดวกเพียงเปิดระบบ Bluetooth ทั้งเครื่องเสียงและโทรศัพท์ ระบบจะค้นหาพร้อมเชื่อมต่อทันที สามารถคัดลอกหมายเลขโทรศัพท์จากมือถือได้ ใช้ง่ายเพียงกดปุ่ม PHONE ก็จะขึ้นโหมดโทรศัพท์ และคุยผ่านไมค์โครโฟนภายในรถ เพียงใช้ปุ่มรับ-วางสายบนพวงมาลัยได้ทันที และฟังเสียงจากลำโพงแบบเซอราวด์รอบทิศทาง 9 จุด เสียงใสชัดเจน
อีกขั้นของความสะดวกในการจอดรถทีมงาน Thai Product Review และ Checkraka.com ได้ทำการทดสอบระบบสุดยอดเทคโนโลยีอนาคต ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ผมยืนยันว่าทำได้จริง! แต่ด้วยพื้นที่ถนนแคบๆ การจราจรในเมือง และหาช่องว่างให้ลองจอดได้น้อยมาก จึงไม่ค่อยสะดวกในการบันทึกภาพและทดลองบ่อยๆ ครั้งได้
หลักการทำงานคือ เมื่อมีช่องว่างให้จอดในลักษณะริมขอบทาง โดยมีช่องว่างเว้นพอดีจอดช่องว่างตรงกลางได้ ให้หยุดรถและกดปุ่ม AUTO (P) ใต้แผงควบคุมระบบแอร์ พร้อมเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ จนเมื่อรถเราขนาบข้างกับรถที่จอดถัดมาพร้อมขึ้นคำว่า PARKING SPACE FOUND ที่จอแสดงผลและเครื่องหมายถูกสีเขียว แสดงว่ารถพร้อมที่จะจอดอัตโนมัติแล้ว หลังจากนั้นเข้าเกียร์ถอยหลัง และปล่อยมือได้เลย ระบบจะหมุนพวงมาลัยให้เองด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ที่แกนพวงมาลัย และกะระยะด้วยเซ็นเซอร์รอบคัน เราควบคุมเพียงเบรกให้รถเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เท่านั้น เมื่อรถถอยจนถึงระยะพอดีคันด้านหลัง ก็ใส่เกียร์เดินหน้าและควบคุมเบรกอย่างเดียว รถจะหมุนพวงมาลัยให้ตรงและเป็นอันเสร็จการจอดอัตโนมัติ แต่เน้นว่าเราต้องควบคุมการเคลื่อนที่ควบคู่กันไปนะครับ
ตัวอย่างจากต่างประเทศ
ความสวยงาม : 4 ดาว
รูปร่างภายนอกฟอร์ด โฟกัสใหม่ เส้นสายลงตัวดูสวยงามจริงๆ ครับ สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น กระจังหน้าดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สี่เหลี่ยมคางหมู และหลังคาซันรูฟโค้งจรดฝากระโปรงท้ายดูลงตัว โดดเด่นด้วยไฟท้ายทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ไฟโปรเจ็กเตอร์แบบ BI-Xenon HID และปรับระดับได้ สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างคือ ไฟส่องนำทางขณะเลี้ยว มีประโยชน์มากในที่มืดมากๆ
ภายในดีไซน์ทันสมัย คอลโซลหน้า-กลาง, แผงหน้าปัดดูสปอร์ต, ชุดควบคุมเครื่องเสียงบิวท์อินพื้นดำตัดช่องแอร์กลางสีเงิน รวมทั้งเบาะได้ลงตัว เล่นสีสลับเทา-ครีมดูสะบายตา จุดวางสิ่งของดูไม่รกเกินไป ยามค่ำคืนยิ่งน่าขับเพราะไฟต่างๆ ภายในรถออกแบบได้สดใสโดยเฉพาะไฟในห้องโดยสารแบบ LED สว่างชันเจนทั่วทั้งคัน ทัศนวิสัยทั้งกลางวันกลางคืนมองง่าย รวมๆ แล้วเทคโนโลยีที่ให้มากับโฟกัสน่าประทับใจมาก
ความปลอดภัย : 5 ดาว
โฟกัสใหม่มาพร้อมความปลอดภัยถุงลมนิรภัยคู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านถุงลมด้านข้าง, เบรก ABS, EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง Torque Vectoring Control, ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ, สัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ, สัญญาณเตือนระยะด้านหน้า-หลัง, ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist, ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ Active City Stop, ระบบตรวจจับรถในจุดบอด Blind spot information system, ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, กุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญานกันขโมย
"ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ" Active City Stop เบรกได้จริงหรือ?
ฟอร์ดโฟกัสใหม่ 2.0 ลิตร รุ่นท็อปของแต่ละตัวถังได้ติดตั้งระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. (Active City Stop) ซึ่งระหว่างนั้นก็ขับวนไม่มาในเมืองหลายรอบคิดว่าจะลองดีไหม? ลองยังไง กับรถใคร สรุปว่าก็ลองกับรถที่ติดอยู่ข้างหน้าเรานั่นแหละ ของจริง ขับจริง รถติดจริง โดยขับไหลแบบช้าตามความเร็วที่ฟอร์ดบอกไว้คือไม่เกิน 30 กม./ชม. แต่ความเร็วที่ทดสอบจริงใช้เพียง 15 กม./ชม. ก็พอ ระหว่างใกล้จะชนคันหน้าแล้วระยะห่างไม่น่าถึง 1 เมตร คิดว่าถ้าไม่เบรกล่ะ? เพียงชั่วพริบตารถก็เบรกเองอย่างแรงแบบหัวคลอนไปข้างหน้าเล็กน้อยและเข็มขัดรัดตึง ก่อนจะถึงท้ายรถคันหน้าและค้างไว้ประมาณ 3 วินาที แต่เราต้องรีบเหยียบเบรกทันที เพราะระบบจะรีเซ็ตโดยปล่อยเบรกให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และหากรถด้านหน้าไม่ขยับก็อาจชนได้ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการระบบนี้ก็สามารถเข้าในเมนูบนหน้าปัด และเลือกยกเลิกระบบก็ได้ครับ
เมื่อระบบ เวิร์ค ทีมงาน Thai Product Review และ Checkraka.com ก็ทดสอบอีก 4-5 รอบ (ติดใจ) ซึ่งทำงานได้แม่นยำมาก และสามารถตั้งระยะห่างระหว่างคันข้างหน้าได้ 5 ระดับ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ที่ชอบแต่งหน้า หรือหนุ่มๆ ขับไปมองสาวริมทางไป ซึ่งส่วนใหญ่ที่รถจูบก้นกันก็เกิดจากสาเหตุและความเร็วระดับนี้
**ข้อควรระวังคือ ระบบนี้เหมือนการกระทืบเหยียบเบรกเต็มแรง หากมีเด็กๆ นั่งมาในลักษณะไม่ปลอดภัย หรือมีสิ่งของอยู่ที่เบาะหลังก็อาจเกิดอันตรายได้ และเซ็นเซอร์ระบบนี้จะทำงานในแนวระนาบขนานกับส่วนหน้ารถเท่านั้น ในบางครั้งช่วงทางโค้ง หรือต่อแถวรถที่กำลังเลี้ยวในลักษณะทะแยงมุม ระบบอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นศึกษาคู่มือให้ละเอียดนะครับ หรืออย่าใช้ระบบนี้บ่อยจะดีกว่า
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist-HLA)สิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับที่ฟอร์ดติดตั้งในรถหลายรุ่นเป็นเจ้าแรกๆ คือ ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลานชัน ซึ่งทีมงาน Thai Product Review และ Checkraka.com ได้ขับขึ้นทางชันในลานจอดรถของตึกแห่งหนึ่งและเบรกค้างไว้ เสมือนกำลังขับขึ้นสะพาน เมื่อลองปล่อยเบรก ปรากฏว่ารถไม่ไหลถอยหลัง หยุดนิ่งค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จากนั้นก็ไหลถอยหลัง ซึ่งเวลาช่วงนั้นเพียงพอให้คนขับยกเท้าออกจากแป้นเบรกเพื่อเหยียบคันเร่งได้สบายๆ ระบบนี้คล้ายๆ การดึงเบรกมือให้เราโดยอัตโนมัติ และปลดเบรกเมื่อเราเร่งเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับทางที่ลาดชันมากๆ จนไม่สามารถเปลี่ยนจากแป้นเบรกมาสู่คันเร่งได้ในทันทีครับ
ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง (Torque Vectoring Control)ระบบนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในโฟกัสใหม่ทุกรุ่น เพื่อช่วยในการควบคุมแรงขับเคลื่อนที่ล้อคู่หน้าขณะเค้าโค้งแรงๆ โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งจะช่วยปรับเพิ่มหรือลดกำลังของเครื่องยนต์ไปสู่ล้อข้างใดข้างหนึ่ง ให้สมดุลกันเพื่อรักษาการทรงตัวของรถให้ผ่านโค้งไปได้อย่างปลอดภัย การทดสอบระบบนี้แทบจับความรู้สึกไม่ได้ รู้เพียงเวลาเข้าโค้งแรงๆ บนสะพานยูเทิรน์ด้วยความเร็วประมาณ 70 กม./ชม. ขับผ่านไปง่ายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ควบคุมทิศทางง่ายดายไม่ต้องเกร็งมือ ไม่ต้องถอนเท้าออกจากคันเร่ง ไม่มีอาการลื่นไถล
ระบบควบคุมความเร็วหรือ Cruise control ใช้ง่ายเพียงกดปุ่มด้วยนิ้วโป้งมือขวาที่พวงมาลัย สามารถเลือกปรับระดับความเร็วด้วยปลายนิ้วสัมผัสแบบบวก/ลบเท่านั้น และตัดการทำงานทันทีเมื่อมีการเบรกหรือคันเร่ง และต้องกดปุ่มอีกครั้งหากต้องการใช้งานใหม่
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา : 4.5 ดาว
ฟอร์ด โฟกัสใหม่ ไซส์ตัวถังขนาดใหญ่กว่ารถระดับเดียวกัน แต่ก็คล่องตัวเมื่อใช้งานในเมือง ที่สำคัญระบบเทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งมาแทบทุกรุ่นก็คุ้มกับค่าตัว โดยเฉพาะระบบช่วยจอดและระบบเบรกความเร็วต่ำที่หาได้ยากในรถราคาระดับนี้ ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ตอบสนองทันใจแรงเกินตัวประหยัดเกินคาด ระบบเบรกฉับไว การทรงตัวให้อารมณ์กึ่งรถสปอร์ตในคราบซีดาน เกาะถนนหนึบกว่ารถระดับเดียวกันบางรุ่น การประกอบอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่างๆ แน่นหนาไม่มีเสียงก็อกแก๊กให้ได้ยินด้วยการเลือกใช้วัสดุอย่างดี เมื่อเทียบแล้วราคาล้านนิดๆ แลกกับเทคโนโลยีและความปลอดภัยระดับนี้นับว่าเป็นรถที่คุ้มค่ามากครับ